บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
21 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

@@8 เกษตรกรดีเด่น"49 พรวนดินปลูกองค์ความรู้@@





8 เกษตรกรดีเด่น"49 พรวนดินปลูกองค์ความรู้

หมายเหตุ : ประวัติและผลงานโดยสังเขปของเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2549 บางส่วน ที่เข้ารับพระราชทานโล่รางวัล ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549


ทองเหมาะ แจ่มแจ้ง

ทำนา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี

อายุ 62 ปี จบ ป.4 โทร.0-3559-4524

เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพจากการใช้ปุ๋ยเคมี-ยาฆ่าแมลงทำนา จึงหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ คิดค้นวิธีทำนาให้ได้ผลผลิตมากขึ้น ดัดแปลง พัฒนาปรับปรุงเครื่องจักรเครื่องมือทางการเกษตรให้ใช้ประโยชน์ได้เหมาะสมในพื้นที่ เพาะเลี้ยงจุลินทรีย์เพื่อใช้เองและผลิตสารชีวภัณฑ์ต่างๆ ผลิตสารป้องกันและขับไล่แมลง นอกจากนี้ยังมีวิธีคัดพันธุ์ข้าวโดยการเพาะเมล็ดด้วยวิธีการแกะเปลือกออก คัดเอาเมล็ดที่สมบูรณ์ไปเพาะขยายพันธุ์ และยังได้ผสมพันธุ์ข้าวใหม่ โดยตั้งชื่อว่า "พันธุ์เบาบางงาม"

นำผลงานไปเผยแพร่ทั่วประเทศ จนได้รับการเชิดชูเกียรติเป็น "ครูภูมิปัญญาไทย" และยกย่องให้เป็น "ปราชญ์ชาวบ้าน"


สมศักดิ์ ปักเข็ม

ปลูกสวนป่า อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

ปี 2535 พายุเกย์ทำลายสวนยางพาราไปมาก จึงปรับพื้นที่มาปลูกไม้ผล หลังจากนั้นจึงนำไม้ "จำปาป่า" มาปลูกแทรกเข้าไปเพื่อใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์ ไม้ป่าชนิดนี้มีระบบรากที่ลึกทำให้ยึดเกาะพื้นที่ได้ดีมีผลกระทบต่อไม้ผลน้อย จัดได้ว่าเป็นผู้นำความคิดโดยการนำพันธุ์ไม้ป่ามาปลูกร่วมกับสวนผลไม้ในลักษณะแปลงไม้เศรษฐกิจ โดยเล็งเห็นความมั่นคงและความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นกว่าการปลูกไม้ผลอย่างเดียว นอกจากนี้ยังช่วยแก้ทัศนคติที่ไม่ดีต่อการปลูกไม้ป่าให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย จนส่งผลให้เกษตรกรอื่นๆ เริ่มนำไม้ยางพารามาปลูกร่วมกับไม้ผล





ขวัญภูริศ วรัทจตุพัฒน์

เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อ.บางเลน จ.นครปฐม

อายุ 39 ปี จบ ป.6 โทร.0-1858-4793

ริเริ่มปรับปรุงสายพันธุ์กุ้งก้ามกรามด้วยตัวเอง นำกุ้งก้ามกรามจากพม่ามาผสมปรับปรุงพันธุกรรมอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเพิ่มผลผลิตและเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังจัดระบบเลี้ยงได้เหมาะสม ใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีคุณค่า ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรข้างเคียง ไม่ระบายน้ำเสียสู่คลอง แต่จัดระบบบ่อพักน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้บ่อพักน้ำให้เป็นประโยชน์และสร้างรายได้ โดยปล่อยปลากินแพลงตอนกินของเสียจากบ่อกุ้งเป็นรายได้เสริม ปัจจุบันเป็นฟาร์มตัวอย่างของฟาร์มเพาะเลี้ยงในเขตพื้นที่น้ำจืด เป็นสถานที่ศึกษาดูงานของสถาบันการศึกษาและราชการ เป็นศูนย์ศึกษาด้านพ่อแม่พันธุ์กุ้ง




ศรีประภัย อัดกระโทก

ไร่นาสวนผสม อ.เมืองกาฬสินธุ์

อายุ 38 ปี จบ ม.6 โทร.0-7220-1634

เป็นผู้นำสตรีในชุมชนที่ประสบความสำเร็จในการทำการเกษตรแบบไร่นาสวนผสม โดยพัฒนาปรับปรุงฟื้นฟูที่ดินจากสภาพที่ขาดความอุดมสมบูรณ์มาเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ อาศัยภูมิปัญญาชาวบ้านใช้มือปลิดเกสรตัวผู้ที่ก้นของผลไม้ก่อนห่อผลด้วยกระดาษ บำรุงผลฝรั่งจนมีรสชาติหวานกรอบอร่อย สลับการปลูกพืชหมุนเวียนในแปลงนาโดยปลูกสลับกับการปลูกหญ้าที่ใช้เลี้ยงโคขุน แต่ละกิจกรรมมีสวนเกื้อกูลสนับสนุนซึ่งกันและกัน เมื่อสั่งสมความรู้จนตกผลึกก็นำความรู้นั้นมาถ่ายทอดให้ชุมชน ปัจจุบันตั้งฟาร์มเป็นศูนย์กลางเรียนรู้และศึกษาดูงานของเกษตรกรทั่วไป


สงคราม ยะหัตตะ

เพาะเลี้ยงปลาสวยงาม-พรรณไม้น้ำ

อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี

อายุ 64 ปี จบ ม.2 โทร.0-1805-7693

เป็นเกษตรกรรายแรกที่ประกอบอาชีพเลี้ยงปลาสวยงาม (คาร์ป โกเมศร์ เสือ กระดี่แดง หมอสี) และพันธุ์ไม้น้ำใน จ.ปราจีนบุรี และประสบความสำเร็จในอาชีพหลังฝ่าฟันอุปสรรคเรื่องสภาพดินเป็นกรด-ด่างค่อนข้างต่ำ คิดค้นวิธีคัดพ่อแม่พันธุ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ได้นำความรู้และประสบการณ์ต่างๆ มาเผยแพร่ให้เกษตรกรรายอื่นๆ ได้นำไปปฏิบัติ แนะนำเรื่องการเตรียมบ่อเพาะฟัก การอนุบาล การเลี้ยง การหาตลาดเพื่อจำหน่ายโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งชมรมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สหกรณ์ประมง จ.ปราจีนบุรี


สันต์ศิลป์ ยาสาไชย

เลี้ยงสัตว์ อ.เมืองสกลนคร

อายุ 49 ปี จบ ป.4 โทร.0-6249-4838

พัฒนาการเลี้ยงโคขุนด้วยความมานะอดทน ล้มลุกคลุกคลานจนกระทั่งปัจจุบันเลี้ยงถึงรุ่นละ 10 ตัว เป็นแหล่งผลิตโคขุนคุณภาพดีโดยอาศัยการจัดการที่เป็นระบบ มีการวางแผนการผลิต จัดทำข้อมูลงบดุลรายตัว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเลี้ยงรุ่นต่อไป จัดตั้งโรงสีขนาดเล็กรับจ้างสีข้าวนำรำและปลายข้าวมาเลี้ยงโคเพื่อลดต้นทุน เป็นผู้นำกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรและบุคคลทั่วไป รวมทั้งใช้ฟาร์มเป็นแหล่งศึกษาดูงาน และใช้เป็นที่ฝึกงานของนักศึกษา และสถาบันต่างๆ


ธีรพันธ์ บุญบาง

สาขาบัญชีฟาร์ม อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์

อายุ 52 ปี จบ ม.ปลาย โทร.0-5625-1252

จากการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของรัฐจึงเกิดแนวคิดใช้ที่ดินไร่นาสวนผสม 47 ไร่ เป็นศูนย์การเรียนรู้ประจำตำบล สาธิตการทำไร่นาสวนผสม ผลิตปุ๋ยชีวภาพ ทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง จัดตั้งธนาคารหมู่บ้าน ด้วยการทำงานที่ต้องจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตกับรายได้จากการจำหน่าย จึงนำประสบการณ์และความรู้ด้านการบันทึกบัญชี สอบทานบัญชี มาเผยแพร่ในโครงการต่างๆ มากมาย จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การจัดทำบัญชีครัวเรือน จนปัจจุบันกลายเป็นศูนย์ต้นแบบ


วิเชียร มงคล

สาขาพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

กิ่ง อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา

อายุ 56 ปี จบ ป.6 โทร.0-3897-3188

เดิมใช้พื้นที่ทำนา แต่ประสบปัญหาดินเปรี้ยวจึงหันมาปรับปรุงพื้นที่โดยการยกร่อง ทำไร่นาสวนผสม และใช้ปูนมาร์ลลดความเป็นกรด พัฒนาการปรับปรุงคุณภาพดิน เช่น ปลูกหญ้าแฝกอนุรักษ์ดิน-น้ำ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ฯลฯ จนเป็นที่ยอมรับและถูกเชิญเป็นวิทยากรให้ความรู้ทางด้านนี้แก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน นอกจากนี้ยังส่งเสริมการอนุรักษ์แมงและแมลงที่เป็นคุณต่อสวนผลไม้ไว้ปราบแมลงศัตรูพืชโดยไม่ต้องใช้สารเคมี นำพืชสมุนไพรมาทำสารหมักชีวภาพป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราซึ่งได้ผลอย่างดี ทำให้ผลผลิตปลอดจากสารพิษ









ลิ้งค์ บล็อกที่แล้ว คลิกที่นี่ครับ

ลิ้งค์ ตามรอยความคิด "จิตร ภูมิศักดิ์ ผ่านเส้นทางทัวร์วัฒนธรรม

ลิ้งค์ แม่น้ำยม ป่าสักทอง วิถีชีวิตของคนสะเอียบ





 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2549
13 comments
Last Update : 21 พฤษภาคม 2549 16:56:52 น.
Counter : 964 Pageviews.

 

ยินดีกับ 8 เกษตรกรดีเด่น"49 ด้วยนะคะ

 

โดย: au_ja 21 พฤษภาคม 2549 11:24:34 น.  

 

ขอแสดงความยินดีจากใจจริงด้วยค่ะ กับทั้ง 8 ท่านค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 21 พฤษภาคม 2549 12:09:18 น.  

 





สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ในโลกใบกว้าง
ฉันมีความรู้สึกหลายอย่างเก็บไว้ให้
ตรงพื้นน้ำ ทะเลกว้างไกล
ฉันจะส่งความห่วงใย ไปฝากเธอ
ตรงฟ้ากว้าง สีครามงามซึ้ง ๆ
ฉันจะส่งความคิดถึงให้เสมอ
ตรงฟ้าว้าเหว่ทะเลหวั่นไหวในใจเธอ
ฉันจะส่งความอบอุ่นให้นะเธอคนไกล


** ขอให้มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนนะจ้า **


เนี่ยแหละมั่งที่เค้าเรียกว่า รางวัลแห่งการทำความดี ขอแสดงความยินดีกับทั้ง 8 ท่านนี้ด้วยนะจ้า

คุณ คนเดินดิน สบายดีนะจ้า งานช่วงนี้ดีมั้ยจ้า ..

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆๆก้อย่าลืมดุแลสุขภาพด้วยนะจ้า

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 21 พฤษภาคม 2549 13:42:20 น.  

 

ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ..

คนเราถ้าตั้งใจ..ก็จะประสบกับความสำเร็จ

ใช่ไหมค่ะ..คุณ..คนเดินดิน.

 

โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) 21 พฤษภาคม 2549 16:18:28 น.  

 

เข้ามาแสดงความยินดีกับคนเก่งทั้งแปดท่านค่ะ

แล้วก็มาตามหาน้องดาวคนสวยตามเคยค่ะคุณเดินดิน

 

โดย: อินทรีทองคำ 21 พฤษภาคม 2549 23:47:58 น.  

 

Photobucket - Video and Image Hosting

หอบดอกไม้มาแสดงความยินดีกับคนเก่งด้วยคนค่า

 

โดย: lonely sea (seenil ) 22 พฤษภาคม 2549 9:39:08 น.  

 

คัดจากคอลัมน์จุดปรพกาย นสพ. กรุงเทพธุรกิจรายวัน

หลักการการเป็นตัวแทนของประชาชน

19 พฤษภาคม 2549 20:25 น.
๐ ไชยันต์ ไชยพร



การปกครองแบบตัวแทนเกิดขึ้นในช่วงที่มีเกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอังกฤษ อเมริกาและฝรั่งเศสในศตวรรษที่สิบเจ็ดต่อสิบแปด ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานการปกครองแบบตัวแทนให้กับการเมืองสมัยใหม่คือ เจมส์ เมดิสัน (James Madison) และ เอมมานูเอล-โยเซฟ ซีเยส (Emmanuel-Joseph ซีเยส) คนแรกเป็นหนึ่งในบิดาผู้สร้างชาติอเมริกัน คนหลังเป็นรัฐบุรุษและนักทฤษฎีปฏิวัติฝรั่งเศสคนสำคัญ เจ้าของข้อเขียน 'What is the Third Estate?' ซึ่งกลายเป็นคัมภีร์สำคัญของการปฏิวัติ

ทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า ในโลกสมัยใหม่ ประชาธิปไตยทางตรงแบบเอเธนส์ในยุคกรีกโบราณนั้นไม่สามารถปฏิบัติเป็นจริงได้ การปกครองโดยตัวแทนที่ประชาชนเลือกจึงเป็นทางออก

เมดิสันเห็นว่า การมีตัวแทนประชาชนนั้นจะช่วยทำให้เจตจำนงความต้องการของประชาชนทั้งมวลได้รับการไตร่ตรองด้วยปัญญาและวิจารณญาณของกลุ่มบุคคลที่มีวิสัยทัศน์และรู้ถึงผลประโยชน์ที่แท้จริงของประเทศชาติ และกลุ่มบุคคลที่รับเลือกมานี้ ย่อมจะเป็นผู้ที่ประชาชนเล็งเห็นแล้วว่า เป็นบุคคลที่มีความรักปิตุภูมิ มีใจเป็นธรรม มีความเสียสละอุทิศตนเพื่อผลประโยชน์ที่แท้จริงของบ้านเกิดเมืองนอน เมดิสันเชื่อว่า มันเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า เสียงของมหาชนที่ส่งผ่านปัญญาความคิดของตัวแทนของพวกเขาอาจจะสะท้อนถึงผลประโยชน์สาธารณะได้ดีกว่าประชาชนเองเสียอีก

จะเห็นได้ว่า แม้ว่า เมดิสันจะยอมรับให้ประชาชนมีอำนาจในการปกครองตนเอง แต่ก็ต้องใช้อำนาจดังกล่าวนั้นผ่านตัวแทนที่ตนเลือก เมดิสันยอมรับให้ประชาชนสามารถเรียกร้องได้ แต่ต้องผ่านตัวแทนของเขา และเขาเชื่อว่า ผู้แทนมีวิสัยทัศน์และมีปัญญามากกว่าชาวบ้าน และน่าจะแปลงหรือปรับข้อเรียกร้องของมหาชนให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ที่แท้จริงของชาติได้ ซึ่งในแง่นี้ เมดิสันอาจจะคิดอย่างที่มาคิอาเวลลีคิดก็ได้ นั่นคือ สิ่งที่มหาชนเรียกร้องอาจจะไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศเสมอไป เป็นไปได้ที่การตอบสนองความต้องการของมหาชนโดยไม่ใช้วิจารณญาณอาจนำมาซึ่งความหายนะของบ้านเมืองได้ ดังนั้น สำหรับเมดิสัน ผู้แทนจะต้องทำหน้าที่กลั่นกรองข้อเรียกร้องของประชาชนให้สอดคล้องกับผลประโยชน์สาธารณะที่แท้จริง

ผู้แทนในสายตาของเมดิสัน จึงไม่ใช่คนที่สักแต่ทำหน้าที่รับข้อเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่ของตน แล้วนำมากำหนดเป็นนโยบาย โดยไม่พิจารณาให้ดีถี่ถ้วนเสียก่อน ผู้แทนจึงไม่ใช่ผู้ที่สักแต่จะทำอะไรเพื่อให้ได้คะแนนนิยมชื่นชมจากประชาชน ในแง่นี้ บางครั้ง ผู้แทนจะต้องมีความกล้าหาญและมีจริยธรรมซื่อสัตย์ต่อบทบาทหน้าที่ในอันที่จะรักษาผลประโยชน์สาธารณะ โดยการทวนกระแสประชาชนของตนด้วยซ้ำ และบางครั้ง ผู้แทนจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชน

ด้วยเหตุนี้ สำหรับเมดิสัน การปกครองแบบตัวแทนจึงเป็นระบอบการปกครองที่ดีกว่าการปกครองแบบประชาธิปไตยทางตรงที่ปล่อยให้ประชาชนมีอำนาจและเรียกร้องสิ่งที่ตนต้องการได้โดยไม่ผ่านการกลั่นกรองเลย

ขณะเดียวกัน การปกครองแบบตัวแทนในที่ใด ที่ผู้แทนไม่ใช้วิจารณญาณปัญญาของตนในการกลั่นกรองข้อเรียกร้องความต้องการของประชาชน แต่กลับพยายามที่จะตอบสนองความต้องการของประชาชน เพื่อให้ตนมีอำนาจทางการเมืองอยู่ต่อไปได้ ทั้งๆ ที่การตอบสนองดังกล่าวอาจจะนำมาซึ่งผลร้ายต่อบ้านเมืองในระยะยาว การปกครองแบบตัวแทนอย่างนี้กลับเลวร้ายเสียยิ่งกว่าการปกครองแบบประชาธิปไตยทางตรง เพราะประชาธิปไตยทางตรง แม้ว่าจะไม่ดี เพราะมหาชนอาจขาดวิสัยทัศน์ แต่ก็ยังดีที่ไม่มีตัวแทนที่เปรียบเสมือนฝูงเหลือบ

สำหรับซีเยส แม้เขาจะเห็นว่า การปกครองแบบตัวแทนนั้นดีกว่าเหนือกว่าประชาธิปไตยทางตรงเช่นเดียวกับเมดิสัน แต่ก็ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน

ซีเยสไม่ได้เห็นว่า การปกครองแบบตัวแทนดีกว่า เพราะมีผู้แทนที่มีปัญญามีวิจารณญาณ มีเหตุมีผล มีจริยธรรม ตัดสินใจได้ดีกว่ามหาชนคนธรรมดาอย่างที่เมดิสันว่าไว้ แต่ข้อดีของการปกครองแบบตัวแทนของเขานั้นอยู่ที่ว่า การปกครองแบบตัวแทนเหมาะสมที่สุดกับสภาพเงื่อนไขของสังคมสมัยใหม่ที่เป็น 'สังคมพาณิชย์' (commercial societies) ไม่ใช่เป็นสังคมเกษตรแบบสมัยโบราณ เพราะในสังคมสมัยใหม่ สมาชิกของสังคมต่างล้วนต้องสาละวนอยู่กับการทำมาหากิน มีอาชีพ เป็นมนุษย์เงินเดือนภายใต้ระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ ที่มีการผลิตและการแลกเปลี่ยนที่สลับซับซ้อนและในปริมาณที่มหาศาล

ภายใต้เงื่อนไขของการทำมาหากินในสังคมสมัยใหม่ ซีเยสชี้ให้เห็นว่า ผู้คนไม่สามารถมีเวลาว่างเหมือนสมัยทำไร่ไถนา เก็บของป่า อันเป็นวิถีการผลิตดั้งเดิม จึงไม่มีเวลาจะไปประชุมหารือตัดสินใจในเรื่องสาธารณะหรือเรื่องการเมือง ดังนั้น ระบบการเลือกตั้งคนที่ไว้วางใจไปเป็นตัวแทนทำหน้าที่ปกครองจึงเป็นคำตอบ โดยมองว่า ตัวแทนคือ คนที่สามารถจะอุทิศเวลาทั้งหมดทำหน้าที่แทนประชาชนได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ซีเยส มองว่า ระบบตัวแทนคือ การประยุกต์หลักการแบ่งงานกันทำที่เกิดขึ้นมาก่อนในทางเศรษฐกิจ แต่คราวนี้ ใช้หลักการดังกล่าวในเรื่องของการเมือง นั่นคือ แบ่งงานกันทำ โดยมีคนที่ทำหน้าที่แทนประชาชน และถือเป็นอาชีพหนึ่งที่พิเศษเฉพาะไปเลย การแบ่งงานกันทำนี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญของสังคมสมัยใหม่ และนักคิดหลายคนเชื่อว่า การแบ่งงานกันทำก่อให้เกิดการผลิตประดิษฐ์อะไรใหม่ๆ ขึ้น อีกทั้งเกิดความชำนาญพิเศษในเรื่องราวเฉพาะต่างๆ อันทำให้สังคมก้าวหน้า มีอารยธรรมและวิทยาการที่พัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ในแง่นี้ นักการเมืองก็มีหน้าที่ทำงานทางการเมืองไป นักวิชาการก็มีหน้าที่ทำงานวิชาการไป เมื่อนักวิชาการมีข้อวิจารณ์การทำงานของนักการเมือง เพราะตนมีความชำนาญพิเศษเฉพาะเรื่องและศึกษามามาก นักการเมืองก็ควรรับฟังหรือไม่ก็ถกเถียงจากฐานความเข้าใจของตน แต่ข้อโต้แย้งที่ท้าทายที่ว่า ถ้านักวิชาการแน่จริง ก็ลงมาเป็นนายกรัฐมนตรีดูบ้าง จึงเป็นข้อโต้แย้งที่ขัดกับหลักการแบ่งงานกันทำของ ซีเยส อย่างเห็นได้ชัด

ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนในทรรศนะของเมดิสันหรือซีเยส พฤติกรรมการเป็นตัวแทนประชาชนของคุณทักษิณดูจะไม่เข้ากับอันไหนได้เลย นอกจากพฤติกรรมแล้ว คุณทักษิณอาจจะไม่เข้าใจความหมายของการเป็นตัวแทนประชาชนเลยก็ว่าได้ ไม่รู้คุณทักษิณใช้หลักของใครในการเป็นตัวแทนประชาชน

สงสัยจะเป็นหลักของกูซะมากกว่า.

 

โดย: คนเดินดินฯ 22 พฤษภาคม 2549 16:35:27 น.  

 





สวัสดีตอนบ่ายของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


เจ้าดอกกุหลาบช่อนี้เอ๋ย
ข้าฝากความคิดถึง ห่วงใยไว้กับเจ้า
ช่วยนำความคิดถึง ห่วงใยไปหาเค้า
ให้เค้ารู้ว่าข้า ..คิดถึง ห่วงใย..ไม่เสื่อมคลาย


** ขอให้เป็นวันที่ดีๆของคุณนะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 22 พฤษภาคม 2549 20:18:09 น.  

 

สวัสดีค่ะ

ชอบรูปและคำในกล่องคอมเมนท์จังค่ะ

 

โดย: ยัยบี๋ 22 พฤษภาคม 2549 20:23:33 น.  

 

มาอ่านค่ะ ดีจังเลย ได้เรื่องไปคุยอีกแล้ว
ขอบคุณคร้าบบบบบ

 

โดย: run to me 22 พฤษภาคม 2549 22:49:49 น.  

 





สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ฝากฟากฟ้าดูแลยามเธอเหงา
หากเธอเศร้ากอดเธอไว้ในความฝัน
ให้รอยยิ้มแต่งแต้มทุกคืนวัน
และกระซิบสั้น-สั้น คิดถึง ห่วงใย เธอ - -


** ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเสมอนะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 23 พฤษภาคม 2549 15:27:59 น.  

 

ผมอยากเรียนรู้การทำนา ทำสวน การทำปุ๋ยอินทรีย์ ผมจะหาเรียนได้ที่ใหนหรอครับ

 

โดย: ไสว IP: 125.26.232.245 31 มีนาคม 2550 8:35:41 น.  

 

ต้นแบบเกษตรไทยจริงๆเลยครับ

 

โดย: อวดดี (auwddee ) 25 มิถุนายน 2551 15:53:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.