บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

@@เทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ แหล่งพลังงานที่ถูกลืม--โดย ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์















เทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ แหล่งพลังงานที่ถูกลืม

โดย ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์ srisakul@matichon.co.th



พอพนธ์ สิชฌนุกฤษฏ์



แม้ว่าจะมีความพยายามในการพัฒนากันมานาน สำหรับเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ทำไมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ของไทยจึงยังไม่ถึงไหน ดร.พอพนธ์ สิชฌนุกฤษฏ์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (ทีเอ็มซี) ผู้ที่คร่ำหวอดอยู่กับเรื่องการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงทิตย์มานาน มาบอกกล่าวถึงเรื่องราวเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของไทย จะมาไขข้อข้องใจให้เราได้ฟัง

ดร.พอพนธ์กล่าวว่า ที่ศูนย์แห่งนี้ทำงานเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ปี 2540 ถือว่าเป็นศูนย์ที่มีการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ห้องปฏิบัติการไปจนถึงออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ได้ โดยต้นน้ำก็จะเป็นการผลิตวัสดุสำหรับทำโซลาร์เซลล์ ที่เรียกว่า อีวีเอ หรือ โพลีเมอร์กันความชื้นจากภายนอก ซึ่งทาง สวทช.ได้พัฒนาร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ส่วนเครื่องจักรที่ใช้สำหรับผลิตโซลาร์เซลล์นั้น แม้ว่าประเทศไทยจะไม่สามารถผลิตได้เอง แต่ก็มีแผนที่จะพัฒนาขึ้นเองในประเทศไทย เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง

สำหรับกลางน้ำนั้น ก็จะเป็นเรื่องของการพัฒนาประสิทธิภาพ โดยโซลาร์เซลล์ที่ใช้กันอยู่ปัจจุบันนั้น จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือแบบหนาที่ต้องใช้ซิลิคอนจำนวนมาก และแบบบางที่จะใช้ซิลิคอนน้อย ดังนั้น จึงมีการพัฒนาให้มีการใช้แบบบางเพื่อที่จะช่วยประหยัดต้นทุน แต่ต้องทำให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด


นอกจากนี้ ก็จะมีการพัฒนาโซลาร์เซลล์ที่ใช้นาโนเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นชุดที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนเท่านั้น เป็นการสร้างโซลาร์เซลล์อย่างง่ายขึ้นมา แต่จะไม่มีการนำไปใช้งานจริง เพราะแม้จะทำงานได้เหมือนกับโซลาร์เซลล์จริงๆ แต่ยังมีประสิทธิภาพต่ำมาก จึงยังไม่มีแผนที่จะนำมาใช้งานจริงแต่อย่างใด

สุดท้ายสำหรับปลายน้ำจะเป็นการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมา อย่างเป็นการผลิตไฟฟ้าน้ำร้อน ซึ่งเป็นระบบแรกในเมืองไทย ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และมีการติดตั้งใช้งานแล้วหลายแห่งในไทย นอกจากนี้ ก็มีการประยุกต์ทำให้เป็นหลังคาโซลาร์เซลล์ขึ้นมาอีกด้วย

หลังจากที่ศูนย์ได้มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาแล้ว ก็จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่บริษัทเอกชนต่อไป ซึ่งจะมีการเรียกเก็บค่าถ่ายทอดเทคโนโลยีและค่าธรรมเนียมการใช้รายปี แล้วแต่สัญญาที่ทำไว้กับแต่ละบริษัท


นอกเหนือจากโซลลาร์เซลล์ของทางศูนย์จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้แล้ว ก็ยังมีการพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าและน้ำร้อน ซึ่งน้ำร้อนที่ได้มานั้นจะสามารถนำไปใช้สำหรับการซักผ้าในโรงพยาบาล หรือเพื่อนำไปปรุงอาหารก็ได้ นอกจากนี้ ก็ยังมีระบบผลิตไฟฟ้าและระบบปรับอากาศ ที่สามารถนำพลังงานที่ได้โซลาร์เซลล์ไปเดินเครื่องปรับอากาศได้ด้วย

ดร.พอพนธ์บอกว่า ตอนนี้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นั้นยังคงสูงอยู่ จะอยู่ที่ประมาณ 10 บาทต่อยูนิต ขณะที่ค่าไฟเฉลี่ยทั่วไปอยู่ที่ 5 บาทต่อยูนิต แต่หากเป็นช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ต้นทุนจะสูงถึง 16.67 บาทต่อยูนิต ดังนั้น การนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ตอนนี้จึงเป็นการนำมาใช้เพื่อมาทดแทนการใช้กระแสไฟฟ้าในช่วงที่มีผู้ใช้จำนวนมากเท่านั้น เพราะจะนำไปใช้แทนช่วงเวลาปกติที่มีต้นทุนเพียงแค่ 2 บาท คงไม่ได้!

ดังนั้น จึงมีการตั้งแผนไว้ว่า ภายใน 5 ปี จะต้องทำให้ค่าไฟที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ มีราคาเท่ากับค่าไฟฟ้าในปัจจุบันให้ได้ และผลิตเครื่องจักรขึ้นมาเองเพื่อให้ต้นทุนในการผลิตต่ำ ทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อให้ไทยมีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

หากแต่อุปสรรคในตอนนี้ก็คือ การที่คนไทยไม่ค่อยให้ความสนใจหรือสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนกันเสียเท่าไหร่ เพราะคิดว่าสามารถหาพลังงานจากที่อื่นได้ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ จึงไม่สนที่จะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่ง ดร.พอพนธ์เตือนไว้ว่า การไปหาแหล่งพลังงานธรรมชาติใหม่จากต่างประเทศนั้น ไม่มีความมั่นคงทางพลังงานเลย สิ่งสำคัญคือการนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ให้สูงสุดต่างหาก

และเชื่อหรือไม่ว่า ประเทศไทยมีแสงอาทิตย์มากกว่าประเทศญี่ปุ่น 1.5 เปอร์เซ็นต์ แต่ญี่ปุ่นมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากกว่าประเทศไทยมากถึง 100 เท่า เท่านี้ ก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานทางเลือกมากน้อยแค่ไหน

ในขณะที่คนไทย ได้แต่ปล่อยให้แสงอาทิตย์ปล่อยรังสียูวีแผดเผาเราไปวันๆ โดยไม่คิดจะนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ น่าเสียดายจริงๆ










ลิ้งค์ บล็อกที่แล้ว คลิกที่นี่ครับ

ลิ้งค์ ตามรอยความคิด "จิตร ภูมิศักดิ์ ผ่านเส้นทางทัวร์วัฒนธรรม




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2549
8 comments
Last Update : 20 พฤษภาคม 2549 14:38:54 น.
Counter : 720 Pageviews.

 





สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


จะกี่นาทีกี่วินาทีที่เธอห่าง
จะกี่ชั่วโมงที่ทอดยาวให้ก้าวไป
จะกี่วันที่ทอดกว้างห่างไกล
จะกี่เดือนกี่ปียังคง คิดถึง ห่วงใยเธอ


** ขอให้มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนนะจ้า **


มาเล่นด้วยเป็นคนแรกเลยจ้า

คุณ คนเดินดิน สบายดีนะจ้า ทานข้าวแล้วยังอะจ้า

ช่วงนี้การเมืองเป็นงัยมั่งน๊า

พูดถึง เรื่องนี้แล้วอยากให้มันดำเนินไปในทางที่ดีจังเลย

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 20 พฤษภาคม 2549 14:33:31 น.  

 

ก็ไม่ได้ทำจริงจังเลยเหมือนถูกลืมอะนะ เมืองไทย งบน้อยนะเรื่องแบบนี้
ขอบคุณๆคนเดินดินที่นำมาให้อ่านจ้ะ รบกวนฝากทักทายน้องดาวด้วยจ้า

 

โดย: อินทรีทองคำ 20 พฤษภาคม 2549 14:40:28 น.  

 

สวัสดีค่ะ

เห็นด้วยว่าน่าเสียดายพลังงานจากแสงอาทิตย์มากๆ

อยากให้เมืองไทยอยุ่ๆ ไม่มีแสงอาทิตย์ สักวัน
จะได้เห็นคุณค่า เหมือนบางประเทศเค้าบ้างนะคะ
แน๊..

มีความสุขในวันหยุดพักผ่อนค่ะ

มื่อเย็นจะทานอะไรดีคะ

 

โดย: พลอยสีรุ้ง 20 พฤษภาคม 2549 16:31:21 น.  

 

ได้ความรู้ดีมากครับ ผมสนใจเรื่องนี้ด้วย

 

โดย: basbas 20 พฤษภาคม 2549 18:06:52 น.  

 

เคยไปเดินเล่นที่ kinderboederij กับทาง รร.ตอนเรียนภาษาที่นี่ค่ะ มันจะเป็นคล้ายๆ ปาร์คใหญ่แล้วกมีสัตว์เล็กๆ น้อยๆ สำหรับเด็กๆ สามารถเดินเข้ามาดูและให้อาหารได้ ... พอดีวันที่ไปมันค่อนข้างจะใหญ่หน่อย เค้าเลยมีส่วนของงานวิทยาศาสตร์ให้เราได้ศึกษากันเหมือนพวกงานจัดบอร์ดนิทรรศการน่ะค่ะ แล้วก็มีการอธิบายถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วย น่าสนใจคะเพราะว่าเค้าอธิบายถึงเรือ่งต้นทุนการผลิตและกระบวนการทำงาน ...

 

โดย: JewNid 20 พฤษภาคม 2549 18:45:19 น.  

 


อืมม์ น่าเสียดายจริงๆน่ะแหละ

 

โดย: p_tham 21 พฤษภาคม 2549 1:14:38 น.  

 

เป้นครูสอนวิทยาศาสตร์ สนใจเรื่องโซลาร์เซลล์ อยากทราบว่าถ้าจะนำมาใช้สาธิตให้นักเรียนได้เรียนรู้จะเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าใด
ใครพอจะให้คำแนะนำได้บ้าง ช่วยแนะนำหน่อยจะขอบคุณมาก

 

โดย: win IP: 125.24.111.250 11 ธันวาคม 2550 19:58:55 น.  

 

df

abcdefghijklmnopqrstuvwxyz

coffee breakfsyohltwietorrueehfreytgrgfyyftgyrtuwoeawutgwatggytgyrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrgewargwaorgwayrgwyttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttttterffrttttttttttttttttttttttttttttttttttttggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggggg888888888888888888888888888888888888888888kmoooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,hnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnnfffffffffffffffffe

 

โดย: milk IP: 58.9.69.54 2 กุมภาพันธ์ 2551 10:47:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.