<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
15 พฤษภาคม 2552

- - - เสียงเล่าเรื่องจากเครื่องฉาย- The Projector's Tales - - -






หนังสือสองภาษาของสำนักพิมพ์ 1 เล่มนี้เกิดขึ้นจากโปรเจ็คเทศกาลหนังที่เมืองปายเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปลายปีที่แล้ว ดิฉันได้หนังสือเล่มนี้มาจากงานสัปดาห์หนังสือเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ( ตอนนี้น่าจะมีวางขายตามร้านหนังสือทั่วไปแล้ว)

เรื่องสั้นทั้งหกเรื่องเกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจจาก "ภาพยนตร์" ทั้งหกคนคืออนุสรณ์ ติปยานนท์ 10 เดซิเบล อุทิศ เหมะมูล กิตติพล สรัคคานนท์ ภาณุ ตรัยเวช และปราบดา หยุ่น เขียนเรื่องสั้นที่ได้อิทธิพลจากโลกเซลลูลอยด์ ปรกติเรามักเห็นโปรเจ็คหนังสั้นหรือหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ เอานวนิยายหรือเรื่องสั้นมาทำเป็นหนังแต่คราวนี้ในทางกลับกันแสงจากเครื่องฉายหนังส่องทางให้ตัวหนังสือ และมันก็กลายมาเป็นหนังสือฉบับสองภาษาเล่มนี้ที่มีทั้งราคาภาษาไทยคือ 250 บาทและ 5 ยูโร

แรงบันดาลใจในที่นี่อาจไม่ได้หมายถึงว่า เมื่อเราอ่านเรื่องสั้นทั้งหกเรื่องนี้แล้วเราจะคิดได้ทันทีเลยว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้มาจากหนังเรื่องนั้น นักเขียนแต่ละคนไม่ได้แสดงแรงบันดาลใจเหล่านั้นออกมาตรงๆ

น้ำตากวาง ของอนุสรณ์ เลือกเล่าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นและประวัติศาสตร์ของประเทศไทยผ่านหนังกวางที่ตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองนางาซากิ

ในความเงียบ ของ 10 เดซิเบลเล่าเรื่องเริ่มต้นด้วยท่าทีขรึม สงบ และมีอารมณ์ขันแทรกเป็นระยะๆ พออ่านมาถึงตอนท้ายสุดคนอ่านจะร้องอ๋อ ว่าได้แรงบันดาลใจจากหนังอย่างไร ( ใครที่ชอบเปิดอ่านตอนจบของเรื่องก่อน กรุณาอย่าทำเช่นนี้กับเรื่องสั้นเรื่องนี้ เดี๋ยวจะหมดสนุกไปเสียก่อน )

ระคน ละครของอุทิศ เหมะมูล เล่าเรื่องเสียดเย้ยละครหลังข่าวย้อนยุคตัดสลับกับเรื่องสั้นที่จงใจล้อเลียนวัฒนธรรมK-Pop ได้ทั้งความสนุกของภาษา( ที่ตั้งใจเลียนแบบ) กับท่าที satire นวนิยายแบบ Soft Opera อ่านไปก็ขำไป

ห้องรูเข็ม กิตติพล สรัคคานนท์ ชื่อก็บอกว่าได้แรงบันดาลใจจากภาพของกล้องรูเข็ม (หรือเปล่า ) ถ้าเรื่องสั้นเล่มนี้ไปปรากฎอยู่ในรวมเรื่องสั้น พิพิธภัณฑ์แสง (รวมเรื่องสั้นเล่มล่าสุดของเขา ) ก็จะไม่เป็นที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด มันทำให้คิดถึงความหมายของแสงกับการมองเห็นอีกครั้งหนึ่ง

ตั้งแต่คอลงมา ดิฉันชอบภาษาของภาณุในเรื่องสั้นเรื่องนี้ พูดแบบบ้านๆ ภาษาของภาณุสำหรับเรื่องนี้นั้น"วัยรุ่น" มาก แถมเรื่องที่เล่าพาเราไปสู่เบื้องหลังกองถ่าย (น่าจะเป็นหนังสารคดี) ว่าด้วยพิธิกรรมของศาลเจ้า (หรือสำนัก) ชวนตะลึงพรึงเพริดเหมือนดูฉากทริลเลอร์ของหนังไทยสักเรื่องหนึ่ง

ความไม่ต่อเนื่องตอนยี่สิบนาฬิกาไม่ได้อ่านเรื่องสั้นของปราบดาเสียนาน เรื่องสั้นเรื่องนี้มีลีลาเหนือชั้น การฉายซ้ำของเรื่องสองสามหน (ที่มีรายละเอียดแตกต่างกันอยู่บ้าง) นำความฉงนและความโหดมาให้ในเวลาเดียวกัน ต้องอย่าลืมสิว่าปราบดา เคยได้รางสัลซีไรท์จากการเขียนเรื่องสั้น พออ่านเรื่องนี้จบลงก็พบว่า เขากลับมาสู่โลกของเรื่องสั้นอีกครั้งแล้ว

นี่เป็นหนังสือที่ "รวมดาว" ของวงการวรรณกรรมไทย ถ้าเห็นหนังสือเล่มนี้ที่ไหน อย่าผ่านเลยไป นักเขียนผู้มีความสามารถมากมายรวมอยู่ในหนังสิอ เล่มนี้แล้ว





Create Date : 15 พฤษภาคม 2552
Last Update : 23 สิงหาคม 2557 19:08:21 น. 20 comments
Counter : 2104 Pageviews.  

 
อ่านแล้วน่าสนใจค่ะ เป็นหนังสือรวมดาวนักเขียนเลยที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย

ถ้าเอาเฉพาะชื่อเรื่องชอบชื่อเรื่องของภาณุกับปราบดาหละค่ะ





ปักกิ่งน่าสนใจจริงๆ พี่

มันมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ความยิ่งใหญ่ของจีน ฯลฯ

เท่าที่ไปมา หนูชอบเมืองนี้มากกว่าเซี่ยงไฮ้นะคะ (แม้จะต้องเดินขาลากทุกที่ก็ตาม)


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:06:19 น.  

 

วางตามร้านหนังสือแล้วค่ะ วันก่อนเห็นซุกอยู่ชั้นล่าง



โดย: อั๊งอังอา วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:40:57 น.  

 
ชื่อเรื่อง "ตั้งแต่คอลงมา" มันเรียกร้องความสนใจได้ดีเหลือเกิน

เห็นแล้วอยากแต่ง "ตั้งแต่เอวลงมา" ไปสู้บ้าง เป็นเรื่องของพิธีกรรมในสำนักโคมเขียว (ถ้าจะเขียนจริงๆต้องไปหาข้อมูลเยอะเลยนะเนี่ย อิ อิ)


โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:43:57 น.  

 
เค้าได้อ่านแค่ "น้ำตากวาง" เรื่องเดียวอยู่เลย แหะๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:44:57 น.  

 
อยากอ่าน "ตั้งแต่คอลงมา" ของคุณภาณุ จังเลยค่ะ :)

เห็นหนังสือวางแผงตามร้านทั่วไปแล้ว แต่ยังไม่ได้สอยมาอ่าน เดี๋ยววันหลังแวะไปร้านหนังสือ จะไม่พลาดนะคะ

ขอบคุณพี่แป๊ดที่แนะนำหนังสือดีๆ อยู่เสมอ :)


โดย: tiktokthailand วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:36:31 น.  

 
ตอนเลือกให้พลิกดูดีๆนะครับ ว่ามันมีหน้าครบหรือเปล่า(ให้สังเกตหน้า118เป็นหลัก) ข้อผิดพลาดคือมันมีหลุดไปบ้างสำหรับเล่มที่ไม่สมบูรณ์ ยังไงก็แล้วแต่ สามารถนำมาเปลี่ยนกับสนพ.ได้ครับ

ที่อยู่ดูได้ที่ข้างๆเจ้าของบ้านนี่แหละครับ


โดย: 10 IP: 124.157.235.2 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:53:51 น.  

 
10 นี่ใช่คุณ 10 เดซิเบลรึเปล่าคะ

ตั้งแต่คอลงมา ฟังดูน่าสนแฮะ
แต่อยากอ่านเรื่องของ 10 เดซิเบล มากกว่า ชอบทั้งคณิตศาสตร์ รส. กับเด็กหญิงมุกประดับน่ะค่ะ


โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:44:16 น.  

 
เหมือนคุณแพนด้าฯ คือเพิ่งอ่าน "น้ำตากวาง" ของอาจารย์ต้นไปเรื่องเดียวแล้วก็เก็บเข้าคิวไว้ก่อนครับ

ลืมคอนเซ็พท์ของหนังสือไปเลยว่าบันดาลใจจากหนัง เพราะตอนอ่านน้ำตากวางเนี่ย เห็นภาพชัดมากเป็นฉากๆ เลย ยังไปเม้นต์ใน FB อาจารย์เลยว่า น่าจะมีคนเอาไปทำหนังสั้น

เพราะมีสองภาษา ทำให้ตั้งใจไว้ว่าถ้าอ่านจบแล้ว จะลองเอาไปแนะนำให้เพื่อนๆ ต่างชาติที่ออฟฟิศอ่าน ให้พวกเขาได้สัมผัสงานของนักเขียนไทยร่วมสมัย แล้วอยากฟังความเห็นของพวกเขาครับ


โดย: เอกเช้า IP: 124.120.190.14 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:16:41 น.  

 
อ่านไปแล้ว แต่ยังไม่ครบทุกท่านค่ะ


โดย: fonkoon วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:59:15 น.  

 
เห็นแล้วแต่ไม่ได้ซื้อ พออ่านที่พี่เขียน ก็อืม ทำไมไม่ซื้อนะ แหะๆ ไม่เป็นไรเนอะ เพราะที่ซื้อมายังอ่านไม่หมดเลย
จริงๆชอบที่มีสองภาษานะคะ



โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:14:19 น.  

 
ร้านเช่าหนังสือแถวที่พักผมมีให้เช่าครับ ไม่น่าเชื่อ
อย่างนี้ต้องลองเช่ามาอ่านแล้ว

ว่าจะลองอ่านฉบับภาษาอังกฤษก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาอ่านฉบับภาษาไทยอีกที (กล้าพูดนะเรา)


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:58:23 น.  

 
ปิดหน้าดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเห็นคู่เห่ยแล้วจะตกใจ อิๆ (โดยเฉพาะรูปจิบสาเก55)

น่าอ่านทุกเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องที่มีฉากทริลเลอร์ และเรื่องฉงนปนโหดของคุณปราบดาน่าจะถูกจริตอป.ค่ะ


โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:44:40 น.  

 
ชอบเรื่องน้ำตากวางค่ะพี่
แล้วพอลองอ่านเปรียบเทียบดู ก็พบว่าชอบเรื่องของคุณปราบดาที่เป็นภาษาอังกฤษมากกว่า
ไม่ทราบทำไม

ส่วนเรื่องของคุณภาณุก็ระทึกมากจริงๆ อ่านสนุกดีด้วย
หนูเคยอ่านรวมเรื่องสั้นของเขา วรรณกรรมตกสระ และคิดว่ามันอ่านเพลินทุกเรื่องเลย
อาจเป็นเพราะเค้าไม่ได้พยายามเท่ห์มั้ง และเน้นวิธีการเล่าเรื่องมากกว่าการใช้ภาษา
หรือพี่คิดว่ายังไง


โดย: b u IP: 61.90.13.224 วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:34:32 น.  

 
พี่ยังไม่ได้อ่านวรรณกรรมตกสระเลย
แต่เท่าที่อ่านงานคุณภาณุ มาสองสามเล่ม
ชอบที่ตัวละครของเขา มันจับต้องได้น่ะ
คล้่ายๆ ว่าเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเหมือนเพื่อนๆ เรา
(เรื่องสั้นเรื่องนี้ในเล่มนี่ก็ใช่ )
มันธรรมดา ดูมีตัวตนจริงๆ
ไม่ลึกลับซับซ้อนหรือถูกปรุงแต่งมากๆ

ส่วนงานคุณปราบดา รู้สึกว่าจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษก่อน
แล้วค่อยมาแปลไทยทีหลัง


โดย: grappa IP: 58.9.188.183 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:17:22 น.  

 
ดูเก๋ไม่น้อย


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:08:47 น.  

 
"ระคน ละคร"

เล่มนี้ตอนอ่านต้นฉบับอึ้งกับอุทิศมากเลย เพราะโดยส่วนตัวคิดว่า การเขียนให้ตลกนั้นยากมากๆ ผู้เขียนจะต้องอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมมากๆ ไม่เหมือนกับงานอารมณ์อื่น เพราะการเขียนเรื่องตลกมีเดินพันสูง(คือถ้ามุกไม่ผ่านมันจะเสียไปเลย) เวลาแนะนำใครต่อใครก็จะบอกไปว่า อ่านเรื่องของอุทิศเรื่องเดียวก็คุ้มแล้ว (ยกเว้นฝรั่งที่ไม่น่าจะเก็ตมุข)

"ความไม่ต่อเนื่องตอนยี่สิบนาฬิกา"

งานของปราบดา เขียนเป็นภาษาอังกฤษก่อนแล้วค่อยเขียนเป็นภาษาไทย(ไม่ขอใช้คำว่าแปล) งานนี้มันค่อนข้างม่นๆ ดาร์คๆ แล้วก็เหมือนเดิม คือปราบดาชอบใช้สัญลักษณ์ของสีสอดแทรกเข้ามาในงานเสมอ งานนี้ทำให้รู้ว่าตั้งใจเขียนมาก และดูท่าเค้าจะสนุกเวลาที่เขียน

เพื่อนฝรั่งสาว(แก่)นักอ่านคนนึงบอกว่า เรื่องนี้แปลได้ดีที่สุด..จนผมอดไม่ไหวต้องบอกว่า "เรื่องนี้เขียนจากภาษาอังกฤษก่อน"

"ห้องรูเข็ม"

ของกิตติพล ก็ย้ำชัดเรื่องลายเซ็นต์ในงานของเขา งานเน้นเทคนิก และให้ความสำคัญในเรื่องของความคิด มีแทรกตลกบ้างเป็นระยะๆ เนื่องจากเป็นเพื่อนกันเลยไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะหาว่าอวย

"ตั้งแต่คอลงมา"

ตัวละครของภานุเป็นตัวละครแบบชาวบ้านจริงๆ เรื่องหลังกองถ่าย มีการบอกเรื่องกล้อง เรื่องรายละเอียด ใครชอบแนวนี้ก็ไม่น่าจะผิดหวัง โดยส่วนตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้อ่านของภานุ และโชคดีมากที่เขามีต้นฉบับอยู่แล้ว

"น้ำตากวาง"

งานอนุสรณ์เรื่องนี้ เข้ามาแบบนาทีสุดท้าย เรื่องที่ชอบแซวแกบ่อยๆก็คือ แกชอบซื้อหนังสือเก่าๆพกติดตัวเสมอ เล่มละ30บาทบ้าง 50บาทบ้าง หนังสือบางเล่มก็จะเก่ามาก แล้วแกก็จะบอกว่า"ข้อมูลๆ"เสมอ
เจอกันสิบครั้งแกก็จะเป็นแบบนี้สิบครั้ง สุดท้ายเรื่องนี้คลอดออกมา ก็ตอบคำถามได้ว่า...แกพูดจริง

"ในความเงียบ"

ตอนเริ่มต้นว่าจะเขียนแบบตลกๆ เขียนสองชั่วโมง แต่ทำไปทำมา ออกมาเป็นอย่างนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้










ปล. ใช่ครับคุณทินา :)



โดย: 10 IP: 124.157.235.35 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:04:46 น.  

 
เห็นแค่ชื่อคนเขียนแต่ละเรื่องก็พอจะเห็นแววได้เสียเงินอีกแล้ว ~~

ทั้งชื่อคนเขียน ทั้งชื่อเรื่อง ดึงดูดกันดีซะเหลือเกิน



โดย: วูบ วูบ วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:36:34 น.  

 
ไอเดียน่าสนใจค่ะ

โดยส่วนตัวไม่ินิยมอ่านเรื่องสั้น แต่ว่าพอดูไอเดียแล้วก็ว่าน่าสนค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: cottonbook วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:16:09 น.  

 
เดี๋ยวนี้ไม่ได้หยิบหนังสือแนวนี้มาอ่านเลยค่ะ

ตอนนี้ถ้าสนใจแนวๆ นี้
เห็นบล็อกคุณภูเพยียแนะนำ "สัมผัส"
นั่นก็น่าสนใจดีค่ะ

^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:14:56 น.  

 
ปกสวยดีครับ

โดยเฉพาะฝั่งภาษาไทย

ชื่อภาษาไทยก็ทำสวยได้

ดีจังครับ


โดย: พอกลอน ซาเสียง IP: 203.146.136.113 วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:49:59 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]