ออกกำลังกาย..ช่วยลด 5 โรคยอดฮิต.


































สธ.รณรงค์ให้คนไทยวัย
11 ปีขึ้นไป ออกกำลังกายให้มากขึ้น
อย่างน้อยให้ได้วันละ
30
นาที

วงการแพทย์ทั่วโลกชี้เป็น
วัคซีนป้องกัน
5 โรคร้าย ได้แก่ โรคหัวใจ เบาหวาน
โรคหลอดเลือดสมอง ได้ร้อยละ
80 ป้องกันโรคมะเร็ง ได้ร้อยละ 40
และป้องกันไข้หวัดได้ ผลสำรวจล่าสุดในปี 2550 พบคนไทย
อายุ
11 ปีขึ้นไปออกกำลังกายเพียง 16 ล้านกว่าคน
โดยคนจบปริญญาตรีออกกำลังกายน้อยที่สุด เพียงร้อยละ
14


นายไชยา
สะสมทรัพย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
องค์การอนามัยโลกได้กำหนดในทุกประเทศทั่วโลก
รณรงค์กระตุ้นให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อเป็นวัคซีนขนานเอกในการป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยจากโรคเรื้อรังอันตราย
5 โรค ที่เป็นต้นเหตุสำคัญที่สุดให้คนทั่วโลกเสียชีวิตก่อนวัยอัน
ควรในขณะนี้ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคเบาหวาน

มีรายงานเสียชีวิตปีละ
35 ล้านคน เฉลี่ยวินาทีละ 1 คน
หรือร้อยละ
60 ของการเสียชีวิตทั้งหมด
ผู้เสียชีวิตครึ่งหนึ่งอายุต่ำกว่า
70 ปี
โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวนี้ มาจากความเสี่ยง
3 ปัจจัย
ด้วยกันคือ การกินอาหารที่มีไขมันมาก ผักน้อย การขาดการออกกำลังกาย
และการสูบบุหรี่ เฉพาะการไม่ออกกำลังกายอย่างเดียว
เป็นต้นเหตุให้คนเสียชีวิตปีละเกือบ
2 ล้านคน


สำหรับประเทศ
ไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้รายงานผลการสำรวจล่าสุด ครั้งล่าสุดในปี
2550 ใน
กลุ่มประชาชนที่มีอายุตั้งแต่
11 ปีขึ้นไป ซึ่งมีทั้งหมด 55
ล้านคน พบว่าในจำนวนนี้ออกกำลังกายร้อยละ 30 หรือ
ประมาณ
16 ล้านกว่าคน เพิ่มขึ้นจากปี 2547 เล็ก
น้อย โดย
1 ใน 3 ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-5
วัน ครั้งละ 21-30 นาที ส่วนใหญ่เกือบครึ่งเล่นกีฬา
รองลงมาคือ เดิน วิ่ง เต้นแอโรบิก ฟิตเนส รำไม้พลอง โยคะ ไทเก็ก จี้กง
ผู้ออกกำลังกายประมาณครึ่งหนึ่ง สำเร็จการศึกษาไม่เกินประถมศึกษา
ต่ำสุดคือระดับปริญญาตรี มีร้อยละ
14

ทั้งนี้ เหตุผลของสำคัญของการออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ร้อยละ 77
ต้องการให้ร่างกายแข็งแรง รองลงมาคือเพื่อนชวน ร้อยละ 9 มี
ปัญหาสุขภาพ ร้อยละ
7 เพื่อคลายเครียด และร้อยละ 3 ต้อง
การลดน้ำหนัก
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
โรงพยาบาล สถานีอนามัย ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ออกกำลังกาย
โดยสามารถเข้าไปใช้บริการที่สนามออกกำลังกายของสถานบริการได้ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนรับประทานผัก
ผลไม้เพิ่มขึ้นให้ได้วันละครึ่งกิโลกรัม และรณรงค์ให้ลด ละเลิกบุหรี่


ด้าน
นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า
โรคอ้วนกำลังเป็นศัตรูสุขภาพยิ่งใหญ่ของโลกในศตวรรษที่
21 สาเหตุ
เกี่ยวข้องกับการไม่ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีไขมันสูง
องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ใหญ่ทั่วโลกอ้วน
1,000 ล้าน
คน หากไม่ปรับแก้พฤติกรรม ในอีก
7 ปี ผู้ใหญ่อ้วนจะเพิ่มเป็น 1,500
ล้านคน ส่วนเด็กทั่วโลกอายุต่ำกว่า 5 ขวบอ้วน 22
ล้านคน

นอกจาก
นี้ การออกกำลังกายยังมีส่วนสำคัญในการป้องกันการเจ็บป่วย
ซึ่งจากการสำรวจในปีเดียวกัน พบประชาชนอายุ
11 ปีขึ้นไป
ป่วยและเข้ารักษาตัวที่แผนกผู้ป่วยนอกเพียง
9 ล้านกว่าคน
หรือป่วยเพียงร้อยละ
17 ในจำนวนนี้เป็นผู้ทีไม่ได้ออกกำลังกาย
เกือบร้อยละ
70 ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องพักรักษาตัวในโรง
พยาบาล มีจำนวน
3 ล้านกว่าคน
ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ไม่ออกกำลังกายร้อยละ
74 เป็นข้อพิสูจน์
ที่ชัดเจนว่า การออกกำลังกายทำให้สามารถลดการป่วยลงได้


นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลกได้แนะนำว่า การออกกำลังอย่างน้อย
เพียงวันละ
30 นาที อาทิตย์ละ 5
วัน โดยออกกำลังกายให้หายใจเร็วขึ้น มีเหงื่อซึม สามารถทำเป็นช่วงๆ
ได้รวมแล้วให้ได้อย่างน้อยวันละ
30 นาที
ในผู้ใหญ่จะสามารถลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง คือโรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านมได้
ส่วนในเด็กควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ
1 ชั่วโมงทุกวัน

         
ยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ยิ่งดี
และสามารถทำเป็นช่วงๆ
ได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของเด็กแต่ละคน
ผลที่ได้จะทำให้กล้ามเนื้อกระดูก ข้อต่อแข็งแรง ระบบหัวใจทำงานดีขึ้น
ควบคุมน้ำหนักตัว และทำเด็กมีความเชื่อมั่นตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่
ยาเสพติด และหากกวาดล้างความเสี่ยงก่อโรคเรื้อรัง
ทั้งด้านการปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย การไม่สูบบุหรี่
จะสามารถตัดความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองลงได้ร้อยละ
80 และ
สามารถป้องกันการเป็นมะเร็งได้ร้อยละ
40 แต่หากไม่แก้ไข
โรคเรื้อรังนี้จะคุกคามชีวิตประชาชนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ
17 ใน
อีก
7 ปีข้างหน้า





























Free TextEditor







































































































Create Date : 30 เมษายน 2553
Last Update : 30 เมษายน 2553 18:26:30 น. 0 comments
Counter : 338 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.