|
ที่เดิม เวลาเดิม คนใหม่ 22
ที่เดิม เวลาเดิม คนใหม่ 22 Nov 02 01:31 Am ****** เธอหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่เคยเห็นเธอยิ้มแบบนั้นมาก่อนตั้งแต่เรารู้จักกันมา ............. ............. มันคือกับดักที่อ่อนหวาน สีชมพูสดใส หอมเย้ายวน แม้กระทั่งเขี้ยวคมกริบขาววับ ก็ยังเคลือบด้วยลายดอกไม้ วินาทีนั้น เธอเหมือนแม่เสือสาวที่ยังไม่หิว ไม่โกรธ อารมณ์ดีแถมยังเขี่ยเหยื่อที่ยังไม่ตายเล่นอยู่ไปมา สลับคราบลูกแมวหลงทางเมื่อคืนไปอย่างหมดจด เสียงในใจผมก้องไปมาดังแหบโหย ไอ้เหี้ยเอ๊ย..ผมพลาดซะแล้ว ผมตะกละตะกรามงับเหยื่อแบบไม่ลืมหูลืมตาจนเบ็ดคมโค้งเกี่ยวทะลุเพดานปากออกไป ปลายอีกข้างนึงของมันถูกร้อยเอาไว้ด้วยโซ่ ถ้าผมจะหนีให้ได้ มันก็คงต้องแลกกับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส แต่ถ้าเธอเมตตา ผมอาจได้รับการปลดเบ็ดออกอย่างเบามือแล้วปล่อยผมไป แต่ตอนนี้ ถ้าผมหวังอย่างนั้นก็ดูจะมองโลกในแง่ดีเกินไป... ผมหันไปมองทะเล พลางคิดว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นไหมนะ ถ้ารวบรวมคนทั้งหมดบนชายหาดนี้ มามัดรวมกัน ตึกรามบ้านช่อง ร้านรวง สินค้า เหล้าทุกขวด รถทุกคัน รวมทั้งผม หย่อนลงไปในทะเล เหลือไว้แต่หาดทรายสีเหลืองคล้ำ ........... ........... ก็น่าจะไม่หรอก !!! ระยำชิ๊บ
ผมยกแก้วชาที่เย็นชืดขึ้นจิบ เหมือนไม่รู้จะทำอะไร จะพูดอะไร "พี่......" ผมเอื้อนออกไปแล้วก็อยากตบปากตัวเองเมื่อเธอหันมาเลิกคิ้วเหมือนกับรอฟัง เหี้ย เหี้ย เหี้ย ผมนึกอะไรไม่ออกเลยว่ะ "คะ" เสียงปอยเหมือนจะเย้าให้ผมพูดในสิ่งที่เธอรู้อยู่แล้วออกมาให้เธอได้ยินซ้ำอีกครั้ง .......... ..........
ผมรู้ตัวอีกทีเราก็มากลับมาอยู่ที่ห้องในโรงแรมกันอีกครั้งแล้ว เหมือนกับเราบอกพี่จอยว่ามาหยิบของหรือลืมอะไรเนี่ยหล่ะก่อนที่จะไปกินข้าวกลางวันกัน เราไม่ได้ทำอย่างนั้นหรอก เรากลับมาเก็บสิ่งที่ปอยทำตกหายไว้เมื่อคืนต่างหาก ผมจำได้แม่นยำว่าผมไม่ได้เป็นคนเริ่ม ปอยเปิดฉากจูบผมอย่างร่านร้อน เธอผลักผมหงายลงบนเตียงและลงมือเองทั้งหมด เธอระดมจูบลงบนตัวผม ลิ้นสีชมพูของเธอเลียพลางกัดผมตั้งแต่ต้นคอจนถึงปลายเท้า เธอบิดร่างกายส่วนที่เธออยากให้ผมสัมผัสมาบดขยี้ริมฝีปากผมอย่างไม่ปราณีปราศัยพร้อมๆกับมือของเธอที่ปลุกเร้าร่างกายผมให้แข็งชันเพื่อรอรับการสัมผัสถัดไปอย่างต่อเนื่อง ผมเกร็งตัวและครางในลำคอแบบขอความกรุณาจากเธอ
มันคงไม่เป็นผล.. เธอกำหนดทิศทาง รูปแบบ ความรุนแรง ตามแต่ว่าเธอจะคิดหรืออยากจะทำอะไรในตอนนั้น ส่วนผมนะหรอ ทุกครั้งที่ผมพยายามจะตอบโต้เธอ ก็จะถูกเธอผลักลงเหมือนเดิม และทุกครั้งที่ผมร้องเมื่อโดนเธอกัดเข้าเต็มเขี้ยว ผมก็จะถูกมือเล็กๆเอื้อมมาปิดไว้ แล้วตามมาด้วยริมฝีปากบาง ปลายหน้าอกชูชันหรือกลีบเนื้อที่ฉ่ำชื้น เธอหอบหายใจพร้อมๆกับการขยับโยกสะโพกกระแทกขึ้นลงราวจะลุกเป็นไฟ ไม่มีความนุ่มนวล หรือความโรแมนติกใดๆสามารถแทรกเข้ามาได้ มีแต่ความรุนแรง ความสะใจ ความเจ็บปวดที่ถูกฝังเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจถูกขุดและกระชากขึ้นมาบดขยี้ให้มันแตกตัว ความเสียวสังวาสพุ่งเข้ากระแทกกระเทาะเปลือกของความถูกต้องดีงามออกจนหมด เหลือเพียงแก่นตัณหาที่ดีดเมล็ดออกมาอย่างยินดี ที่หลุดพ้นออกมาแสดงแรงราคะกันได้ .......... และเมื่อมันเตลิดจนเธอรู้สึกว่าเริ่มจะควบคุมมันไม่ได้แล้ว เธอก็ขยับตัวขึ้นนั่ง เล็บคมกริบของเธอจิกลงบนเนื้อหน้าอกผม มันถูกจิกลงทุกครั้งตามจังหวะที่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเริ่มหูอื้อแต่ก็พยายามควบคุมตัวเอง ผมอยากให้เธอพอใจ ใช่!!ผมรู้ว่าเธอโกรธ จะโกรธด้วยเรื่องอะไรก็ช่างแม่งเหอะ แค่ตอนนี้ ผมอยากให้เธอพอใจ และในขณะที่ผมรู้สึกว่ามันช่างยาวนานราวกับมันจะไม่มีวันมาถึง เธอก็กรีดร้องออกมาอย่างพึงพอใจรวมถึงอาการเกร็งกระตุกถี่ยิบของกล้ามเนื้อบางมัด เล็บเธอจมเข้าลึกในเนื้อหน้าอกผม มันแสบ คงเป็นเหงื่อที่ไหลย้อนเข้าไปที่รอยเล็บ เธอทรุดตัวลงมาซบที่อกผม หอบหายใจเหมือนขาดอากาศ และค่อยๆช้าลง จนเกือบเข้าภาวะปกติ ผมยังนอนนิ่งและกอดเธอไว้หลวมๆ เรายังเชื่อมเป็นร่างเดียวกันอยู่ ผมยังไม่ถึงจุดของผมหรอกนะ เราคลาดกันนิดเดียว ผมยังไม่รู้จังหวะของเธอ ช่างแม่งเหอะ เพราะความรู้สึกตอนนี้ มันดีเกินกว่าที่ผมจะจับเธอพลิกแล้วทำบ้าทำบออะไรต่อไปอีก
เธอพลิกตัวออกจากผม ทรวงอกยังสะท้อนขึ้นลงจากการหอบหายใจ ขนตายาวงอนอวดตัวอยู่บนเปลือกตาที่หรี่ปรือ ให้ตายห่าเถอะ ผมคิดว่าผมเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ
มีรอยเลือดหลายจุดอยู่บนที่นอน กลางคราบเหงื่อคราบน้ำที่เปียกชุ่มเป็นวงกว้าง เลือดใครวะ ของผมแน่เลย เพราะเมื่อสักครู่ ผมรู้สึกเหมือนร่างกายผมฉีกขาดฉิบหายวายป่วงหมดแล้ว แผลที่หัวเข่าที่พึ่งจะสมานตัวก็ปริแยกออก แผลเหนือริมฝีปากบนก็ปริและมันก็คงมีเลือดซึมออกมาด้วย ผมได้กลิ่นมัน อืมม์ แต่มันก็เถื่อนได้ใจจริงๆ ผมชักติดใจละซิ หลังจากนี้ผมต้องคุกเข่าเพื่อขอให้เธอทำอย่างนี้กับผมอีกหรือเปล่านะ ...... เธอครางอย่างพอใจในลำคอพลางเบียดตัวตะแคงเข้ามาซุกหน้าอกผม เจ้าแมวน้อยหลงทางตัวเมื่อคืนกลับมาอีกแล้ว ใครจะต้านไหววะ ผู้ชายที่เป็นผู้ชายคนไหนในโลกใบนี้ จะต้านเสน่ห์แบบนี้ได้ไหว ผมจะไปกราบตีนแม่ง ไปดูซิว่าหัวใจมันประกอบไปด้วยอะไรถึงทนได้ อืมมม์.. ถ้าผมยังอยากจะมีเธออยู่ต่อไป ผมก็ต้องซ่อนมันเอาไว้ให้ได้ ผมต้านไม่ได้ แต่ผมยังพอซ่อนมันได้ มันเหมือนเงา คุณเดินหนี !มันจะเดินตาม ...แต่เมื่อคุณเดินตาม ! มันก็จะเดินหนี คุณจะสู้กับสิ่งที่คุณมองเห็นแต่จับต้องไม่ได้ได้อย่างไรกัน ..... "เป็นไงบ้างคะ "เสียงอ่อนหวานดังขึ้นที่ข้างหูผม ตามด้วยเสียงหัวเราะเหมือนเย้ยคิกคัก ผมไม่ตอบ แต่จับเธอพลิกหงายขึ้น ขยับตัวแทรกเข้าที่หว่างขาเธอ สอดตัวผมเข้าไป เธอสะดุ้ง แต่ผมไม่สนใจ ผมใช้ภาษากายแทนคำตอบ แล้วจัดการอะไรๆที่มันคั่งค้างอยู่ให้จบไป... .................................... หอยกระต่ายผัดฉ่า แกงส้มไข่ปลาเซียวลูกใหญ่เท่าลูกแก้ว กั้งแก้วทอดกระเทียมและสารพัดอาหารทะยอยเข้ามาราวกับจะเลี้ยงคนทั้งโลก พร้อมเบียร์เย็นเฉียบที่ถูกลำเลียงเข้ามาขวดแล้วขวดเล่า หัวข้อสนทนาที่สนุกสนาน ลมทะเลที่พัดเข้ามาประทะอย่างไม่ขาดสาย สาวสวยอิงอยู่ข้างๆ ผู้ชายรอบๆโต๊ะแอบมองเธอ บางครั้ง.. ผู้หญิงก็เหมือนเครื่องประดับของผู้ชาย มันดูดีกว่ารถ สร้อยคอทองคำ หรือนาฬิกาเรือนแสน ที่บอกเวลาได้แม่นยำเท่ากับเรือนละร้อย อืมม์ มันเป็นอย่างนี้ได้บ่อยๆก็ดีสินะ
ผมมองดูรอบๆตัว แทบทุกโต๊ะตอนกลางวันแสกๆไม่เบียร์ก็เหล้าถูกตั้งอยู่และโดนลำเลียงเข้าร่างกายของผู้คนที่รายรอบโต๊ะแก้วแล้วแก้วเล่า ผมเดาหัวข้อสนทนา ซึ่งส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นหัวข้อเมื่อคืน หรือไม่ก็ความสนุกของคืนนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น มันเป็นกฏหรอวะ ว่าคนที่พลัดหลงเข้ามาที่เมืองนี้จะต้องมึนเมากันทุกคน ไม่เหล้าก็อารมณ์ อืมมม์ ตอนนี้ผมก็เมาแม่งทั้งสองอย่างนั่นแหล่ะ
ปอยดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่ผมกลับหงุดหงิด ไม่รู้ทำไม เบียร์เหมือนไม่มีรสชาดอะไร มันช่างจืดสนิท ทะเลทะยอยส่งเกลียวคลื่นเข้ามากระทบฝั่งเป็นจังหวะ แดดก็ไม่ร้อนอย่างที่ควรจะเป็น และโดยไม่มีการตั้งเค้า สายฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมา...
ทะเลกับฝน มันเคยเกิดขึ้นที่ไหนนะ........
-มีต่อ-
Create Date : 08 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 25 มกราคม 2553 10:54:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 430 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
ผู้ผ่านทาง
เพื่อนร่วมเวลา
|
|
|
|
|
|
|
ซัด เอ๊ยย อ่านไป 2 ตอน