|
สู่วิสัยทัศน์ใหม่ : บทเรียนจากอินเดีย : ประชาธิปไตยผ่านการพัฒนา : ธรรมรักษ์ การพิศิษฎ์
สู่วิสัยทัศน์ใหม่ : บทเรียนจากอินเดีย:ประชาธิปไตยผ่านการพัฒนา โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 11 พฤษภาคม 2549 10:40 น. ธรรมรักษ์ การพิศิษฎ์ ผมมีความคิดของผมเองจะผิดจะถูกก็ไม่ต้องการชี้นำใครเพราะมิใช่เป็นนักวิชาการ เป็นเพียงชาวบ้านคนหนึ่งที่อย่างน้อยก็จบ ป.4 มาแล้ว ในบรรดาประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายที่มีการปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบเต็มใบทั้งหลาย อินเดียเป็นประเทศที่เรียนรู้พัฒนาการทางด้านประชาธิปไตยที่สามารถนำประเทศไปสู่ความเจริญได้อย่างมีเสถียรภาพในท่ามกลางความหลากหลาย ถึงผมจะต้องพูดแบบพระเทศน์ผมต้องขอยืนยันในจิตสำนึกของตนเองในสัจธรรมที่ว่าชีวิตของคนเรานั้นถ้าไม่ยอมรับความหลากหลาย ความแตกต่างกันในความคิด ความเชื่อ วัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนาฯลฯความเป็นเอกภาพไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นมาได้ อินเดียเป็นประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดในโลก มีความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรม ทางเชื้อชาติ ศาสนา แบ่งออกเป็นชนชั้นวรรณะมากมายทั้งคนรวยที่สุดและจนแบบสุดๆ การเมืองของอินเดียไม่มีเสถียรภาพ เปลี่ยนรัฐบาลกันเรื่อยๆและในหลายๆครั้งก็จัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งขาดความมั่นคงต่อเนื่อง แต่ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า ประประชาธิปไตยที่มีความหลากหลายทางความคิด ร้อยพ่อพันแม่อย่างอินเดียมาบัดนี้กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในเวทีเศรษฐกิจโลกร่วมกับสหรัฐและจีน อินเดียในรอบ 15 ปีที่ผ่านมาเป็นประเทสที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงเป็นที่สองรองจากจีนเท่านั้น คือเติบโตในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 7.5 ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่าในปีนี้เศรษฐกิจอินเดียจะยังคงขยายตัวในอัตรานี้ต่อไปและอาจจะโตในอัตราสูงขึ้นอีกใน 10 ปีข้างหน้า GOLDMAN SACHS ประมาณว่าในอีก 50 ปีข้างหน้าอินเดียจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตสูงที่สุดในโลกเพราะว่ากำลังแรงงานของอินเดียยังไม่เข้าสู่วัยสูงอายุเร็วเหมือนกับประเทศอื่น ในอีก 10 ปีข้างหน้าว่ากันว่าเศรษฐกิจของอินเดียจะมีขนาดใหญ่กว่าอิตาลีและอีก 15 ปีข้างหน้าจะมีขนาดใหญ่กว่าอังกฤษ เมื่อถึงปี ค.ศ.2040 อินเดียจะเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลกและจะมีขนาดโตกว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเป็น 5 เท่าตัวภายในปี 2050 ในขณะที่รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันถึง 15 เท่าตัวว่ากันว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียเป็นไปอย่างไม่ค่อยเป็นระเบียบส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการวางแผนหรือการแทรกแซงจากภาครัฐแต่จะเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการภาคเอกชนที่ต้องการหาเงินหากำไร ผู้ประกอบการภาคเอกชนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่รู้จักหาวิธีการประกอบธุรกิจของตนเองหาทางแก้อุปสรรคแม้กระทั่งหาทางหลีกเลี่ยงการติดต่อธุรกิจกับภาครัฐ อดีตซีเอโอของ Procetr &Gamble ในอินเดียท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า "แม้รัฐบาลจะนอนหลับตอนกลางคืน เศรษฐกิจของอินเดียก็ยังเติบโตได้" การพัฒนาจากข้างล่างมิได้เห็นอย่างชัดเจนจากบทบาทของผู้ประกอบการเท่านั้น ผู้บริโภคชาวอินเดียก็ยังมีบทบาทสำคัญยิ่งโดยส่วนใหญ่แล้วความสำเร็จทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียมาจากบทบาทของรัฐบาลในการวางมาตรการบังคับให้ประชาชนออมทรัพย์และก่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการสะสมทุน รวมทั้งการลดการแทรกแซงในระบบตลาดแต่ในอินเดียนั้นผู้บริโภคคือราชา ผู้ประกอบอาชีพหนุ่ม ๆ ชาวอินเดียเขาไม่รอออมเงินไว้ซื้อบ้านอยู่ในบั้นปลายชีวิต เขาซื้อบ้านแบบเช่าซื้อไปเลยอุตสาหกรรมบัตรเครดิตในอินเดียเติบโตในอัตราถึงร้อยละ 35 ต่อปี การบริโภคส่วนบุคคลคิดเป็นมูลค่าถึงร้อยละ 67 ของ GDPเมื่อเทียบกับจีนร้อยละ 42 มีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่บริโภคส่วนบุคคลสูงถึงร้อยละ 70 ของ GDP ที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจอินเดียนั้นเกิดขึ้นภายใต้ระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย อินเดียซึ่งเป็นประเทศที่ยากจนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก สามารถมีการปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนตลอดมาเป็นเวลาร่วม 61 ปีแล้วและเป็นที่แน่นอนว่า การเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ต่อเนื่องมาตลอด 61 ปี เป็นจุดแข็งที่สุดจุดหนึ่งของประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายอินเดียเป็นประเทศที่ชาวโลกให้ความเชื่อมั่นในความยั่งยืนของระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคงแน่นอนถ้าถามว่า อีก 25 ปีข้างหน้าการเมืองอินเดียจะเป็นอย่างไร คำตอบก็คือมันก็เหมือนวันนี้ยังเป็นประชาธิปไตย บางทีอาจเป็นรัฐบาลผสมก็ได้แต่ยังไงก็เป็นประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยแม้จะต้องประชานิยมกันบ้าง ทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง การตัดสินนโยบายล่าช้ากันไปบ้างเพราะต้องถกเถียงใช้เหตุใช้ผลกันแต่ก็สร้างหลักประกันในเรื่องความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของประเทศในระยะยาวเห็นจะเป็นเพราะว่าอินเดียเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมาเป็นเวลานานร่วม 200 ปี จึงได้มีการวางรากฐานทางด้านการเมืองและสถาบันการเมืองไว้อย่างมั่นคงทั่วประเทศ นอกจากนี้ผู้นำคนสำคัญๆในรุ่นแรกๆ เช่น เนรู ถึงแม้จะไม่เข้าใจเรื่องของเศรษฐกิจนักเพราะไม่ใช่นักธุรกิจแต่ท่านก็มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง เล่ากันว่าระบอบประชาธิปไตยของอินเดียก็เป็นเฉกเช่นประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย ไม่ได้สะท้อนความต้องการของคนส่วนใหญ่ที่ยากจนเสมอไป มักจะเป็นไปตามความต้องการของคนกลุ่มน้อยที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ เช่นกลุ่มนายทุนเจ้าของที่ดิน กลุ่มวรรณะที่มีอิทธิพล สหภาพแรงงาน กลุ่มผู้มีผลประโยชน์ด้านต่างๆ เป็นต้น นิตยสารนิวสวีค เปิดเผย ว่าเกือบ 1 ใน 5 ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอินเดียเคยถูกกล่าวหาในคดีอาชญากรรมต่างๆมาแล้วรวมทั้งคดีการฉ้อโกง ข่มขืน และฆาตกรรม อย่างไรก็ตามการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยภายใต้กติกาที่วางไว้อย่างเคร่งครัดทำให้ประชาธิปไตยมีวิถีทางในการแก้ปัญหาในตัวของมันเอง อินเดียสามารถก้าวสู่การปฏิรูปการเมืองครั้งสำคัญเมื่อท่าน แมนโมบาน ซิง( Manmoban Singh) เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากนาง Sonia Garhi นำพรรคพันธมิตรของเธอชนะการเลือกตั้ง นางโซเนีย มีวิสัยทัศน์ยาวไกล มีสติปัญญาสูงมาก ยอมเสียสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมอบให้ท่าน ซิงรับตำแหน่งแทน ไม่ทราบว่าถ้าเป็นเมืองไทยเขาจะเรียกว่าดชเป็นนอมินีกันหรือเปล่า ในที่สุดแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามธรรมชาติตามกรรมของมัน ระบอบประชาธิปไตยของอินเดียที่เต็มไปด้วยทั้งประเทศได้ บทเรียนจากประสบการณ์ของอินเดียทำให้ผมเรียนรู้ว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยต้องใช้เวลาและความอดทนเสถียรภาพภายใต้ระบอบประชาธิปไตย คงมิใช่แต่เสถียรภาพความมั่นคงต่อเนื่องยั่งยืนของรัฐบาล ซึ่งอาจขัดต่อสภาพความเป็นจริงในสังคมที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางความคิด แต่จะต้องเป็นเสถียรภาพของระบอบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย เสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตยจึงไม่ใช่เสถียรภาพของรัฐบาล รัฐบาลจะล้มลุกคลุกคลานเปลี่ยนกันไปเปลี่ยนกันมาผสมพันธุ์กันร้อยพ่อพันแม่ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรประเทศก็พัฒนาไปได้ บางทีความไร้เสถียรภาพอาจจะนำมาซึ่งความมีเสถียรภาพก็ได้ ผมคิดว่าประชาธิปไตยแบบอินเดียน่าจะเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมแบบไทยๆเรา ที่ต้องสร้างความเป็นเอกภาพในความหลากหลายมากกว่าแบบสิงคโปร์ที่มีการเมืองแบบรวมศูนย์อำนาจอยู่ในพรรคเดียวครับ
|
|
|
|
|
|
ลิ้งค์ บล็อกที่แล้ว คลิกที่นี่ครับ
เพื่อนท่านใดสนใจจะเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงที่จังหวัดกาญจนบุรี ลองไปอ่านรายละเอียดทั้งหมดตามลิ้งนี้ครับ
ลิ้งค์ บล็อกคุณลำน้ำ C คลิก
Create Date : 11 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 14 พฤษภาคม 2549 11:14:53 น. |
|
27 comments
|
Counter : 876 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ชายคา วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:55:51 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:41:29 น. |
|
|
|
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:37:13 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:40:30 น. |
|
|
|
โดย: กระจ้อน วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:48:31 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:44:53 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:20:43 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:4:25:28 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:39:50 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:13:12 น. |
|
|
|
โดย: มัชฌิมา วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:47:50 น. |
|
|
|
โดย: run to me วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:28:50 น. |
|
|
|
โดย: ป้ามด วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:22:35 น. |
|
|
|
โดย: นายเบียร์ วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:57:55 น. |
|
|
|
โดย: zzz IP: 61.19.54.238 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:58:14 น. |
|
|
|
โดย: zzz IP: 61.19.54.238 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:01:17 น. |
|
|
|
โดย: ชายคา วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:56:58 น. |
|
|
|
โดย: ชายคา วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:09:31 น. |
|
|
|
โดย: zzz กุลีของไอ้กุ๊ย สนธิ IP: 221.128.96.205 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:38:11 น. |
|
|
|
โดย: เกลียดไอ้คนแซ่ลิ้ม IP: 221.128.96.205 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:41:44 น. |
|
|
|
โดย: อันธพาลครองเมือง IP: 221.128.96.205 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:45:17 น. |
|
|
|
โดย: อย่าถอยให้มาร IP: 221.128.96.205 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:48:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|