<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
17 มิถุนายน 2551

- - - What I Talk About When I Talk About Running By Haruki Murakami- - -



อยากเห็นหนังสือ และรออ่าน





US Publication:
Hardcover: 192 pages,
Publisher: Knopf (July 29, 2008)
ISBN-13: 978-0307269195

UK Publication:
Hardcover: 112 pages
Publisher: Harvill Secker (7 Aug 2008) ISBN-13: 978-1846552205

ที่อเมริกาจะวางแผนก่อนคือปลายเดือนกรกฏาคม ที่อังกฤษวางแผงต้นเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้นไม่นานบ้านเราคงมี่ที่คิโนะคุนิยะ และเอเชียบุ้ค สงสัยจังว่าทำไมฉบับยูเอสเวอร์ชั่น หนังสือหนากว่าตั้งหลายหน้า

ไม่ใช่แค่วิ่งออกกำลังกายไปวัน ๆ (จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่นั้น เคยรับรู้ว่าเขาใช้เวลาในการออกกำลังกายในวันหนึ่งๆ ประมาณ 4 ชั่วโมง) ดิฉันเพิ่งรู้ว่ามูราคามิเคยเข้าร่วมวิ่งมาราธอนไม่ต่ำกว่า 24 หน รวมทั้งแมทช์การวิ่งดังๆ อย่าง New York City Marathon เขาก็เคยเข้าร่วมวิ่งมาแล้วด้วย

อยากรู้จริงๆ ว่าตอนเขาวิ่งเขาคิดอะไรอยู่

ป.ล. สำหรับ After Dark นวนิยายเล่มล่าสุดของมูราคามิ ฉบับภาษาไทย คุณนพดล เวชสวัสดิ์ แปล น่าจะได้อ่านกันเดือนตุลาคมนี้ค่ะ








Create Date : 17 มิถุนายน 2551
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 14:04:18 น. 21 comments
Counter : 1719 Pageviews.  

 
โฮกกกกกกกกกกกกก ดีใจ ดีใจ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:13:45:16 น.  

 
ภาษาอังกฤษหนูอ่อนแอยิ่ง

รอภาคภาษาไทยละกันค่ะ


โดย: นกที่ไม่มีเสียง วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:14:07:52 น.  

 
ดีจังเลยล่ะขอบใจที่นำมาแจ้งข่าวจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:14:10:42 น.  

 
อ๊าาาาาากกกกกกกกกกกกก

หลังไมค์ด้วยค่ะพี่


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:15:03:46 น.  

 
เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองลืมอะไร
หนูตูนลืม "วิ่ง" อ่ะพี่แป๊ด


โดย: ปณาลี วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:19:03:57 น.  

 
ชื่อเรื่องเท่ดี
เล่มนี้ท่าทางจะไม่หนามาก หลังจากหลังๆ มานี่หนาแบบทับขาหัก


โดย: เอกเช้า IP: 124.120.184.151 วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:21:41:27 น.  

 
^
^ อันนี้เป็นความเรียงเน้อ ไม่ใช่นวนิยาย ที่หนาๆ นั่นเป็นนิยาย แต่หนังสือหนาๆ ถ้าสนุก ความหนาก็มิได้เป็นปัญหาเน้อ


โดย: จขบ. IP: 58.9.190.240 วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:23:17:40 น.  

 
กริ๊ดด
(อยากให้ฉบับแปลเป็นไทยในอนาคตปกน่าสนใจแบบนี้บ้างครับ) อยากอ่านครับ : )

การวิ่ง เป็นเรื่องที่ผมพยายามมาก แต่ไม่เข้าใจมันสักทีว่ายังไง ได้ยินมาหลายคนว่ามันดีมากๆ


โดย: โต้ง IP: 161.200.255.162 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:0:05:47 น.  

 
ผมชอบปกหนังสือ สวยย ย :)
(ผลหลังจากโพสแล้ว กระทู้รีเฟรชขึ้นมาใหม่อีกที)


โดย: โต้ง IP: 161.200.255.162 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:0:09:00 น.  

 
อยากลองอ่านงานของมุราคามิจังเลยค่ะ ยังไม่เคยอ่านเลย ได้แต่ฟังคนอื่นพูดถึงกัน


โดย: เบบูญ่า วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:0:25:25 น.  

 
วิ่งทำให้ไม่เป็นหวัด


โดย: เต๋อ IP: 58.8.104.58 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:8:32:12 น.  

 
ผมว่าตอนวิ่งอาจจะไม่มีอะไรให้หัวก็ได้น่ะ เหมือนเป็นการ defrag สมองตัวเอง

ตอนผมเล่นบาสผมก็ไม่เก็บอะไรมาคิดเหมือนกั น คิดแต่เกมที่อยู่ข้างหน้า ทักเรื่องเครียดไว้

ผมว่าเรื่องแบบนี้ทุกคนน่าจะคล้ายกัน


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:9:57:39 น.  

 
^
^ คนเล่นบาส อาจจะไม่ค่อยคิดอะไร คิดแต่เกมที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งทำให้มีสมาธิดีนะพี่ว่า

แต่คนวิ่งอย่างพี่คิดจ้า ชอบคิดอะไรออกตอนวิ่งนี่แหล่ะ


โดย: grappa IP: 58.9.192.184 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:10:04:08 น.  

 
อืมมครับ ตอนเดินผมก็คิดเพลินๆ เวลาผมจะคิดการบ้านออกตอนเดินและขับรถ หรือนั่งรถครับ บางครั้งถึงบ้านแบบไม่รู้ตัว แต่เดินเรื่อย...เปื่อย... นี่"จิต" จริงๆนะครับ ชอบบ :)


โดย: โต้ง IP: 161.200.255.162 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:17:58:07 น.  

 
ตอนแรกเราก็คิดอะไรๆนะคะ แต่วิ่งไปเรื่อยๆแล้วบางทีหัวก็ว่างเลย

รออ่าน after dark
นี่อ่านมิสเตอร์นกไขลานรอบสองอยู่ สงสัยจะเป็นหนังสือของมุราที่ชอบที่สุดละมั้งเนี่ย ยังชั่งใจอยู่


โดย: กิฟท์ IP: 58.8.230.104 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:18:12:53 น.  

 
มีฉบับภาษาอังกฤษแล้ว เดี๋ยวคงมีภาษาไทย
แย่ตรงที่คนแปลกับ สนพ.ไม่เคยบอกกันตรงๆ เลยว่าแปลจากภาษาอังกฤษ
เห็นอ้างว่าเอาภาษาญี่ปุ่นมาเทียบทีหลัง ซึ่งผมว่ายังฟังไม่ขึ้นอยู่ดี

ส่วนตัวผม..ไล่อ่านตั้งแต่เล่มแรก
แล้วหยุดอยู่ที่บทแรกๆ ของ "แดนฝันฯ" จนถึงเดี๋ยวนี้


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:23:25:05 น.  

 
เชียร์ให้ไปดูหนังเรื่อง Thedivingbell and Thebutterfly กันค่ะ

ข้างล่างเขียนโดย merveillesxx


หากพลาด ถือเป็นบาป!

แวะมาแจ้งข่าวว่า หนังสุดดัง The Diving Bell and the Butterfly (ที่จากหนังสือ ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ) จะฉายอีกทีในเทศกาลหนังฝรั่งเศส วันอาทิตย์ที่ 22 มิ.ย. รอบ 16.15 ที่โรงหนัง SFW เซ็นทรัลเวิลด์ (ตั๋ว 100 บาท)

ข่าวดีคือ ตอนนี้เค้าเปิดฉายหนังเป็น 2 โรงแล้ว เพราะงั้นใครยังไม่ได้ซื้อบัตรรีบไปซื้อล่วงหน้าได้เลยนะครับ รับรองว่าวันฉายจริงคนเยอะ + เต็มแน่ๆ

อีกอย่างคือ หนังเรื่องนี้ถ้านั่งหน้าๆ อาจจะทรมานหน่อยนะครับ เพราะหนังใช้กล้องส่ายไปมาตลอดเรื่อง

ผมไปดูมาแล้วเมื่อวันพุธ (คนเต็มทั้งสองโรง / ซึ่งถือเป็นรอบรวมดาวจริงๆ มีแต่คนในวงการดูหนัง 555555) ฟันธงเลยว่าเป็นหนังที่เหมาะกับการดูในโรงอย่างยิ่ง เพราะภาพสวยมาก

ส่วนความรู้สึกต่อหนัง ก็คือ ถือว่าชอบมากนะครับ ถึงแม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับตอนอ่านหนังสือจบ แต่ผมก็ต้องยอมรับว่า จูเลียน ชนาเบล (ผู้กำกับ) เก่งมากๆ ที่สามารถถ่ายทอดหนังสือเล่มนี้ออกมาเป็นหนังได้

จุดที่ดีมากคือ หนังทำให้เราเห็นภาพของ ฌ็อง โดมินิก โบบี้ ได้เยอะขึ้นมาก นอกจากนั้นการเล่าเรื่องผ่านสายตาของโบบี้ก็เก่งมากๆ แทบจะทำให้เรารู้สึกเหมือนคิดอยู่ใน 'ชุดประดาน้ำ' เหมือนที่เขาบรรยายเอาไว้

การแสดงของ Mathieu Almaric (ผู้เล่นเป็นโบบี้) นี่ไม่ใช่แค่ดี แต่อยู่ในระดับน่ากราบเลย (ลองทำปากเบี้ยวๆ ตาเหลือกๆ หน้ากระจกสิ แค่ 2 นาทีก็จะตายแล้ว) อัลมาริคต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงต่อวันในการถ่ายหนังเรื่องนี้ ซึ่งเขาบอกว่า "มันเจ็บมาก แต่ก็ทำให้ผมเข้าถึงตัวละครมากขึ้น"

ดูหนังไปก็น้ำตาซึมเป็นระยะ แต่หนังก็มีมุกตลกแทรกเป็นระยะ บางทีก็เลยขำทั้งน้ำตา มีที่ฉากร้องไห้อย่างแรงอยู่ฉากนึง ซึ่งจริงๆ ก็รู้สึกว่ามันจงใจไปหน่อย แต่ก็คิดว่าหนังไม่ได้ฟูมฟายเกินไป

คุยกับเพื่อนๆ ที่ดูแล้ว เห็นตรงกันว่า เวอร์ชันหนังให้ความรู้สึกหดหู่กว่าตอนอ่านหนังสือเยอะ เพราะตอนอ่านหนังสือเราได้ภาพจินตนาการที่สวยงาม แต่ในหนังมันคือ 'ชีวิตจริง'

สุดท้าย ผมชอบประโยคที่ชนาเบล สัมภาษณ์ไว้มากครับ เขาพูดว่า

"ชายผู้นี้ (โบบี้) แลกร่างกายของเขา เพื่อกลายเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่"





โดย: grappa วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:11:48:35 น.  

 
ปกสวยมาก

คุณมูราคามิออกกำลังกายเยอะดีจังเลย
อยากทำได้อย่างนั้นบ้าง

ตอนวิ่งก็คงมีเรืองใหม่ๆในใจเค้าผุดออกมานะครับ ผมคิดว่า ^^

ปล.DDT ถ้าพี่ยังไม่ซื้อมายืมเอาที่ผมไปอ่านได้เลยนะพี่


โดย: โลเล IP: 58.9.191.234 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:19:03:19 น.  

 
คงรอมูราคามิทั้งสองเล่มแหละค่ะ

ส่วนชุดประดาน้ำฯ น่าดูมากมาย

แต่ช่วงนี้หนูไม่สามารถดูหนังได้อีกระยะยาวๆ เลยอ้ะ เอาไงดีหว่า แง


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:8:28:31 น.  

 
หิวงานลุงมากฮะ

แต่คงต้องรออิ่มกับ after Dark ก่อน


โดย: พอกลอน ซาเสียง IP: 203.146.136.113 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:52:53 น.  

 
เล่มนี้เมื่อไรจาแปลครับ มีข่าวมาแจ้งอีกบ้างไหมครับ รออยู่อ่ะ
อ่าน after dark + norwegian woodรอบที่สอง เริ่มหิวงานของเฮียแก่อีกแล้วอ่ะครับ ... ไม่รู้ว่า สนพ.กำมะหยี่จะได้ลิขสิทธิ์รึเปล่านะครับ


โดย: codename v IP: 192.193.164.8 วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:10:57:26 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]