อัลมอนด์ ประโยชน์ดี ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
































เมื่อ
เอ่ยถึงอัลมอนด์นั้น ในบ้านเราอาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก
เนื่องจากว่า อัลมอนด์ไม่ใช่พืชพื้นเมืองของเรา แต่ถ้าในต่างประเทศแล้ว
อัลมอนด์ถือว่าเป็นของว่างที่ค่อนข้างแพร่หลายมากทีเดียว


ทั้ง
นี้เนื่องว่าในต่างประเทศนั้นมีการทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอัลมอนด์มากมาย
ทำให้ทราบว่าอัลมอนด์นั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย
และประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
ซึ่งช่วยเพิ่มระดับ HDL หรือไขมันดีและช่วยลดระดับ LDL หรือไขมันเลวได้อีกด้วย


และนอกจากกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว
ในอัลมอนด์ยังประกอบไปด้วย ไฟเบอร์ โปรตีนจากพืช
วิตามินบี วิตามินอี และโอเมกา 3

ซึ่งมีส่วนสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
ช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย แถมยังช่วยลดการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย


เห็นไหมค่ะว่า
อัลมอนด์เนี่ยเค้ามีประโยชน์ที่เรา ๆ ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ
ที่นี่คนไหนอยากลองเปลี่ยนรสชาติ หรือจะลองซื้อมาทานเป็นประจำดูก็ได้นะคะ
ถือเป็นของทานเล่นที่ไม่อ้วนแล้วยังให้ประโยชน์อีกด้วยค่ะ





























Free TextEditor







































































































 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 18:31:45 น.
Counter : 278 Pageviews.  

ชาเขียวชนิดต่าง ๆ






























ไร่
ปลูกชาเขียว











เมื่อพูดถึงชา
เขียว เราเชื่อว่าสมัยนี้ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักกันดีแน่ ๆ
เพราะเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ กระแสรักสุขภาพมาแรงมากจริง

และชาเขียวก็เป็นหนึ่งในหัวหอกอาหารสุขภาพที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ว่าเป็นชาที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเรา



แม้หลาย ๆ
คนอาจจะดื่มชาเขียวกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าหลาย ๆ
คนที่ดื่มนั้นทราบหรือเปล่าว่า ชาเขียวนั้นก็มีชนิดต่าง ๆ แยกย่อยไปอีกนะ
แบบที่เราจะมาบอกเพื่อน ๆ ที่นี่ไงล่ะ



ชาเขียวชนิดแรก
เซนฉะ
เพื่อน ๆ
น่าจะคุ้นหูกันนะ เป็นชาที่นิยมปลูกกลางแจ้ง
ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น



ชาเขียวชนิดที่
สอง เคียวกุโระ
เป็น
ชาที่ปลูกในร่มเท่านั้นและยังถือได้ว่าเป็นชาเขียวชั้นดีที่มีราคาแพงที่สุด
ในบรรดาชาเขียวด้วยกันอีกด้วย



ชาชนิดที่สาม ชิน
ฉะ
เป็นชาเขียวที่เก็บเกี่ยว
ใหม่ ๆ มีเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น



ชาชนิดต่อมา โฮ
จิฉะ
เป็นชาเขียวที่นำเอาใบ
ของมันมาคั่ว เวลาที่ชงแล้วน้ำชาที่ได้จะมีสีน้ำตาลเหมือนสีของใบชา
รสชาติดีกว่า เซนฉะ เหมาะที่จะดื่มกับ ผลไม้และของหวาน



ชาชนิดถัดมา เกนไมฉะ เป็นชาเขียวที่ผสมผสานระหว่างใบชาเขียวกับข้าวกล้องคั่ว
เพื่อเพิ่มความมันและกลิ่นหอมของชาให้มีมากขึ้น



และ
ชาชนิดสุดท้าย เกนไมมัตฉะ

เป็นชาที่มีการผสมระหว่างใบชาเขียว ข้าวกล้องคั่วและผงชาเขียว
ทำให้รสชาติที่ได้แตกต่างกับชาเขียว
แบบอื่น ๆ
คือมีหลายรสชาติในถ้วยเดียวนั่นเอง



เพื่อน ๆ
ที่นี่คนไหนชอบแบบไหนก็เลือกดื่มได้ตามใจชอบเลยนะคะ
แต่ก็อย่าดื่มมากจนเกินไปนะคะ
เพราะการดื่มหรือทานอะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีหรอกค่ะ
ดื่มหรือทานแต่พอดีดีกว่า





























Free TextEditor







































































































 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 18:30:35 น.
Counter : 421 Pageviews.  

5 สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับพริกป่น



5 สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับพริกป่น


เรารับประทานพริกป่นเป็นอาหารหลักกันมานมนาน
คุณเคยรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของพริกป่นบ้างไหมคะ...การค้นพบนี้ต่างประเทศเขา
ตื่นเต้นกันยกใหญ่ เสียแต่เขามีข้อจำกัดที่แพ้รสเผ็ดร้อนของพริกกัน
ซึ่งเทียบกับเราแล้วถือว่าได้เปรียบมาก

1.
ในพริกป่นมีทั้งรสและกลิ่นเผ็ดร้อนที่ช่วยให้เกิดอาการตื่นตัว
ซึ่งส่วนประกอบในพริกที่ทำเรารู้สึกอย่างนั้นก็คือ capsaicin


2.
มีการศึกษาพบว่า capsaicin ในพริกมีความสามารถในการกำจัดเซลล์มะเร็ง
โดยไม่ทำลายเซลล์ดีภายในร่างกาย ซึ่งอีกไม่นานจะมีการแนะนำให้ใช้ capsaicin
ในการรักษามะเร็ง นับเป็นการบำบัดแบบใหม่ที่มีทิศทางที่ดีในอนาคต

3. พริกป่นมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย
ของกล้ามเนื้อหลังได้ดี คุณสามารถบำบัดอาการปวดเมื่อย
ได้ที่บ้านด้วยการใช้พริกป่นใส่ลงในอาหารที่รับประทาน

4.
พริกป่นช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติหลังจากมื้ออาหารที่คุณตัดลด
คาร์โบไฮเดรตลงไป
เพราะฉะนั้นจึงมีการศึกษาเพื่อจะใช้พริกป่นมาช่วยในการบำบัดรักษาโรคอ้วน
อยู่ในขณะนี้

5.
ส่วนผสมอันดับหนึ่งที่ช่วยในการทำความสะอาด
หรือดีท็อกซ์ร่างกายก็คือพริกป่น
เพราะในพริกป่นมีสารที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการทำความสะอาดร่างกายด้วยตัวเอง
ทั้งยังช่วยยับยั้งเมือกที่จับอยู่ภายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย


อย่างนี้ต้องหาอาหารแซ่บด้วยพริกป่น มารับประทาน
กันแล้วละค่ะ...
-----





Free TextEditor







































































































 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 18:27:45 น.
Counter : 253 Pageviews.  

ขับรถแบบประหยัด ๆ ในช่วงหน้าฝน




































ในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ทำอะไร ๆ
ก็ต้องรัดเข็มขัด แม้ว่าน้ำมันจะลดลงไปให้ใจชื่นได้หน่อยนึง
แต่ก็มิวายเดี๋ยวมันก็ต้องขึ้นอีกแหง๋ม ๆ ถ้าอย่างงั้น เพื่อน ๆ
ที่นี่ที่มีรถส่วนตัวไปดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนบ้างน๊า
ที่จะช่วยเราประหยัดได้


อย่างแรกเลยก็คือ ถ้าเป็นไปได้
พยายาม หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาหลังฝนตก
ใหม่ๆ
โดยหันมาใช้การติดต่อกันทางโทรศัพท์ อีเมล์ หรือหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ
เช่น รถไฟฟ้า BTS
รถไฟฟ้าใต้ดินแทนก็จะสะดวกและประหยัดน้ำมัน
ทั้งยังช่วยลดปัญหาการจราจร ที่ติดขัดอีกด้วย


หมั่นตรวจเช็คเครื่องยนต์ให้พร้อมก่อนเดินทาง
หากมีความจำเป็นต้องเดินทางช่วงฝนตก ควรตรวจเช็คเครื่องยนต์เป็นพิเศษ
เพราะหากรถดับหรือเสีย
ขณะการเดินทางจะทำให้เสียเวลาและทำให้การจราจรติดขัดยิ่งขึ้น



ก่อนออกจาก
บ้านก็เช็คเส้นทางให้พร้อมก่อน
โดยเลือกเส้นทางการจราจร
ที่ใกล้ที่สุดหรือตรวจสอบเส้นทางได้จากรายการวิทยุ สวพ.91
จส. 100 หรือโทร 1197 เพื่อให้ไปถึงจุดหมายโดยใช้ระยะทางที่ใกล้ไม่หลง
ทาง ช่วยทำให้ประหยัดน้ำมัน
และควรเตรียมหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานบริการช่วยเหลือกรณีรถเสียระหว่าง
ทาง เช่น สถานีวิทยุชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน 1167































เมื่อเช็คเครื่องยนต์แล้ว
ก็อย่าลืมเช็คลมยางและสภาพยางให้ได้มาตรฐาน

โดยตรวจเช็คลมยางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1
ครั้ง
เพราะหากลมยางต่ำกว่ามาตรฐานจะทำให้การขับขี่สิ้นเปลืองน้ำมันประมาณร้อยละ 2
และหากสภาพยาง
ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกลดลงซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตราย
ต่อชีวิตและทรัพย์สิน


รวมไปถึงตรวจ
เช็คผ้าเบรกด้วย

เพราะช่วงหน้าฝนถนนลื่นกว่าปกติทำให้ต้องแตะเบรกบ่อยครั้ง
ควรสังเกตจากเสียงขณะเบรก หรือถ้าเบรกแล้วรถไม่หยุดในระยะปกติ
อาจทำให้เปลืองน้ำมันประมาณวันละ 400
ซีซี ดังนั้นควรเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน
ควรลด
อุณหภูมิภายในรถ
โดยไม่ปรับแอร์ในรถให้เย็นเกินไป
เพราะหน้าฝนอากาศเย็น และควรปิดแอร์ก่อนถึงที่หมาย 2-3

นาที ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ 30
ซีซี
แต่หากไม่ใช้แอร์เลยตลอดการเดินทาง 20-30
นาที จะประหยัดน้ำมันได้ 300 ซีซี


เป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายมาก ๆ เลย เพียงแค่เพื่อน ๆ
ที่นี่ต้องใส่ใจหมั่นดูแลมาก ๆ หน่อยเท่านั้นเอง เพื่อน ๆ
ก็จะลดปริมาณการใช้น้ำมันไปได้เยอะอยู่ ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าไปได้เยอะด้วย
ที่สำคัญยังเป็นการสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยนะคะ








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 18:15:47 น.
Counter : 319 Pageviews.  

คอเต่าอีกทางเลือกของสาว ๆ

































เมื่อเอ่ยถึงเสื้อ
คอเต่าคาดว่าคงมีสาว ๆ บางส่วนที่ชอบใส่เสื้อประเภทนี้
แต่ส่วนใหญ่อาจจะขอบาย
เพราะเมื่อพูดถึงเสื้อคอเต่าเรามักจะนึกเสื้อคอตั้งปิดคอ แขนยาว
ใส่แล้วน่าจะร้อน


ซึ่งในความเป็นจริงมันก็เป็น
อย่างนั้นจริง ๆ เสื้อคอเต่าเหมาะมากกับอากาศที่หนาวเย็น
เพราะจากรูปแบบของเสื้อแล้วน่าจะให้ความอบอุ่นมากกว่า แต่สำหรับสาวเมืองร้อนอย่างบ้านเรานั้น
ก็สามารถใส่ได้เพียงแค่คุณเลือกแบบที่เป็นเสื้อแขนสั้น
หรือเสื้อแขนกุดแทนก็ได้ค่ะ


วันนี้เรามีทริคเล็ก ๆ
สำหรับการใส่เสื้อคอเต่ามาฝากด้วยล่ะ

- - - > > >
ด้วยความที่เสื้อคอเต่า
นั้นทำให้ผู้ที่สวมใส่ดูลำตัวยาวขึ้น
ดังนั้นสาวคอสั้นหรือสาวคางสองชั้นควรหลีกเลี่ยงนะคะ


- - - > > >
แม้ว่าเสื้อคอเต่าจะสามารถปกปิดร่างกายส่วนบนได้มิดชิดแต่ก็ใช่ว่าจะหมดความ
เซ็กซี่ได้นะคะ เพราะหากคุณสวมใส่บราแบบดันทรง
ก็สามารถอวดรูปร่างและความอึ๋มได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรมาแย่งซีนได้ (เหมาะ
สำหรับผู้ที่ยึดคติสวย หมวยเอ็กซ์ ตัวเล็ก อกอึ๋ม เป็นอย่างยิ่ง หุหุหุ)



- - - > > >
สำหรับสาวทำงานคุณอาจจะเลือกเป็นเสื้อคอเต่าแขนกุดสีเข้ม ๆ แล้วสวมสูททับ
ก็จะให้ลุคที่ดูเป็นทางการ
หากอยากจะไปสังสรรค์ต่อเพียงแค่ถอดสูทออกแล้วใส่สร้อยเส้นเก๋ ๆ
แค่นี้ก็สวยชิค แบบสาวออฟฟิศได้แล้วค่ะ



- - - >
> >
ถ้าคุณอยากได้ลุคสวย แต่แอบเซ็กซี่
แนะนำให้ใส่เสื้อคอเต่ากับกระโปรงผ่าสูง พร้อมกับรวบผมขึ้นสูง
หรืออาจจะเกล้าผมเป็นมวยให้ดูยุ่งนิด ๆ ก็โอเคนะคะ



เอาล่ะลองไปดู
แบบเสื้อคอเต่าที่เรารวบรวมมาให้ดูกัน
เพื่อเป็นแนวทางในการมิกซ์แอนด์แมทนะคะ

















































Free TextEditor





















































 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 17:28:40 น.
Counter : 564 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.