<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
22 มกราคม 2550

+ + + + + โลกระหว่างรอกาแฟ + + + + +



... คนเวียดนามมันกินกาแฟร้อนผสมนมข้นหวานแบบนี้ในแก้วใส แม้มันจะร้อนมือโดยใช่เหตุ เพราะความเปิดเผยของแก้วอนุญาตให้ผู้กรองมองเห็นเนื้อขาวนวลตาของนมข้นที่นอนนิ่งอยู่กับก้นแก้ว รอการหยดอย่างไม่วู่วามจากเครื่องกองกาแฟด้านบน ความเชื่องเฉื่อยของการหยด ทำให้กาแฟไม่รีบละลายนมเป็นเนื้อเดียวกัน ภายในแก้วจึงปรากฏภาพสะดุดตาของสีขาว-ดำ ขาวของนมข้นสูงประมาณหนึ่งเซนติเมตร และดำของกาแฟที่ค่อยๆ ขยายความสูงทีละน้อย

เมื่อกาแฟถูกกรองหมดแล้ว จึงยกเครื่องกรองออก ใช้ช้อนคนสีดำของกาแฟกับสีขาวของนมข้นให้เข้ากัน กาแฟร้อนรสขม-หวานเหมือนน้ำตาลสะอื้นไห้ ก็สำเร็จรอการกระดกกิน

ในโลกสำเร็จรูปที่เร่งรีบ การรอหยาดกาแฟตกลงบนผิวนม อาจดูเสียเวลา ไร้สาระ และเฉื่อยเฉยต่อความพยายามที่จะรุดหน้าของสังคม

ผมจ้องหยดเข้มเหล่านั้นเหมือนนับเม็ดเวลาที่ร่วงหาย

คลับค้ายคลับว่าชายในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งประกาศไว้ว่า "ชีวิตจะมีอะไรมากมาย ขอแค่ได้กินกาแฟอร่อยๆ สักแก้ว มันคือความสุขที่สุดแล้ว"

ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกินกาแฟ และไม่แน่ใจว่ากาแฟให้ความสุขที่สุดได้จริงอย่างที่เคยได้ยินมา

บนเรือนร่างของเครื่องทำกาแฟเวียดนาม และในหยดเล็กๆ ร้อนๆ ของกาแฟที่ตกแตะผิวหนานุ่ม บรรยากาศของการรอคอยดูจะมีค่ามากกว่าการเร่งให้ถึงจุดหมาย

อาจเหมือนที่ชายบนจอเงินคนนั้นบอก "ชีวิตจะมีอะไรมากมาย"

ความหมายทั้งหมดปรากฏอยู่ในการรอคอย

ตัดตอนจาก โลกระหว่างรอกาแฟ เขียนโดย ปราบดา หยุ่น ในหนังสือรวมความเรียง "เรื่องตบตา"



" เรื่องตบตา " เป็นงานรวมความเรียงร่วมสมัยว่าด้วย ร้านปราด้ากับร้านแมคอินทอชในย่านหรูของมหานครนิวยอร์กมีหน้าตาและนิสัยแตกต่างกันอย่างไร, ส้วมแบบไหนคือส้วมสวรรค์, คนญี่ปุ่นคิดอย่างไรจึงไปสร้าง "ซอย" ไทยในกรุงโอซาก้า, นักอ่านไม่ควรตัดสินหนังสือจากปกจริงหรือ, ทำไมต้อง "รอ" กาแฟในกรุงฮานอย, นักฟิสิกส์อย่างอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เท่กว่าดารา-นักร้องขนาดไหน, ทำไม "เด็กแนว" ต้องใส่เสื้อยืดมือสอง, หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ดีจริงหรือ, หนังสือการ์ตูนฝรั่งกลายเป็นศิลปะ "ชั้นสูง" ไปตั้งแต่เมื่อไร ฯลฯ

หมายเหตุ ความเรียงทั้งหมดใน"เรื่องตบตา "เคยตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารสารคดี

เรื่องตบตา
โดย ปราบดา หยุ่น : สำนักพิมพ์ไต้ฝุ่น พิมพ์
240 หน้า , 180 บาท
พิมพ์ครั้งแรก ธันวาคม 2549





Create Date : 22 มกราคม 2550
Last Update : 29 สิงหาคม 2557 19:34:52 น. 74 comments
Counter : 2021 Pageviews.  

 
ปกติไม่อ่านงานของปราบดา
โดยเฉพาะงานที่เขาได้ซีไรต์
เคยอ่านอยู่เล่มนึง, ก็เล่มที่ได้ นั่นแหละ

หลังจากนั้นมาก็ไม่อ่านอีกเลย
บางครั้ง คนอ่านก็มี "อคติ" กับรูปแบบการเขียนที่เราไม่ชอบ

ทุกคนอาจเป็นแบบนี้ คือ
ชอบ ก็สนใจ ไม่ชอบ ก็ไม่สนใจ

แต่ชื่อของ "ปราบดา" ก็มีมากพอที่จะทำให้ บางครั้งก็หลบและเลี่ยงไม่ค่อยพ้น

เลยต้องหันมาเผชิญหน้า

"ไหนลองอ่านดูอีกสักเล่มซิ" เผื่อว่าเราจะเปลี่ยนทัศนะ ที่มีต่อ "งานเขียนของคนเขียนที่มีชั่วโมงบินยังไม่สูงนัก"

เวลาผ่านมาถึงตอนนี้
ปราบดา เป็น "ว่าวติดลมบน"
งานของปราบดา จึงถูกตั้งคำถามน้อยลง............

เล่มนี้ - ไม่เคยอ่าน
แต่บังเอิญเป็นคนชอบกินกาแฟ...

และมาเจอเจ้าของบล็อค ที่ "ดูท่า" ว่าเป็นนักอ่านตัวยง... คงไม่รบกวนนัก ถ้าเราจะ @ เป็น friend list อีกสักคน ^^"

ขอบคุณจ้ะ


โดย: ดาริกามณี วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:10:40:38 น.  

 
^
^ 555 อ่านแต่ " นิ้วกลม" ล่ะสิ เจ้าเมย์

ป.ล. ไม่ได้เป็นนักอ่านตัวยงเลย จริงๆ นะ ในบล็อกแก๊ง นี่มีนักอ่านตัวยงอีกหลายคน ชนิดที่ จขบ.นี้หลบไปได้เลย ลองๆ ค่อยๆ อ่านบล็อกแก๊งไป แล้วจะเจอจ้า


โดย: grappa วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:10:46:38 น.  

 
นิ้วกลม ก็ด้วย

หนังสือของ ระหว่างบรรทัดก็อ่านเหมือนกันค่า............................



โดย: ดาริกามณี วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:11:14:05 น.  

 
น่าอ่านจังค่ะ จำได้ว่าบางเรื่องเคยอ่านในสารคดีด้วย

รู้แล้วจะฝากซื้อหนังสือเล่มไหนที่เมืองไทย ขอบคุณค่ะ



โดย: SevenDaffodils วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:11:27:40 น.  

 
เคยอ่านตอนหนังสือไม่ควรตัดสินจากปกตอนเดียวอะค่ะ

จาก คนที่โดนปกหลอกมาหนึ่งหนแล้วเข็ด


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:11:43:01 น.  

 
เคยลองลิ้มชิมรสกาแฟเวียดนามที่ฮานอย รสชาติเข้มข้นมาก..
ผมชอบ “มองดูโลก” ระหว่างนั่งจิบกาแฟเช่นกันครับ


โดย: BlueWhiteRed IP: 202.12.118.36 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:13:45:13 น.  

 
อืมม์..ตอนแรกที่อ่านเรื่องแก้วกาแฟใสๆ ก็เฉยๆ นะคะ

อาจเป็นเพราะอยู่บ้านนอก เลยได้กินกาแฟเห็นการชงกาแฟแบบนี้มาก่อน

แต่พออ่านแล้วเจอตรงค่อยๆ หยดเลย เอ๋...งั้นไม่เหมือนแล้ว

เพราะของเราเป็นกาแฟถุงๆ น่ะค่ะ แหะๆ



งานของปราบดานี่แปลก

บางเรื่องเราก็ชอบมากกกกกกกก

แต่บางเรื่องก็ไม่ถูกจริตเอาซะเลย



โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:14:43:43 น.  

 
เคยอ่านหนังสือของปราบดา หยุ่น อยู่เล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แต่จำได้ว่ามีเรื่อง "นิ้วยี้" ยอมรับว่าอ่านไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นยังอ่านหนังสือน้อย และไม่แก่กล้าในหนังสือแนวนี้ เลยทำให้กลัวงานของปราบดา หยุ่น และยังไม่กล้าจับงานเล่มอื่น ๆ ของเขา อีกเลย จนทุกวันนี้


โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:14:46:53 น.  

 
งานของปราบดา...เคยอ่านแล้วคิดเหมือนคนข้างบนน่ะ


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:16:34:19 น.  

 
ไม่เคยนั่งรอกาแฟ
เพราะไม่กินกาแฟ
แต่ชอบกลิ่นหอมๆ ของกาแฟค่ะ
งานปราบดาฯ อ่านได้ค่ะแต่ว่าไม่ใช่รสที่ชอบนัก
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:16:36:26 น.  

 
ผมอ่านงานพี่เค้าประมาณนี้ (ไม่ค่อยชอบเรื่องสั้นเท่าไหร่) ชอบเล่มนี้มากเลยครับ แต่เพื่อนบอกว่า เปิดไปหน้าศูนย์ มันส์กว่า ว่างั้น..


โดย: calcium_kid IP: 125.24.162.43 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:17:50:36 น.  

 
อ่า.. ประเด็นที่พูดถึงในเล่มนี้ น่าสนใจดีจริงๆ ครับ

อยากรู้จริงๆ ว่าร้านปราด้า กับร้านแมค (ที่โผล่กระจกขึ้นมาบนดิน แต่ร้านอยู่ใต้ดิน) จะมีลักษณะแตกต่างกันยังไง?

สงสัย ต้องหามาอ่านระหว่างรอกาแฟซะแล้ว อิอิ

ป.ล. ส่วนตัว ผมเห็นว่า งานของปราบดา ไม่ได้เป็นงานที่อ่านยากแต่อย่างใดนะครับ

จริงอยู่ ที่หลายครั้ง ปราบดาจะเล่นกับคำ จนทำให้ผู้อ่านเกิดอาการสมองกระตุกบ้างเป็นพักๆ แต่ถ้าคุณลองค่อยๆ อ่าน เหมือนที่ค่อยๆ ละเลียดกาแฟร้อนๆ สักแก้ว
รับรองว่าคุณจะติดใจในความคิดที่ไม่ธรรมดาของนักเขียนคนนี้ครับ


โดย: it ซียู IP: 58.10.102.165 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:19:30:53 น.  

 
ขี้เกียจเถียงกับคนไม่เข้าใจปราบดา เราน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง

มีเครื่องชงกาแฟแสนซิมเปิลแบบนี้อยู่ที่บ้านชุดหนึ่ง คนน่ารักซื้อส่งมาให้จากลาว แต่เพิ่งเก็ทว่ามันเหมาะกับแก้วใส ถ้าหาเจอแบบที่เขาขายใบเดียวแล้วจะซื้อมาลองชงดู ทุกวันนี้เจอแต่แก้วใสเป็นคู่ แม่ม มันจะทำอะไรเป็นคู่กันไปถึงไหนฟะ ขวางหูขวางตาจริง


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:22:12:36 น.  

 
เพิ่งไปเห็นที่เม้นท์ ทาเคชิส์ดูแล้วพี่ ดูเมื่อวานนี้ แต่ไม่รู้จะเขียนยังไงให้คนเขารู้สึกว่ามันน่าดู เล่าๆ แล้วมันจืด ชอบ e บ้าที่มันตามราวีทุกฉากจริงๆ เป็นตัวละครที่จิตมากๆ จริงๆ ตัวละครเขาก็มันทุกตัวล่ะนะ แต่ตัวนี้ทำให้ขนลุกได้จริงๆ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:22:18:19 น.  

 
นานๆ ที ผมถึงจะได้มีโอกาสอ่านปราบดาน่ะครับ เพราะส่วนใหญ่การเขียนในมุมมองแบบเขา ผมจะอ่านไม่ค่อยบ่อย เพราะตัวผมเองชอบวรรณกรรมญี่ปุ่น มากกว่าเลยเน้นอ่านพวกนี้ก่อน


แต่ก็ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่แนะนำ เพราะผมก็คอกาแฟ ชักเริ่มอยากจะลองกาแฟเวียดนามเสียแล้วสิ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:22:44:36 น.  

 
ผมว่านักเขียนรุ่นนี้ เขียนงานในประเด็นและมุมมองคล้ายๆ กัน มีหลายคนที่มีคุณภาพอยู่ในระดับใกล้เคียงกันนี้ เพียงแต่มีแค่ไม่กี่คน ที่จะดัง และหนังสือขายได้ดีเท่ากับเขา


โดย: T-A-O-L IP: 203.113.32.10 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:23:19:13 น.  

 
ทั้ง ๆ ที่ตาคุ่นก็มีหนังสือหลายเล่ม และดังขนาดนั้น และทั้ง ๆ ที่ผมก็ไม่ได้อคติกับเขา แต่หลังจากอ่านเล่มที่ได้ซีไรต์รวมเรื่องสั้นเล่มนั้นแล้ว ยังไม่เคยหยิบเล่มอื่น ๆ ของเขามาอ่านอีกเลยน่ะครับ


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:00:11 น.  

 
- ลูกสาวโมโจโจโจ้
ถ้าเจอแก้วใสสวยๆ สำหรับกินกาแฟ จะเอาไปให้เน้อ
ซื้อคู่เลยสิ เอาเคล็ด 555

ยายคนที่ตามอาละวาดในทาเคชิ นี้ดาวเด่นเลยนะ ขโมยซีนตลอด เห็นด้วยว่าเขียนอย่างไรก็ไม่สนุกเท่าไปดูหนังได้เลย


โดย: grappa วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:11:38 น.  

 
เราชอบงานเขียนแทบทุกเล่มของปราบดา ชอบทั้งไอเดีย ภาษา และโดยเฉพาะทัศนคติที่แฝงอยู่ในงาน (ถ้าถามว่างานของปราบดาต่างจากคนอื่นอย่างไร เราว่าต่างที่ทัศนคติ)

ตามมาเชียร์อย่างเป็นทางการ (อันนี้ไม่ได้รับใต้โต๊ะแต่อย่างใด)


โดย: yodmanud^ying IP: 86.144.42.19 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:28:49 น.  

 
เหมือนความเห็นแรกครับ ได้อ่านปราบดาเล่มแรกก็เล่มที่ได้ ซีไรท์ แล้วก็ไม่เคยได้อ่านอีกเลย ด้วยอคติเช่นกัน

แต่เมื่ออ่านจากความเรียงด้านบนที่พี่ grappa มาลงให้อ่านแล้วก็คิดว่าน่าจะได้เวลาที่จะมาลองอ่านงานของหนุ่มคนนี้ดูอีกสักที

ผมก็ชอบกาแฟเหมือนกัน


โดย: poser IP: 58.9.20.153 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:0:48:15 น.  

 
เฉย ๆ กับงานปราบดาค่ะ
ยอมรับว่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยหยิบเพราะขี้เกียจคิด ไม่ค่อยนิยมแนวความเรียงเท่าไหร่ด้วย


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:2:18:21 น.  

 
อือฮือ ต้องอ่านนะคะเนี่ย ที่คัดมาถูกใจจัง

เป็นคนมีความสุขในการรอกินกาแฟมากๆ
หลายๆครั้งที่เรานึกเรื่องดีๆในแต่ละวันไม่ออกนอกจากการได้กินกาแฟแก้วโปรดนะ


โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:2:22:30 น.  

 
>รอการหยดอย่างไม่วู่วามจากเครื่อง
>กรองกาแฟด้านบน ความเชื่องเฉื่อย
>ของการหยด ทำให้กาแฟไม่รีบละลาย<นมเป็นเนื้อเดียวกัน

เทกาแฟพรวดลงถุง แล้วมันไหลไม่เอื่อยจากปลายถุงลงแก้ว กาแฟกับนมข้นหวานก็ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกันหรอกครับถ้าไม่เอาช้อนคน ผมชงกาแฟถุงขายมานาน :)

แตชอบความช่างคิดของคนเขียนนะ รอกาแฟหยด...ก็คิดได้เป็นตุเป็นตะ

อ้อ...วันก่อนผมได้งานอิตาโล คัลวิโินเล่มนั้นมาแล้ว ไปอยู่ในกลุ่มหนังสือรักวัยหวาน ของร้านนายอินทร์ ฟลุ้คจริงๆ


โดย: cyborg9 IP: 203.150.202.226 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:7:51:08 น.  

 
เมื่อก่อนชอบกินกาแฟใส่นมข้นหวานมากเลยครับ เด็กๆ ถูกห้ามกินกาแฟ แต่แอบชงดื่มเองบ่อย

อ่านย่อหน้าแรกแล้วทำให้อยากกลับไปกินกาแฟใส่นมข้นหวานอีกจัง

ตอนนี้หันมาบริโภคกาแฟดำทุกเช้า

ชีวิตไม่มีอะไรมากมายครับ


โดย: King Of Pain วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:8:47:31 น.  

 
^
^ กินกาแฟดำ ชีวิตถึงจุดหมายเร็วไปค่ะ
ต้องกินกาแฟใส่นม

บรรยากาศของการรอคอยดูจะมีค่ามากกว่าการเร่งให้ถึงจุดหมาย

ชีวิตจะมีอะไรมากมาย
ความหมายทั้งหมดปรากฏอยู่ในการรอคอย


โดย: grappa วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:9:11:44 น.  

 
หลังๆ เริ่มชอบงานของปราบดา หยุ่นนะคะ ทั้งๆ ที่แรกๆ มักจะอ่านไม่รู้เรื่องเท่าไร เลยต้องติดตามเฉพาะความเรียง เพิ่งจะจบเรื่อง นอนใต้ละอองหนาว ไป มีอะไรต้องต่อยอดจากที่เขาทิ้งไว้อยู่หลายเลยค่ะ เพราะมันนามธรรมเหลือเกิน

ขอบคุณที่แนะนำเล่มนี้ ยังไม่เห็นที่แผงใกล้ๆ เลย


โดย: nunaggie วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:9:42:05 น.  

 
"เราน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง" เป็นสำนวนกำลังภายในค่ะ แปลว่าคนคนละประเภท เดินคนละทาง เราไม่ยุ่งเกี่ยวท่าน ท่านอย่าได้ยุ่งเกี่ยวเรา (ไม่งั้นได้ตีกันแน่)


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.14.81 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:15:59:16 น.  

 
ยังไม่เจอเลย ค๊า
แล้วเมื่อไหร่ จะได้ อ่านเนี่ย เฮ่อ

แล้วรูปมาจากไหนคะ


โดย: Crisis IP: 210.86.214.99 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:21:34:07 น.  

 
เล่มนี้น่าอ่านอีกแล้วอ่ะค่ะ

อยู่เมืองนอกมันไม่ดีตรงที่ว่า ไม่ได้จับหนังสือภาษาไทยอ่านเป็นเล่มๆนี่แล้...



โดย: Mocha Macchiato วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:0:50:21 น.  

 
โอ้...ดูจากเนื้อหาที่ว่ามาแล้ว น่าอ่านดีครับ ปราบดา นี้ ผมชอบอ่านบทความเขามากกว่าเรื่องสั้นหรือนิยายนะ



โดย: ShadowServant วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:1:54:12 น.  

 
กินกาแฟแล้วทำให้ถ่ายคล่องเกินไปยังไงไม่รู้


โดย: ปืนกล IP: 203.131.220.50 วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:11:14:47 น.  

 
ชอบงานเขียน non-fiction ของคุณปราบดาค่ะ .. รู้สึกว่ามีความคิดคล้ายๆกัน มีความขวางโลกอยู่ในสัดส่วนคล้ายๆกัน

แต่ fiction เล่มหลังๆก็น่าอ่านแฮะ ไว้ก่อนๆ


โดย: ลูกหนอน. วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:14:17:43 น.  

 
งือ... ด้วย bias ส่วนตัวบางอย่าง เลยไม่ได้อ่านหนังสือของคุณปราบดาอ่ะค่ะ

เคยอ่านครั้งเดียว ก็คือ "ความน่าจะเป็น" แต่อ่านครั้งเดียวแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่แนว เลยไม่ได้อ่านอีก


โดย: waidhaya วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:14:40:48 น.  

 
เราชอบงานปราบดาอะ อ่านตั้งแต่เล่มแรก มาถึงปัจจุบัน ไม่อยากเรียกตัวเองว่าแฟนพันธ์แท้ แต่ว่าเป็นนักเขียนที่รออ่านงานด้วยควาเมพลิดเพลินค่ะ

นานๆ จะแวะมาที่นี่ที มาแล้วก็เพลินเนอะ


โดย: kakade IP: 61.91.32.43 วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:16:33:33 น.  

 
เล่มนี้น่าอ่านจังค่ะ ท่าทางจะมีอะไรๆ น่าสนใจเยอะเลย


โดย: คอเล่า IP: 202.44.135.35 วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:17:10:14 น.  

 
จะต้องลองหามาอ่านบ้าง


โดย: แบ่งกันเซ็ง (แบ่งกันเซ็ง ) วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:20:27:53 น.  

 
ผมชอบอ่านงานของปราบดามานานเหมือนกัน...

แต่ผมเพิ่งมารู้ตัวว่านานจริงๆ ตอนเซิชชื่อตัวเองในพันทิปแล้วเจอกระทู้นี้ที่ซ่อนอยู่ตรงไหนไม่รู้มาหลายปีแล้ว ผมไปเถียงแทนปราบดาทำไมก็ไม่รู้สิ ตลกดี พันทิปก็ยังอุตส่าห์เก็บไว้แน่ะ

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A1923446/A1923446.html


ยังไงก็จะไม่พลาดเล่มนี้นะ
แต่ชอบอ่านกระทบไหล่เขาที่สุดแล้วครับ จากงานทั้งหมดของปราบดาที่เคยอ่านมา...


โดย: bud วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:4:56:19 น.  

 
ผมชอบช็อกโกแลตเย็นมากกว่า
กาแฟแหละ

สำหรับผมเมื่อไหร่ที่ดื่มกาแฟมันมีแต่เรื่องรีบๆ
เร่งๆ เพราะผมจะใช้ฤทธิ์กาแฟกดประสาท
ทำให้ไม่ให้ง่วงจะได้ทำงานถึงเช้า

ทรมานน่าดู บางทีหัวใจก็เต้นแรง
ไม่ชอบเลย และผมคิดว่า โลกของกาแฟ เป็นโลกของผู้ใหญ่
ที่ดื่มกาแฟกันตอนที่นัดหมายกัน
คุยธุระเรื่องงาน พอวันที่ต้องส่งงาน แต่ยังทำงานไม่เสร็จ
ก็ต้องมาโด๊บกาแฟให้ตาแข็งทำงานให้เสร็จ

แต่ถ้าคิดให้โรแมนติดหน่อย โลกระหว่างแก้วกาแฟของคนสองคนที่มาเจอกันที่ร่้าน
กาแฟ มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจนะครับ

คนเราในร้านกาแฟไม่ได้ห่างกันแค่แก้วกาแฟห่างกัน
แต่มันมีพื้นที่ระยะห่างมากกว่านั้น เพราะเวลาเข้าไปในร้านกาแฟหรู เราต่างรู้สึกแปลกหน้าต่อกัน แต่ทุกคนก็พยายามทำว่าฉันกำลังอยู่ในโลกส่วนตัว

งงเรื่องที่ผมเขียนไหม รู้สึกว่าจะตอนนี้กำลังเมารถอยู่อ่ะ



โดย: e26 IP: 202.139.211.187 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:9:14:01 น.  

 
^
^ ท่าทางเมารถจริงๆ ด้วย


โดย: จขบ. IP: 58.9.195.156 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:10:50:30 น.  

 
โลกของคนรักกาแฟนี่ช่างสุนทรีย์จริงๆ ลึกซึ้งซับซ้อน
แต่ผมนี่ ฮ่าๆๆ เป็นคนไม่กินกาแฟ ยกเว้นเค้กกาแฟ ไอติมรสกาแฟ แต่ก็เข้าใจความรู้สึกแบบนั้นได้ครับ เพราะคนรอบข้างเป็นขากาแฟทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ

เรื่องตบตา เคยติดตามอ่านจากสารคดี...เล่มนี้นี่กำลังอ่านอยู่เลยครับ ฮ่าๆๆๆ

ผมชอบ ที่คุ่นเขียนหมายเลขศูนย์ ในโอเพ่น สมัยก่อน


โดย: lolay IP: 58.9.193.146 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:11:11:42 น.  

 
สวัสดีครับพี่แป็ด

เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมจะเขียนบล็อก "Why People love to drink Coffee?" อยู่เลยครับ

ไม่รู้ทำไม บรรยากาศในร้านกาแฟถึงได้มีเสน่ห์ติดตรึงใจใครต่อใครหลายคนเหลือเกิน

นอกเรื่อง ผมไปยืนฟัง The Radio Dept. ที่ซีดีแวร์เฮาส์มา ชอบครับ ชอบมาก ๆ แต่ไม่มีปัญญาซื้อ

แค่ซีดีเพลงไทยที่อยากได้ก็ลิสต์ล้นแล้วครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:15:15:49 น.  

 
ชอบหนังสือเล่มนี้เหมือนกันครับ ^_^


โดย: จี้ IP: 210.213.1.170 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:17:23:06 น.  

 
ชอบอ่านความเรียงของปราบดา หยุ่นค่ะ


โดย: BoOKend (BoOKend ) วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:18:33:09 น.  

 
เพิ่งอ่านจบตะกี๋ ชอบตอนกาแฟที่สุดเลย ว่าจะไปหามาลองชงมั่ง

อ่านไปหลายเล่ม แต่ก็ทิ้งไปนาน เราชอบนะ ก็คิดตาม คิดไม่ออกก็ผ่านไป คิดได้แบบเดียวกัน สงสัยไปเขียนขายบ้างดีก่า เหอๆ ว่าไปนั่น

เชื่อว่า มีหลายคนที่ทำได้นะคะ แต่ก็แบ็คเขามีดีกว่าคนอื่น ก็โชคดีไป


โดย: จังไม (ทำไมต้องล็อกอิน ) วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:21:32:30 น.  

 
มานั่งอ่านคอมเม้นต์ค่ะ ฮ่าๆ

ป.ล.ไม่กินกาแฟอะค่ะ กินแล้วใจสั่น
แต่ชงกาแฟทู้กกกวัน


โดย: fonkoon วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:23:30:17 น.  

 

อืมม์ น่าสนนะคะ
เป็นงานเขียนในมุมของการมองโลกแบบปราบดา


โดย: p_tham วันที่: 26 มกราคม 2550 เวลา:1:54:52 น.  

 
ไม่กินกาแฟ กลัว ไม่หลับไม่นอน
แต่ดมกาแฟ ได้คะ


เกี่ยวตรงกาแฟไง




โดย: erol วันที่: 26 มกราคม 2550 เวลา:9:34:11 น.  

 
ไม่ใช่ทั้งคอหนังสือและคอกาแฟ เลยมานั่งอ่านคอกาแฟและคอหนังสือเขาถกกันค่ะ สนุกดี


โดย: Together In 80s Dream วันที่: 26 มกราคม 2550 เวลา:10:04:34 น.  

 
ชอบกาแฟอย่างหลงไหล....
ที่ไหนมีกาแฟ...เหมือนที่นั่นเวลาจะไหลช้า


โดย: alienboon IP: 124.120.168.123 วันที่: 26 มกราคม 2550 เวลา:12:02:51 น.  

 
พอดีชอบกินชาค่ะพี่ (แต่แบบปราบดาก็ปลื้มน่ะ ฮ่า แต่ไม่ค่อยชอบงานเขียนเขาเท่าไหร่อ่ะค่ะ)

อัพเรื่องเที่ยวกรีซแล้วนะพี่ เกาะเล็กเกาะน้อยไหนน่าไป ถ้าพี่สนใจจะหาข้อมูลเพิ่มให้นะคะ


โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:0:11:51 น.  

 
แต่ก่อนจะกินกาแฟก็แต่เวลาที่ต้องทำงานดึกๆ แต่ความที่ต้องทำงานดึกบ่อยขึ้นๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนติดกาแฟไปซะแล้ว (ความจริงจะว่าติดก็ไม่เชิง เพียงแต่ว่าถ้าอยู่ในที่ที่มีกาแฟก็ต้องกิน)


โดย: ปรีดา IP: 210.86.135.15 วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:11:21:39 น.  

 
ขยันอัพบล้อค ก็เพราะว่างอ่ะค่ะ
พักนี้ เหมือนพักร้อนยังไงไม่รู้
ไม่ค่อยไมสอน สบาย ไป
เลยตะบันเขียนเรื่องสั้นซะ
กำลังคึกอ่ะค่ะ

เดี๋ยววันไหนเข้าบางกอก
จะแวะไป เยี่ยม ค่ะ ^^"


โดย: เม เพื่อน ก้อย IP: 125.24.154.239 วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:20:06:20 น.  

 
อ่านแล้วอยากไปดื่มกาแฟที่เวียดนาม อ่า มันใช่สิ่งที่เขาอยากสื่อไหมนั่น แต่ด้วยความเห็นคนคอกาแฟ อ่านแล้วอยากลองจริงๆ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือใหม่ๆ กะว่ารองานหนังสือรอบใหม่ค่ะ เพิ่งอ่าน kafka on the shore จบไปเอง ยังไม่ได้อ่านเล่มใหม่ของมูราคามิเลย


โดย: cottonbook วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:20:07:46 น.  

 
เคยหยิบมาดูครับ แต่ยังไม่เคยหยิบมาอ่าน สงสัยต้องลองหยิบมาจ่ายเงินซะแล้ว สำหรับผมแล้วถ้าเป็นแนวความเรียง ชอบเอาไปนั่งอ่านริมทะเลเวลาไปพักผ่อนครับ อ่านจบบทหนึ่งก็พักเล่ม นั่งคิดตามแล้วก็มองทะเล บรรลุบ้าง ไม่บรรลุบ้าง ก็สุขดีครับ


โดย: ป้อจาย วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:2:31:24 น.  

 
แว้ก ออกอีกแล้วเหรอ เล่มก่อนๆ ยังอ่านไม่หมดเลย =_+


โดย: merveillesxx IP: 203.209.123.41 วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:20:30:49 น.  

 
สวัสดีครับ
จริงๆเข้ามาBlogพี่ แกรป! (ป้า) เพราะว่าจะมาหารีวิวหนังสือของNicholas Sparks หน่อยว่ามีมั้ย เพราะว่าสะดุดกับประโยคหนึ่งของเขา

"โดยสรุปแล้ว การรักใครสักคนนั้น เป็นเรื่องของการให้ไม่ใช่การรับ - Nicholas Sparks "

(ผมขโมยไปเป็นสโลแกนBlogไปเรียบร้อยแล้ว ฮ่า)

แต่มาเจอพี่คุ่น กริ๊ดแตกขอแจมด้วย
พึ่งอ่านจบเมื่อกี้นี่เอง
---------------------------------------

ผมติดตามอ่านงานพี่คุ่นมาทุกเล่ม ชอบมากๆ แต่ที่ชอบที่สุดคือ เรื่องสั้นกับนวนิยาย บทหนังก็ชอบ ส่วนความเรียงนั้นรองลงมา

มีคำที่ผมชอบมากๆในหนังสือเล่มเกือบใหม่ของคุณปราบดา (อ้าวไม่สนิทสนมซะละ) มีบทสนทนา ที่จิ๊ดใจผมมาก ประมาณนี้ (ไม่เป๊ะนัก)

หญิงสาวนั่งเศร้าสร้อย อยู่ที่ม้านั่ง ในเมืองใหญ่ ท่าทางเธอแย่มาก ๆ มีหญิงฝรั่งวัยชรานั่งอยู่ข้างๆ เห็นท่าไม่ดีจึงงถาม

" Are you alright, Dear? "

" I wanna go home "

" Where is your home, My dear ? "

" Far "

"How Far is Far, Dear ?"
......................................

(ถ้าไม่ถูกเลยขออภัย เขียนขึ้นใหม่จากความทรงจำของผม)

จิ๊ดมาก ไกลนี่มันไกลแค่ไหนกันนะ
(ขอแปลแบบงูปลา)

-----------------------------
ผมบ้าพี่คุ่นมากๆ ถึงขนาดตอนเรียนปริญญาตรีเคยรวมหัวกับเพื่อนๆ เชิญมาบรรยายพิเศษ แล้วเค้าก็มา !! มาสามท่านด้วย ขุนผล Open ฮ่า

คุณภิญโญ, คุณวรพจน์, คุณปราบดา

ผมเป็นพิธีกรในการยิงคำถามไปมา
จำได้ว่าคนที่พูดไม่รู้เรื่องวันนั้นคือตัวผม ฮ๋า .... ตื่นเวที ซะงั้น

คำถามที่ (กระ) แดะมาก ในตอนนั้น แล้วตัดสินใจถามออกไปคือ

งานคุณปราบดานี่บางคนบอกว่าเป็น Deconstructionใช่มั้ยครับ?

หมูดำตัวน้อยเอ้ย ......

หลังจากนั้น เหล่าๆพี่โอเพนก็พาผมไปเลี้ยงข้าวด้วยละ มีโอกาสพูดคุยกับพี่คุ่นระยะใกล้ชิด อยู่เป็น ชัวโมงทีเดียว

จนพี่คุ่นถามว่า ไม่กินเหรอ ข้าวอะ
(ฮ่า คงรำคาญไอ้นี่มันถามนู้นนี่อยู่ได้)

แอะ เขียนไปมากลายเป็นความเห็นแฟนคลับซะงั้น แปวววววว

ผมว่าหนังสือพี่คุ่นสนุกดีนะครับ
อ่านเรื่อยๆ อย่าซีเรียส ถ้าอ่านเอาเรื่องเมื่อไหร่จะไม่สนุกแล้ววว:]





โดย: superblackpig (superblackpig ) วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:23:01:17 น.  

 
^
^ อ่านเอาเรื่องก็สนุกเน้อ

พี่ไม่ชอบหนังสือของนิโคลัส สปาร์ค อ่ะ น้องหมูดำ มันหวานเกินไปสำหรับพี่ อ่านหนังสือของเขาไม่เกินบทแรกได้เลย

พี่ก็ชอบประโยคนั้นน่ะ
How far is far , Dear ?


โดย: grappa IP: 58.9.188.50 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:0:24:06 น.  

 
งานปราบดา ชอบเป็นบางเล่ม
ส่วนเรื่องกาแฟ..
ผมไม่เคยกินกาแฟที่ไหน
อร่อยกว่า

ไอติมรสกาแฟ..


โดย: แร้ไฟ วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:2:18:45 น.  

 
พี่แป็ดอย่าลืมไปฟังเพลงริคในบล็อกดองน่ะครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:12:36:08 น.  

 
ผมไม่ได้อ่านเรื่องราวของปราบดาอีกเลย
ตั้งแต่อุทกภัยในดวงตามั้งครับ
ไม่ใช่ว่าหมันไส้ในความสามารถ ที่คนหลายคนเป็น
แต่คงเพราะงานเขียนของเขา ไม่ถูกใจผมในเวลานั้นมากกว่า

วันนี้ผมโตขึ้นกว่าเดิมบ้าง
และก็น่าจะลองอ่านงานของเขาอีกที
ขอบคุณครับพี่ ที่แนะนำให้นึกถึงปราบดาอีกครั้ง


โดย: Marvellous Boy วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:15:35:13 น.  

 
ไม่ค่อยได้อ่านของปราบดาแต่ชอบกาแฟเหมือนกันครับ


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:20:25:03 น.  

 
ปกติจะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบงานของปราบดาค่ะ แต่ที่คุณ grappa ตัดบางตอนของเรื่องนี้มาให้อ่านเนี่ย ดูน่าสนใจดีค่ะ... สงสัยต้องไปหาซื้อมาอ่านบ้างแล้วล่ะสิ


โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:0:30:20 น.  

 



หนูอาการดีขึ้นแล้วคะ


โดย: erol วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:11:43:57 น.  

 
เรื่องของคำว่าว่า "เวิ่นเว้อ"

ผมและเพื่อนเคยสรุปแล้วครับว่ามันควรแปลเป็นภาษากลางว่าอย่างไรดี เราเรียกมันว่าอาการ ล่องลอย ไร้จุดหมาย

เหมือนนั่ง ๆ อยู่ไม่รู้จะทำอะไร ก็เรียกว่านั่งเวิ่นเว้อไปเรื่อย ๆ

เรียนมาตกงาน ก็บอกว่า จบมาเวิ่นเว้อไป หางานทำอยู่ อะไรแบบนี้

อาการเช่นนี้ผมได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันครับ โดยเฉพาะเด็ก มช. ที่ชอบเวิ่นเว้อกันเป้นที่หนึ่ง 555

เมื่อวานผมยืมหนังสือ ภารตนิยายมาอ่าน สุดยอดมากเลยครับพี่ ไม่รู้จะบอกว่ามันสุดยอดยังไง แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งจมลงไปในห้วงแห่งความคิดของฮินดูอันแสนลึกล้ำ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:13:23:34 น.  

 
^
^
พี่ชอบมากเลยล่ะ คำนี้ เวิ่นเว้อ
ตอนนี้อยากไปเวิ่นเว้อที่ไหนๆ ที่ไม่ใช่หน้าจอคอมพิวเตอร์จัง


โดย: grappa (grappa ) วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:15:07:53 น.  

 
ผมสะกดผิดเองพี่

ต้องออกเสียงว่า เวิ้น - เว๊อ ครับ (ไม่รู้แปลงถูกไหมนะครับ)


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:18:26:20 น.  

 
ไม่ชอบกินกาแฟ เพราะทานแล้วบางทีก็ยิ่งง่วง บางทีก็เกิดอาการไฮเปอร์ แต่ชอบนั่งดมกาแฟ สั่งกาแฟมาเพื่อทานไม่เกินครึ่งแก้ว

เล่มนี้ไว้หามาอ่านบ้างดีกว่า

หนังเรื่อง fur นี่ก็ดีนะคะ แต่รอรอบนานไปหน่อย ที่ว่าตอนแรกเสียดายเวลาคือรวมเวลาหนังกับเวลารอรอบหนังด้วย


โดย: rebel วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:20:50:46 น.  

 
*
สวัสดีค่ะ
แอบ มา เยี่ยม บ้าน นะค่ะ
สบายดีนะค่ะ


โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:1:24:23 น.  

 
เคยเจอกาแฟแบบนี้ที่ร้านกาแฟชื่อจีนๆแถวสามย่าน(รู้สึกจะร้าน "ซาจุ้ย"ค่ะ ตอนนี้เค้าย้ายร้านไปไหนแล้วก็ไม่รู้ น่ารักดีนะเนี่ย (แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของเราก็ทำให้โต๊ะเลอะไปด้วย แง)

งานปราบดา อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง แต่อ่านทีไรก็ชอบทุกทีเหมือนกัน



โดย: quin toki วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:12:29:40 น.  

 
ไม่ชอบงานของปราบดา นอกจากจะแทะมาจากพี่แหละ คริๆ

อ่านแล้ว หวังเหวิดเป็นกำลัง


โดย: Kala_mydog วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:5:20:04 น.  

 
จริงๆไม่เบื่อแทคหรอกคุณกรัปป้า

แหม เปลี่ยนใจช้ากว่านี้หน่อยคงเขียนไปแล้ว :)


โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:23:10 น.  

 


นักเขียนคนโปรด ... ไม่พลาดเล่มนี้แน่นอน

หลังจากที่พลาดมาหลายเล่ม


โดย: มัชฌิมา วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:25:10 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่แป๊ด

แค่บทความดีๆ สั้นๆเพียงบางส่วนของหนังสือเล่มนี้ที่พี่เอามาแนะนำ
มันช่างเย้ายวนคนรักหนังสือ และหลงไหลกาแฟ ให้เดินทางมาที่ blog แสนอบอุ่นแห่งนี้เหลือเกิน

แอบอ่านความเห็นข้างบนเกี่ยวกับงานของปราบดาแล้ว
นึกถึงประโยคนึงที่ว่า

"หนังสือทุกเล่มไม่ใช่ของคนทุกคน"

และหนังสือก็มีมากมาย
ชอบไม่ชอบ คนที่ได้ลองอ่านจริงๆจะรู้เอง
.
.
ฝากความคิดถึงมาทางตัวหนังสือนะคะพี่แป๊ด

^^


โดย: bentale.exteen IP: 58.9.64.38 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:33:53 น.  

 






มีรักดีๆ ทุกวันนะคะพี่^^...



โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:52:18 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]