“แดนเซอร์สาว” โปงลางสะออน หายตัวปริศนา กองปราบฯ แกะรอยควานหาตัว “แดนเซอร์สาว” หายตัวปริศนา เป็นรุ่นน้องของ “อี๊ด โปงลางสะออน” ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์เมืองน้ำดำ แถมยังเคยร่วมทีมแดนเซอร์ในวงโปงลางฯ ตอนแสดงคอนเสริต์ หายตัวสาบสูญนานกว่า 3 เดือนแล้ว ยังไม่ทราบชะตากรรม แม่สุดทุกข์ใจเผยมีข้อความทางเอสเอ็มเอสครั้งสุดท้ายส่งเข้ามา ระบุจะไปทำงานฟ้อนรำที่พัทยา ขณะที่ “ผกก.1ป.” หิ้วตัวเสี่ยหนุ่มคนสนิทมาสอบแล้ว ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ยังไม่ค่อยแกใจเชื่อ นำเจ้าหน้าที่พฐ.ตรวจค้นห้องพักเก่า-รถเก๋ง พบร่องรอยคราบเลือด ส่งไปตรวจสอบหาหลักฐานทันควัน อดีตแดนเซอร์สาวหายตัวปริศนาครั้งนี้เปิดเผย เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ต.ค. พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผกก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ สว.กก.1 บก.ป. ร.ต.อ.อรรชวศิษฐ์ ศรีบุญยมานนท์ รอง สว.กก.1 บก.ป. นำหมายค้นศาลอาญา ประสานงานเจ้าหน้าที่พฐ.เข้าตรวจค้นห้องพักหมายเลข 308 ชั้น 8 รุ่งทรัพย์แมนชั่น ปิ่นเกล้า เลขที่ 121 ซอยสมเด็จพระปิ่นเกล้า 7 แขวงบางยี่ขัน เขตบาง พลัด ก่อนหน้านี้เคยเป็นห้องพักของ น.ส.ชลธิชา หรืออุ๋ย บรรเทาทึก อายุ 23 ปี อดีตแดนเซอร์เคยร่วมงานกับวงโปงลางสะออน ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยนางสุทธมาศ รักสมบัติ มารดาของ น.ส.ชลธิชา ได้มาแจ้งความเอาไว้ที่กองปราบฯ พ.ต.อ.วรายุทธ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในห้องพักซึ่งปัจจุบัน ได้มีนักศึกษาเข้าพักอาศัยอยู่แทนนั้น พบว่ามีร่องรอยคราบโลหิตหลงเหลืออยู่บางส่วนจึงได้เก็บตัวอย่างไปตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเลือดอะไรเพราะห้องพักดังกล่าวมีผู้เข้ามาพักอาศัยต่อหลังจาก น.ส.ชลธิชา หายตัวไปแล้ว ในส่วนของ "เสี่ยหนุ่ม" เจ้าของโรงงานกระเป๋า ที่มีความสนิทสนมกับน.ส.ชลธิชา ก่อนสูญหายตัวไปนั้นได้เรียกสอบปากคำไปแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ สำหรับประเด็นที่หายตัวไปจึงยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ นอกจากมีการตรวจค้นห้องพักเก่าของน.ส.ชลธิชา เจ้าหน้าที่ พฐ.ยังได้ตรวจสอบรถยนต์ของเพื่อนชายคนสนิทของ น.ส.ชลธิชา อย่างละเอียดเช่นเดียวกัน เนื่องจากสืบทราบข้อมูลว่ารถเก๋งดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุตกน้ำเสียหายภายหลังจาก น.ส.ชลธิชา หายตัวไปได้ไม่นานตอนนี้ยังจอดเพื่อรอซ่อมรักษาอยู่ที่อู่แห่งหนึ่งย่านสาธุประดิษฐ์ ทำให้ทางทีมสืบสวนได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะมีส่วนในการสูญหายตัวไปของ น.ส.ชลธิชา ก็เป็นได้ อย่างไรก็ดีมีรายงานว่า เสี่ยหนุ่มที่สนิทชิดเชื้อกับ น.ส.ชลธิชา ได้ให้การเบื้องต้น อ้างว่ารู้จักกันช่วง เดือน มี.ค. 48 ที่ผับดังแห่งหนึ่งย่านบางพลัด ช่วงนั้น น.ส.ชลธิชา มารับจ๊อบเป็นแดนเซอร์จากนั้นได้คบหาและติดต่อกันเรื่อยมา รับหน้าที่รับส่งระหว่างที่ น.ส.ชลธิชา ไปรับงานรำไทย พิธีกร และแดนเซอร์ นอกจากนี้ยังช่วย เหลือออกค่าเช่าห้องรวมทั้งค่าการศึกษาจำนวนหนึ่งให้ด้วย ช่วงนั้น น.ส.ชลธิชา ยังพักอยู่ย่านบ้านสมเด็จ ปรากฏว่ามีแฟนเก่าชื่อ "โด่ง" ไม่ทราบชื่อจริง ตามมาก่อความวุ่นวายที่ห้องจึงพาย้ายหนีมาอยู่ย่านปิ่นเกล้าตั้งแต่ ก.ย. 49 ช่วงหลังต้นปี 2550 เริ่มเหินห่างกันเพราะทราบว่าไปคบแฟนเก่า "นอกจากนี้ระยะหลังเริ่มเที่ยวหนัก ผมยังต้องโทรฯไปแจ้งมารดาของ น.ส.ชลธิชา ให้ทราบเรื่องสุดท้ายทำให้ น.ส.ชลธิชา เอ่ยปากขอเลิกแต่ก็ยังมีการไปมาหาสู่กันบางครั้ง ในช่วงก่อนหายตัวไปประมาณวันที่ 2-3 ก.ค. ทราบว่า น.ส. ชลธิชา ออกไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนชื่อ "พุ่ม" วันที่ 4 ก.ค. ผมเดินทางไปหาที่ห้องพักก็ไม่เจอ หลังจากนั้นไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย กระทั่งทราบข่าวมารดาได้ไปแจ้งหายไว้ที่ สภ.ต.พัทยา และที่กองปราบฯ" เสี่ยหนุ่ม กล่าวทิ้งท้าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบข้อมูลจากกลุ่มเพื่อน ๆ ของ น.ส.ชลธิชา ตามคำให้การของเสี่ยหนุ่มอย่างละเอียดเพื่อเร่งหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากญาติพี่น้องของ น.ส.ชลธิชา สงสัยว่าเสี่ยหนุ่มอาจจะมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการสูญหายตัวไปของ น.ส. ชลธิชา เนื่องจากเป็นคนเดียวที่มีความสนิทสนมมากที่สุดกับ น.ส.ชลธิชา สำหรับประวัติของ น.ส.ชลธิชา ก่อนหน้านี้เรียนอยู่ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ สถานศึกษาที่เดียวกับ "อี๊ด โปงลางสะออน" สมัยเรียนเคยเป็นตัวแทนไปแสดงโชว์ฟ้อนรำที่ประเทศจีน สหรัฐ ต่อมาได้ทุนเรียนต่อที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จนจบระดับปริญญาตรี ช่วงปี 49 เคยรับจ๊อบพิเศษเข้าร่วมงานเป็นทีมแดนเซอร์ให้กับวงโปงลางสะออน ตอนแสดงคอนเสิร์ต ด้านนางสุทธมาศ มารดา น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า ช่วงเที่ยงวันที่ 4 ก.ค. มีข้อความทางเอสเอ็มเอสส่งมายังเครื่องของตนว่า "น้องอุ๋ย" จะไปทำงานที่พัทยา และหลังจากนั้นในเช้าวันที่ 5 ก.ค. เวลาประมาณ 07.47 น. มีเอสเอ็มเอสจากเครื่องของน้องอุ๋ยส่งมาอีกครั้งว่า "แม่ หนูจะไปทำงานฟ้อนรำที่พัทยา เพราะเงินดี" ตนคิดว่าข้อความดังกล่าวไม่น่าจะใช่ลูกสาวเป็นผู้ส่งมาแน่ เพราะปกติถ้าน้องอุ๋ยจะไปทำงานยังต่างจังหวัดจะเป็นผู้โทรศัพท์มาบอกด้วยตนเอง และหากจะส่งข้อความจะไม่แทนตัวเองว่า "หนู" แต่จะใช้ชื่อ "อุ๋ย" แทน ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อลูกสาวได้อีก จึงคิดว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับลูกเพราะตลอดมาน้องอุ๋ยไม่เคยเหลวไหล ที่สำคัญในวันที่ 16 ก.ค. ก็จะเป็นวันที่ต้องลงทะเบียนเข้ารับปริญญาด้วย.   Create Date : 23 ตุลาคม 2550 2 comments Last Update : 23 ตุลาคม 2550 19:57:57 น. Counter : 1770 Pageviews. Share Tweet

ขอให้พบพี่เค้าไวๆนะค่ะ ออยค่ะ   โดย: ออย IP: 125.24.144.9 28 กุมภาพันธ์ 2551 13:49:59 น.

พี่อีดหล่อมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ   โดย: โฟมค่ะ IP: 125.24.22.45 4 สิงหาคม 2551 15:08:30 น.