<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
13 กันยายน 2548

ธนูของพระอินทร์ที่ไกลดวงตาแต่...ใกล้ใจ



ธนูพระอินทร์

1.
ผมชอบบรรยากาศก่อนฝนตกเป็นที่สุด เพราะท้องฟ้าจะมืดครึ้ม ลมแรง อากาศเยือกเย็นสดชื่นจากไอฝนที่พัดมาแต่ไกลๆ แต่ช่วงบรรยากาศที่ว่านี้มักจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่...อีกไม่นานนักฝนก็จะตกลงมาอย่างหนัก ทำให้โลกเฉอะแฉะเปียกชื้น หรือไม่เมฆก็จะถูกเผาพัดพาล่องลอยไปเสียไกล ทิ้งให้แสงแดดเปรี้ยงได้ทำหน้าที่แผดเผาโลก และทำให้ผมผิดหวัง

2.
ที่เมืองโอ๊กแลนด์ นิวซีแลนด์ในเช้าตรู่ของวันฝนตก ผมตื่นแต่เช้า ชงกาแฟ หามุมริมหน้าต่างโรงแรมนั่งอ่านหนังสือ "บันทึกแห่งนิยาย" ของจอห์น สไตน์เบ็ค เปิดกระจกรับบรรยากาศเย็นเยือก นั่นเป็นอีกวันที่อ่านหนังสือได้อย่างมีความสุข เมื่อละสายตาจากหนังสือ มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นรุ้งกินน้ำเหนือท้องฟ้า แต่อีกเพียงครู่เดียวก็เลือนหายไป
ความสุขและความงดงามช่างมีอายุสั้นเสียนี่กระไร

3.
ชาวจีนเชื่อกันว่า เมื่อใดที่เกิดรุ้งกินน้ำ เมื่อนั้นฝนจะหยุดตก จนมีคำกล่าวที่ว่า "เหมือนมองหาเมฆเพื่อให้ได้ฝน แต่พอเห็นเมฆมาแล้วก็ไม่สบายใจ กลัวรุ้งกินน้ำจะตามมาด้วย แล้วฝนก็จะเหือดหายไปเสีย"
หลายครั้งหลายคราวทีเดียวที่ความรู้ทำให้เราทุกข์ทรมานใจ

4.
นับแต่โบราณนานมา รุ้งกินน้ำเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงสำหรับมนุษย์ ภาษาเขมรและบาลีเรียกรุ้งกินน้ำในความหมายว่าธนูของพระอินทร์
...จำได้ว่าตอนเป็นเด็ก หนังสือนิทานเล่มหนึ่งบอกว่าที่ปลายสุดขอบฟ้าสองด้านของรุ้งกินน้ำนั้นจะมีขุมสมบัติซุกซ่อนอยู่ จากนั้นเป็นต้นมาเห็นรุ้งกินน้ำทีไร ผมมักนึกว่าที่ปลายสุดสองข้างของรุ้งกินน้ำจะเป็นบ้านของใครหนอ...ผมมารู้เอาทีหลังว่ารุ้งกินน้ำเป็นปรากฏการณ์หักเหของแสงเมื่อผ่านละอองไอน้ำบนท้องฟ้า และปลายสองข้างของรุ้งไม่เคยบรรจบกัน
...ผมเห็นรุ้งกินน้ำครั้งหนึ่งเมื่อปลายเดือนมกราคม ระหว่างการเดินทางกลับจากทะเลสาบกาลิลี เขตแดนประเทศอิสราเอล วันนั้นฝนตกแต่เช้า อากาศเย็นเยือก บนรถที่แล่นลัดเลาะผ่านตามเนินเขา เพื่อนร่วมทางชี้ให้ดูรุ้งกินน้ำตัวใหญ่โค้งครอบฟ้าไว้...แต่ในวันนั้นผมไม่ได้นึกถึงทรัพย์สมบัติที่ปลายสายรุ้ง
และผมก็กล้าหาญพอที่จะชี้รุ้งกินน้ำแสนสวย...โดยไม่พะวงว่านิ้วจะกุด แล้วต้องแก้เคล็ดด้วยการเอานิ้วมาป้ายก้นอย่างในสมัยเด็กๆ แต่ผมกลับนึกย้อนถึงบันทึกในวันเดินทางกลับจากสงขลาเมื่อเดือนกันยายน และบันทึกถึงรุ้งกินน้ำไว้ว่า

ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน
มองข้ามสวนยาง เห็นเมฆครึ้มดำ
ละอองฝนเริ่มโปรยปราย

ฝนตกบนท้องถนน
เห็นรุ้งกินน้ำสองตัวอยู่แค่เอื้อม
นับสีได้ครบถ้วน
โค้งครึ่งวงกลมเจ็ดสีสวางไสวอยู่เบื้องหน้า

หรือเพื่อจะค้นพบความงดงาม
เราต้องหันหลังให้ความจริง


คัดและตัดตอนมาจาก ธนูพระอินทร์ โดย สุดแดน วิสุทธิลักษณ์ รวมอยู่ในหนังสือชื่อ ไกลดวงตา ใกล้ใจ ( A view from A far ) ซึ่งร่วมเขียนโดย สุดแดน วิสุทธิลักษณ์และวิวัฒน์ พันธวุฒิยานนท์ ตีพิมพ์เมื่อกันยายน 2546


........

นานเท่าไรแล้วหนอ ที่ไม่ได้เห็นรุ้งกินน้ำ

standby="Loading Microsoft Windows Media Player components..." VIEWASTEXT>
















Create Date : 13 กันยายน 2548
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 17:16:12 น. 45 comments
Counter : 2512 Pageviews.  

 
ในที่สุดก็มีหนังสือที่พี่แนะนำซะที
วันนี้ไม่ต้องออกไปตามหาที่ร้านแล้ว แค่ไปหยิบออกมาทบทวนอีกทีว่าอ่านอะไรไปบ้าง

เราอาจจะมองไม่เห็นรุ้งเพราะเรารอรุ้งบนฟ้าก็ได้นะคะ
ในวันดีๆ เราอาจจะเห็นรุ้งเกาะที่ขอบกระจก
บางทีเราก็เห็นรุ้งในท่อน้ำ ถึงจะไม่ใช่รุ้งตัวอ้วนทอดยาวสุดสายตา แต่ก็มี 7 สีเหมือนกัน


โดย: rebel วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:7:28:09 น.  

 
รุ้งสวยจังค่ะ ....


โดย: ป้ามด วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:9:36:53 น.  

 
อ่านตอนแรกๆนึกว่าเป็นผลงานของ จขบ. เขียนเอง

หนังสือนี้เขียนได้น่าอ่านทีเดียวนะคะ

เพิ่งจะรู้วันนี้นี่เองว่า รุ้งกินน้ำ คือ ธนูพระอินทร์


โดย: ลำพูริมน้ำ วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:9:54:44 น.  

 
เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่งที่มีกลิ่นอายของความฝันเสมอนะคะ


อ่านหนังสือเล่มไหนมา รุ้งอยู่ภาคของความสวยงามเสมอ


ยังไม่มีใครเคยเขียนรุ้งเป็นตัวร้ายเลยเนอะ
(ด้วยภาพลักษณ์ของเค้า..ให้เป็นตัวร้ายก็ยังนึกไม่ค่อยออกเหมือนกัน)




ลืมบอกไปค่ะ "ฉัน-บ้า-กาม" ก็อ่านจบแล้ว

ก็ยิ้มๆ นะคะ ในบางความเห็น บางสำนวนที่ประชดได้ใจ
(อย่างกรณีพูดถึงสาวญี่ปุ่นเป็นต้น)

แต่ไม่ถึงกับชอบ

อาจเป็นเพราะเล่นอ่านต่อจาก "เจ้าหงิญ" ซึ่งมีฉันทคติอยู่แล้วกับ "ฝนตกตลอดเวลา" ที่ประทับใจมากๆ ไปแล้วก็ได้



แต่ชื่อของรุ้งในบางภาษาที่เป็น "ธนูพระอินทร์" นี่แบบ..อืมม์..คิดได้ไง

ชอบจัง


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:9:59:21 น.  

 
ชอบความเห็นของน้อง reble จัง
บางทีดิฉันอาจจะละเลยรุ้งตัวเล็กๆ ที่ปรากฏที่โน้นที่นี้ไปจริงๆ ก็ได้

ความเรียงชิ้นนี้ เป็นผลงานของอาจารย์สุดแดน
อาจารย์สุดแดนเป็นอาจารย์ที่คณะสังคมวิทยาและ
มานุษยวิทยา ธรรมศาสตร์ (ตอนนี้กำลังลาเรียนต่อในระดับปริญญาเอกอยู่ค่ะ )
ส่วนคุณวิวัฒน์ นักเขียนร่วมในเล่มนี้อีกคน เป็นนักเขียนและนักวิจัยอิสระ เคยทำงานประจำที่กองบรรณาธิการนิตยสารสารคดี
ความเรียงอีกชิ้น ในหนังสือเล่มนี้ที่ดิฉันชอบคือ "บางทีเราก็เลือกอย่างอื่น " โดยอาจารย์สุดแดน เช่นกัน ไว้วันหลังจะตัดตอนมาให้อ่านอีกค่ะ
แต่หนังสือเล่มนี้เองก็น่าสนใจมาก เป็นความเรียงนุ่มๆ ที่ไว้อ่านยามพักผ่อน พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ฤดูร้อน (ซึ่งเล่มนี้เป็นการหนุนหลังโดยสำนักพิมพ์มติชน )

ดิฉันมักชอบเรียกอาจารย์สุดแดนว่า เป็นนักมานุษยวิทยาสายโรแมนติค


โดย: grappa วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:10:18:17 น.  

 
อืม ดีจังครับ ภาพสวยมากด้วย


ไม่ชอบดูรุ้ง เพราะมีความหลังแบบงี่เง่าๆกับรุ้งน่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆ ที่จริงไม่ใช่ความผิดของรุ้งเลยนะนั่น


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:10:26:41 น.  

 
ช่วงนี้ชีวิตผมห่างหายจากการอ่านหนังสือแบบผ่อนคลายแฮะ

วัน ๆ อ่านแต่อะไรก็ไม่รู้ ปวดหัวเป็นบ้าเลย

ตอนนี้ผมหยิบเอา "มนุษย์คนแรก" ของกามูส์ขึ้นมาอ่าน อ่านไปได้เพียงแค่บทเดียว งานการก็โหมกระหน่ำทำให้ต้องหยุดไว้แต่เพียงเท่านั้นก่อน

อยากนอนอยู่บ้านเฉย ๆ อ่านหนังสือและฟังเพลงไปเรื่อย ๆ จัง

เห็นรูปแล้ว รุ้งในรูปสวยมากเลยครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:12:07:04 น.  

 
คนข้างบน ต้องอ่านแต่ Text ล่ะสิ
บอกแล้วว่า ความรู้ทำให้ทุกข์ทรมานใจ
อิอิ

แต่เวลาอ่านหนังสือหนักๆ แล้วปวดหัว
มีคนนึงเคยบอกดิฉันว่า
Suffering brings wisdom
คอนเซ็บต์ของพุทธศาสนาเลยนะนี่


โดย: grappa วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:13:53:11 น.  

 
Suffering brings wisdom

----------> อะน่ะครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:17:19:29 น.  

 
ชอบจัง
"หรือเพื่อจะค้นพบความงดงาม
เราต้องหันหลังให้ความจริง"


...จะลองไปหามาอ่านมั่งค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 221.128.88.140 วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:18:56:04 น.  

 
เห็นกลุ่มสี ม่วง-คราม-น้ำเงิน-เขียว-เหลือง-แสด-แดง ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นที่ต่างจังหวัด ครับ

นานแล้ว ที่ไม่ได้เห็นรุ้งในกรุงเทพฯ นานจนจำไม่ได้ว่าเห็นครั้งล่าสุดเมื่อไหร่

ได้ข่าวว่า มติชน โดน อากู๋ฮุบครับ ไม่รู้จักเป็นไงต่อไป


โดย: Nutty Professor วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:18:56:16 น.  

 
^
^
ใช่แล้น ได้ข่าวเหมือนกัน
อากู๋ไปซื้อหุ้น โพส พับบลิสชิ่งด้วย
โอ สื่อทุกสื่อจะอยู่ในมือของอากู๋
และชินคอร์ป
เฮ้อ ไปหารุ้งดูดีกว่า
อยากไปเห็นรู้งที่ต่างจังหวัด
หรือ ต่างประเทศก็ได้ แหะ แหะ

เข้าบล็อคตัวเองมาตอนเลขสวย 7777
บันทึกไว้หน่อย


โดย: grappa วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:19:29:35 น.  

 
อยากเห็นรุ้งสีใสเร็วๆนะคะ

ปล. รบกวนถามพี่ grappa รู้จักหนังสือเรื่อง "ความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต" ที่แต่งโดย มิลาน กุนเดอลา บ้างหรือเปล่าคะ, ถ้ารู้ จะหาซื้อได้จากที่ไหนบ้างคะ แล้วเนื้อหาสาระนั้น ..เกี่ยวกับ?


โดย: Crisis IP: 58.8.244.170 วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:19:57:54 น.  

 
ความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต ภาษาอังกฤษ ชื่อว่า
The Unbearable lightness of being ฉบับภาษาไทยตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์คบไฟ แปลโดย ภัควดี วีระภาสพงษ์ มิลาน คุนเดอรา เป็นนักเขียนชาวสาธารณรัฐเช็ค (เช็คโกสะโลวาเกียเดิม ) ที่มีชะตากรรมเหมือนนักเขียนและปัญญาชนอีกหลายคน ไม่สามารถพักอาศัยอยู่ในประเทศตัวเองได้ (เพราะเขียนหนังสือวิจารณ์การเมือง ) เขาพักอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศส

สำหรับหนังสือลองสอบถามไปที่สำนักพิมพ์คบไฟ เบอร์โทร 02-332-2543-4
ถ้าไม่รีบมาก งานหนังสือ 6-16 ตุลาคม ศูนย์สิริกิติ์ไปเดินหาหนังสือเล่มนี้ที่บู้ทสำนักพิมพ์คบไฟ

ส่วนเนื้อหาหนังสือว่าด้วยอะไรนั่น ดิฉันอ่านนานแล้วเหมือนกัน ถ้าให้บอกตอนนี้มันว่าด้วยความรัก ความสัมพันธ์ เซ็กซ์ การเมือง และปรัชญาชีวิตร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างลึกล้ำ คุนเดอรายังให้ภาพของตัวละครในระดับปัจเจกที่ต้องเผชิญกับปัญหาทางเมืองสมัยที่โซเวียต
ยกกองทหารไปที่ประเทศเช็คโกสะโลวาเกียด้วยค่ะ
ตัวละครหลักๆ ในเรื่องมีสามคน ผู้หญิงสองผู้ชายหนึ่ง ดูเผินๆ แล้วเหมือนหนังสือจะว่าด้วยชีวิตของผู้ชายมากเซ็กซ์ แต่คนอย่างคุนเดอราแล้ว เขามีชั้นเชิงมากกว่านั้นมาก

ไว้หลังงานหนังสือ มีเวลากลับไปอ่านหนังสืออีกครั้ง จะมาเขียนถึงยาวๆ นะคะ

อ้อ นิยายเรื่องนี้ถูกทำเป็นหนังด้วยค่ะ กำกับโดยฟิลิป
คอฟแมน ผู้แสดงนำฝ่ายชายเป็นดาราคนโปรดของดิฉัน
แดเนียล เดย์ ลิวอิส หาหนังมาดูด้วยก็ดีนะคะ
หนังทำได้ดีเชียว


โดย: grappa วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:21:38:13 น.  

 
ธนูพระอินทร์สุดยอดเลย


โดย: ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:21:39:31 น.  

 
ต้องท่องประโยคนี้ไว้เหมือนกันค่า
Suffering brings wisdom

แงๆ


โดย: yodmanud^ying IP: 86.138.124.78 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:0:43:36 น.  

 
จำนวนผู้เข้าชม : 7797 ครั้ง

บันทึกไว้บ้างครับ อิอิ


โดย: Nutty Professor วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:1:36:07 น.  

 
7810 แล้วค่ะ

พี่ระบบเค้าอาจจะใช้เวลาสักหน่อยมั้งคะ
ได้บลอกคืนมาแล้ว เลิกแอบกัด คุณระบบดีกว่า

เอ แต่ของแขเพิ่งโพสต์ก็เข้าหน้าแรกกลุ่มย่อยเรียบร้อยแล้วนะคะ

สงสัยโวยมาก เลยได้รับการเอาใจใส่


โดย: rebel วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:11:47:56 น.  

 
ผมก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นรุ้งกินน้ำที่กรุงเทพฯ ล่าสุดเมื่อไหร่

เฝ้าดูอยู่เหมือนกันครับเรื่องมติชนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง


โดย: แบ่งกันเซ็ง IP: 58.10.48.188 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:12:41:30 น.  

 


โดย: erol วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:17:39:17 น.  

 
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=shelling&month=08-2005&group=10&date=24&blog=1


ตอบคำถามให้แล้วนะครับ



# รุ้งกินน้ำ .... ผมเห็นบ่อยๆ นะ
คนรู้จักอ่ะ มาหาทีไร ขอกินเป๊ปซี่ทุกที (เหอๆ ขำตายล่ะ)


โดย: Shelling Ford` วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:17:59:25 น.  

 
ขอบคุณค้า คุณเชลลิ่ง

ยอดมนุษย์หญิง
เมื่อไรจะอัพได้หว่า คิดถึงๆ

วันนี้ฝนตกทั้งวัน เปียกฝนกันบ้างหรือเปล่าคะ


โดย: grappa วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:18:31:19 น.  

 
ถ้ามีโอกาส เชิญมา drink กันนะค่ะ
ด้วยความเคารพ..


โดย: erol วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:18:55:45 น.  

 
หวัดดีครับ คุณ grappa
รุ้งกินน้ำเพิ่งเห็นมาเมื่อไม่นานนี้เองครับ
เเต่นานมากเเล้วครับที่ไม่ได้
เห็นรุ้งกินน้ำที่สวยเเละสดใส


โดย: Dark Secret วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:19:48:04 น.  

 
แวะมาตอบเรื่องโปเยฯ ค่ะ

般若波羅密
อ่านว่า ปัน รั่ว โป หลัว มี่
(ชื่อเต็มๆ คือ 般若波羅密多心經 คัมภีร์ปรัชญาปารมิตา)

คำนี้เป็นคำอ่านจีน ที่ถอดเสียงจากชื่อภาษาแขกอีกที
ลองพูดไวๆ นะ... มันจะออกเสียงงึมๆ งัมๆ

คนแปลไทยเขาเลยแผลงเป็น โป เย โป โล เย


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:20:44:56 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะ


โดย: ต๋องตึง IP: 203.209.125.136 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:20:45:29 น.  

 
อยากเป็นคนที่ขยันอ่านหนังสือมั่งจังค่ะ ถ้าได้หยิบเล่มไหนได้สักเล่มก็จะ ตะบี้ตะบันอ่านให้จบในคราวเดียว แต่ถ้าเปิดมาไม่สนุก ก็จะสมาธิสั้นมากๆค่ะ


โดย: erol วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:21:00:36 น.  

 
ฝนตกทั้งวัน - -> เหมือนเป็นแผนโปรโมตหนังสือเลยนะคะ ... แบบว่าคิดไปเองน่ะค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องแบ็คกราวน์มากๆ ค่ะ เดี๋ยวถ้ามีเวลาแก้จะลองทำใหม่ ขอบคุณนะคะพี่ ใจดีสุดยอดเลยยยย....


โดย: foneko IP: 61.90.95.240 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:21:13:07 น.  

 
ไปดูที่เชลลิ่งเขียนมาแล้วค่ะ

แต่เรื่องบลอกคงพักไว้ก่อน
เพราะเมื่อตอนเย็นบลอกหายอีกรอบ
คราวนี้หายทีเดียว 9 กรุ๊ป เหลืออยู่กรุ๊ปเดียว

นับยอดรวมตอนนี้ก็เมล์ถึง 'พี่ระบบ' ไปทั้งสิ้น 5 ฉบับ
จนพี่เค้าส่งใบหน้า T-T น้ำตาริน นี้มาให้
(เพราะเราส่งไปก่อน 3 หน้ารวด)

ไม่ได้อยากจะทำให้บลอกหายซะหน่อย
แต่ก็ว่าจะลดปริมาณการวุ่นวายกะบลอกลงหน่อย


โดย: rebel วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:22:02:00 น.  

 
ตอบอีกแล้วครับ ไปดูที่เดิมน่อ


โดย: Shelling Ford` วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:0:19:48 น.  

 
^
^
ไปดูแล้วค้า แท้งกิ้วเวรี่มัช

เมื่อคืนดูถึงลูกถึงคน มีเรื่องมติชนนิดหน่อย
ตกลงว่ามติชนจะสู้เรื่องอากู๋มาซื้อหุ้น
แต่ดูไปก็สงสัยไป
เบื้องลึกกกกกกกกก ๆ แล้ว
มันจะเป็นยังไงหว่า





โดย: grappa วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:9:14:32 น.  

 
เมื่อเช้ามีทุกช่องเลยค่ะ ไปใหญ่แล้ว ความจริงเกี่ยวกับการเมืองไหมนะ หรือ ต่อยอดธุรกิจจริงๆ อ่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ


โดย: erol วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:12:39:41 น.  

 
ตอนนี้มีประเด็นเมืองไทยรายสัปดาห์ต่ออีก

ช่วงนี้วงการสื่อกำลังดวงตกหรืออย่างไรหนอ

จะมาบอกว่าทำได้แล้วค่ะ หลังจากปลุกปล้ำอยู่นาน สีกรอบบลอกหายไปเลย แขแก้โค้ดของเชลลิ่งนิดนึง (บลอกดื้อยา) ตอนนี้ขอบสีเทาๆ หายไปแล้วค่ะ


โดย: rebel วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:19:09:40 น.  

 
แกรมมี้-มติชน
อสมท.-เมืองไทยรายสัปดาห์
บล๊อกแก้ง - ?


โดย: Nutty Professor วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:20:43:30 น.  

 
^
^
อิอิ คนบล็อคหายสองคนข้างบน
เป็นไงมั่งค่ะ โดนคุกคามถึงบล็อคเลย
เด๋วเราต้องเฝ้าบล็อคเราไว้มั่ง

แต่ว่ารายการเมืองไทยรายสัปดาห์เนี่ยะ
จุดยืนแปลกๆ อ่ะ
ตอนแรกก็ชื่นชมคุณทักษิณเหลือเกิน
(ชเลียร์ออกหน้าออกตา )
หลังๆมานี่กลับลำ ด่ารัฐบาล
ถ้าจะปิดไปดิฉันก็ไม่ค่อยเสียดายเท่าไร



โดย: grappa วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:21:03:37 น.  

 
บลอกแกงค์ - แบล้งก๊อก - Bangkok
เอ่อ เล่นอะไรนี่


โดย: rebel IP: 202.183.155.107 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:21:10:01 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ

เพลงเพราะมากมาย


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:22:27:39 น.  

 


โดย: erol วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:1:17:22 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะพี่

เพิ่งทำงานเสร็จ


โดย: Mutation วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:3:25:15 น.  

 
วันนี้ตื่นมาตอนเช้าตกใจ
หกโมงกว่า ห้องสว่างจ้า
ได้เห็นแดดเต็มๆ ไม่เห็นแดดอย่างนี้มาหลายวันแล้ว
แต่ว่าบ่ายๆ ฝนจะตกไหมเนี่ย


โดย: grappa วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:9:29:19 น.  

 
หวัดดีครับ มาเยี่ยมคร้าบ คุณ grappa
เมื่อเช้าตื่นเร็วเหมือนกันครับ ปกตินอนตื่นสาย
วันนี้เเดดส่องก้นเลย เลยต้องตื่น

อ่านเมื่อกี้เห็นมีพูดถึงคุนเดอร่าด้วย ผมซื้ออมตะมายังอ่านไม่จบเลย
มัวเเต่ฟังเพลงอ่ะคร้าบ


โดย: Dark Secret วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:17:04:00 น.  

 
>> นานเท่าไรแล้วหนอ ที่ไม่ได้เห็นรุ้งกินน้ำ

อืม จริงสินะครับ
เคยเห็นครั้งสุดท้ายตอนไหนหว่า?
ถ้าจำไม่ผิด
เคยเห็นครั้งสุดท้ายตอนเด็กๆ ประมาณห้าหกขวบเลยอ่ะครับ

แต่บางที
การที่เรา (โดยเฉพาะผม) มองไม่เห็น
ก็คงอาจเป็นเพราะไม่ใส่ใจด้วยกระมังครับ

...สังคมที่เร่งรีบในปัจจุบัน
บางครั้ง ก็ทำให้เรามองข้ามอะไรหลายๆ อย่างไปเหมือนกัน
วันๆ ทำแต่งานๆๆๆๆ และงาน
ทำให้การมองสิ่งต่างๆ รอบตัว
...การพิศมองฟากฟ้าอย่างสุนทรียะ
ไม่มีอีกแล้ว
เฮ้อ... พูดไปก็กลุ้มใจตัวเอง!?

ว่าแล้ว
ตอนนี้ว่างๆ ออกไปดูโลกข้างนอก มองสิ่งรอบข้าง ก็น่าจะดี (หลังจากหมกมุ่นกับการทำงานหน้าจอคอมพ์มาเจ็ดวันเจ็ดคืน!????)


โดย: it ซียู วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:18:22:40 น.  

 
ไปสืบช่าวมาจากห้องราชดำเนินและห้องสินธร
กรณีอากู๋และอาช้าง
ชอบความคิดเห็นนี้

ความคิดเห็นที่ 14

ยุทธการ 3 เด้ง win win win

อากู๋ ได้หุ้นฟรี ( วันนี้เสนอซื้อ 18 บาท ) อาจกำไรแล้วก็ได้ ( วงในว่าซื้อมาแค่ 7-8 บาท )

มติชน ได้หน้า ต่อสู้เพื่อวิชาชีพ ( แอบเก็บหุ้นหรือเปล่าไม่รู้ จาก 6 บาท มา 18 บาท 3 เท่าแล้ว )

รัฐบาล ได้กลบข่าวบ้า ๆ "131 คนไทยทิ้งแผ่นดิน"

อากู๋มาเล่นเกมนี้ GMMM หุ้นขึ้นวันนี้ 30 %

คนมีกะตังค์ กู้แบ๊งค์มาสร้างราคา ปิดทางคนต่อว่าเงินมาจากใหน ( ระดับ แกรมมี่ แค่จะหยิบเงินสด 3-4,000 ล้าน เอาที่ใหนก็ได้ )

ถึงที่สุดทำราคาจนพอใจ ทำกำไรปลุกตลาด ก็ถอยไปตั้งหลัก

ผมบอกแต่แรกแล้วว่าผมไม่เข้ามายุ่ง

ทำเป็นตั้งโต๊ะเจราจาเปิดทางลงให้แต่ละฝ่าย

วันนี้มี "บิ๊กล้อต" ซะด้วยสิ

ทุกฝ่ายเล่นได้เนียน ด่าไปเก็บเงินเข้ากระเป๋าไป

ผมบอกแล้ว ...พี่ช้างอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวดีเอง

จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 15 ก.ย. 48 14:02:43 ]




โดย: grappa วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:22:43:07 น.  

 
แอบแอด Msn ไปแล้วอ่ะคะ
เข้าขอบคุณที่ตอบ Blog แต่ม่ะเป็นไรหรอกแค่เซ็งๆ


ปล.ไม่ได้เห็นสายรุ้งมาหลายปีแล้ว
ทำเองดีกว่า อิอิ

เอา ป๊อกซี่มาฉีดๆๆเป็นละอองกลางแดด


โดย: โคอาล่าน้อย วันที่: 17 กันยายน 2548 เวลา:12:20:18 น.  

 
"Is something better than nothing, or should it be all or nothing?"

ไม่รู้ค่ะ
รู้แต่ Everything is Something


เพลงถูกใจจัง นั่งฟังก่อนค่อยกลับบลอก


โดย: rebel วันที่: 17 กันยายน 2548 เวลา:12:26:59 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]