ฉันมองเห็นแววตาคุณ ดูเปล่าดายคล้ายดาวเปลี่ยว โดดเดี่ยวในฟ้าไกล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ถนนโลกีย์ 32

ถนนโลกีย์ 32

Nov 17 03:18 Am

ผมจำเหตุการณ์วันนั้นได้แม่นยำทุกรายละเอียด... เหมือนมันเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
...........................................

ผมเลือกที่จะนั่งเหยียดยาวอยู่ตรงบันไดของห้างช็อบปิ้งมอลล์ ที่มีอยู่ห้างเดียวริมหาดพัทยาตอนนั้น
แม้จะมีคนเดินสวนขึ้นลงไปมา ผมก็ไม่ใส่ใจ ยามหน้าห้างมองผมอย่างไม่ค่อยพอใจ เค้าก็ทำได้แค่นั้น
เค้าคงรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไที่จะต้องมาเสียเวลากับคนอย่างผม
ก็ผมจะนั่ง ถ้าผมอยากจะลุก แล้วมันมาขอให้ผมนั่งต่อ ผมก็จะลุก.......

แสงแดดอ่อนๆยามเย็น เปลี่ยนเฆมสีขาวให้เป็นสีเหลืองอมม่วง ตัดกับใบมะพร้าวสีเขียวเข้ม
ผมเลือกที่จะยังไม่ถอดแว่นกันแดดออก ผมไม่อยากให้ใครเห็นตาของผมตอนนี้..
ตาที่กำลังสอดส่ายหาพรหมจารีย์เดินได้ ราคาหนึ่งหมื่นบาทอยู่....

ผมยอมรับว่า... ผมดูถูกเธอตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า ผมดูถูกเฮียตงที่เสียเงินซื้อใอ้เยื่อบางๆนี่ เพียงเพื่อจะมาทำให้มันขาด มันบ้าพอกัน ทั้งคนซื้อคนขาย
สาวไซด์ไลน์ที่หน้าตาระดับนางงาม แพงที่สุดก็ยังไม่เกินห้าพัน(ราคาตอนนั้น) จะเอาหน้าเด็กเซ็กส์เดือดแค่ไหนก็ได้...
แต่นี่... มันก็แค่การมีเซ็กส์กับเด็กที่ยังไม่ประสา... มันจะสนุกตรงไหนวะ.......

เพลงคุ้นหูจากร้านขายเสิ้อผ้าข้างๆ พาอารมณ์ผมกลับไปที่ทะเล เงาของน้ำตาลเหมือนจะทับทาบอยู่ที่ปลายฟ้าและเธอกำลังยิ้มให้ผม
ป่านนี้น้ำตาลจะเป็นไงบ้าง... ตุ้ยจะดูแลเธอดีมั๊ย.. พวกเขาจะได้เป็นคู่รักกันหรือเปล่าหนอ....

"อุ้ย!!! ขอโทษค่ะ" เจ้าของเสียงเล็กๆใสๆดึงผมกลับมาที่บันไดหน้าห้าง ผมมองตัวเองงงๆ ขวดเบียร์ที่ผมวางอยู่ข้างตัว ค่อยๆกลิ้งลงบันไดตามแรงโน้มถ่วงของโลก
เบีนร์ส่วนหนึ่งกระฉอกออกมาเปื้อนหน้าอกผม และกำลังค่อยๆซึมเข้าไป..
เจ้าของเสียงที่ซุ่มซ่ามก้าวพลาดจนเตะเบียร์ของผม ลนลานขอโทษ พลางย่อตัวลงมากะวีกะวาดปัดฟองเบียร์ที่ยังติดตามเสื้อผ้าผม และพึมพัมโทษตัวเองไม่หยุดปาก
"ไม่เป็นไรครับ ผมนั่งเกะกะเอง.." ผมโทษตัวเองบ้าง เพื่อให้สาวน้อยคนนี้รู้สึกผิดน้อยลง เธอกัดริมฝีปากล่างอย่างกังวลใจ เผยให้เห็นฟันขาวเหมือนไข่มุกลูกเล็กๆเรียงกัน
"เอ่อ.. เดี๋ยวนกไปซื้อเบียร์ให้ใหม่นะคะ"เธอชี้ไปที่ขวดเบียร์ผมที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น...
"ไม่เป็นไรครับ" ผมรีบตอบ..
"มันจะหมดแล้ว.. อย่าห่วงเลยครับ..." ผมฉีกยิ้มกว้างจนถึงหูได้กระมัง
เธอยิ้มให้พลางย่อตัวนิดนึงเป็นเชิงขอบคุณ ผมค้อมตัวให้เธอเช่นกัน.. ผมอยากให้เธอสบายใจขึ้น
"งั้นนกไปแล้วนะคะ.." เธอย่อตัวพนมมือไหว้ขอโทษผมเร็วๆอีกครั้ง เล่นเอาผมรับไหว้แทบไม่ทัน... เฮ้อ.. เมื่อยังคิดถึงน้ำตาลอยู่แท้ๆ

ผมทรุดตัวลงนั่งที่เดิม พื้นมันอาจจะเปียกมั้ง... แต่ผมไม่ยักกะรู้สึกอะไร.... เงาหลังของเธอช่างน่าดู เสื้อสีชมพูเข้ารูปขลิบด้วยลูกไม้เล็กๆ เข้ากับผ้าโพกผมสีชมพู
กระโปรงยาวและรองเท้าสีขาวสะอาด เผยให้เห็นข้อเท้าเล็กๆกลมกลึง ไม่มีรอยด้านที่ตาตุ่ม เธอคงไม่ใช่พวกที่ใช้ชีวิตวันๆอยู่บนพื้นบ้าน
ผมมองเธอเดินลงบันไดเฉียงๆไปอีกด้านตรงข้ามกับผมไปทางตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าห้าง แล้วเธอก็ไปหยุดตรงนั้น........
ตรงนั้น........
ตรงนั้น.................... ตรงหน้าตู้โทรศัพท์.............

บางอย่างพุ่งแว๊บเข้ามาในหัวผม..............................................
ชิ๊บหายแล้ว.... ผมลนลานควานหาโน๊ตที่ระบุจุดนัดพบขึ้นมาดูอีกครั้ง... ระยำเอ๊ย!!!!! 'ชื่อนก ห้าโมงเย็น ตู้โทรศัพท์ หน้าห้าง' มันเขียนตัวโตเท่าหม้อแกง
ผมเอนตัวพิงบันไดอย่างหมดแรง.. ด่าพ่อล่อแม่ไปซะทุกอย่าง ด่าดินฟ้าอากาศ ด่านรกสวรรค์ เสียงกร่นด่ามันก้องไปก้องมาในหัวผมจนอึงอล
ผมไม่อยากให้เป็นเธอ ผมไม่อยากให้เป็นเธอ..........

ผมระบายลมออกจากปากยาวเหยียด.... มองเธอผ่านแว่นกันแดดอย่างตั้งอกตั้งใจอีกครั้ง
นกยืนกำกระเป๋าถือด้วยสองมือจนแน่น เธอเหลือบมองไปมาเหมือนลูกนกตัวเล็กๆขี้ตื่นพึ่งออกจากรังทั้งๆที่เวลามันยังไม่สมควร...
เธอไม่เหมือนกับภาพที่ผมจินตนาการเอาไว้ ไม่เหมือนเลย...
เธอไม่เหมือนคนที่จะมาขายอะไรแบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก ลักษณะ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับเราเมื่อครู่ มันไม่มีจริตแฝงอยู่เลย
จริงสิ.. แววตากังวลของเธอเมื่อครู่ มันไม่ใช่เรื่องเบียร์ของผมหรอก ไอ้บ้าเอ๊ยย.. ทำไมผมเศร้าอย่างนี้นะ...

เอาวะ... ช่างมันเถอะ... มันไม่ใช่ปัญหาของผมนี่หว่า ผมก็แค่หลับหูหลับตาจัดการให้มันเสร็จๆไป... เธอก็อยู่ในโลกของเธอไป ผมก็อยู่ของผม...
ผมตัดใจเดินเข้าไปหาเธอ... นกจำผมได้ เธอหันมายิ้มสดใสให้ผม ตาเป็นประกาย... ผมแม่งโคตรเสียใจ.. ที่เห็นประกายตาคู่นั้นดับลง เมื่อผมยื่นโน๊ตให้..
เธอเดินตามผมเหมือนหุ่นยนต์ ก้มหน้างุด แล้วพยายามโย่งตัวขึ้นนั่งซ้อนหลังผมแล้วพยายามไขว้แบบผู้หญิงบนมอเตอร์ไซค์กึ่งวิบากของผมอย่างทุลักทุเล
นกทำตาโตเมื่อเห็นผมย้ายปืนที่เหน็บหลังมายัดใส่กระเป๋าเป้... แต่ผมไม่สนใจ เหมือนกับว่า... ผมไม่ยี่หร่ะอะไรอีกแล้ว ต่อให้ฟ้ามันถล่มลงตรงหน้าเดี๋ยวนี้ก็เถอะ
ผมขยับตัวไปข้างหน้า จับที่ข้อเท้านกแล้วยกขาเธอพาดข้ามเบาะขึ้นมาคร่อมรถอย่างหงุดหงิดโดยไม่สนใจอาการสะดุ้งหรือความพยายามที่จะปัดชายกระโปรงของตัวเธอเองลง
ผมบิดคันเร่งรถกระชากเราออกจากตรงนั้น นกผวาเข้ากอดผมก่อนที่เธอจะหงายหลังลง และเมื่อรู้ตัว เธอก็เปลี่ยนเป็นยึดมือเข้ากับแจ๊กเกตของผมแทน
เราสองคนออกจากที่นั่น และผมมั่นใจว่า.... เราต่างคนต่างก็ทิ้งวิญญานไว้ที่นั่น..... ที่หน้าตู้โทรศัพท์นั่นแหล่ะ.............

ผมบ่ายหน้าตัดข้ามถนนสุขุมวิทเพื่อที่จะข้ามฝั่งไปยังโรงแรมกึ่งรีสอร์ทซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน ที่อยู่ลึกเข้าไปอีกเกือบห้ากิโลมตร
เราแหวกอากาศเลาะผ่านอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่กันไปเงียบๆ มีแต่เสียงรถครางสม่ำเสมอเท่านั้นเป็นที่ยึดเหนี่ยว... ทำไมหรอวะ? ข้อนี้มันอยู่ในสัญญาด้วยหรือไง
ผมแค่ตกลงกับมันว่าผมจะรอรับความเจ็บปวด และมันก็ได้กำไรไปมากอยู่แล้วจากความเจ็บปวดของคนที่รักผม... แต่นี่... เป็นคนที่ผมพึ่งจะรู้จักได้ไม่ถึงยี่สิบนาที
ผมก็เริ่มเจ็บปวดไปกับเธอด้วยแล้วอย่างนั้นหรือ? มันจะเอาเปรียบกันมากไปกระมัง.......
............................
เสียงเครื่องยนต์ที่ดังสม่ำเสมอมาตลอดกลับมีอาการสะอึก.. บ้าชิ่บ อีกนิดเดียวเราก็ไปถึงกันแล้ว...
ผมภาวนาให้มันไปรอด.. มันไม่ได้ผลว่ะ.. รถสะอึกครั้งสุดท้ายแล้วก็ดับไปอย่างไม่มีวี่แวว....
บ้าจริง.. ความโมโหทำให้ผมลืมเติมน้ำมัน ทั้งๆที่เตือนตัวเองแล้วว่าจะต้องเติมก่อนจะเข้ามา.... นกยังนั่งนิ่งเงียบ มือที่จับเสื้อผมรวบแน่นขึ้นจนผมรู้สึกได้
ผมส่งสัญญานให้เธอลงจากรถ... นกกะวีกะวาดแต่ก็เก้กัง ชายกระโปรงมันสร้างปัญหาไม่น้อยเลย...
ผมตัดสินใจเข็นมัน โชคยังดีอยู่บ้างที่มันเป็นทางลงเขา นกซอยขาเล็กๆกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อที่จะตามผมให้ทัน
ผมแข็งใจที่จะไม่หันไปมองดูเธอ ถ้ามันเป็นเวลาปกติ ผมคงอดขำไม่ได้กับท่าทีทุลักทุเลของเธอ .... แต่นี่มันไม่ปกติ...

ทุกย่างก้าวของเราสองคน เหมือนก้าวลงสู่ขุมนรกก็มิปาน........

พนักงานหญิงที่เคาร์เตอร์โรงแรมทำหน้างงๆ เมื่อเธอเย้าผม แล้วผมไม่เล่นด้วย และแทบจะกระชากกุญแจห้องออกจากมือของเธอ
ผมโยนกุญแจห้องให้นก ที่ยืนตัวแข็งอยู่ข้างหลัง โดยแทบจะไม่หันไปมอง ......
กุญแจโดนตัวเธอแล้วหล่นลงพื้นหินอ่อน ผมไม่สนใจ ก้าวสวนเธอกลับออกไปโดยไม่ฟังเสียงพึมพัมขอบคุณจากที่ดังแผ่วเบา... แล้วดิ่งกลับไปที่บ่อน
ผมไม่รู้ว่าผมโกรธอะไร.... และผมก็เชื่อว่าเธอไม่รู้ว่า... จู่ๆ ผมก็เป็นห่าอะไรขึ้นมา...

"พี่ๆๆ ไอ้เหี้ยนี่มันซ่อนไพ่" ไอ้ดวง เด็กคุมบ่อนอีกคน เดินเร็วเข้ามาหาพร้อมกับรายงานเมื่อเห็นผมเดินเข้าประตู
เด็กอีกสองสามคนดึงมือผู้ชายวัยกลางคนไว้หนวดยาวโง้งท่าทางยียวนตามหลังดวงมาติดๆ
"พี่เป็ด ให้เอาไปหาเฮียกวง" ผมพยักหน้าให้ดวงเป็นเชิงเข้าใจ สาวเท้าเข้าหาไอ้หนวดที่ตีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วอัดกำปั้นขวาเข้าตรงหนวดมันสุดแรงเกิด.......

......................................................



Create Date : 20 ตุลาคม 2552
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 11:31:34 น. 0 comments
Counter : 554 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aftertime
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ผ่านทาง เพื่อนร่วมเวลา
Friends' blogs
[Add aftertime's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.