|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
@@ประมวลกายใจให้เป็นหนึ่ง ดึงเอาความสามารถออกมาใช้
คัดจาก "พัฒนาตัวเองแบบเซน"
เหลี่ยวหันจวีซือ เขียน
สมจิตร ฟูสกุล แปล
คนทั่วไปคิดว่าความสามารถและสติปัญญาเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เป็นสิ่งที่ฟ้าประทานพรมาให้ หากไร้วาสนาเป็นเจ้าของแล้ว ก็เปล่าประโยชน์ที่จะพูดถึงมัน ขณะเดียวกัน มีคนไม่น้อยคิดว่าความรู้ ความสามรถและสติปัญญาเป็นสิ่งที่ได้มาจากการเสาะแสวงหาของเจ้าตัว
น่าเสียดาย คนทั้งสองประเภทนี้ล้วนละเลยลืมหลงที่จะมองดูศักยภาพภายในตนเอง มัวแต่ไปเปรียบเทียบจากปัจจัยภายนอก เช่น กรรมพันธุ์ คุณภาพของการศึกษา เป็นต้น และถือเอาเงื่อนไขเหล่านี้มาเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบความสามารถ นี่เป็นสภาพทั่วไปของสังคมที่มักจะมองว่า คนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร พ่อแม่ร่ำรวยขนาดไหน ฉลาดหรือไม่ จบจากสถาบันอะไร ได้คะแนนเท่าไร ถ้าดีหมดก็ถือว่าคนนั้นเป็นบุคลากรอันมีค่า สมควรรับเข้าทำงานในบริษัท
ทว่า หลักการของการปฏิวัติตัวเองแบบเซนนั้น กลับปฏิเสธเงื่อนไขดีเด่นภายนอกโดยสิ้นเชิง เพราะเซนสอนให้คนเราตระหนักรู้ในทรัพยากรมหาศาลภายในตัวจน
ญี่ปุ่นยุคเอโดะ มีพระอาจารย์เซนชื่อว่าท่านอิวาเกอิ เป็นผู้เชียวชาญในการสั่งสอนเซนให้ชนทั่วไปเข้าใจได้โดยง่าย มีคนถามท่านว่า
"กระผมมีความรู้และสติปัญญาอยู่มาก แต่ไม่อาจนำออกมาใช้ได้อย่างใจ ควรทำอย่างไรดีครับท่าน"
"กระเถิบเข้ามาใกล้อีกนิดนึงสิ"
เจ้าของคำถามขยับตัวไปข้างหน้าให้ใกล้ท่าน ท่านอิวาเกอิยิ้มพร้อมกับพูดว่า
"ที่จริงเธอก็ใช้มันได้ดีอยู่มิใช่หรือ"
ท่านเอ่ยชมอย่างจริงใจ
คนที่เชื่อว่าความรู้และสติปัญญาอยู่ในสมอง ย่อมจะไม่เข้าใจ
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวเอเชียได้รับเอาอารยธรรมและแบบแผนการศึกษาแบบตะวันตกเข้ามาใช้ ได้รับแนวโน้มความคิดที่แบ่งแยกจิตและกายออกจากกัน หรือลัทธิทวินิยม (dualism) แนวคิดนี้สามารถซึมแทรกเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปตนเอง และการอบรมบุคลากรได้ง่ายมาก โดยการให้ความสำคัญกับความรู้ความสามารถทางเทคนิคเป็นอันดับแรกสุด พร้อมทั้วปฏิเสธว่ากายและใจนั้นรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเป็นสาเหตุให้เราไม่อาจนำความสามารถออกมาใช้ได้อย่างพลิกแพลงอย่างเต็มที่
คนที่ถามท่านอิวาเกอิ คิดว่าความรู้และสติปัญญาอยู่แยกต่างหากจากตัวตน แต่ครั้นอาจารย์ท่านบอกให้ขยับเข้ามาใกล้หน่อย เขาก็เคลื่อนตัวไปข้างหน้า มีเพียงผู้ที่ควบคุมร่างกายได้เท่านั้น จึงจะดึงสติปัญญาความสามารถอันดีเด่นออกมาใช้ได้
การที่เรากำเนิดมามีมือ เท้า หู ตา ร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์ มีชื่อเรียก ก็เท่ากับมีเอกลักษณ์ในตนเอง เพียงแค่นี้ก็เป็นการดำรงอยู่ที่งดงามพร้อมสรรพอยู่แล้ว หากเรากลับมองข้ามสิ่งเหล่านี้ ละเลยพลังชีวิตของตนด้วยการนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นแล้วมานั่งเจ็บช้ำ รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า รู้สึกว่าไม่เอาไหน สู้คนอื่นไม่ได้ เป็นผู้แพ้ตลอดกาล ?
ธรรมชาติได้ประทานพลังชีวิตและความสามารถที่จะตอบโต้กับสภาวะต่าง ๆ ด้วยสมรรถนะอันสมบูรณ์แก่เราอยู่แล้ว เพียงแต่ตระหนักในข้อนี้ก็จะพบเพชรล้ำค่าในกายตน นี่เป็นก้าวแรกสู่การปฏิวัติตนเอง@
|
|
|
|
|
บล็อกที่แล้ว คลิกที่นี่
Create Date : 28 พฤษภาคม 2549 |
|
11 comments |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2549 11:21:33 น. |
Counter : 2417 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กระจ้อน 29 พฤษภาคม 2549 10:30:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: กระจ้อน 31 พฤษภาคม 2549 9:52:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: run to me IP: 125.24.82.246 31 พฤษภาคม 2549 13:53:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสมรัศมี 31 พฤษภาคม 2549 21:40:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: I'm sorry IP: 58.64.113.60 8 กรกฎาคม 2549 11:36:52 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ขอให้คุณคนเดินดินฯ มีความสุขมากๆนะค่ะวันนี้