บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

คนไทยขี้เมาติดอันดับ5โลก เสียค่าเหล้าปีละ1.25แสนล้าน--ข่าวกรุงเทพธุรกิจ



















คนไทยขี้เมาติดอันดับ5โลก เสียค่าเหล้าปีละ1.25แสนล้าน

14 พฤษภาคม 2549 09:50 น.
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเผยงานวิจัยพบคนไทยดื่มเหล้าพร่ำเพรื่อ ติดอันดับ 5 ของโลก มูลค่ารวมปีละ 1.25 แสนล้านบาท



นายแพทย์ปราชญ์บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้คนไทยได้ชื่อว่าดื่มเหล้าติดอันดับ 5 ของโลก ดื่มเฉลี่ยคนละ 13.59 ลิตรต่อปี ถึงแม้ว่าสารเคมีและแอลกอฮอล์ในเหล้าจะส่งผลให้ผู้ดื่มรู้สึกผ่อนคลาย ครึกครื้น สนุกสนานร่าเริง ในระยะสั้นก็ตาม แต่ในระยะยาวจะเกิดโรคต่างๆมากมาย เช่นกระเพาะอาหารเป็นแผลทะลุ มีเลือดออก ซึ่งพบได้บ่อย ตับแข็ง เซลล์สมองถูกทำลาย หัวใจโต หากเป็นผู้หญิงดื่มจะทำให้แก่เร็ว เหี่ยว หย่อนยานก่อนวัย และเมื่ออายุมากขึ้นก็อาจ "หมดสภาพ" ได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศก่อนวัยอันควรด้วย

ทั้งนี้แอลกอฮอล์จะทำให้หยุดการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ทำให้เต้านมเหี่ยว รังไข่ มดลูกเสื่อมสภาพเร็ว โดยผลสำรวจล่าสุดเมื่อพ.ศ.2544 มีคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ดื่มเหล้ามากถึง 15.3 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นหญิง 2.3 ล้านคน มูลค่าบริโภครวมปีละ 125,000 ล้านบาท




ที่น่าตกใจกว่านั้น ยังพบว่ามีประชาชนบางกลุ่ม โดยเฉพาะเกษตรกรเกิดความเข้าใจผิด ว่าเหล้าสามารถขับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชออกจากร่างกายได้ โดยผลวิจัยที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกษตรกรใช้สารเคมีทุกหมู่บ้าน และ 80 % แม้ว่าจะใช้อุปกรณ์ป้องกันแล้วก็ตาม แต่ยังขาดความมั่นใจ โดยเกษตรกร 2 ใน 5 ใช้วิธีแก้พิษเคมี ด้วยการดื่มสุราที่เรียกกันว่า "แก้เหล้า" ซึ่งมีทั้งดื่มก่อนและดื่มหลังใช้สารเคมี กลุ่มที่ดื่มก่อน มักจะใช้เหล้าขาว 40 ดีกรี ปริมาณครึ่งแก้วถึง 1 แก้วน้ำ หรือประมาณ 120-250 ซีซี. โดยดื่มตอนเช้า จากที่พักอาศัย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเมื่อดื่มแล้วจะทำให้เหงื่อออก สารเคมีจะไม่เข้าร่างกาย

ส่วนในกลุ่มที่ดื่มหลังใช้สารเคมีจะใช้เหล้าขาวปริมาณพอๆกัน ดื่มเพื่อบรรเทาอาการน้ำลายเหนียว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หากไม่ใช้เหล้าก็จะใช้เครื่องดื่มชูกำลังแทน เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่า เหล้านอกจากจะช่วยลดอาการที่ได้รับจากสารพิษแล้ว ยังช่วยให้หายอ่อนเพลีย แก้อาการปวดเมื่อย ทำให้กินข้าวได้ ร่างกายสดชื่น ความเชื่อนี้ปฏิบัติสืบทอดกันมาถึงเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยกลุ่มที่ใช้วิธีแก้เหล้าดังกล่าว มักเป็นผู้ดื่มเหล้ามาก่อนอยู่แล้ว นอกจากนี้ในกลุ่มชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งยังมีการใช้สมุนไพรไปในทางที่ผิด ด้วยการนำรางจืดมาเคี้ยวและอมในปาก ระหว่างดื่มเหล้า โดยเชื่อว่ารางจืดจะทำให้ไม่เมาเหล้า ดื่มได้นานและมากขึ้น



"ความเชื่อทั้ง2 เรื่องนี้เป็นอันตราย เพราะจะทำให้อวัยวะในร่างกายถูกทำลายมากขึ้น โดยเฉพาะตับ ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานสร้างพลังงานให้ร่างกาย สร้างสารเคมีที่จำเป็นเช่นน้ำดี วิตามิน สารทำให้เลือดแข็งตัว และช่วยขจัดสารพิษต่างๆออกจากร่างกาย จะทำงานหนัก ถึงขั้นตับวาย ตับแข็ง เสียชีวิตเร็วขึ้น เนื่องจากการสูญเสียเซลล์ตับทุกเซลล์เป็นการสูญเสียที่ถาวร ไม่มีการสร้างขึ้นทดแทน " นายแพทย์ปราชญ์กล่าวต่อไปว่า

ทางด้านแพทย์หญิงเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า รางจืด เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ดอกเป็นช่อออกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีม่วงแกมน้ำเงิน รางจืดมีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่กำลังช้างเผือก ชอบชะนาง เครือชาเขียว ยาเขียว กาย ดุเหว่า ทิดพูด น้ำนอง ย่ำแอกแอ

"สรรพคุณของรางจืดใช้แก้ไข้ ถอนพิษต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น อาการแพ้อาหาร เป็นต้น อาจใช้ใบสด นำมาคั้นกับน้ำ เพื่อให้ผู้ป่วยที่กินยาฆ่าแมลง ดื่ม เป็นการปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลได้ แต่จะไม่ให้ผลในการกินเพื่อป้องกัน ก่อนสัมผัสยาฆ่าแมลง ในทางกลับกัน สมุนไพรรางจืดนี้ ซึ่งหาได้ง่ายในแถบชนบทอยู่แล้วสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถนำใบรางจืดมาต้ม ทำเป็นชารางจืด ดื่มแทนน้ำธรรมดา เพื่อให้ทำลายและขับพิษสารเคมีไม่ให้ตกค้างในร่างกาย โดยพิษของยากำจัดศัตรูพืช จะทำให้เกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก หายใจลำบาก "

แพทย์หญิงเพ็ญนภากล่าว แพทย์หญิงเพ็ญนภากล่าวต่อไปว่า สำหรับความเชื่อในวงคอเหล้า ที่นำรางจืดมาเคี้ยว เพื่อดับฤทธิ์เอทธิลแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ดื่มได้นาน ไม่เมานั้น ยังไม่เคยมีการศึกษาวิจัยมาก่อน และไม่แนะนำให้ปฏิบัติด้วย เพราะสุดท้ายเมื่อเหล้าเข้าสู่ร่างกาย ก็จะไปทำลายอวัยวะที่เป็นทางผ่านทั้งหมด และทำลายที่ตับ ทำให้ตับทำงานหนักที่สุด ตับจึงได้รับพิษจากเหล้ามากที่สุด เซลล์ตับที่ถูกทำลายจะมีไขมันไปเกาะแทนที่ ทำให้เกิดตับอักเสบเนื่องจากการคั่งของไขมัน ทำให้เซลล์ตับถูกทำลายมากขึ้นไปอีก และเมื่อเซลล์ตับตายลงถึงระดับหนึ่ง ก็จะมีพังผืดไปขึ้นที่บริเวณนั้นลักษณะคล้ายแผลเป็น ส่งผลให้เนื้อตับที่เคยอ่อนนุ่ม แข็งตัวขึ้น เกิดอาการตับแข็งได้ในที่สุด โอกาสเสียชีวิตมีเร็วขึ้น







ลิ้งค์ บล็อกที่แล้ว คลิกที่นี่ครับ


เพื่อนท่านใดสนใจจะเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงที่จังหวัดกาญจนบุรี ลองไปอ่านรายละเอียดทั้งหมดตามลิ้งนี้ครับ





ลิ้งค์ บล็อกคุณลำน้ำ C คลิก




 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2549
17 comments
Last Update : 14 พฤษภาคม 2549 13:51:18 น.
Counter : 832 Pageviews.

 

โรตตับแข็งน่ากลัวค่ะ ถ้าดื่มมากไป ไม่ดีทั้งนั้น ดื่มแล้วขาดสติ
ไม่ดื่มเลยดีที่ซู๊ดดดค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 14 พฤษภาคม 2549 11:12:37 น.  

 

พิมพ์ตกค่ะ โชคดีที่ไม่ดื่มค่ะคุณเดินดิน
น้องดาวสบายดีนะคะ คิดถึงน้องดาวจัง
ช่วยลบ เม้นอันบนให้ด้วยนะคะ

 

โดย: อินทรีทองคำ 14 พฤษภาคม 2549 11:30:23 น.  

 

น่าจะรีบให้ความรู้เกษตรกรนะคะ

ของดีๆเอาไปใช้ผิดๆ เสียดายประโยชน์หมดเลยค่ะ

 

โดย: PADAPA--DOO 14 พฤษภาคม 2549 11:41:27 น.  

 

โอ้โฮ คนไทยติดอันดับ 5 ของโลกเลยเหรอคะ ...
ถ้าดื่มนิดๆหน่อย ในงานสังคมก็คงไม่เป็นไรนะคะ แต่
ถ้าดื่มมากๆ มันก็เป็นอันตราย ร่างกายก็แย่ลงๆทุกวัน
แล้วยิ่งชาวบ้านในคอวงเหล้ามีความเชื่ออะไรผิดๆ แบบนี้น่าเป็นห่วงเนอะ
ญาติผู้ใหญ่ตะกร้าคนนึง ดื่มเหล้าเก่งมากคงดื่มมาตั้งแต่หนุ่มๆ
ตอนนี้สุขภาพดูแย่มากๆเลยค่ะ วูบบ่อยๆค่ะ นึกถึงถ้าต้องขับรถแล้วอันตรายจัง

//บล็อกสวยหวานขึ้นทุกวันๆ เลยค่ะ คุณคนเดินดินฯ...

 

โดย: ตะกร้าหวายสีขาว 14 พฤษภาคม 2549 12:16:23 น.  

 

แหะ แหะ..ผมว่าไม่ปน่าแปลกใจเลยครับ...

 

โดย: กุมภีน 14 พฤษภาคม 2549 12:28:55 น.  

 

เห็ฯเขาบอกว่า..ตับคือส่วนสำคัญของร่างกาย...ถ้าโดนใช้งานหนัก...

ร่างกายเราก็แย่นะค่ะ.....นานๆๆจิบ..ไวน์..นิดหน่อย..มายเป็นไรนะค่ะ.

แข็งแรงแล้วนะค่ะ.

 

โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) 14 พฤษภาคม 2549 12:40:49 น.  

 

โห ถ้าดื่มกันพอประมาณ มีงานพิเศษกันก็ดื่มทีจะดีกว่านี้เยอะเลยนะค่ะ
เนี่ย แต่นี่ถ้าดื่มพร่ำเพรื่อนอกจากจะเปลืองเงินแล้ว ยังทำให้ร่างกาย
ย่ำแย่อีกด้วย ...

 

โดย: JewNid 14 พฤษภาคม 2549 15:39:25 น.  

 

คัดจากส่วนวรรณกรรม นสพ.กรงเทพธุรกิจ


"บ้านของเรา"

--------------------------------

อยู่ที่นี่ด้วยกันกับฉันไหม......... อยู่บ้านไร่บ้านนาอยู่ป่าเขา

อยู่กับทุ่งเถื่อนท่าประสาเรา...... อยู่แนบเนาผืนถิ่นแผ่นดินเดิม

อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาบรรดาญาติ........ อยู่กับธรรมชาติไม่แต่งเสริม

อยู่เป็นขวัญผินดินรินรักเติม...... อยู่เพื่อเพิ่มกำลังใจให้กัน

เรามีแรงกำลังเข้าถั่งโถม....... เราหักโหมให้เห็นเช่นเราฝัน

แปรเหงื่อเราเป็นงานไม่นานวัน..... ภาพตื้นตันปรากฏเข้าทดแทน

เรามีน้ำมีปลามีนาข้าว .......เถิดหนุ่มสาวกลมเกลียวให้เหนียวแน่น

มาร่วมพลิกผืนดินสร้างถิ่นแดน....... ไม่ขาดแคลนหากรักที่จักทำ

อยู่ที่นี่ด้วยกันกับฉันเถิด........ อยู่บ้านเกิดดงดอยใช่ต้อยต่ำ

อยู่พอกินพอใช้ร่วมใจจำ........ อยู่กับสัมพันธ์เผ่าผองเรามี

อยู่กับสังคมคนชนบท........... จะอิ่มอดอย่างไรเราไม่หนี

จะสุขบ้างทุกข์บ้างก็ยังดี.......... เพราะที่นี่ถิ่นฐาน "บ้านของเรา"


"อหังการ์ กวี"

 

โดย: คนเดินดินฯ 14 พฤษภาคม 2549 17:01:55 น.  

 

ดื่มก็เหมือนมันจะยิ่งมาววววว เหล้าไม่ช่วยอะไรเลย เอิ๊ก

 

โดย: YesterdaY 14 พฤษภาคม 2549 18:16:29 น.  

 

สุรา ทำให้ขาดสติ
ขาดสติ ก็ไม่มีอะไรเหลือ

 

โดย: rebel 14 พฤษภาคม 2549 18:22:41 น.  

 

ดอก..catt..ที่นำมาส่วนมากถ่ายที่งานประกวดค่ะ....
ที่สวนเป็นหวายมาก...มีcatt..บางส่วน..แวนด้านิดหน่อย..มีลูกช้าง..
ได้ไม้ป่าอนุเคราะห์จากเพื่อนชาวสวนใจดี..หลายต้นค่ะ

เราว่าต้องดูแลดีๆๆถึงได้ดอกสวย..ชอบไปดูงานประกวด..สวยทั้งนั้นเลย

ให้ชมอีกสีค่ะ...

 

โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) 14 พฤษภาคม 2549 19:00:39 น.  

 

แวะมาเยี่ยม...สวัสดีครับ

 

โดย: **mp5** 14 พฤษภาคม 2549 20:23:50 น.  

 

คนไทยขี้เมาติดอันดับ5โลก เสียค่าเหล้าปีละ1.25แสนล้าน
-----> ป๊ะป๋า เราก็เป็นส่วนหนึ่งในสถิตินี้ด้วย

 

โดย: Fruit_tea 14 พฤษภาคม 2549 20:42:34 น.  

 

ไมรู้ว่าจะน่าดีใจ...หรือน่าอายกันแน่........เพราะพวกเราคนไทยเสียเงินลงขวดไปเยอะ......ไม่เคยมีประโยชน์ทางร่างกายเอาเสียเลย...(ว่าตัวเองด้วยครับ)

 

โดย: ครีเอทีฟ หัวเห็ด 15 พฤษภาคม 2549 6:51:42 น.  

 

โบว์ไม่ดื่มค่ะ (ไม่ดื่มมาก ดื่มนิดหน่อย)^^





...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 15 พฤษภาคม 2549 7:48:21 น.  

 





สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


บรรจงถ่ายทอด ความคิดถึง
พร้อมความห่วงใย ส่งไปหา
แม้ไม่ได้ส่งไป ทุกวันเวลา
แต่ทุกคราที่ส่งมาคือความรู้สึกของหัวใจ


** มีความสุขและสนุกกับการทำงานนะจ้า **


ช่วงนี้ยังเป็นหวัดอยู่อีกหรือเปล่าอะจ้า
ถ้ายังไม่หายดีก้น่าจะไปหาหมอนะจ้า เพราะถ้าปล่อยไว้ยิ่งจะแย่ไปใหญ่
งานการที่เรารับผิดชอบอยู่ก็จะพลอยติดขัดไปด้วย
ถ้างัยก้รักษาสุขภาพด้วยนะจ้าคุณ คนเดินดิน

ส่วนนัทตอนนี้ก้ทำงานเยอะจนไม่ค่อยได้มีเวลาอะจ้า แต่ก้ไม่ลืมที่จะห่วงใยเพื่อนๆๆร่วมทั้งคุณ คนเดินดิน ด้วยนะจ้า

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 15 พฤษภาคม 2549 12:54:34 น.  

 

ไม่มาวๆๆๆๆ เค้าม่ะดื่มเหมือนกัน อ่ะ

 

โดย: แมวน้อยของเสี้ยวเทียน 15 พฤษภาคม 2549 13:18:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.