คอมเม้นท์ของคุณ555 โดนใจผมมากๆ ผมเองก็เป็นคนนึงที่อ่านไวท์โร้ด โดยเช่าจากร้านหนังสือ อ่านจบไม่คิดจะซื้อเก็บ เพราะรู้สึกถึงความเลื่อนลอยของเนื้อเรื่อง อ่านจนจบแต่กลับไม่มีความรู้สึกอะไร ไม่ติดใจ ตอนนี้ผมแทบนึกเนื้อเรื่องไม่ออกด้วยซ้ำ เพราะไม่มีความประทับใจอะไรกับเรื่องนี้เลย

เคยไปยืนเปิดๆดูบนแผง เพราะสงสัยว่าทำไมเรื่องนี้มันดังจัง
อ่านแบบกราด ไปบทนึง ก็เลิกสนใจอีกต่อไป

เหมือนเอาเกมส์มาออกภาคต่อ เช่น Final ที่มีเป็น 10 ภาค และเอาเนื้อเรื่องมาแปะ ๆ กัน

เล่นเกมส์สนุกกว่าเยอะเลย

ไม่ใช่แค่ลอกเก่ง
แต่ขนาดลอกยังได้แค่นี้เลย

ชอบประโยค
สงสารต้นไม้ที่สละชีพ. 555

ไม่ค่อยชอบนิยายที่สนพ.ค่ายนี้ทำอ่ะ...
รู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อยเวลาเห็นการโฆษณาเกินจริง
ชมกันทั้งปกหลังทั้งคำนำเลิศลอยมาก
แต่ฝีมือก็งั้นๆ...

เฉลี่ย ในการอ่านนิยายของสนพ.นี้ยี่สิบเล่ม
มีประมาณสักหนึ่งเล่มครึ่งมั้งที่พอเอาตัวรอดได้

555555 เสียดายคนเก่งจริงๆไม่มีที่ให้แสดลฝือมือเยอะคับ
ไวโรด เกิดได้เพราะ แม่ ดร.ป็อบ เป็น บก.อยู่ก่อนแล้ว

ไม่เคยอ่านนะ แต่เราว่าถ้าจะอ่านฝีมือพวกเด็กๆนี้ ไปอ่านของพวกนิยายญี่ปุ่นหรืออังกฤษเหอะ เด็กแต่งมันลอกเกมส์กับการ์ตูนทั้งดุ้น ส่วนมากก็ได้มาจากแต่งลงเน็ต แล้วเอามาพิมพ์ มันไม่ใช่มืออาชีพ จะว่ามากไปก็ไม่ดี สงสารเหมือนกัน

เรื่องนี้เคยยืมเพื่อนอ่าน อ่านไปได้เล่มเดียวมั้ง (หรือ 2 เล่มหว่า)
แล้วก็ไม่เอาแล้ว เสียเวลาอ่าน

แต่เพื่อนมันก็ซื้อต่อ เพราะมันดันเป็นคนชอบสะสม ซื้อมาแล้วก็ให้มันครบๆ ชุดไป ไม่รู้เปลี่ยนใจรึยัง

เล่มแรกก้อเว่อร์อยู่หรอก คนเขียนน่าจะรู้ตัว แต่เผอิญว่ามานไม่รุตัว ด้านเข็นเล่มต่อๆมาให้เป็นขยะของวรรณกรรมเยาวชนอยู่ด้าย ที่เห็นด้วยก้อเพราะเคยอ่าน มันเว่อร์มาก ตอนที่อ่านแล้วรู้สึกว่ามันงี่เง่า น่ะนะ อายุ11ปีเอง คนบ้าไรฟระดีไปหมดไม่ว่าหน้าตา จิตใจ ความสามารถ หมั่นไส้ว่ะ ดูมาหลายเล่มยังไม่รู้ว่าแก่นของเรื่องคือไรเลย เขียนคำบรรยายเลิศเลอเชียว ไม่แฝงคุณธรรมอะไรสักอย่าง แล้วไอ้การบรรยายน่ะดูแล้วโลวคลาสมากมาย สงสัยคงมั่นใจมากเลยล่ะมั่ง อ่อแล้วอีกอย่างน่ะนะ การให้เด็กผู้หญิงทั้งรร.มาคลั่งไอ้อดีตเด็กขอทาน แบบปัญญาอ่อนมันก้อทุเรศเกินไปนะ ถึงจะหล่อขนาดไหน เพศแม่คนแต่งก้อไม่ด้าน ร่านชายขนาดนั้นหรอก ถ้าใครคิดว่า จะหามาให้ลูกๆหรือคนที่เรารักอ่านอยู่ ผมว่านะ อย่าเลยครับ มันเป็นความเสื่อมเสียของวรรณกรรมเยาวชนครับ อัปยศอย่างหามิได้เลยครับ อ่านแล้วเสียเวลา สู้ไปอ่านแก้วจอมแก่นก็ไม่ด้าย นั่นน่ะถึงจะเป็นวรรณกรรมที่มีมานานแล้วก้อจริงแต่ผมว่า ยังสมควรจะอ่านมากกว่าไอ้ไวท์โรดนั่นมากเลย
ปล.ขอโทษที่ไม่ค่อยสุภาพ แต่เวลาที่ผมเสียไปกับการอ่านมันยังไงให้รู้แก่นของเรื่องเนี่ยเอาคืนไม่ได้นี่ครับ

ขอบคุณครับ

ออกเล่มใหม่ช้าด้วยครับที่สำคัญ

ขอบคุณค่ะ คุณ spiral เนื้อเรื่องมันประมาณนี้นี่เอง เราไม่เคยสนใจมาก่อนเลย (แต่อ่านเรื่องย่อแล้วก็ยังไม่ถูกใจอยู่ดี)
ยังไงก็ขอขอบคุณที่ช่วยเปิดหูเปิดตานะคะ

มันก็แล้วแต่คนชอบนะ บางคนก็ชอบแบบนั้น บางคนก็ชอบแบบนี้ จะให้ถูกใจทุกคนมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ยังไงก็คงต้องรอให้คนเขียนเค้าได้พิสูจน์อีกครั้ง ลองให้โอกาศเค้าดูอีกทีแล้วกัน บางที่อาจจะมีอะไรดีขึ้นก็ได้

เราก็เป็นคนหนึ่งที่อ่านเวอะไวท์โรดอ่ะนะ
อยากบอกว่าเดอะไวท์โรดสนุกมากอ่ะ
ทำให้เรามีความคิดที่อย่างจะเขียนหนังสือมั้งอ่ะ
แต่ก็คงเขียนสู้พี่ป๊อบไม่ได้หรอกค่ะ

เรื่องเดอะไวท์โรดคิดว่าก็งั้นๆค่อนข้างจะน่าเบื่อเพราะออกมาหลายเล่มเกินไปทำให้ผู้อ่านบางคนเบื่อ การดำเนินเนื้อเรื่องดูเหมือนเกมส์ไปหน่อย เข้าใจว่าปัจจุบันHarry Potterมีผลกับวรรณกรรม แต่ก็ควรจะมีเรื่องอื่นๆ(เหตุการณ์)ที่ต่างออกมาด้วย จริงอยู่ที่มาเล่มหลังๆก็เปลี่ยนไปแต่ก็เหมือนอย่างที่คุณ 555 ว่า เหมือนกับไปดูเรื่องLord of the Ring มาแล้วเติมเนื้อหาเข้าไปถ้าจะเขียนเป็นแนวนี้ก็แนะให้แต่งเป็นเรื่องใหม่ขึนมาเลยไม่ดีกว่าหรอ แล้วการที่ตัวละครเอก ดูจะเก่งไปซะทุกด้านแถมยังเป็นที่ชื่นชอบของหลายนนี้เวอร์จริงๆ ขนาดตัวฉันเองที่แต่งเรื่องยังต้องคอยหลบปัญหานี้เลย แนะให้ลองเอาเหตุการณ์จริงๆในชีวิตมาศึกษาดูก็จะเห็นว่ามีลักษณะจริงๆแล้วเป็นอย่างไร จะทำให้มันเหมือนจริงขึ้นได้ แนะให้ ป๊อปไปอ่านเรื่องการเขียนนิยาย/วรรณกรรมดูบ้าง และก็อ่านหนังสือเยอะๆหน่อยก็จะมีความคิดใหม่ๆมาอีก(แต่ระวังอย่าไปลอกมา) แล้วอาจารย์ที่โรงเรียนก็ดูจะไร้ประโยชน์จริงๆด้วยพึ่งสังเกตขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพิ่มแล้วก็ขอโทษที่บ่นยาวไปค่ะ
พยายามต่อไปปกติที่ทุกนักเขียนจะโดนวิจารณ์ แต่อย่าท้อนะคะ พยายาต่อไปค่ะ ไม่ไหวก็เขียนเรื่องใหม่ไปเลยแล้วแนะให้ลองอ่านทวนใหม่แล้วRE writeใหม่ดูนะคะsrc=https://www.bloggang.com/emo/emo2.gif>

ไม่ชอบเลยอ่า หนังสือที่มันดูถูกผู้หญิงเนี่ย คนบ้าอะไรมันจะหล่อกระชากใจขนาดผู้หญิงทั้งร.ร.มันจะไปชอบว่ะเนี่ย ถึงผู้หญิงบ้างคนมันจะไปตามกรี๊ดผู้ชายที่ไหน เเต่ก็มีฉันคนนี้คนหนึ่งเเหละที่ไม่เป็น จะมีคนที่ไหนเฟอร์เฟ็กขนาดนั้น

หากจะมองในแง่ดีนั้น เขายังเด็กยังคงต้องพัฒนาฝีมือต่อไป ไม่มีใครหรอกที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้โดยไม่พบอุปสรรค คนเราต้องเริ่มนับจากศูนย์ไปเป็นร้อยหรือบางทีอาจจะมากกว่าร้อยก็ได้ ต่างกับบางคนที่เริ่มจากร้อยแล้วก้าวถอยลง เราก็หวังว่าในอนาคตประสบการณ์ต่างๆจะเป็นช่วยสอนเขาเอง เราก็เป็นนักอ่านคนนึงควรให้กำลังใจเขากระตุ้นให้เขาพัฒนาตนเองดีกว่าย่ำอยู่กับที่หรือหันเหไปในทางที่ไม่ถูกต้อง
หากจะเลือกระหว่างนักเขียนที่ใช้ภาษาไม่ถูกต้อง เกินจริง เขียนไร้สาระเป็นขยะวรรณกรรม กับเด็กติดยาค้ายาเสพติด เล่นการพนัน ก็ขอเลือกนักเขียนดีกว่า อย่างน้อยสังคมเราก็คงน่าอยู่ขึ้น
ไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก

ถ้าอยากอ่านแบบมีข้อคิดเยอะๆ
ขอแนะนำ " หัวโขมยแห่งบารามอส " ของ rabbit
เรื่องนี้มีสี่เล่มของสำนักพิมพ์ สถาพร
เนื้อเรื่องเป็นปริศนาดี ออกแนวรักกุ๊กกิ๊กบ้างพอจะทำให้ยิ้มได้และแฝงข้อคิดไว้มากมาย

เห็นด้วยกับคุณความเห็นที่ 18 ใครได้อ่านหัวขโมยแห่งบารามอสแล้วจะรู้สึกว่าสนุกมาก การใช้สำนวนดี มีข้อคิดเยอะ ถึงภาคแรก อ่านตอนแรกๆ อาจจะรู้สึกเหมือนแฮร์รี่ไปหน่อย แต่รับรองว่าอ่านต่อไปแล้วจะสนุกจนวางไม่ลงเลยค่ะ เพราะเขาวางพล็อตเอาไว้ดีมาก

อยากอ่าน แต่ไม่มีขาย ต้องยืมห้องมุดเอา

ไวโรดออกมากี่เล่ม กี่ภาคแลวช่วยบอกทีเถอะขอร้องงง

คิดมาตลอดว่าอยากจะลองอ่านเรื่องนี้ดูนะ แต่เห็นแต่คำวิจารณ์แบบนี้เลยไม่กล้าอ่านซะที เรามันคนเล่นเกม แล้ว Final 8 ก็เป็นเกมโปรดเกมนึงซะด้วยสิ

ทำเว็บได้ดีมากครับ ตอนที่กระเด้งกล่องว่า โปรด
คอมเมนต์ อึ้งเล็กน้อย

อยากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ

fake_kafe@hotmail.com

ขอ หนึ่ง โหวต นะครับ นิยายเรื่องนี้ทำให้เพื่อนผมเลิกอ่านหนังสือนิยายไปเลย T__T

โดนใจมากอ่ะนะ เราไม่สนใจคำวิจารณ์ อยากรู้ต้องอ่านเอง พออ่านไป อ่านไป และอ่านไป พระเอกมันจะเก่งเกินไปแล้วนะ ความสัมพันธ์ระหว่าง เจอรี่กับจูเลียก็แปลกๆ (ตอนแรกมันเกลียดกันไม่ใช่เรอะ) ภาค2ยิ่งไม่ต้องอ่านเลย อืดมาก + ซุเปอร์"ไซย่านั้นแหละ ที่รับไม่ได้ ช่างเถอะ เขาอุตสาห์เรียงร้อยจินตนาการเป็นตัวหนังสือ ไม่ได้ทำง่ายๆนะนั้น

สำหรับผมแล้ว ไวท์โรด ก็เป็นแค่นิยายแต่งเล่นบนเน็ต ที่มีสถานะใกล้เคียงกับการ์ตูนวาดเล่นอ่านในหมู่เพื่อนสมัยมัธยมเท่านั้นเอง

แต่คุณค่าในทางวรรณกรรม ที่มีค่าพอจะออกมาเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คน่ะไม่มีพอ

แถมคนเขียนเองยังพยายามสร้างกระแสโดยการไปไล่โพสตามบอร์ดหลายๆ บอร์ดว่าดีอย่างนั้นเยี่ยมอย่างนี้ โดยการเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับมีคนอ่านที่ชื่นชอบอยู่จำนวนมาก แต่เค้าคงลืมไปว่า ip มันแฉอยู่

และที่แย่มากๆ ก็คืออาการเรื่องมากจนเข้าข่ายฆ่าตัวตายของคนเขียน... เชื่อมั้ยครับว่าเรื่องนี้เคยได้รับเลือกและเริ่มเขียนเป็นการ์ตูนแล้ว แต่ด้วยความเรื่องมากของเจ้าตัวและคุณแม่ที่ไม่รู้จักพอ บวกการไม่ยอมให้แก้ไขดัดแปลงอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวก็เลยโดนยุบโปรเจ็คทิ้ง(ไอ้คนเข้าๆ ออกๆ แถวนั้นบ่อยๆ อย่างผมรู้เข้าในใจลึกๆ ผมก็คิดสงสารอยู่แต่มันก็ปนสมน้ำหน้าในปริมาณที่มากกว่าหลายเท่าด้วย)

เสียใจมาก ๆ ค่ะที่ซื้อมาอ่านแต่เราเป็นประเภทซื้อมาแล้วก็ต้องซื้อให้ครบ ๆ ไปอ่ะ อ่านหนังสือมาก็ตั้งเยอะแล้วแต่ดันผิดพลาดซื้อเรื่องนี้มาซะได้ แต่คิดว่าคงเลิกซื้อแล้วค่ะไม่ไหวออกมาเยอะยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ สู้เอาตังค์ไปซื้อเรื่องอื่นดีกว่า เศร้า ไม่น่าซื้อเลยอ่ะ เสียดายตังค์ ทีแรกคิดว่าเป็นคนเดียวซะอีกที่คิดว่าเรื่องนี้มัน...ไม่ไหวค่ะ แต่พอมาเห็นกระทู้นี้แล้วก็คิดว่า โธ่ น่าจะเห็นตั้งแต่ก่อนซื้อนะเนี่ย

อยากอ่านแต่ไม่มีให้อ่านหน้าเจ็บใจ

โดนใจจริงๆค่ะ เคยอ่านเล่มแรกเล่มเดียว ตอนแรกก็สนุกดีอยู่หรอกแต่พออ่านจบแล้วมาคิดดูอีกทีว่า มันไม่คุ้มเลยจริงๆ จนถึงตอนนี้เห็นคนอื่นอ่านก็เหนื่อยใจแทนเพราะมันเยอะมาก

ชอบอ่าน The White Road มากค่ะ สนุกมากๆ มีทั้งตลก เศร้า เเละบู้ ถ้าไม่ได้อ่านต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลยค่ะ

ออกจะสนุกมาว่าได้ไง เดี๋ยววันเสาร์ก็จะไปซื้อเล่ม 5 ละนะ อ่านป่าวคนมาว่าเนี่ย ถึงแม่ใหญ่แต่ก็อ่านแล้วสนุกนะเว้ย

ผมว่าคนที่มาโพสว่าเขานี้ผมว่าเขายังไม่รู้จักความมีจินตนาการหรือมานสิ้นคิดอะไรทำนองนี้ขอไห้ลองอ่านเถอะแล้วจะชอบไม่งั้นเขาคงไม่ชอบกานมากหลอกคับไม่ชอบไม่ว่าแต่อย่ามาโวยมานเปงสิ่งที่ผมก็ไม่ชอบเช่นกัน

เราว่านะ เรื่องนี้อะ มันแล้วแต่คนจะคิดจริงๆนั้นแหละ

ถ้าคุณบอกว่า หนังสือเขาไม่ดีหรือจะดีก็ตาม

คุณเอาเกณฑ์อะไรมาวัดว่ามันไม่ดีอย่างงั้น ไม่ดีอย่างงี้

(โดยเฉพาะพวกที่ชอบให้คนอื่นคิดตาม ถ้าไม่คิดตาม มีเรื่อง อะไรทำนองเนี้ย)

ส่วนตัวเราคิดว่า มันเป็นเพียงจินตนาการของบุคคล

ถ้าคุณเข้าไม่ถึงจินตนาการของผู้แต่ง ก็อย่าซื้อ

ถ้าคุณยอมรับว่า เข้าใจ แต่มันไม่สนุก (โดยเฉพาะภาค 2 ) คุณก็ต้องถามตัวเองว่า "ควรจะซื้อ/อ่าน ต่อไปไหม" หรือไม่ก็ไม่ต้องซื้อ แต่หาอ่าน แค่อ่านให้รู้เนื้อเรื่อง อ่านเพื่อที่จะได้ดูว่า "เขาเปลี่ยนตัวเองไหม หลังจากได้รับคำวิจารณ"

สำหรับคนที่อ่านแล้วบอกว่าสนุกเหลือเกิน ก็ไม่เห็นจะต้องออกมาโวยวายด่าว่าคนอื่นว่า "มาว่าไวท์โรดได้ไง"

เพราะมันก็แล้วแต่คนจะคิด

เขาเองก็อ่าน แล้วก็เป็นประเภท ถ้ายังไม่จบ ก็จะซื้อเก็บไปเรื่อยๆ เพราะว่าหนังสือเรื่องนี้แม่ซื้อให้

ถึงมันจะไม่ดี แต่ก็สามารถเอาข้อเสียมาดู เพื่อไม่ให้เกิดกับตัวเอง

ส่วนข้อดีของเรื่องนี้ใช้ว่าจะไม่มี มันก็มีเช่นกัน เพียงแต่คุณมองเห็นหรือไม่ ก็เท่านั้นเอง

(หรือถ้าบางที ข้อเสียนั้นอาจจะบังตา ไม่อาจมองเห็นความดีของเรื่องนี้ได้)

เราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านนวนิยายแฟนตาซี เรากำลังรอดูว่าเดอะไวด์โรท์ จะทำคำวิจารณ์ไปปรับปรุงหรือเปล่า แต่เราอยากแนะนำให้อ่าน เอรากอน เราอ่านแล้วสนุกดี เป็นอีกเรื่องที่ซื้อแล้วไม่เสียดายเงิน

ก่อนอื่นขอวิจารณ์พวกที่บอกว่าไม่ได้อ่านแต่ยัง(อุตส่าห์)ดันมีญาณทิพย์สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกคนโพสกระทู้ได้ เก่งเกินไปแล้วมั้ง

พอจะเข้าใจคนที่คิดว่ามันไม่ดี แต่กำลังคิดว่าถึงขนาดเสียดายต้นไม้คงไม่ใช่สำหรับผม สงสัยว่าเจ้าของกระทู้กับผมคงมี mind sets ที่ต่างกันมั้ง สำหรับผมค่อนข้างเป็นหนังสือชุดที่ชอบ ที่สังเกตคือผู้เขียนมีความสามารถในการใส่อารมณ์ขันเข้าไปโดยไม่รู้สึกฝืน บางอย่างที่คุณบอกว่าดูถูกหรือเหยียดหยามเพศแม่นั้นมันไม่ใช่ comic relief เหรอครับ?? สำหรับผมคนที่ฉลาดส่วนใหญ่ในหนังสือเป็นผู้หญิงเลยนะ (มิไลก้า จูเลีย ฯลฯ ส่วนเจอร์รี่เป็น comic relief ที่มีนิสัยโดดเด่นกว่าผู้หญิงที่คุณว่า ซึ่งโผล่แวบเดียวแล้วหายไป)

ส่วนด้านเนื้อเรื่อง ผมว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ดี(แต่มีรุโหว่เล็กน้อยๆเยอะเหมือนกัน) แสดงว่าเขาคิดตอนจบมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่บางครั้งประสบการณ์ที่น้อยยังทำให้มันหลุดไม้หลุดมือไปบ้าง แต่เขียนได้ลื่นไหลอ่านคล่องดี แม้บางครั้งการบรรยายแล้วเครื่องหมายจะเกินไปบ้าง ซึ่งเป็นส่วนที่อ่านข้ามได้แบบไม่พลาดอะไร

นี่เป็นความเห็นของผมต่อภาคหนึ่ง ซึ่งต้องดูภาค 2 อีกที แต่ผมเพิ่งมารู้เดี๋ยวนี้แหละว่ามีเรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับ ดร.ป๊อปเหมือนกัน แต่อย่างว่าแหละ...มันไม่เกี่ยวกับการอ่านเลยนี่ ใช่ไหม??

จะว่ายังไงดีล่ะ คือมันคิดว่านิยายเรื่องนี้ความสุขที่แสดงออกมาในเรื่องมันเป็นความสุขแบบทุนนิยมเหลือเกิน การเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงหรือชีวิตที่สุขสบายหรือการใช้พลังอำนาจเพื่อให้ตนเองชนะ ความรู้สึกมันฉาบฉวยไม่ค่อยประทับใจเท่าไร
เมื่อลองอ่านเรื่องพ่อมดแห่งเอิร์ทซีแล้ว มาอ่านเรื่องนี้รู้สึกว่าต่างกันมากเหลือเกิน เรื่องพ่อมดแห่งเอิร์ทซีอ่านแล้วสบายใจมากกว่า การที่เรียนรู้สิ่งต่างๆเพื่ออยู่ร่วมกับมัน สมกับที่ชื่อว่านิยายจริงๆ เน้นเรื่องการอยู่ร่วมกับธรรมชาติกับใจตัวเองมากว่าการใช้อำนาจมาสู้กับอำนาจ แต่มันก็คงจะว่าเค้าไม่ได้เพราะว่าเรื่องมันคนล่ะแนวกันเลย
......สรุปว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่แบบที่เราชอบเลย.......

ชอบอ่านนะ
บอกเหตุผลไม่ได้หรอก

ถึงจะไม่ใช่คนที่อ่านวรรณกรรมมาเยอะแยะ หรือมีประสบการ์ทางการอ่านจาก เกมส์ หรืออื่น ๆ

พูดง่าย ๆ คือเป็นพวกไร้ประสบการณ์อย่างที่คุณ 555 ว่า

ก็เลยเริ่มอ่านแบบพวกไร้ประสบการณ์
อ่านแบบไม่ไดใส่ใจอะไร
อ่านเอาแค่พอจบไป ( แต่ไม่ได้ข้ามนะ ) แล้วรู้เรื่องก้อพอ

รู้มั้ยว่าการอ่านแบบไม่ใส่ใจอะไร ไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบหรือวิจารณ์อย่างนู้นอย่างนี้เวลาอ่าน

มันสบายใจกว่ากันเยอะ

ผลที่ได้รับมันก้อ

สนุกนะ มากด้วย

เราไม่อยากใส่อารมณ์ในการอ่าน เพราะมันจะทำให้หมดอารมณ์ไปในทันที แล้วก็ไม่ชอบวิจารณ์คนเขียนอย่างนู้นนี้
เพราะตัวเองก็ยังทำไม่ได้อย่างเค้า

และที่สำคัญ

จินตนาการเป็นของส่วนบุคคล
อย่าก้าวก่ายในความคิดของผู้อื่น

จาก
นักอ่านผู้ไม่ใช้สมองในการอ่าน

ไม่เคยอ่านเดอะไวท์โรดเลยค่ะ ไม่คิดจะอ่านเลยด้วย มีเพื้อนๆหลายคนที่เป็นแฟนของเรื่องนี้มาชวนให้อ่าน แต่เราก็ไม่ได้อ่านซักที อาศัยเพื่อนเล่าให้ฟังนิดๆหน่อยๆ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกับเอาวรรณกรรมต่างประเทศที่ดังในบ้านเรามาปนๆกันไป ก็คงเอาไอเดียมาน่ะล่ะค่ะ แต่รู้สึกจะเยอะไปหน่อย

ต่างคนต่างจิตใจค่ะ คนชอบก็ชอบไป คนไม่ชอบก็ออกมาแสดงความคิดเห็นของตัวเองไป อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ ถือซะว่ารับฟังความเห็นที่ต่างไปจากตัวเองบ้างแล้วกัน

อยากอ่านภาคต่อไปเร็วจังเลย

ชอบอ่านไวท์โรดมักมาย
คือเปนคนไม่ชอบนิยายแนวนี้เลย แต่พอได้อ่านไวท์โรดโดยบังเอิญแล้วเกิดชอบ และชอบมักๆ
เป็นนิยายที่สร้างสรรค์
มีเหตุมีผลในเหตุการณ์ ไม่เกิดขึ้นมาลอยๆ
ไม่ใช่นิยายขยะแบบที่คุณคิดเด็ดขาด
มันเกิดขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ
การที่จะมาวิจารณ์แบบนี้ ก่อนอื่นอยากรู้ว่า..
คุณทำได้อย่างที่พี่ป๊อปเค้าทำได้มั้ย
เค้ามีประสบการณ์สั่งสมมานาน
จนรวบรวมประสบการณ์มาประติดประต่อจนเป็นเรื่อง
แนวแฟนตาซี
ถ้าผู้ใดที่ติดตามไวท์โรด ก้จะรู้ว่ามันไม่เหมือนนิยายแนวแฟนตาซีทั่วไป จะแตกต่างแหวกแนว
ไม่ซ้ำซาก จำเจ
การที่ทำมาถึงภาคล่าสุดนี้ถือว่าเก่งมากแล้ว
ก่อนที่จะมาวิจารณ์คนอื่น คุณควรดูตัวเองบ้างว่าทำได้อย่างเค้ามั้ย...

คงเข้าใจนะคระ

พูดไปหยกๆ โผล่มาอีกแล้ว "เหมือนเอาไอเดีย" หลายอย่างมายำๆกัน เนี่ย

ไม่ได้ทะเลาะ ถ้าทะเลาะมันต้องมีคำหยาบ การว่าอย่างใส่อารมณ์ หรือการด่ากระทบถึงสิ่งอื่นที่ไมได้เกี่ยวข้องกับงานเขียนที่ถกกันอยู่

อ่านแล้วมาแสดงความคิดเห็นให้เคลียร์ๆดีกว่ามั้งครับ อย่างนี้สร้างอคติต่อคนที่ยังไม่เคยอ่าน

ความจริงแล้วชอบอ่าน เดอะไวท์โรด มากเหมือนกันนะ

แต่อ่านให้ตายเราก็ยังคงรู้สึกว่า

รัก หัวขโมยแห่งบารามอส
มากกว่าอยู่หลายเท่า

ใครยังไม่ได้อ่าน

ขอแนะนำให้รีบอ่านนะค่ะ

ข้อคิดดีมั๊กกกกก ๆๆๆๆ

คนที่ว่าเค้านะ เขียนได้อย่างเค้ารึปล่าวล่ะ

จริงอยู่ที่บรรยายเกินจริงบ้าง พระเอกดีเว่อร์บ้าง
แต่มันเป็นนิยายนิไม่ใช่เรื่องสั้นที่ต้องมีความสมจริง รู้จักนิยามของพวกนี้รึปล่าวล่ะ

บารามอสดีมากกๆ ในเรื่องเเง่คิด สอนใจ เเต่ก็มีโหว่ๆนะ

ไม่มีใครเพอร์เฟกหรอก งานเขียนแรกได้ขนาดนี้ก็สุดยอดละ

ยากให้พี่ป๊อบสร้างเดอะไวท์โรดเป็นการ์ตูนหรือไม่ก็เป็นภาพยนตร์

aueng_jai@hotmail.com มาคุยกับหนูหน่วยนะค่ะ หนูมีเรื่องคุยเยอะมาก ไม่มีเวลาแล้วต้องไปแล้วค่ะ

อ่านแล้วน่าเบื่อ มันนานเกินไปแล้ว
ควรจะจบได้แล้ว

หัวโขมยแห่งบารามอสฮิตกันทั้งห้องเรียนผมก็คิดว่าจะซื้อมาอ่านเหมือนกัน

อ่านแรกๆ ก็สนุกดี แต่พอผ่านไปคุ้มเนื้อเรื่องอยู่กลายเป็นขยะไปได้ ถ้าเทียบแล้วอ่านบารามอสแล้วดีกว่าเยอะ

ตอนแรกก็ไม่เคยอ่าน แล้วก็ไม่รู้จะอ่านอะไรดี ก็เลยอ่านหัวขโมย แห่งบารามอส พออ่านจบแล้ว ก็ไปเจอหนังสือ เดอะไวด์โรดก็เลยเอามาอ่าน ตอนแรกก็สนุกแต่พออ่านไปอ่านมามันก็เริ่มน่าเบื่อ หัวขโมย แห่งบารามอส ยังสนุกและน่าอ่านกว่าตั้งเยอะ

ไวท์โรด อ่านแรกๆ แล้วสนุกนะ ชอบ
แต่พอขึ้นเล่ม 2 เริ่มขี้เกียจอ่านอ่ะ แต่ก็ยอมรับว่ายังทำให้สามารถอ่านต่อจนจบได้
เราว่าเรื่องนี้ คนเขียนเขาวางพลอตและทิ้งปริศนาไว้ดีนะ
แต่ก็มีสิ่งที่ไม่ดีในตัวเรื่องเยอะ การใช้ภาษาไม่ค่อยสละสลวย แต่อ่านก็สนุกในระดับหนึ่ง
บอกตามตรงอีกเรื่อง เรื่องนี้เหมือนยืดๆ นะ เรื่องก็ปนกันมั่วๆ ไปหมด แต่ก็จะอ่านต่อถ้ามีโอกาส
เรื่องพระเอกเพอร์เฟ็กต์นี่อยากจะบอกว่าเป็นเหมือนกัน เกลียดพระเอกเรื่องนี้มาก พระเอกเรื่องนี้อาจจะทำให้ไม่อยากอ่านเรื่องนี้ก็ได้นะ

เราอ่านเรื่องนี้นะและก็เก็บได้ 2 ภาค 8 เล่มและก็คิดว่าจะเก็บต่อไปจนกว่าจะจบ ... ออกมากี่เล่มเราก็เก็บหมดแหละ แต่โดยส่วนตัวแล้วเราเกลียดพระเอกมากเลยโดยเฉพาะในภาคแรกและต้น ๆ ภาค 2 สักเล่ม 2 หรือ 3 นี่แหละ ทำตัวงี่เง่ามาก แต่ตอนนี้ก็โอเคแหละ แถมจบเล่ม 5 ภาค 2 นี่ก็ทิ้งปริศนาเอาไว้อีกด้วย ต้องรอภาค 3 อีกแล้ว ปีหน้าจะได้อ่านไหมเนีย

นิยายแฟนตาซี แนะนำของสำำนักพิมพ์ สถาพร คับทำออกมาได้ค่อนข้างดีมีหลายเรื่องที่สนุก

ปล.ไวท์โรด ถึงจาลอกเนื้อเรื่องจากหลายๆที่มาปนกันอย่างที่มีใครคอมเม็นไว้
แต่อย่างน้อยก้อทำให้ใครหลายคนหันมาสนใจ วรรณกรรมไทย นะคับ

ก็สนุกดี เราอ่านได้ทุกอย่างที่ตนเองสนใจ ไวท์โรดตอนแรกเห็นเขาว่าจะทำเป้นการ์ตูนล่ะ เนื้อเรื่องเลยคล้ายการ์ตูนมั้ง เราว่านะเราชอบแฮร์รี่มากกว่าซะอีกแต่ไวท์โรดก็หนุกดี พอใด้แต่เสียอย่างเดียวคำพูดไม่ค่อยมีศิลป์เลยแถมในเล่มยังพิมพ์ผิดเพียบอีก หัวขโมยแห่งบารามอสนี่สนุกดี แจ๋วดี

ไวท์โรดหนุกมากๆเป็นหนังสือที่ชอบที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาเลย

เดอะไวท์โรดถึงบางคนจะบอกว่า ไม่มีคุณค่าทางวรรณกรรมพอ แต่อย่างน้อยเค้าก็มาความสามารถพอที่จะเขียนนิยายเล่มยาวๆ แล้วตีพิมพ์ แล้วมันก็ยังขายดีอีกด้วย จะคิดยังไงมันก็ไม่ผิดอยู่แล้วล่ะแต่มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่ทุกคนคิด เหอะๆ แต่บางครั้งนะ เค้าแต่งออกมาแล้วข้อความมันไม่ตรงกัน แปลกอยู่เหมือนกัน ลองไปอ่านเดอะโอเมนบ้างสิ เด็กไทยแต่งเหมือนกันน้า =)

ด่ากันซะเละเลยเนาะ ถ้าแฟนพันธุ์แท้ไวท์โรดมาอ่านต้องรุ้สึกแย่มากแน่ๆ แล้วคุนคิดว่าคนจะชอบเหรอมาด่าหนังสือที่เค้าแต่งๆมาเนี่ย เราว่าวิจานน่ะไม่ผิด แต่อย่าไปชำแหละแบบนั้นดิ - -

ถึงจะด่าไปนะ เดอะไวท์โรดเนี้ยก็เป็นความสามารถของเด็กไทย ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ถึงเรื่องมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก แต่อ่านหนังสือยังไงก็ยังดีกว่าเล่นเกมคอม หรือคุนจะให้คนเอาเวลาว่างไปเสพยาอย่างงั้นหรอ อย่างน้อยเค้าก็ขายดีมากก็แล้วกัน คนทั่วประเทศฉลาดน้อยหรือคุนกันแน่ที่ฉลาดน้อย ลองแต่งให้ได้ดีกว่าเค้าสิแล้วค่อยมาด่านิยายเค้าใหม่.. มานั่งด่าคนแบบนี้ยังเสียเวลากว่าอ่านหนังสือเยอะโว้ยย

ชื่อเรื่อง
ตอนแรกก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะอ่านเล่มสองแล้ว ไม่เข้ากับไวท์โรดเท่าไหร่ แต่ ถ้าเรามองจริงๆแล้ว เราจะรู้ว่า ไวท์โรด ไม่ได้หายไปไหนเลย เพราะพวกพอลไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็จะถูกเรียกว่า "นักเรียนไวท์โรด" ตลอดเวลา แม้แต่ในเมืองทริเซีย ตอนเขาไปเที่ยวเมือง ก็มีคนในบาร์กล่าวถึง "ไวท์โรด" ซึ่งทำให้เห็นว่า ไวท์โรด เป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ในเรื่องตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่เห็นโรงเรียนเลยก็ตาม และถ้าจะพูดไป ดร.ป๊อบ ก็ไม่ได้ใช่คำว่า "โรงเรียนไวท์โรด" ในการเรียกชื่อโรงเรียน แต่ใช้คำว่า "ไวท์โรด" เลยต่างหาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเองก็ให้ความสำคัญกับคำนี้มากเช่นกัน และถ้าเราจะมองลึกลงไปอีก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ก็มีจุดเริ่มมาจากคำๆเดียวที่ว่า "ไวท์โรด" ทั้งเพื่อน ทั้งการเรียน พลัง ครู ทุกสิ่งเกิดขึ้น ที่นี่ เป็นจุดแรก เพราะฉะนั้นไม่แปลก หากเรื่องนี้จะชื่อ "ไวท์โรด"

2. อันนั้นก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะงงแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพที่น่ากลัวให้เด็กๆด้วย แต่ถ้าเขาต้องการด้านที่เข้มแข็งของผู้หญิงล่ะคะ...ไม่พูดดีกว่า เพราะในเล่ม 2 น้องจะได้รู้ว่า มีการกระทำที่ไม่นาจะเป็นไปได้อีกหลายอย่าง แต่ทุกอย่างล้วนมีเหตุผลในตัวมันเองนะ

3. ความสมจริง - อยู่ในคำว่าจินตนาการเช่นเดียวกันอีกนั่นแหละค่ะ ไม่ขอพูดซ้ำ แล้วแฮรี่เขาฮอกวอร์ตได้เพราะอะไร ทำไมไม่เสียค่าหอพัก แล้วค่าอาหารก็ไม่จ่ายด้วยล่ะ แถมงานเลี้ยงอะไรก็จัดให้ฟรีอีก มันก็คือจินตนาการแหละค่ะ พี่ว่าดร.ป๊อบ ต้องการสร้างความน่าเชื่อ ให้กับโรงเรียนนี้ เพื่อที่คนอ่านจะได้รู้สึกว่า เขาอยากอยู่ไวท์โรด อยากร่วมพจญภัยกับทุกคนในไวท์โรด จริงๆ ซึ่งมันก็ได้ผลด้วยนะ ( อาจจะยกเว้นบางคนแถวนี้ หุ หุ )

4. รอดูต่อไปค่ะ แต่เท่าที่อ่านนะ สาขาเวทมนตร์ขาว กับ พลังจิต สามารถเป็นหมอ กับ แพทย์ได้นะคะ แล้วสาขาการต่อสู้ ก็เป็นหน่วยรบได้ด้วย ( คงไม่ต้องถามนะว่าได้ประโยชน์อะไร เพราะน้องคงต้องตอบพี่ก่อน ว่าบิลในแฮรี่เขาดูแลมังกรกันทำไม )

5. ทุกอย่างมีเหตุผลค่ะ ในตัวของมันเอง แต่ที่น้องพูดอย่างนี้ เพราะ "น้องยังอ่านไม่หมด หรือ ยังไม่อ่านตอนต่อไป" อย่างงานเต้นรำเนี่ย ถ้าจะพูดแล้ว เป็นงานแรกที่เรารู้จัก นาตาลี นางเอกคนที่สองของเรื่อง ซึ่งตอนแรกเธอดุเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็มาเกี่ยวข้องกับพอลในฐานะ มิไลกา ได้อีกครั้ง ซึ่งการที่ได้พบกัน ทำให้พอลสามารถจำคริสตัลของมิไลกาในวันงานได้ ประกอบกับความหลงไหลในเขา ก็ทำให้เขายิ่งรักเธอมากขึ้นไปอีก แต่ขณะเดียวกัน เหตุการณ์คืนนั้นระหว่างพอลกับจูเลีย ก็ทำให้เกิดการสงสัยว่า ตกลงพอลจะเลือกใคร

พี่ป๊อปเก่งที่สุด เดอะไวท์โรดสนุกทีสุด มีจินตนาการ
สร้างสรรค์

ดีครับโฮ่ๆ
เราไม่เคยเข้ามาไหงพอตรงที่ให้ใส่ชื่อกด ช ช้างไปตัวเดียวชื่อเราโผล่มาจากไหนมะรุอ่าครับงง5555+

ตอนสุดท้ายพอลสุดหล่อจะคู่กับใคร เห็นเพื่อนบอกว่าแองเจิงมันจะดูดอะไรนี่แหละออกจากหัวใจพอลและเพื่อนบอกว่าดร.ปีอบจะเขียนตัวเองเป็นลูกของพอลด้วยเเหละ

yo!!!
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่นุกน่าอ่านนะ แต่คำวิจารณ์บางอันก็เป็นจิง แต่ถ้าใครอ่านเล่ม 5 ก็จะรู้ว่าเขาได้เริ่มปรับปรุบให้สมบูรณ์ขึ้นนะ พระเอกไม่ได้ดังคนเดียวในมหาลัย
ผมคิดว่าถ้าคุณจะลองอ่านดูก็ไม่เสียหายอะไรนะผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง ถึงจะไม่อาจเทียบ แฮรี่ แต่ก็สนุกดีอะ


ขอให้ทุกคนมองโลกในด้านดี มีจิตใจดี คุณต้องได้ดีเสมอ

คนส่วนมากรวมถึงเราอ่านหนังสือเพื่อความสนุก สบายใจของตนเอง เนื้อหาก็ไม่จำเป็นต้องสมจริงนี่นา ก็มันเป็นหนังสือเเนวเเฟนตาซีไม่ใช่หนังสือเพื่อชีวิต
รุ้จักบ้างไหมคำว่าจินตนาการน่ะ

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจแต่หลังๆหนังสืออกมาช้ามากทำให้ขาดความต่อเนื่อง

ตอนนี้เราอ่านแค่เล่มเดียวอยู่ ก็เห็นด้วยกับบางอย่างนะ
แต่ก็มีหลายอย่างไม่เห็นด้วย
แต่ก็นั่นแหละ ของแบบนี้จะมาว่ากันทั้งๆที่ยังไม่จบไม่ได้
ต้องรออ่านจนจบเหมือนที่บอก แล้วค่อยมาวิจารย์ให้แหลกไปข้างหนึ่ง
ส่วนเรื่องเอามาทำเป็นหนังเราก็อยากนะ แต่สำหรับเรานะ เราว่าไม่มีนักแสดงคนไหนเหมาะจะเป็นพอลเลย ไม่ได้ดูถูกนะ แต่เราว่าหน้าตาพอลคงหล่อมาก ไม่ก็ดูดีมากๆ แล้วก็ทั้งเฟริส รีเมียส โนอาร์ หรือแม้แต่โทนี่กับอเล็กซ์ เราอยากให้เอามาทำเป็นการ์ตูนแอนนิเมชั่นมากกว่า มันเห็นหน้าตาได้เด่นชัดดี (เราคิดอย่างนั้นนะ)

ปล.สุดท้ายถึงเราจะอ่านเล่มอยู่ก็จริง และตอนแรกเราก็รู้สึกว่าเราไม่ชอบเลย แต่พออ่านไปๆมันก็อินไปเอง
ถ้าจะบอกว่าเรื่องนี้แต่งไม่ดีก็ไม่ใช่ เพราะมีบางเรื่องที่ออกแนวแฟนตาซีที่เราเคยอ่านแย่กว่า แต่ก็ใช่ว่าจะดีซะทีเดียวเพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เราอ่านแล้วเห็นว่ามันดูดีกว่า อ่านแล้วรู้สึกอินกว่า แต่ด้วยวัยของ ดร.ป๊อปตอนเริ่มแต่งยังอายุไม่มาก (แค่ 14 เอง) แต่แต่งหนังสือได้ดีขนาดนี้ก็นับว่ามีจินตนาการที่ไปไกลกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

***แล้วก็อีกอย่างนะ มีคนบอกว่า ดร.ป๊อปหยิ่ง เราก็ไม่เคยเจอตัวจริงเลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่ถึงหยิ่งก็มีหนังสืออกมาให้เราได้วิจารย์แทนแล้วก็คงพอจะหักลบกันได้บ้าง เราคิดอย่างนี้อะนะ***

ยังไงก็ดีใจที่มีคนอ่านนิยายแฟนตาซีของเด็กไทยด้วยกัน

ขอให้สนุกกับการอ่านนะ
(อย่าเครียดเมื่อเริ่มอ่านหนังสือ คิดซะว่าไปเที่ยวก็แล้วกัน แล้วจะสบายใจเอง เราเชื่ออย่างนั้นนะ)

อย่างที่มีคนบอก เราเห็นด้วยที่ว่า หัวขโมยแห่งบารามอส สนุกกว่าหลายเท่า แล้วเราก็คิดว่า Rabbit แต่งเรื่องนี้ได้ดีกว่าหัว The White Road หลายเท่า รึอาจจะคนละชั้นกันเลยก็ได้นะ เพราะว่าตั้งแต่บทขึ้นต้นแล้วมันอ่านแล้วชวนตื่นเต้น น่าติดตาม เร้าใจดี แล้วก็ที่สำคัญมีข้อคิดเด็ดๆเสมอ เราอ่านจบหมดแล้ว ซื้อเก็บหมดทุกเล่มเลยด้วย เราว่านะถ้าเอามาทำหนัง/การ์ตูนคงสนุกพิลึก เพราะเอฟเฟกไม่มากเหอนใน เดอะไวท์โรด แล้วก็ไม่เว่อร์ด้วย
อ่านแล้วฮาดี ใครที่ยังไม่อ่านก็ลองหาอ่านดูนะ เราหนับหนุนอย่างแรง

อ่านดีๆนะ เราเชื่อว่าทุกคนคงอยากอ่านหนังสือที่ตัวเองถูกใจ แล้วเราก็คิดว่า หัวขโมยแห่งบารามอส เป็นหนึ่งในนั้น แต่นั่นแหละนะ มันแล้วแต่ความคิดคนเราอยู่ดี ลองดูแล้วกัน

สนุกมากเลยครับผมชอบมากผมอยากเป็นเหมือพอลจังงะ

ถึงใครๆจะบอกว่าไวท์โรดน่าเบื่อกระไรก้อตามแต่อันแท้จริงการได้อ่านนั้นมันฝึกสมาธิแก่พวกคุณมิใช่หรือค่ะก้ออยากขอแนะนำน่ะค่ะการวิจารณ์ทุกคนสามารถทำได้ค่ะแต่ควรให้พองามน่ะไม่ใช่ออกแนวนี่เพราะบางครั้งคนที่ถูกกล่าวถึงอาจลำบากและเศร้าใจก้อได้น่ะค่ะ
ส่วนหัวขโมยแห่งบารามอสนั้นก้อสนุกดีค่ะสามารถใช้เป็นหนังสืออ่านเล่นและให้ข้อคิดแก่เยาวชนได้เช่นเดียวกันมีข้อดีข้อเสียพอๆกับเดอะไวท์โรดนั้นแหละค่ะแม้จะมีคนส่วนมากนิยมมากกว่าแต่ก้อยังมีข้อผิดพลาดน่ะค่ะ
และสุดท้ายขอฝากทุกๆคนว่าหนังสือทุกเล่มมีคุณค่าแตกต่างกันน่ะค่ะแล้วก็มีข้อเสียมี่ต่างกันด้วยน่ะค่ะ แต่ถึงกระนั้นผู้แต่งหนังสือทุกคนทุกเล่มก็มีประสงคืตรงกันคือ ต้องการให้เยาวชนและทุกคนได้อ่านและตีเอาความหมายดีๆและประโยชนืของมันออกมาใช้ค่ะ

ขอแย้งคุณจิมมัย (คห57) หน่อยนะครับ

การเรียนในฮอกวอร์ตของแฮร์รี่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายครับ จะเห็นได้ว่าตั้งแต่เล่มหนึ่งแฮกริดก็พาแฮร์รี่ไปธนาคาร เพื่อถอนเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเรียน

เราก็ไม่รู้หรอกนะคับว่านิสัยคนไทยเป็นยังไงกันบ้างเพราะมันก็ต้องมีทั้วดีและไม่ดีคนก๋แบ่งออกได้แค่2ประเภทน่ะครับ
1.ก็คือคนที่ดี
2.คนที่ไม่ดี
คนที่ดีหรือที่คนไทยส่วนใหญ่ในสมัยก่อนจะมีเยอะกว่าปัจจุบันะครับ
คนที่ไม่ดีหรือคนที่คนไทยส่วนใหญ่ในแจจุบันจะมีมากกว่าในสมัยก่อน
แต่จะอย่างไรก็ตามในเมื่อขึ้นชื่อว่าประเทศไทยแล้วเพลงชาติเราก็ร้องทุกวันในเพลงก็บอกๆกันอยู่นะว่าประเทศไทยนี้รักสงบแต่ทำไมคนในประเทศช่างเป็นคนที่สิ้นคิดมีแต่ดีแต่ปากแต่ใจมันต่ำไม่ยอมทำตามปากว่าประเทศอยู่ได้ก็เพราะมีความรักที่ดีให้กันอยู่กันอย่างสงบแต่ตอนนี้นั้นหารู้ไม่ว่ามันต่ำลงจะจมดินอยู่เเล้วนะ
แล้วสำหรับคุณ555:และพวกคุณที่ไม่มีจิดสำนึกรักบ้านเกิดมีเวลามากๆที่จะมาเขียนคำด่าคนอื่นเป็นหลายๆหน้าอย่างนี้สู้คุณเอาแรงและปัญญาอันน้อยนิดของคุณไปทำเรื่องที่มันดีกว่านี้จะไหมผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะคิดยังไงปากก็บอกว่ารักวรรณกรรมเป็นวรรณกรรมขยะอย่างนั้นอย่างนี้แล้วคุณดูตัวคุณเองบ้างหรือยังที่ทำตัวเป็นขยะน่ะครับ
คุณค่าของวรรณกรรมไม่ได้ขึ้นที่คนเขียนหรือที่ตัวหนังสือหรือเนื้องเรื่องอย่างเดียวหรอกนะครับแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความตั้งใจตั้งมั่นในสิ่งที่จะทำให้สำเร็จ
....อื้มผมเกือบลืมครับ คนที่มีการศึกษาเขาไม่ใช้วิธีต่ำๆที่จะพยายามด่าว่ากันอย่างนี้หรอกครับอย่าใช้ความคิดอันน้อยนิดของคุณไปตัดสินคนอื่นมันจะทำให้อนาคตของที่เป็นคนในบ้านเกิดของคุณเองไม่ไดนะครับพวกคุณอยากเป็นคนนอกคอกที่อยู่ในประเทศไทยหรอครัย...ไทยนะรักสงบนะเขาไม่ชอบกัดกันเหมือนสุนัขอย่างนี้ครับ

ไอ้พวกทุเรศตัวเองไม่มีทางแต่งด้ายแล้วอย่าดีแต่วิจารณืขอร้อง

สาดคิดอารายอยู่ฟระ พวก...แต่งเองเปงไงแล้ว...ทามรายได้ให้กับตัวเองเปงล้านๆได้มะ ไอ้พวกนี้นิ ยังไม่ได้อ่านแล้วเสือกว่าสัด เรื่องออกจาสนุกควายด่าได้ไงสัดชัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ช่าย เห็นด้วยกัยblogที่71 เรื่องออกจะสนุก พวกคนที่ไปว่าเขาเขียนได้อย่างเขารึปล่าวละ

เรื่อง ไวโรด นะ คับ ผม ว่า ภาค แรก มัน ก็ พอ จะ อ่าน ได้ อยู่ หรอก นะ แต่ พอ ภาค 2 เรื่องน้ำเน่า ผมก็ เป็น พวกหนอน หนังสือ คนนึง ละ คับ แต่ ทำไง ได้ ซื้อ มาแล้ว มัน ก็ ต้อง ซื้อให้ ครบหละ คับ ตอนนี้ ก็ ยัง รอ อยู่ ว่า เรื่องราว มัน จะออกมา แนว ไหน แล้ว จะ มี การ ปรับหรุงอะไร หรือ ไม่ แต่ เท่าที่ ทราบ ตอนนี้ เล่ม ที่ ออก มา ใมห่ นั้น ก็ พอ จะ อ่าน ได้ อยู่ นะ คับ มัน ก็ ต้อง เข้า ใจ ว่า ควม คิด ความ อ่าน ของ แต่ ละ คน มัน ไม่ เหมือน กัน แต่ ตอนนี้ ผม มี หนังสือชุดนึง ที่ ติด ตาม อยู่ เป็น บ้า เป็น หลัง หละ คับ คือ ราชาแห่งราชัน(Lord of the king) เรื่องนี้ ผม ก็ บอก ไม่ได้ หรอก นะ คับ ว่า มัน จะ สนุกสำหรับทุกคนหรือ เปล่า แต่ ผม ก็ คนนึง หละ ที่ จะ อ่าน หนังสือชุดนี้ จน จบ คง ไม่มี อะไรมากกว่านี้อีกแล้วหละคับ ด้วย ความ ปรารถนาดี คับ เพราะ ไม่ใช่ ว่า จะ เชื่อ คำพูด ของ ใคร บาง คน ไป ซะ หมด นะ คับ ต้อง ลอง อ่าน อ่าน ให้ จบ ถึง เล่ม แรก มัน อาจจะ ออกมา ไม่ดี แต่ คน เขียน ถ้า เขา ปรับปรุงได้ ก็ ไม่ ควร ไป ต่อว่า เค้า แต่ ถ้า เค้าปรับปรุงไม่ได้ เรา ก็ แค่ ไม่ ต้อง ไป ซื้อ หนังสือ ของ เค้า อีก มัน ก็ แค่ นั้น

เคยอ่านไวท์โรดเมื่อนานมาแล้ว

โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไรแต่ก็พออ่านได้

สาเหตุหลักที่ไม่ค่อยชอบก็คือนิสัยพระเอก -0-

ถ้าอยากอ่านที่สนุกๆขอแนะนำหัวขโมยแห่งบารามอสกับดิโอเมน ศึกผู้พิทักษ์คัมภีร์มหาเวท

2 เรื่องนี้สนุกมากๆอ่านแล้วไม่ผิดหวังเลย

ชอบนักเรียนไวท์โรดทุกคนเลย

เราอ่านเล่มแรกอยู่นะ เล็งมานานแล้วล่ะ เผอิญทนเสียงวิจารณ์ไม่ไหว ขอพิสูจน์หน่อยว่าเป็นอย่างที่พูดมั้ย (ชอบลองของ)
ยังอ่านไม่จบแต่อ่านแล้วคิดคล้ายๆกับ จขบ. เลยทีเดียว
อย่างแรกเลยที่คนแต่งได้ทำผิดพลาด(สำหรับนักอ่านอย่างเรา)ก็คือ ให้พระเอกมันเก่งเวอร์ๆ หล่อเวอร์ๆ คนกรี๊ดกันเวอร์ๆ จนทำให้เราหมั่นไส้ไปเลยอ่ะ ทั้งๆที่พอลเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็ชักไม่แน่ใจว่าเราหมั่นไส้พอลหรือหมั่นไส้"คนสร้าง"ตัวละครพอลกันแน่ ในเมื่อมันเก่งอะไรจะขนาดนั้นโดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรซักกะติ้ด แล้วตู(คนอ่าน)จะไปลุ้นมันยังไงดีวะ
เพื่อนเราคนหนึ่งเคยบอกว่า การเขียนนิยายสักเรื่อง สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ ต้องทำให้คนอ่าน"รัก"ตัวละครของเรา ถ้าทำได้ก็สำเร็จไปขั้นนึงแล้ว แต่ถ้าทำไม่ได้ก็แย่หน่อย เพราะถึงเรื่องจะสนุกแค่ไหน ก็ไม่อาจทำให้คนอ่านคล้อยตามได้ ซึ่งเราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ชอบพอลซะเท่าไหร่นัก (แต่ก็ยังไม่ถึงกับเกลียด) ตัวละครที่เราชอบมากกว่า คือ เฟริส (หมอนี่เงียบดี)
จริงๆมีเรื่องที่อยากจะวิจารณ์เยอะมากเลย ในเรื่องความไม่สมเหตุสมผลของเรื่องบางอย่าง และเรื่องการใช้ภาษาที่เหมือนจะดีแต่ก็มีจุดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่อยากให้แก้ไข
นี่กำลังคิดอยู่ว่าถ้ายังไงมาเขียนวิจารณ์เองเลยดีกว่า เพราะท่าจะยาว (เดี๋ยวรออ่านจบแล้วค่อยวิจารณ์ทีเดียวเลย)

เราไม่ชอบคอมเมนท์เกรียนๆที่บอกว่า "ตัวเองมีปัญญาเขียนให้ได้อย่างเค้ามั้ยล่ะ" เลยนะ
การวิจารณ์หนังสือสักเล่ม มันจำเป็นต้องเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ถึงจะมีสิทธิ์งั้นหรือ ? ลองเปรียบเทียบกับกรณีที่คุณไปรับประทานอาหารอย่างหนึ่ง(สมมุติว่าเป็นพาสต้าละกัน) ที่ร้านแห่งหนึ่ง แล้วปรากฏพาสต้ามันไม่อร่อยอย่างที่คิด เล้นมันแข็งไป ซอสรสเปรี้ยวเกิน เราในฐานะลูกค้าจะไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อาหารงั้นหรือ ถ้ากุ๊กมันออกมาด่าเราว่า "มีปัญญาทำกินเองมั้ยล่ะ" คุณๆจะทำยังไงกันคะ อ๊าว ก็นี่เราจ่ายตังค์เพื่อได้มา เราจะไม่มีสิทธิ์วิจารณ์หรือไงจ้ะ

ปล. แหมแต่คุณเจ้าของบลอกใช้คำว่าขยะทางวรรณกรรมก็แอบแรงเหมือนกันนา

ถ้าเคยเล่นเกม RPG ญี่ปุ่น จะรู้ว่าไอ้ส่วนดี ๆ ในหนังสือ







มันไปลอกเขามา

ยิ่งเล่มหลัง ๆ ก็พยายามเหลือเกินจะให้เป็นเกมออนไลน์ เลยทำให้หาสาระไม่เจอใหญ่

ถึงผู้รู้ทั้งหลาย ความชอบของคนนั้นแตกต่างกันครับ คนอ่านมีหลายกลุ่ม งานของดร.ป๊อบขายได้กับคนหลายกลุ่ม เช่น เด็กผู้ชายที่ชอบเกมโดยเฉพาะไฟนอลแฟนตาซี ซึ่งอาจจะไม่ใช่เด็กที่ชอบเกมนี้ทั้งหมดแต่จะเป็นคนที่แสวงหาความสนุกที่ไม่ยึดติดกับโลกแห่งความเป็นจริงมากเกินไป งานของ เจ เค เองก็ยังมีสิ่งที่ผิดพลาดมากมายทั้งที่เค้าเป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์เป็นนักเขียนระดับโลก และก็มีคนออกมาวิจารณ์อยู่หลายเรื่องในความไม่สอดคล้องของเนื้อเรื่อง แต่น้อยคนในประเทศไทยที่กล้าวิจารณ์เค้าจริง ๆ เหตุเพราะหนังสือเค้าขายดีระดับโลก แต่กับเด็กอย่าง ดร.ป๊อบ กลับมีคนที่มีความรู้พยายามทำลายเพียงเพราะตนเองมีความรู้แต่มิอาจเขียนหนังสือที่ทำให้คนนิยมได้อย่างแท้จริงได้ เพราะรู้ว่าถ้าเขียนก็ไม่วายต้องขัดกับคำวิจารณ์ของตนเองอยู่ดี งานเขียนก็เป็นศิลปะอย่างนึงครับ ศิลปะไม่มีทางที่จะอยู่ในกรอบแห่งทฤษฎีได้ทั้งหมด จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพียงแต่ความรู้จะทำให้สามารถสร้างเรื่องที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้ แล้วดร.ป๊อบ อายุก็ยังน้อยผมว่าเค้าสามารถพัฒนาตัวเองได้อีกเยอะมาก การให้โอกาสคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า การติเพื่อก่อนั้นคือวิธีการของผู้รู้จริงที่จริงใจ การใช้ความรู้กับประสบการณ์ในการอ่านมาวิจารณ์แบบเสีย ๆ หาย ๆ นั้นไม่ใช่วิถีของนักวิจารณ์ที่ดีครับ คุณต้องมีประสบการณ์ในการลงมือทำ และทำให้ประสบความสำเร็จด้วยถึงจะมาว่าวรรณกรรมใครเป็นขยะ เหมือนคนทำอาหารถ้าคุณไม่รู้จริงถ้าคุณทำอาหารไม่เป็น คุณจะไปวิจารณ์เค้าได้อย่างไร นักชิมในประเทศไทยคุณอาจจะไม่เคยเห็นเค้าทำอาหารแต่รับรองครับทุกคนทำอาหารเป็นแน่นอน นี่แค่ยกตัวอย่าง อย่าใช้สื่ออินเตอร์เน็ตทำร้ายย่ำยีคนที่มีความพยายาม ให้สังคมให้ผู้อ่านในประเทศตัดสินเค้าเองเถอะครับ ถ้าต้องการวิจารณ์ก็ให้วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ การใช้คำว่าขยะวรรณกรรมนั้นผมรับไม่ได้จริง ๆ เหมือนกับการดูถูกผู้อื่นว่าเป็นขยะสังคม ทุกอย่างมันมีเหตุและมีผลในตัวมันเอง ถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน ติติงในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แนะนำสิ่งที่ถูกเพื่อเป็นการติเพื่อก่อ ไม่ใช่พยายามเหยียบให้จม ไม่ให้ผุดให้เกิด คนที่เค้าชอบก็มีอยู่และคิดว่าในเมืองไทยอย่างน้อยคนชอบก็เป็นหมื่นคนแล้วครับ แค่นี้สำหรับนักเขียนรุ่นใหม่คนนึงมันก็ดีถมไปแล้ว ผมแค่ผ่านมา แต่มาสะดุดกับคำว่า ขยะทางวรรณกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรใช้อย่างยิ่งเพราะเรื่อง ไวท์โรด ก็ไม่ได้ไปทำร้ายใคร แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ดีหรือเรื่องที่สมบูรณ์ แต่ก็มีสิ่งที่ดีในตัวมันเอง แค่ช่วยให้มีคนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มมากขึ้นในประเทศซัก 100 หรือ 200 คน ผมก็ว่าเป็นเรื่องดีแล้ว เพราะเด็กไทยไม่ค่อยจะชอบอ่านหนังสือซักเท่าไหร่ เจ้าของกระทู้เองเล่นคำว่า ขยะทางวรรณกรรม คูณก็ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นนักเขียนเหมือนกันครับ อย่าวิจารณ์คนอื่นเลยถ้าหากคุณเองก็ยังไม่ดีพอ

คุณ 555 ครับ ผมสมเพศคุณจริง ๆ ที่เขียนบทความนี้ขึ้นมา แค่บทความสั้นๆ แค่นี้ก็บ่งบอกว่าเป็นคนไร้ความสามารถในการเขียน จิตใจคับแคบ ไร้จินตนาการ คุณอาจจะเป็นนักอ่านที่ดี แต่ไม่มีวันเป็นนักเขียนที่ดีได้ ไม่มีว้นเป็นนักวิจารณ์ที่ดีได้เช่นกัน คุณไม่ได้รู้จริง ไม่มีประสบการณ์ และที่สำคัญคุณเป็นพวกติเพื่อทำลาย เพื่อนผมบอกให้ผมลองเข้ามาอ่านบทความนี้เพื่อให้ผมมาตักเตื่อนคุณว่าอย่าวางรากฐานของการทำตัวเหนือคนอื่นทั้งที่ตัวเองไม่ได้ดีไปกว่าคนที่ถูกว่า ผมคิดและรู้สึกเหมือนเพื่อนผมคือ คำว่า ขยะทางวรรณกรรม ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิใช้กับสิ่งที่ไม่ได้ให้โทษใคร คุณบอกว่า ดร.ป๊อป เขียนไม่ดี ผมไม่เถียง แต่วรรณกรรมที่เกิดขึ้นมามันก็ได้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครอีกมากมายที่อยากเป็นนักเขียน เป็นกระแสที่ดีที่ไม่เคยมีในประเทศไทยในกลุ่มเด็กวัยรุ่นปัจจุบัน ผมอยากจะยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ซักนิด เช่น คุณอยากให้เด็กดื่มนม เพราะเด็กไทยไม่ชอบดื่มนม คุณเขียนบทความชั้นเลิศเป็นบทความที่ดีไม่มีที่ติเพราะหวังให้เด็กอ่านแล้วอยากกินนม แต่เด็ก ๆ ไม่อ่านเพราะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องวิชาการ หรือดูมันไม่น่าอ่านในความรู้สึกของเด็ก แต่มีอีกคนเขียนไม่ได้เรื่องแต่เนื้อหามันโดนใจเด็ก ๆ อ่านแล้วเด็กชอบและเกิดแรงบันดาลใจที่จะดื่มนม ผมถามหน่อยว่าใครกันที่เขียนงานออกมาได้ประสบความสำเร็จ ผมเห็นหลายคนบอกว่ามีคนเขียนดีกว่า ดร.ป๊อปอีกมาก แล้วมีกี่คนที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนทั่วไปล่ะครับ การเขียนให้ถูกต้องให้สมเหตุสมผล และการเป็นนักเขียนที่ดีนั้น มันพัฒนากันได้ครับ ถ้าอีก 10 ปีข้างหน้า ดร.ป๊อปยังเขียนได้ในระดับแค่นี้ตอนนั้นค่อยมาว่าก็ยังไม่สายครับ ขอนะครับ อย่าตัดสินใครแค่คุณได้สัมผัสตัวตนหรือผลงานของเค้าแค่ผิวเผิน อย่าใช้คำว่า ขยะทางวรรณกรรม ทั้งที่ความคิดจิตใจของคุณก็ยังเป็นแค่ ขยะทางสังคม เลยครับ

สวย

ของค่ายนี้เราชอบ เนอร์วาน่า วิกฤตเทวะเรื่อเดียวที่ออกมาในระยะหลังนี้น่ะ

แต่ไวท์โรดเราก็ชอบนะ

เห็นด้วยกับความคิดเห็นของ 79
ไวท์โรดเป็นจินตรนาการของคนๆหนึ่งซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง ไฟนอล หรือเกมส์คอมพิวเตอร์ซึ่งไม่แปลกที่เขาจะมีเนื้อหาเหมือนกับเรื่องพวกนี้เพราะมันคือจินตนาการความคิดที่ได้จากเรื่องพวกนี้
(พวกคุณคงจะเข้าใจ ถ้าคุณดูหนังหรือชอบอะไรเป็นพิเศษก็คงจะจินตนาการที่เหมือนเรื่องที่ชอบเป็นพิเศษ)
มันคือจินตนาการ

ดิฉันอ่นเดอะไวโรดภาคสอง (EVOLUTION) เช่นกัน(ภาคหนึ่งยังไม่ได้อ่าน เพราะหาซื้อหรือเช่าไม่ได้)
การวางโครงเรื่องของเดอะไวด์โรดอาจมาจากบุคลิกลักษณะนิสัยของบุคคลหนึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ ออกมาเป็นบุคลิกลักษณะนิสัยที่ชัดเจนของตัวละครที่แตกต่างกันออกไป เช่น
พอล คือตัวแทนของความอยากรู้อยากเห็น
วอร์ช่า คือตัวแทนของความรักที่จะทำสิ่งหนึ่งๆ
โนอาร์ คือตัวแทนของความกล้าหาญที่จะกระทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกต้อง
เฟริส คือตัวแทนของความเอาจริงเอาจัง ไม่ออมมือและใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองให้ถึงจุดสูงสุด (สาเหตุที่ตัวละครตัวนี้ไม่พูดอาจเป็นเพราะว่า บุคคลนั้นเมื่อใช้บุคลิกของเฟริสอาจไม่ได้พูดคุยกับใครในช่วงนั้น)
แองเจิลคือตัวแทนของการทำความดี
คีตาร์ คือตัวแทนของความสามารถที่แท้จริงที่บุคคลนั้นมีอยู่ในขณะนั้น
ลีโอ คือตัวแทนของพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และออกมาเป็นผลงานของบุคคลนั้น เป็นต้น
ตัวละครแต่ละตัวจะเป็นตัวแทนของบุคลิกของบุคคลหนึ่งที่แสดงออกมาในขณะหนึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์หรืออุปสรรคต่างๆ ผสมผสานจากจินตนาการซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเกมของ ดร.ป๊อป
สาเหตุที่ตัวละครสามารถชนะได้ทุกอย่าง ก็อาจจะเป็นเพราะวาบุคคลนั้นสามารถเอาชนะต่ออุปสรรคหรือเหตุการณ์ที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ในขณะนั้นได้ ด้วยหลักฐาน(ลีโอ) ที่ถูกพิสูจน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและในเวลาที่แตกต่างกัน อาจสามารถชนะต่ออุปสรรคนั้นได้จริง
นี่คือหนึ่งเสียงที่แสดงความคิดเห็น
ต้องขออภัยด้วยถ้ากระทู้นี้ยังอธิบายได้ไม่ดี หรือมีข้อผิดพลาด เพราะดิฉันมีอุปสรรคเล็กน้อยในการอ่านเดอะ ไวด์โรดเช่นกัน (เพิ่งมาเจอเดอะไวด์โรดตอนประมาณเดือนหก จึงหาอ่านได้ไม่ประติดประต่อกันนัก)
กำลังติดตามอ่านดอะไวด์โรดภาคสามเช่นกันค่ะ อยากรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในไวด์โรดเช่นกัน เมื่อไหร่ภาคสามของเดอะ ไวด์โรดถึงจะออกล่ะคะ

ริกกี้คือตัวแทนของความยะโสโอหัง อยากเด่นดัง หรือมีชื่อเสียงด้วยทางที่ผิด

คนที่ว่าเรื่องนี้ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้น่ะคิดว่าตัวเองทำได้อย่างเค้ารึไง มันเป็นวรรณกรรมของคนไทยถ้ารักเมืองไทยก็ต้องสนับสนุนหนังสือของคนไทยสิวะ เป็นคนลาวรึไง ถึงมาว่าเค้าอย่างนี้ มันเป็นจินตนาการของคนคนหนึ่งที่เค้ามีความคิดในการที่ใช้เเรงบันดาลใจจากเกมหรือหนังสือที่เค้าเคยอ่านมาประติดประต่อกันทำให้เกิดหนังสือเล่มหนาๆให้ได้อ่านกัน แล้วที่มาว่าเค้าแบบนี้ลองหันมองตัวเองซะใหม่ว่าทำแบบนี้ได้รึปล่าว
จาก.......แฟนคลับเดอะไวท์โรด

เนื้อเรื่องดีมากๆเลยอ่ะค่ะ อ่านแล้วอยากจะอ่านซ้ำๆเพราะมันตื่นเต้นเหมือนดูหนังแฟนตาซีเลยค่ะ

ติดตามกันนะคะแล้วคุณจะชอบ "เดอะ ไวท์โรด"

เนื้อเรื่องดีมากๆเลยค่ะ เป็นการใช้จินตนาการและแรงบันดาลใจจากการหนังสือแนวแฟนตาซี ถึงจะให้รอภาค3นานแค่ไหนก็จะรอค่ะ

จาก............แฟนคลับของ เดอะไวท์โรด

บางทีผู้แต่งอาจได้รับประสบการณ์จากเพื่อนที่เล่นเกมด้วยกันก็อาจจะเป็นได้นะคะ

อย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องแค่นี้
เดอะไวท์โรด เป็นนิยายที่สามารถมองได้หลายแง่ ซึ่งมันก็แล้วแต่ผู้อ่านแต่ละคน ที่จะสามารถตัดสินใจเองได้ว่าชอบเรื่องนี้หรือไม่ชอบเพราะอะไร และการที่ ดร.ป๊อป ได้แต่งหนังสือเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้ความสนุกสนานและบันเทิงเท่านั้นเอง ซึ่งผู้อ่านจะได้รับหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวของเค้าเิอง เพราะทุกคนจะมีความคิดเห็นไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
อยากให้ทุกคนเข้าใจความรู้สึกของ ดร.ป๊อปบ้างนะคะ

คิดเหมือนข้างบนเลยครับ พวกคุณมีปัญหาไรว่ะ มานั่งเขียนด่าเค้าเนี้ย พวกคุณทำได้อย่างเค้ามั้ย มีปัญญาป่าวว่ะ แมร่ง นั่งพิมพ์มาได้ 7 ข้อ บอกมีอีก 93 พวกคุณทำให้อย่างอย่างเค้าดิ ผมอ่านแล้วผมชอบ มีคนชอบมากมาย เค้ายังไม่วิจารณ์พวกไม่ชอบเลย นี่อะไรว่ะ มานั่งวิจารณ์ ดร.ป๊อป เห็นแล้วแค้นแทนว่ะ เค้าเขียนให้อ่านดีๆ ก็อ่าน ไม่อ่านก็เลิกอ่านไม่ต้องมาวิจารณ์แรงๆแบบนี้ พ่อแม่เคยสั่งเคยสอนมั๊ย มารยาทอ่ะ มีกันป่าวว่ะ

อืม ถึงเจ้าของบล็อกอ่ะนะ
จริงๆแล้วอ่ะ หนังสือทุกเล่มมันก็มีคุณค่าอยู่ในตัวของมัน
ไอ่การที่จะมาว่า หนังสือนี้ดี
หนังสือนี้ไรแก่นสารอ่ะนะ
เราก้อไม่ได้ว่าไรหรอก ซึ่งนั่นเป็นความคิดความเหนของเทอถูกมะ
เทอวิจารณ์ได้ดีเราชมนะ เราเองก้ออ่านไวท์โรดมันทุกเล่มแร้ว เท่าที่มีออกขายเนี่ย เราก้อว่า "เออ ไอ่พระเอกนี่มันช่างเพอร์เสียจิง" "และเหมือนว่าตัวอื่นๆไร้น้ำยา ทั้งๆที่มีพลังเหมือนกัน" แต่เราก็ชอบไวท์โรดมากพอๆกับเล่มอื่นๆ เพราะว่าอะไรนะหรอ จินตนาการไง คนเขียนวางบทไว้ได้ดี มีหักมุม พลิกล็อก ค้นหา น่าติดตาม รักกุ๊กกิ๊ก มันมีทุกอารม แล้วก้อตัวละครแต่ละตัว มีบุคลิกชัดเจนมาก ซึ่งถ้าอ่านแล้วจะเปรียบได้ว่า ตัวละครนี้ เหมือนใครที่เธอรู้จัก
ดร.ป๊อบ เริ่มเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่อายุ 14 ใช่ เขาอาจไม่ได้อ่านหนังสือมากมาย การบรรยายเขาจึงไม่รื่นหูรื่นตานัก มันก็พอเหมาะมือกับนักเขียนระดับสมัครเล่น เหมาะกับวัยของผู้อ่าน ซึ่งส่วนมากเป็นเด็ก และเป็นผู้มีจินจนาการและชอบจินตนาการ ไวท์โรดเรื่องนี้อ่ะนะ เราว่าเปิดวิสัยทัศน์ของใครหลายๆคนได้มากเลยล่ะ ไม่ว่าการใช้ภาษาที่ง่ายๆ แต่ก็ดูไม่น่าเกลียดเกินไปนัก การวางพล็อตที่ดี ความเหมาะสม การดำเนินเรื่อง

แต่ในการนั้นอ่ะ หากเธอจะลองอ่านอย่างไร้อคติมั่ง(ไม่คิดว่าไปลอกเค้ามาอ่ะ เราเองก้อเล่นก้อดู ไอ่หนังไอ่เกมที่เธอว่าอ่ะนะ ยิ่งลอร์ดนี่อ่านสิบกว่ารอบ อ่านปฐมบทก่อนเดอะลอร์ดด้วย) เทธก้อจะพบว่า "เอ้อ จริงๆแร้วไอ่พระเอกมันก้อไม่ได้เก่งนี่หว่า มันก้อมีแพ้ มีทำไม่เป็น มีโง่มั่ง"
ไม่มีใครดีไปทุกอย่างหรอก ไม่ว่าพระเอกเรื่อง หรือคนเขียน ทุกคนมีข้อบกพร่องเปนของตัวเอง รวมทั้งเรา รวมทั้งเธอ
ยังไงซะ มันก็ยังดีกว่าหนังสือแฉเซ็กของพวกดาราหรือแนวรักๆใคร่ๆ ไม่ค่อยจรรโลงสังคมไม่ใช่หรอ ในความคิดของเรานะ ไวท์โรดนี้สรรสร้างกว่าตั้งเยอะ
เนอะ

ชอบคอมเม้นของคุณlibra วิเคราะห์ได้เฉียบ ฉันชอบคีตาร์กะโนอาร์นะ แกร่งจัง

น่าสงสารคนเขียนเค้านะ แต่ก็สนุกดีตอนเล่มน่าคงมีพัฒนาการมากกว่านี้มั้งรออ่านภาค 3 อยู่นะ รีบรีบออกสักที นานมากแล้ว

สนุกมากจากที่อ่านมา 100กว่าเรื่องชอบมากแน่จิงไอ้คนวิจารไปแต่งแข่งกับเขาดิ แล้วจะรู้ว่าตัวคุณเองโง่แค่ไหน

ไอ้คนแรกที่วิจารน่ะ สมองใช้ไรคิดอ่ะ คนเขามีความสามารถ ยังกะตัวเองทำได้งิ อิอิ

ผมว่ามันก็สนุกดีนะ ไวท์โรด น่ะ ดร.ป็อปก็ถือว่าแต่งได้ดีในระนึงในภาคแรกนะ พอมาถึงภาคสองรู้สึกจะหนักไปทางคดีถึงยังไงก็สามารถผูกปมได้ดีกว่าภาคแรกเอามากๆ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของตัวละครก็ดูโดดเด่นมากขึ้น

ถึงยังไงผมก็รอภาค 3 อยู่นะคร้าบ

ก็สนุกดีนะ คนไทยแต่งก็สนับสนุนเค้าหน่อยอย่ามัวไปหลงของนอก

เกลียดคนว่าไวโรดเป็นขยะวรรณกรรม

มี 2 ข้อคิดมาฝากครับ
1) ผมเห็นแล้ว ผมคิดถึงหัวข้อเก่าๆ ในขายหัวเราะเรื่อง
"ฝรั่งวิเคราะห์คนไทยมี 4 ขี้"
1. ขี้เกียจ
2. ขี้โอ่
3. ขี้โกง
4. ขี้อิจฉา
อย่าให้เป็นอย่างนี้เลยนะครับ

2) ผมไปเข้าค้นเว็บแล้วดูสิครับว่าผมหาเจออะไร

If A is success in life, then A equals x plus y plus z. Work is x; y is play; and z is keeping your mouth shut. – Albert Einstein

ถ้า A คือความสำเร็จในชีวิต เช่นนั้นแล้ว A เท่ากับ X+Y+Z เมื่อ X คือ ทำงาน Y คือ เล่น และ Z คือ การทำให้ปากของคุณปิดสนิท

ใช้ข้อคิดนี้ให้เป็นประโยชน์บ้างนะครับ

ผมว่า ถ้าเราจะอ่านไวท์โรดควรอ่านด้วยตัวเอง(หนังสือ) ไม่ต้องอ่านคำวิจานของคนไม่ชอบไวท์โรด เพราะว่า
ถ้าเราอ่านเองเราจะได้รู้ความจริงกว่าว่าสนุกไม น่าอ่านไ
ไม่ใช้ฟังคำวิจานของคนอื่นแล้วเราไม่อ่าน แล้วอีกอย่างคนที่ไม่ชอบอ่านแล้ววิจานเค้า จะแต่งได้ดีกว่าคนเขียนไวท์โรดหรือปล่าว หรือ มีอคติกับไวท์โรด ข้อนี้ก็อย่ามา
วิจานเสียกำลังใจคนกำลังจะซื้อหรืออยากจะอ่านดีกว่า
(ถ้าแรงไปก็ขอโทษคับ)

ง่า เม้น ก็ เม้น ค่ะ
555+

โดนใจมากมายค่ะ เราก็อ่านแต่จบจริงๆแค่ 2 เล่มแรกกับเล่ม3 แบบผ่านๆ เพราะเบื่อ แต่ก็ตามซื้อมาตลอดด้วยว่่าไหนๆ เคยซื้อแล้วก็ให้มันครบๆ แต่สุดท้ายไม่ได้อ่านเลย เกลียด พระเอก ทำใจอ่านไม่ได้ คนอะไรเพอร์เฟ็กซะเว่อร์ จนตอนนี้เลิกซื้อแล้วตั้งแต่ภาค 2 ออมา 5 เล่ม เนื้อหาไม่มีอะไรเลย เลยเลิกอ่ะค่ะ พอดีเจอบทความนี้อ่านแล้วโดนใจจริงๆแหะ

ก็คิดเหมือนกันนะว่า เริ่มแต่งเรื่องใหม่ซะดีกว่า อยู่แต่กับอะไรเดิมๆมันแก้อะไรก็ไม่ได้แล้ว

ตอนนี้ติด นาคราชา มากๆ อาจคนละแนว แต่สนุกมาเลยนะคะ คนเขียนบารามอสแต่ง แต่ฉีกแนวมาก บรรยากาศซีเรียส ทึมๆ แต่ก็คงความเป็นเอกลักษณ์ของภาษาไว้ ความเห็นส่วนตัวคือ ดีกว่าบารามาอสอีก เพราะพล็อตลงตัวเป็นเรื่องเป็นราวเป็นปริศนามากมาย โดยเฉพาะวาจาเฉือนคนชวนปวดหัวนี่ มีเสน่ห์มากมาย อย่างอยากที่จะแนะนำวรรณกรรมดีๆ สีกเรื่อง ค่ะ

พี่ป๊อป เป็นกำลังใจให้ .... ใครจะมาด่าว่าไงเนียะช่างเขา

เราเป็นตัวเราเดินตามแนวทางของเราเป็นดีที่ สุด

ผมเองกะน้องชายผมชอบมาก สนุกมากๆ

ผมเคยโทรไปที่บ้านพี่ป๊อปอยากจะบอกว่าที่บ้านพี่ป๊อบโอเคมากคุยสนุกแต่ยังไม่เคยคุยกับพี่นระบอกได้ว่าครั้งนั้นง่าวมากเพราะโทรไปถามว่าเมื่อไหร่เล่มภาค2เล่มล่าสุดจะออกอยากอ่านแล้วแม่พี่ป๊อปบอกว่าวางแล้ววางวมาได้2วันแล้ว

555+++วันนั้นหน้าแตกเลย

พี่ป๊อปสู้เขา อย่าไปสนพวกเห่าหอนเลย

ฝากไปถึงพวกเห่าหอนนะ คุณไม่ชอบก็อย่าด่านะครับมันจะเสียกำลังใจคนแต่ง

เขามีแต่ติเพื่อก่อนะ ไม่ใช่มาด่าสร้างความรำคาญแบบนี้

มันไม่ได้แสดงถึงการเป็นคนมีการศึกษาอะไรเลย หนำซำคุณนั่นแหละที่แสดงความง่าวออกมา

ทำไมต้องว่าแรงด้วย ตอนเขียนเพิ่งอายุ14 เองได้แค่นี้ก็ดีแล้ว

จริงๆแล้วการที่บอกว่า ดร.ป๊อป ลอกจากการ์ตูนดราก้อนบอลมา มันก็ไม่ค่อยจะถูกเท่าไหร่นะคะ ก็ในเมื่อ ดราก้อนบอล เป็นการ์ตูนที่ ดร.ป๊อป ชอบ ดังนั้นเค้าก็น่าจะมีจินตนาการที่คล้ายๆกับการ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้ เพราะขนาดเราเองยังชอบเรื่องดราก้อนบอลเลยอ่ะค่ะ

เรื่องไวท์โรดส่วนที่คล้ายดราก้อนบอลก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยก็เพราะว่าเค้าชอบดราก้อนอยู่แล้ว ส่วนคนที่คัดค้านทั้งหลายจะแต่งได้แบบเค้ารึเปร่าว สู้เอาเวลาที่มานั้งว่าเค้าไปลองแต่งแบบเค้าบ้างสิ

~~^O^V

อยากได้มือถือฟรีมั้ย คลิกสิ
//FreeMobs.co.uk/index.php?referral=48645

อยากอ่าน The White Road Spirit จัง เห็นว่าตอนนี้ออกมาได้หลายเดือนเเล้ว ใครอ่านแล้วเล่าให้ฟังบ้างสิคะ
อีกอย่างนึง ตอนนี้รอวันที่ 11 ธันวา อยู่นะคะพี่ป๊อป

ประเทศไทย คนไทย สอนให้เด็กรักการอ่าน การคิดเป็น เมื่ออ่านเยอะๆ ก็จะทำให้เกิดความรู้ เกิดความคิด แต่ทำไม บางคนถึงคิดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ส่งเสริมการอ่านหนังสือกันทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าอ่านแล้ว ทำให้ความคิด จิตใจแคบ ก็ไม่สมควร ที่จะเรียกว่าคนมีความรู้ สำหรับ บุคคลที่ตั้งใจทำสิ่งใดซักอย่าง ย่อมต้องการกำลังใจ ลองถามตัวเองว่า ถ้าหนังสือเล่มนั้น เป็นงานเขียนของคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร ประเทศไทย อยากให้คนไทยรักกัน สามัคคีกัน ต้องการความสงบสุข ขนาดแค่งานเขียน ยังเกิดความคิดที่ขัดแย้ง (ไม่ใช่จะเกิดไม่ได้ แต่ความคิดที่ขัดแย้ง ก็น่าจะมีคำพูดที่รักษาน้ำใจกัน) ถ้าเราไม่เริ่มรักกัน ไม่เริ่มสามัคคีกัน ไม่ลองเริ่มจากตัวเราก่อน ก็ไม่ควรหวังว่า ประเทศชาติจะสงบสุข แค่เรื่องเล็กน้อย ลองคิดแบบใจกว้าง ก็จะทำให้คุณได้ใจจากใครๆ กลับมา

อ่านไปแล้วรู้สึกเว่อร์ เนื้อเรื่องที่บอกว่าตัวเอกเก่งซะเต็มประดามันทำให้เบื่อยังไงไม่รู้ เป็นเพราะในเมื่อมันเก่งแล้วก็เลยไม่มีพัฒนาการใดใด แล้วเราเป็นพวกที่ชอบอ่านเรื่องประมาณว่าตัวเอกอ่อนสุดๆมาพบเจอกับการฝึกฝนสุดโหดอะไรเถือกนี้ แล้วถึงเก่งได้ มันทำให้รู้สึกถึงการพัฒนาของตัวละคร ทำให้รู้สึกอยากติดตาม เราอ่านไวท์โรดไปสองเล่ม อยากจะบอกว่าไม่ใช่แนวเราเลย แต่เราอ่านเพราะอยากรู้ว่าเป็นยังไงถึงได้ดังระเบิดระเบ้อ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้เกิดอารมณ์สักแต่ว่าอ่าน อย่างที่ไม่เคยเกิดกับเรื่องไหนที่เคยอ่านมาก่อนหน้านี้ แต่ว่าเดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีวรรณกรรมแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้วด้วยสิ
รู้งี้เอาเวลาไปหานิยายของพี่ เคียว(ลวิตร์) หรือ พี่ฯคีตกาล มาอ่านให้หมดทุกเล่มดีกว่า
ปล.เราชอบนักเขียนสองท่านนี้มาก
บ่นมาซะยาวเลยแฮะ

ขอต่อจากข้างบนนะ ลองอ่านดูๆจากความคิดเห็นข้างบนๆดูแล้ว ที่บอกว่าสงสารต้นไม้กันน่ะ เราว่าเกินไป นิยายทุกเรื่องสะท้อนให้ให้ในมุมมองๆหนึ่งกันทั้งนั้น คนเราไม่เหมือนกัน ถึงเราจะอ่านแล้วบอกว่าไม่โดนใจ แต่อาจจะไปสร้างความประทับใจให้คนอื่นก็ได้

เราได้เห็น ด.ร. ป็อปตัวจริงแล้ว (ไม่ได้โกหก)เพราะว่า
ด.ร. ป็ปมาที่โรงเรียน หล่อมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนแรกนะคิดว่าจะแต่งตัวมาเหมือนพวกไฮโซแต่ว่าแต่งตัวธรรมดา (เสื้อยืด วันทูคอล กางเกงยืน ถ้าจำไม่ผิด)แหม่มาทั้งทีบริจาคหนังสือตั้ง 24 เล่ม อีกอย่างดูเป็นกันเองมากแถมมากับน้องสาวอีกตั้งหาก (น่ารักชิบ)รู้สึกว่าน้องน่าจะชื่อ ปิง นะ

ผิดแล้วล่ะกอล์ฟ ---
น้องสาวของ ดร.ป๊อป ชื่อ ปิ๊ง นะจ๊ะ แต่ ดร.ป๊อป เรียก ปิ๊งกิ จ้ะ เจ๊ไปได้ยินมาจากไหน อ้อ ถ้ามีไรจะเคลียร์เชิญได้ทุกเมื่อ (เพราะเราอยู่ห้องเดียวกัน 555+)
แต่ว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวา ดร.ป๊อป หล่อจริงๆนะ

ใครอ่าน The White Road Spirit แล้วบ้าง เราอ่านแล้วนะ แต่รู้สึกว่ามันจะไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอ่ะ ถ้าอ่านแล้วช่วยแสดงความคิดเห็นตอบกันด้วยนะคะ

ดิฉันไม่รู้จักหรือพบกับ Dr.Pop ด้วยส่วนตัว
เพียงแต่เป็นผู้อ่านหนังสือเรื่อง เดอะ ไวด์โรด แต่เหมือนการกระทำของดิฉันที่เคยกระทำไว้ในเว็บไซด์ //www.Thaibg.com ทั้งที่เป็นความบังเอิญ
ชื่อโอเป็นชื่อที่ดิฉันแนะนำตัวในwww.thaibg.com
จึงสรุปคำถามท้ายเล่มของเดอะ ไวด์โรดตามการกระทำของตนเอง
โอจะเป็นเสียงหนึ่งที่แสดงความคิดเห็น เป็นหนึ่งในเดอะ ไวด์โรดแฟนคลับ กับกำลังใจจนสิ้นสุดลมหายใจ
ฝากข้อความนี้ถึง Dr. PoP ผู้แต่งเรื่องเดอะ ไวด์โรดค่ะ
แหม ... ยังไม่ได้เมลของ Dr. PoP เลย...หมุบหมิบ
ปล. โอไม่เคยอ่านไวด์โรด ภาคที่ 1 กับ เดอะไวด์โรดสปิริท เพราะถูกสั่งห้ามจากเบื้องบน ขัดคำสั่งไม่ได้เสียอีก
ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับเดอะ ไวด์โรด ติดต่อมาคุยกันได้นะคะที่เมล mamalade_lemonzaa@hotmail.com ค่ะ

ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับเดอะ ไวด์โรด นั้น
การวางโครงเรื่องของเดอะไวด์โรดอาจมาจากบุคลิกลักษณะนิสัยของบุคคลหนึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ ออกมาเป็นบุคลิกลักษณะนิสัยที่ชัดเจนของตัวละครที่แตกต่างกันออกไป เช่น
พอล คือตัวแทนของความอยากรู้อยากเห็น
วอร์ช่า คือตัวแทนของความรักที่จะทำสิ่งหนึ่งๆ
โนอาร์ คือตัวแทนของความกล้าหาญที่จะกระทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกต้อง
เฟริส คือตัวแทนของความเอาจริงเอาจัง ไม่ออมมือและใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองให้ถึงจุดสูงสุด (สาเหตุที่ตัวละครตัวนี้ไม่พูดอาจเป็นเพราะว่า บุคคลนั้นเมื่อใช้บุคลิกของเฟริสไม่ได้พูดคุยกับใครในช่วงนั้น)
แองเจิลคือตัวแทนของการทำความดี
คีตาร์ คือตัวแทนของความสามารถที่แท้จริงที่บุคคลนั้นมีอยู่ในขณะนั้น
ลีโอ คือตัวแทนของพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และออกมาเป็นผลงานของบุคคลนั้น
ริกกี้คือตัวแทนของความยะโสโอหัง อยากเด่นดัง หรือมีชื่อเสียงด้วยทางที่ผิด เป็นต้น
ตัวละครแต่ละตัวจะเป็นตัวแทนของบุคลิกของบุคคลหนึ่งที่แสดงออกมาในขณะหนึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์หรืออุปสรรคต่างๆ ผสมผสานจากจินตนาการซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเกมของ ดร.ป๊อป
สาเหตุที่ตัวละครสามารถชนะได้ทุกอย่าง ก็อาจจะเป็นเพราะว่าบุคคลนั้นสามารถเอาชนะต่ออุปสรรคหรือเหตุการณ์ที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ในขณะนั้นได้ ด้วยหลักฐาน(ลีโอ) ที่ถูกพิสูจน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและในเวลาที่แตกต่างกัน อาจสามารถชนะต่ออุปสรรคนั้นได้จริง
- สตาร์กับสกายคือ หัวใจสองดวงซึ่งเป็นพลังของพอล ที่พอลค้นพบมันด้วยตนเอง เมื่อรวมพลังกัน สามารถชนะอากาเซียได้ (ชนะนิวตรอนกับ? ต้องประกอบด้วยหลายอย่าง แต่หัวใจสองดวงนี้คือพลังหลักในการเอาชนะนิวตรอนกับ?) อ้างอิงจาก พอลค้นพบสตาร์กับสกายในการฝึกซ้อมกับเซอร์ เจมส์ มิสตี้ และมีชีวิตอยู่จนครบเวลาที่กำหนดได้ ซึ่งเกมนี้มี 6 คนที่มาถึงที่นี่ แต่ไม่รอด (move) ซึ่งพอลมาที่นี่พร้อมกับลีโอ และลีโอเป็นคนนำทางมา (หลักฐาน)
- พอลใช้พลังของสตาร์กับสกายแน่นอน และด้วยความช่วยเหลือจากลีโอ เพลตัน ทำให้ทุกคนใช้หัวใจสองดวงนี้ได้ (อ้างอิงจากการดึงเอาหัวใจของพอลดวงหนึ่ง ชื่ออะไรไม่รู้จำไม่ได้ ให้สปาดาคัส ซึ่งถ้าหากทุกคนได้ใช้หัวใจ 2 ดวงก็ตั้งกองทัพได้)
- แต่พอลจะได้ใช้มันด้วยตนเองในโลกอากาเซียหรือเปล่า?
- ทำไมจีร่าถึงบอกว่าลีโอฆ่าพ่อ เพราะว่าไม่ใช่จีร่า (ทำด้วยตนเอง) แต่เป็นคอมพิวเตอร์(เกม)
- ลีโอยอมรับว่าฆ่าพ่อของจีร่าทั้งที่ตนเองไม่ได้ทำ ก็เพื่อใครก็ตามค้นพบสตาร์กับสกาย
- เฟริสไม่ตายหรอก เฟริสจะตายได้อย่างไร ก็(คน)รักออกมากขนาดนี้ แต่อีกชื่อน่ะ ไม่แน่
- ในอดีต เฟริสไม่เคยพูดคุยกับใคร ปัจจุบันน่าจะมีบทพูดบ้างนะคะ
- ทำไมต้องเป็น “สงครามกลับตาลปัด” (งง)
- ฉากที่พอลกับวอร์ช่าติดตามการปรากฏตัวของหญิงแก่ลึกลับ ไม่ได้อ่าน (ไม่ได้อ่านภาค 1)
- อูร่าสารภาพว่าเป็นคนฆ่าจาคอบ นิวตรอน แต่จีร่า นิวตรอนบอกว่าลีโอ เป็นคนฆ่าเพราะ ไม่ใช่จีร่านิวตรอนตัวจริง (ไม่ได้ทำด้วยตนเอง) แต่เป็นคอมพิวเตอร์ (เกม)
- ลีโอยอมรับว่าเป็นคนฆ่า ก็เพื่อใครก็ตามจะสามารถค้นพบหัวใจสองดวงที่ทำให้ชนะ (สตาร์กับสกาย) สงคราม
- พอล (ความอยากรู้อยากเห็น) มาพบและศึกษาช้ากว่าผู้อื่น จึงใช้วิธีการลัดโดยการฝึกกับอัลฟ่า เบต้า และแกรมม่า (คอมพิวเตอร์) โดยมีลีโอ (มีหลักฐานบ่งบอกว่าฝึกกับคอมพ์จริง ถ้าลีโออยู่ที่ไหน เหตุการณ์นั้นคือ มีหลักฐานที่พิสูจน์ความจริงให้ผู้อื่นพิสูจน์ได้ โดยมีหลักฐานยืนยัน) โดยใช้เซอร์เจมส์ มิสตรี้ (คือ ตัวแทนของวิธีการที่พอลกำหนดขึ้นเพื่อจะใช้ค้นหาสตาร์กับสกาย คือ หัวใจสองดวงที่ส่งผลให้ชนะได้ในทุกๆสถานการณ์)
- สตาร์กับสกาย (คือ หัวใจสองดวงที่ส่งผลให้ชนะได้ในทุกๆสถานการณ์) เกี่ยวข้องกับความทรงจำของพอล (ความอยากรู้อยากเห็น) เพราะเป็นวิวัฒนาการของพลัง (การวิวัฒนา วิธีการสำคัญสองสิ่งที่พอลเคยใช้เอาชนะในสงครามภาคที่ 1 (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต) ข้อนี้คือการตั้งสมมุติฐาน เพราะฉันไม่ได้อ่าน เดอะ ไวด์โรดภาค 1
- เซอร์เจมส์ มิสตรี้ (คือ วิธีการที่ความอยากรู้อยากเห็นกำหนดขึ้นเพื่อจะใช้ค้นหาหัวใจสองดวงที่ส่งผลให้ชนะได้ในทุกๆสถานการณ์) ไม่ใช่คนธรรมดา หมายถึง การถูกยอมรับจากผู้อื่นว่า วิธีการที่ความอยากรู้อยากเห็นกำหนดขึ้นเพื่อจะใช้ค้นหาหัวใจสองดวงที่ส่งผลให้ชนะได้ในทุกๆสถานการณ์นั้น ทั้งที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะค้นหาเคล็ดลับที่จะทำให้ตนเองมีผลลัพท์เป็นผู้ชนะคนอื่นๆ (ทีมฮีโร่คนอื่น) ได้อย่างไร นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายที่จะได้รับผลลัพธ์ที่จะรู้ในทันทีว่าเคล็ดลับอันนั้นคืออะไร จึงมีการกำหนดวิธีการเพื่อหาเคล็ดลัพธ์ที่ส่งผลให้ตนเองชนะได้ในทุกๆสถานการณ์ (เซอร์เจมส์ มิสตรี้ ไม่ใช่คนธรรมดา) ที่จะส่งผลให้ค้นพบเคล็ดลับได้ในวิธีการหนึ่งเพียงวิธีการเดียวก็สำเร็จ
- ริชาร์ต ฟลอเรนซ์ และไอซ์ คือ ตัวแทนของคู่แข่ง ที่พอล (ใช้บุคลิคความอยากรู้อยากเห็น เพื่อทำสิ่งใหม่ๆ อธิบายอย่าคร่าวๆ) พัฒนาตนเอง จนประสบความสำเร็จในผลงาน
- แองเจิล คือ ตัวแทนของ การกระทำความดี
- ในการแข่งขันระหว่างทีมฮีโร่โดยมีตัวแทนฝั่งละสี่คน
โดยที่ เฟริส คู่กับไอซ์ (ใช้บุคลิกของความเอาจริงเอาจัง ไม่ออมมือและใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองให้ถึงจุดสูงสุด เอาชนะคู่แข่ง)
วอร์ช่า คู่กับ ฟลอเรนซ์ (ด้วยความรัก จึงทำให้เกิดการพัฒนาของวิธีการที่จะเอาชนะ โดยใช้วิธีการที่จะทำให้เสมอกันกับคู่แข่ง)
พอล คู่กับ ริชาร์ต (ความอยากรู้อยากเห็น อยากพัฒนาตนเอง และริเริ่มสิ่งใหม่ จึงทำให้ได้ใช้ทักษะการคิดและเกิดการเรียนรู้วิธีการใหม่ขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจ สังเกตว่าพอลไม่ได้ใช้สตาร์กับสกายที่พอลรู้วิธีการใช้ เพื่อให้ตนเองชนะ แต่ใช้เพียงแค่สิ่งๆเดียว เพื่อเอาชนะคู่แข่งในเหตุการณ์นี้)
- จับตาดูเฟริสกับไอซ์ให้ดีๆ เพราะสองคนนี้มีบทบาทสำคัญในไวด์โรดภาค 3 (เพราะเป็นเหตุการณ์ และผลลัพธ์จากการกระทำของสองคนนี้คือจุดเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องราวในอดีต)
ถ้าหากว่าเนื้อเรื่องเป็นไปตามนี้จริง ถูกต้อง พอลจะต้องเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีสิ่งที่เฟริสใช้ประลองกับไอซ์ ในวันงานกีฬาประเพณีระหว่างไวด์โรดกับแอพลิเคท สิ่ง(ที่ครั้งหนึ่งฉันเคยปฏิเสธที่จะเก็บมันไว้) นี้ ฉันตามหาอยู่และยังต้องการ (ส่วนสิ่งอื่นครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว)
สิ่งที่ฉันตามหาในตอนนี้คือตัวตนและการกระทำของตนเองในอดีต ที่แก้ปัญหา และใช้วิธีการรับมือกับเหตุการณ์และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ที่ได้กระทำลงไปใน //www.thaibg.com
ติดต่อได้ mamalade_lemonzaa@hotmail.com
สุดท้าย ขอบคุณเว็บบอร์ด ผู้ที่สนใจและผู้ตั้งกระทู้ ถ้าไม่มีเว็บบอร์ดเกี่ยวกับ เดอะ ไวด์โรด ฉันก็คงแสดงความเห็นไม่ได้

เอ้อ ... และชื่อ libra โอ register เป็นชื่อแรกที่โอใช้เล่น OT เป็นชื่อแรกที่ใช้บุคลิกความเอาจริงเอาจัง ไม่ออมมือและใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองให้ถึงจุดสูงสุด
แต่บันทึกหมากใน //www.thaibg.com มีปัญหา ทำให้บันทึกหมากก่อนปี 2003 หายไป
และบันทึกหมากกระดานที่ 4 ของโอเหมือนกับการต่อสู้ของเฟริสและไอซ์ ในงานกีฬาประเพณีระหว่างไวด์โรดและแอพพลิเคท เป็นกระดานสุดท้ายก่อนที่โอจะเลิกเล่น OT ในอดีต เนื่องจากเกิดปัญหาการแบนขึ้น

อ่านมาสองภาคแล้วสนุกดีค่ะ แต่ไม่ชอบเล่ม 2.5 เลย เพราะเนื้อหาจะแอบรุนแรงไปนิดนะ ช่วงนี้คนแต่งคงรู้สึกกดดัน เนื้อหาเลยออกมารุนแรง
พยายามนะคะ ถึงแต่งจบแล้วแต่หนังสือยังมีคนอ่านตลอดไปอีก อยากให้เป็นหนังสือที่ดีค่ะ ที่เหมาะกับเยาวชนอ่าน
สู้ๆ

อ่านทุกเล่มแล้วหนุกดีค่ะ ชอบมากๆ

ในเรื่องนี้มันมีหลายแง่นะ ที่คนแต่งเขาแต่งให้พระเอกดีเลิศเพราะเขาคงอยากให้มันออกแหวกแนวหน่อยอะ เพราะในนิยายอะไรๆก็ให้ตัวเอกต่ำต้อยทุกที่ ใช่ว่าพอลจะประสบความสำเร็จทุกเรื่องนะ อย่างว่าเจ้าของบล็อกเป็นได้แค่นักอ่านแหละ เขาไม่มีวันเป็นนักเขียนได้หรอก เพราะเขาไม่เข้าใจความรู้สึกของคนเขียน ถึงแม่เขาเป็นบ.ก.เสียเอง ก็ไม่เห็นเป็นไร แม่คนไหนก็อยากส่งสริมลูกตัวเองทั้งนั้น แล้วที่คุณว่าเขาเขียาดูถูกเพศแม่น่ะ เขาคงมีเจตนาให้อ่านแล้วขำๆมากกว่า ไม่ใช่จะดูถูกหรอก

เป็นยังไงผมอ่านแล้วแต่ผมชอบแฮร์รี่มากว่าอะ

เอ่อ ไงดีละอยากจากบอกว่าเจ้าของบล็อกนี้ก็ไปลอกคนอื่นเค้ามาเหมือนกัน แล้งยังมาว่าคนอื่นอีกและข้างบนเอานิยายไทยไปเปรียบต่างชาติได้ไงอีกอย่างหนึ่งนะตอนแรกของบารามอสก็ออกแนวแฮร์รี่เหมือนกันนะ แต่ก็ขอแนะนำนิยายอีกเรื่องที่พวกคนที่ชอบอ่านแฟนตาซี(ไม่ใช่พวกรักๆใคร่ๆนะ) คือ เรื่องเอรากอน อีกเรื่องนะพวกที่อ่านเล่มเดียวแล้วมาวิจารณ์นะควรไปยืมห้องสมุดอ่านเล่มท้ายๆที่ออกจาได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้แต่ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ดีละก็.....เปลี่ยนแนวนิยายเหอะ.....มัน......ไม่เหมาะกะคุณเลย.......เดียวจา........เสยดายตัวค์..เปล่า..เปล่า

กรี๊ดดดดดดด ทำไมถึงว่ากันขนาดนี้ล่ะคะ
เราเป็นคนหนึ่งที่ประทับใจเรื่องนี้มากกกกกก
คนที่อ่านแล้วบอกว่าไม่สนุกแล้วยังจะมาว่ากันเสียๆหายๆแบบนี้ ไม่ถูกต้องเลยเรื่องย่อก็พิม์ผิดๆ เรื่องจริงไม่ได้เป็นแบบนี้เลย แน่จริงกล้าอ่านทุกหน้าของแล่มแรกมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่ามันสนุกและน่าติดตามขนาดไหน คนที่บอกว่าเสียดายเงินที่ซื้อไวท์โรดน่ะ สารภาพมาเหอะว่าอยากอ่านแต่ไม่มีเงินซื้ออ่ะ

White Rose จะมีที่สัปดาห์หนังสือมัยค่ะจะซื้อที่เดียวเลย

สงสารต้นไม้ที่สละชีพ..มาพิมพ์งานของ ดร. ท่านนี้จัง


. . .


คิดได้ไงอ่ะคะ คุณมีสิทธิอะไรมาพูดแบบนี้ !!
ไม่มีจินตนาการเลยอ่ะ เราชอบไวท์โรดมากๆๆๆ

สงสารคนที่วิจารณ์นะคะ พ่อแม่คงไม่สั่งสอนมาล่ะสิ
ว่าวิจารณ์ก็คือการติเพื่อก่อเกิดสิ่งที่ดี ที่ให้นักเขียนได้ปรับปรุ่งผลงานต่อไป
และนี่อะไร วิจารณ์เสียๆหายๆกะไม่ให้ได้ผุดได้เกิดได้เจริญเลย ไม่ทราบว่ามีเจตนาแอบแฝงรึป่าวในการทำลายงานเขียนของคนอื่นแบบนี้


แย่จริงๆนะคะอีคนวิจารณ์เนี่ยย



สงสัยจะอิจฉาพี่ป๊อบ

*เป็นกำลังใจให้พี่ป๊อบค่ะ

ปล. ในความคิดเราพอลไม่ได้เพอเฟคนะ เพราะดูจากในเรื่องแล้วมีคนที่หล่อกว่าพอล เก่งกว่าพอล ตั้งหลายคน
และที่เว่อร์เนี่ย เราให้จำกัดความคำว่าเว่อร์มันคือจินตนาการนะคะ

ใจเย็นน้าาาาาาา ความคิดใครความคิดมันเเต่ค่อยๆปรดปล่อยก็ได้

เรื่องราวลึกลับชวนติดตามก็จริงแต่บางทีก็ทำให้งงมากมาก ตอนเริ่มอ่านก็ชินเพราะอ่านแนวไซไฟ มาหลายเรื่อง บางทีในการเขียนควรแทรกความรู้เข้าไปบ้างนะค่ะ เพราะไหนๆก็ติดแล้ว จัดประกวดแฟนพันธ์แท้ลับสมองกันไปเลยจะเป็นไร



ความงงของคนอ่านคือความสนุกของคนเขียนมั้ง

ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องอคติกันนัก นิยายมันก็คือนิยาย คนแต่งเค้าก็ต้องหาจุดเด่นของตัวเองออกมาแต่ง ให้เป็นสำนวนในแบบของเขา ถึงแม้ว่ามันจะดูแปลกๆไปบ้าง(อ่านะ) แต่เราว่าเรื่องนี้สนุก ถึงบ้างคนจะบอกว่าไม่สนุกก็ตาม พี่ป๊อปเค้าวางโครงเรื่องเอาไว้ดี ไม่ใช่แต่งมั่วๆซั่วๆอย่างที่พวกคุณว่า ตัวละครก็มีเอกลักษณ์มีลักษณะนิสัยทั้งด้านที่ดีและไม่ดี อีกอย่างนิยายเรื่องไวท์โรดยังสะท้อนให้เห็นสังคมในหลายๆด้าน ไม่เหมือนกับนิยายเรื่องอื่นๆ ทำให้นิยายดูมีมิติขึ้นมา ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนจะใส่จินตาการลงไปมากเกินไป แต่นิยายเรื่องนี้ก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าออกมาจากจินตนาการของคนเขียนล้วนๆ แล้วคนอ่านส่วนใหญ่ก็ชอบกัน จะมาพูดให้เค้าเสียหายเพื่ออะไร??? ก็อย่างว่า ต่างคนต่างความคิด ถ้าหากพวกคุณไม่ชอบก็เก็บมันไว้ในใจ ไม่ต้องมาป่าวประกาศ....แต่ก็ต้องขอชื่นชมที่กล้าแสดงความคิดเห็นกัน มันทำให้รู้ว่ามีคนเกลียดมากก็มีคนชอบมากในขนาดเดียวกัน

อยากให้ทุกคนที่อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเม้นแต่ละเม้นด้วย เพราะบ้างเม้นก็พูดซักแต่พูด โดยไม่มีสาระ บ้างเม้นก็มีสาระแต่บ้างคนกลับมาว่าไม่มีสาระ ก็นะ เราก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก(แล้วที่พูดมานั้นอะไรวะ - -""") แค่อยากบอกว่า "ขอให้ลองได้อ่านจริงๆก่อนเถอะ แล้วค่อยตัดสินใจ อย่าปล่อยให้คำพูดของคนอื่นจูงใจให้เราหลงเชื่อ โดยที่ยังไม่ได้พิสูจ..."

ก็ไม่รู้นะ แล้วแต่คนจะคิด แต่กับเรื่องไวท์โรด เราว่ามันก็สนุกดีนะ เห็นเพื่อนมันอ่าน ก็เลยซื้อมาอ่านบ้าง มันก็สนุกดีออก แต่อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดของคนนะ สมองคนเราอ่ะมันไม่เหมือนกันหรอก ความคิดมันจะเหมือนกันได้ยังไง
แล้วการที่มีกระทู้หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มาขอความคิดเห็นอ่ะ ถามหน่อยเถอะ ทำแล้วได้อะไรหรอ นอกจากการให้คนมาเถียงกัน แล้วก็กลายเป็นทะเลาะกันป่าวๆ ก็ไม่เข้าใจนะ

มันแล้วแต่คนอ่าน+ความชอบส่วนบุคคล ใครอยากอ่านไม่อยากอ่าน มันก็แล้วแต่ ความคิดคนเรามันห้ามกันไม่ได้หรอก

เหอะๆๆ
เราก็อ่านนะเฮ้ยย
รุ้สึกว่าคนตั้งกระทู้นี้จาเปนคนที่มีอคติเหลือเกินกะไวท์โรดเนี่ย เคยอ่านรึยัง? ก็ต้องเข้าใจหน่อย คนเขียนน่ะไม่ใช่คนที่เปนผู้ใหญ่แบบอายุมาก ประสบการณ์ด้านนี้มากซะหน่อย คนเขียนน่ะยังเปนเยาวชนแท้ๆ มันมีข้อผิดพลาดอยุ่ก็เปนธรรมดาไม่ใช่หรอ เด็กอายุขนาดนั้นคิดได้ขนาดนี้ ไม่คิดว่าดีหรอ? สามารถแต่งหนังสือ บรรยายให้คนอ่านเห็นภาพ และติดกันระนาวขนาดนั้นน่ะ คุณทำได้อย่างเค้าหรือป่าว? ถ้าหากคุณทำได้หรือไม่ได้ก็ตามแต่ข้อความที่คุณเอามาโพสไว้ ถึงแม้คุณจาไม่ได้เป็นคนคิดเองก็เหอะ มันก็ดูรุนแรงไปนะ(แต่บางข้อก็จิง55)
แต่ยังไงซะ ต่างคนก็ต่างความคิด เราอ่านเรื่องนี้เราก็ไม่ได้คิดมากอาไร ก็แค่อ่านไปเรื่อยๆ เอาหนุกๆ

วิจารณ์ได้ยาวดีจัง

คือว่าที่มีคนบอกว่าทำไมฮอกวอตถึงไม่เก็บค่าเทอมนะเราของเปนคนตอบแร้วกันที่ไม่เก็บเงินเลยแถมยังจัดงานให้ยิ่งใหญ่ด้วยเพราะว่า ที่นั่นมีเอฟฟ์ประจำบ้านอยู่และที่ฮอกวอตก็ให้นักเรียนซื้อของใช้เองแถมยังมีกระทรวงคอยสนับสนุนแต่ไวท์โรดมันเวอร์ไปหน่อยนะ ที่มีสิ่งอำนวนความสะดวกที่มากเกินจำเป็นสำหรับเดกไปก็จริง อยากให้ลองอ่านHackดูนะเรื่งนี้เเม้จะดูเกินจริงแต่พระเอกของเรื่องก็เปนเดกะรรมดาและทุกอย่างในเรื่องนี้ก็มีเหตุผลทุกอย่างไม่เหมือนในไวท์โรดที่ขาดเหตุผลและทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายเกินไปโดยที่ผู้เขียนมักละเลยถึงอะไรที่เล็กๆน้อยๆและสิ่งที่เปนไปไม่ได้แต่ยังไงก็อยากให้ผู้เขียนลดความมั่นใจลงนิสหนึ่งแร้วทุกอย่างจะดีขึ้น

อ๋าว เหมือนจะเป็นเรื่องกันมานานเนอะ
สรุป ใครใคร่อ่าน อ่าน

เท่าที่เช่ามาอ่านนะ เราเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบหนังสือแนวนี้ เราเลยอ่านแค่เล่มแรกเล่มเดียว และก็พยายามไปเช่ามาอ่านอีกเรื่อย แต่อ่านไม่จบซักที แต่เพื่อนๆ ในร้านเช่าที่เป็นผู้ชาย (มีหญิงเล็กน้อย) เขาก็ว่าสนุก และอ่านได้ ชอบอ่ะนะ
แต่สุดท้ายแล้ว เราว่าประเด็นหลักไม่ใช่ว่าเขาไปลอกใครมาหรอกค่า เราคนอ่านอ่านแล้วชอบก็คือชอบ อ่านแล้วไม่ชอบก็คือไม่ชอบ

ว่ากันตรงๆ คนเราต้องมีการขอยืมกันมาใช้บ้าง เพื่อให้สักวันเราสร้างสรรค์เองได้

ดูนิยายมากมายที่ออกในปีนี้ของไทยสิคะ แล้วกลับมาดูเรื่องนี้

เราก็เลือกอ่านเฉพาะที่เราชอบล่ะค่ะ เรื่องอื่นไม่ถูกใจก็อย่าไปว่าเขาเลย หากไม่ดีจริงๆ การตลาดจะเป็นตัวแปรที่บอกคนเขียนได้ว่า มีคนซื้องานเขียนของคุณหรือไม่

ผมมีความคิดว่า ผมติดกับดัก เห็นปกหรูหรา ทึกทักว่ามันเป็นหนังสือวิชาการ ที่บอกเหล่าเรื่องราวการค้นพบของ ดร.ป๊อป ดร.คนไทยและซื้อมาอ่านเลยกลัวว่าจะพลาดเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง
แต่ว่าผมชอบอยู่ และก็ไม่ชอบอยู่ผสมๆกัน
ควรให้กำลังใจ ดร.ท่านนี้นะครับ
และติดตามงานของเขา
เฝ้าระวัง ช่วยแนะนำให้ทำผลงานออกมาดี
เราเป็นคนไทยด้วยกันควรส่งเสริมความรักความสามัคคี
ของคนในชาติ
ซึ่งนับวันจะเลือนหายไปจากสังคมเต็มที

วรรณกรรมแนวนี้ ส่วนตัวที่ประทับใจจริงๆมีเรื่องเดียวครับ คือ The Lord of The Ring เพราะอาจแล้วทำให้เรามีความรู้สึกว่าขณะที่อ่านเราอยู่ใน Middle-earth ไม่แปลกใจเลยที่มีการนำเรื่องนี้มาศึกษาและวิจัยในมหาวิทยาลัยที่อังกฤษและอเมริกาด้วย
ผู้เขียนหลายคนยังขาดตรงนี้อยู่นะครับ อาจเพราะคิดอะไรได้ก็บรรยายออกมา แต่วรรณกรรมยังต้องมีอะไรมากกว่านั้น ต้องเตรียมและค้นคว้าข้อมูลพื้นฐานซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองเขียนให้ครบและหนักแน่นจึงจะทำให้ผู้อ่านมีความรู้สึกร่วมไปด้วยได้ (ในความเห็นของผมแม้แต่ผู้เขียน Harry Potter เองก็ด้วย) ที่สำคัญนักเขียนที่เก่งต้องรักการอ่านครับ ยิ่งอ่านมากผลงานของตนเองก็จะยิ่งดีขึ้น แล้วก็ต้องพยายามอ่านให้หลากหลายแนว ยอมรับฟังคำวิจารณ์อย่างมีสติ นำมาคิดทบทวน ปรับปรุงแล้วลุยต่อไป
ขอบคุณครับ

ตกลงมันสนุกหรือไม่สนุกกันแน่หนังสือเล่มนี้

คิดว่ามันก็สนุกดีอ่านแล้วไม่ต้องคิดอะไรมากเพราะมันเป็นนิยายแนวแฟนตาซีทั่วไป

ก็คือว่าคนที่ว่าคนอื่นไม่ได้เรื่องแล้วคิดว่าตัวเองดีแล้วหรอแต่งหนังสือได้สักเรื่องบ้างยังดีแต่ว่าคนอื่นไปวันวัน

หรือว่าไม่เคยมีจินตนาการเลยด่าว่าคนอื่นเสียๆหายๆแทนที่เค้าจะได้มีกำลังใจที่จะเขียนต่อไปเฮ้อ อนาคตของชาติต้องหมดเเน่เพราะพวกชอบวิจาน

จะต้องให้สอนอีกหรอว่าจินตนาการเป็นอย่างไรจินตนาการคือสิ่งที่ทำให้คนคิดมีความสุข แย่มากๆพวกชอบว่าคนอื่นแล้วทำไม่ได้ คนเค้าจะเเต่งไม่ชอบก็ไม่ต้องเสือก

ขนานสงสารต้นไม้เลยเหรอมันไม่น่าจะดัจริตถึงขนานนั้นนะ
สงสารคนเขียนมากๆนักเขียนไทยที่เขียนได้มีจินตนาการขนาดนี้จะมีสักกี่คน หรือจะอ่านของเมืองนอกไปตลอดไม่คิดจะส่งเสริมประเทศที่เกิดเลยเหรอ

กำลังศึกษาเกี่ยวกับความคิดเห็นของคนอ่านที่มีต่อ
The White Road เพราะได้เชิญดร.ป๊อปไปเสวนาที่โรงเรียน เมื่อสักครู่เช้าไปblogใครจำไม่ได้แล้ว เกริ่นนำน่าจะเหมือนกัน สังเกตว่าเด็กๆเขาจะรักกันดี วัยรุ่นย่อมเข้าใจวัยรุ่นจริงๆ ดีใจที่คนไทยอ่านหนังสือเยอะขึ้น แล้วยังได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายได้ด้วย เทคโนโลยีสมัยนี้สุดยอดจริงๆ ใครว่างเชิญไปร่วมเสวนากันที่โรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ จังหวัดราชบุรี วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2551 13.30 น.ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ

เรื่องแบบนี้เราว่ามันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนเขานะ สำหรับเราก็ซื้อมาอ่านด้วย บอกตรงๆเลยว่าตอนแรกนะคิดว่าราคามันค่อนข้างแพง และในตอนแรกที่ซื้อมาอ่านก็รู้สึกเสียดายตังส์มาก แต่พอในภาคที่ 2ก็ดีขึ้น น่าติดตามมากขึ้น มีปมปริศนามากขึ้

ผม Dr.Pop ครับ
มาเยือน เพื่อ....

1. ขอบคุณทุกคอมเมนต์ (ที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์) อะไรที่ป๊อบสามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงงานเขียนได้ ป๊อบก็ยินดีครับ เพราะป๊อบยังต้องการความรู้ คำแนะนำในการเขียนอีกเยอะ การพัฒนาไม่เคยสิ้นสุด ขอบคุณสำหรับน้ำใจครับ

2. ขอบคุณทุกำลังใจ
ป๊อบคงไม่สามารถมีวันนี้ได้ หากมองไม่เห็นใครข้างกาย ขอบคุณที่ส่งแรงใจ ความปรารถนาดี ความหวังดี มาให้เสมอ แม้จะไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่ป๊อบรู้สึกได้ครับ และตื้นตันจริงๆ ที่คนธรรมดาอย่างป๊อบมีคนมากมายพร้องจะเดินไปด้วยกัน หากตราบใดยังมีคนติดตาม ถนนสีขาวของป๊อบจะทอดยาวต่อไปครับ มันจะไม่มีวันหยุด ไม่ว่ากรณีใด

3. ป๊อบจะบอกว่าตอนนี้ไวท์โรดภาคแรก กำลังจะรีไรท์ใหม่เพื่อแปลเป็นภาษาต่างประเทศ เนื้อเรื่องหลักคงเดิมครับ แต่เพิ่มความสมบูรณ์แบบ เปลี่ยนภาษา เปลี่ยนสไตล์การเขียนให้เป็นตัวป๊อบมากขึ้นครับ

ใครสนใจ เข้าไปตามอ่านได้ที่
//my.dek-d.com/drpop
หรือถ้าจะติดต่อป๊อบทางเมลล์ เชิญที่
drpop2003@hotmail.com ครับ


นักเขียนที่ดี คือนักเขียนที่เปิดใจรับคำวิจารณ์ (ที่มีประโยชน์และสร้างสรรค์) เราไม่ใช่คนเดียวที่จะบอกว่าผลงานเราดีที่สุด

ผู้อ่านต่างหากที่เป็นคนตัดสิน

เช่นกันครับ
คำวิจารณ์ชำแหละอันนี้
ดีหรือไม่ดี เห็นด้วยหรือไม่เห็นจริง จริงหรือไม่จริง
คนที่เข้ามาอ่าน จะเป็นผู้ตัดสินเอง

ขอบคุณทุกคนครับ

เหอะๆๆ จขกท ใช้คำได้น่าสมเพศมาก- -
ขยะวรรณกรรม คุณเอาอะไรไปตัดสินวรรณกรรมคนอื่น เอาอะไรเป็นตัวชี้วัด หรือเดี๋ยวนี้การเขียนวรรณกรรมต้องมีกฎในการเขียน ว่าต้องเขียนอย่างนู้นนะ ห้ามใส่อันนี้เข้าไปนะ ??? นั่นคือคุณเป็นคนที่ความคิดแคบมาก ไม่เปิดใจรับสิ่งที่แตกต่าง

แล้วชื่อมันก็บอกว่าเป็นวรรณกรรม เป็นต้องเป็นแบบความสุขของกะทิมั๊ย ครุฑน้อย เจ้าชายไม่วิเศษ หรืประสาทกระต่ายจันทร์ ....?? ถ้าคนแต่งวรรณกรรมมาแนวนี้กันหมด เรื่องก็จะจำเจ น่าเบื่อไปทันที จริงมั๊ยล่ะ


และมันก็แต่งเพื่อเอาไปอ่านเพื่อความบันเทิงใจ จะเอาอะไรกับความสมจริง และจินตานาการในเรื่องอาจดูเวอร์เกินจริง แต่ความเวอร์นี้ก็อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ ดูอย่าสมัยก่อน คิดมั๊ยว่าจะมีมือถือใช้ คิดมั๊ยว่าจะไปถึงดวงจัทร์ได้ ของเหล่านี้มันก็ต้องมาจากจิตนาการทั้งนั้น
แล้ว ที่ผู้หญิงคลั่งกันมากก็เพราะหน้าตาดี ก็เหมือนนักร้องที่หน้าตาดีมา ก็กรี๊ดเป็นธรรมดา


คำว่าอนาคตอ่ะไรก็เป็นไปได้ ทั้งในทางที่ดีแล้วก้ไม่ดี อะไรที่เราไม่เคยคาดคิดอาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้

Dr.pop แต่งตอนอายุ 14 (14เท่านั้น......ตอนอายุ 14คุณทำอะไรอยู่)
คนอายุเท่านี้ทำให้คนหลายคนชอบมาก หาเงินเองได้ ทำได้เท่านี้ก็น่ายกย่องแล้ว แล้วเข้าก็ทำให้เด็กไทยหลายคน ลุกขึ้นมาเขียนวรรณกรรมเเนวนี้มา เขาคือเเรงบันดาลใจของเยาวชน บางคน อาจจะมีมากหรือไม่มากก็ตาม

ถ้าอ่านจริงๆก็จะรู้ว่าเล่มหลัง Dr.pop จะพัฒนาเรื่องภาษา และก็ตัวละครให้โตไปด้วย

แล้วเรือ่งนี้ก็เป็นวรรณกรรมของคนไทยด้วยกันแทนที่จะสนับสนุน กลับมาด่าเขาซะ (อิจฉาเขา เพียงเพราะเขาเขียนแล้วมีคนชอบกว่าที่คุณเขียนเรอะ)

ที่เหมือนกับเกม ก็เขาเล่นเกมมาเเล้วมีแรงบันดาลใจในการเขียน ถ้าจะมีบางฉากที่เหมือนเกมก็ไม่เเห็นแปลก ( บารามอสก็พล็อตคล้ายๆ เเฮร์ -*-ก็ไม่เห็นแปลกเพราะเค้าอาจมีแรงบันดาลใจจากเรื่องนี้เหมือนกัน)

ขออีกที่ว่าเค้าเริ่มตั้งแต่ 14 ไม่ใช่มืออาชีพ เป็นมือสมัครเล่น คุณเลือกที่จะด่าคนไทยด้วยกันเอง เพื่อไปชมญี่ปุ่นหรืออังกิด ..... คนไทยหรือป่าว หรือ(เป็นคนไทยใจเขมร)ถ้าจะว่าเขาแล้วไปชื่นชมของต่างชาติ อ่านแล้วสะท้อนใจเเทนประเทศชาติจริงๆ



ผมก็เป็น1ในนักอ่านวรรณกรรม บารามอสก็ชอบ สมสีม่วงก็ชอบ หรือประสาทกระต่ายจัทร์ ก็ดี ทุกเรื่องล้วนข้อคิดเล็กๆน้อยให้คิดตาม ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะอคติมากไปรึป่าว หรือ ไม่ก็คุณก็เป็นคนที่อ่อนต่อโลกมากจริงๆ เฮ้ออออ

ดีค่ะ หนูชอบื เดอะไวท์โรด มากเลยค่ะ ติดตามทุกเล่มเลยด้วยสนุดมากๆๆๆ เลยค่ะ D. ป็อบ หนูจะรอเล่มใหม่นะค่ะ
ไม่ว่าขอจะว่ายังไงหนูจะคอยเป้นกำลังใจให้นะค่ะ
แล้วก็กำลังรอเล่มใหม่ด้วย ภาคที่แล้วรู้อารายกระจ่างเยอะเลยอะ ตอนนี้กำลงัหาวื้อภาพพิเษศอยู่ค่ะ แต่น่าจะหมดแล้วอะ หนูจะรอนะค่ะ เพราะหนูกำลงัรุ้นว่าเล่มใหม่มีอะไรให้น่าคิดและคนหาจากภาคภาคที่แล้วอีบ้าง

ผมอ่านแล้ว มันเยี่ยมมากๆๆๆๆ

ความหายแคบๆ ของคำว่าการสร้างสรรค์วรรณกรรม ก็คือการคิดสิ่งใหม่ๆขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ปลายปากกาผู้เขียน

555+ มันแคบๆ น่ะ อย่าคิดมาก

ยังไงผมก็ขอขอบคุณ คุณ ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร ด้วยที่อุตส่าตั้งกระทู้ดีๆ มีสาระและคุณค่าทางสัมคม

ในช่วงเวลา ม.ต้น ผมคิดว่าวัยรุ่นไทยหลายๆคนแทบไม่อยากเจียดเศษเนื้อในสมองมาทำอะไรดีๆ เพื่อให้คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเอง ถึงผมจะไม่รุ้จักนักเขียนในวงการไทยสักเท่าไหร่
แต่บุคคลเหล่านี้ มิใช่ผู้ไร้ประโยชน์ทางสัมคม ที่จะให้ผู้อื่นที่มิยอมแม้แต่จะสร้างความเจริญแก่ผู้ทรงคุณค่าแต่กลับใช้มุมมองมนุษย์ ที่สุดบรรยาย มาทำร้าย
ผมไม่แน่ใจว่า ทวารทั้ง 7 ของคุณนั้น มี ตาอยู่ที่ล่ะคู่ด้วยรึเปล่า ถึงมองได้ลึกซึ้งแค่เพียงนั้น
ความเป็นจริงผมเห็นว่า
ไวท์โรด เป็นวรรณกรรมเรื่องนึงที่ ผู้แต่งได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งเดกไทยหลายๆคน มิคิดทำอย่างนั้น เค้าเอาเวลาดีๆไปทำอะไร?
อ่านนิยาย ดูการ์ตูน ต่างๆนาๆ
คงชอบกันล่ะสิ 55+
เฮ่อ แต่ด้วยวาจาของคนไทย คือเราก็รู้ๆกันอยู่ ไม่ว่าทุกคำด่าจะออกมาจากใจหรือไม่ จะอยู่ในพันทิพหรือสยามโซน ยังไงคนไทยก็คือคนไทย มีแต่ด่ากับชม เพียงพอกับสิ่งนั้น
ลองใช้สิ่งที่เราคิดว่า เค้าไม่มี มาปรับปรุงตัวเอง และทำตัวเองให้มีค่า ให้ดีอย่างที่เราด่าเค้า แทนที่จะใช้ชีวิตอยู่ในคราบเดนมนุษย์ที่คอยกัดเซาะ สิ่งดีงามออกไปจากสังคมไทย และใช้ความมีค่าของตัวเอง เพิ่มพูนสิ่งดีๆ แก่สังคมดีกว่ามั้ย

แค่นี้สังคมไทยก็แย่พอแล้ว !!!
แล้วคุณจะเอาอะไรดีๆมาสู่ประเทศที่เห็นตัวเองเป็นผู้ไม่เคยพ่ายใครได้อีก

พี่ป๊อบ อย่าหมดแรงนะครับ ^^
อย่างงี้แหละ คนไทยมักจจะแก้ปัญหาด้วยคำพูดเสมอ
ไม่งั้นประเทศไม่เสียหรอกสิ่งดีๆรอบกายน่ะ

ชอบพี่ป๊อบแต่งเก่งมากคะตอนนี้อ่านได้3เล่มแล้วยังไงก็จะอ่านให้ทันเล่มล่าสุดนะคะ

ขยะวรรณกรรม ← ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ลองอ่านเล่มต่อๆไปนะ แล้วจะรู้ว่าขยะน่ะ มันรีไซเคิลได้....

ทำไมถึงคิดว่าหนังสือเรื่องนี้ไม่ดีอ่ะ รู้ไหมว่า คนที่เล่นเกมพวกนี้เก่งน่ะแต่ไม่มีใครที่แต่งหนังสือได้หรอกนะเราน่ะคิดว่าเขาพยายามดีตอนนี้กำลังติดตามผลงานของเขาอยู่และคิดว่าถ้าสร้างเป็นหนังเรื่องยาวจะดูและจะซื้อเก็บเป็นที่ระลึกเลยล่ะ

บางตอนก็หนุกดีคับ
เเต่ช่วงหลังเนื่อเรื่องมั่วโครตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต

ได้อ่านหนังสือแล้ว สนุกดีค่ะ เป็นหนังสือที่จินตนาการได้ดีมากเลย ชอบมากค่ะ

ผมคิดว่าผมไม่พอใจที่คุณคอมเม้นท์แบบนี้ครับเพราะว่าถึงเค้าจะมีฝีมือในการแต่งยังไง แต่ว่าก็ถือเป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบไวท์โรด แต่ผมไม่ได้หมายความว่าที่คุณspiralheadเม้นมามันไม่ถูก เพราผมก็เห็นด้วยในบางข้อเช่น
3.การต่อสู้แบบดาร์ก้อนบอล ที่ลอยไปปล่อยพลัง ชื่อไฟนอลแฟลช (ที่ชื่อเหมือนท่าของเบจิต้า)
มันดูเลียนแบบการ์ตูนเกินไป สุดท้ายคนที่ไม่ชอบไวท์โรดโปรดอ่านข้อความต่อจา่กนี้ครับ



คุณไปติเขาแบบนี้คุณมีปัญญาแต่งได้แบบเขาไม้!!!
ตัวเองน่ะหาข้อติคนอื่นได้แล้วทำเองเป็นรึป่าว!
ตอนที่คุณอายุเท่าเขาคุณทำอะไรบ้าง!




จาก

คุณนะชอบแต่นิยายต่างชาตินะชิ ของคนไทยดันเกรียด
ผมรู้แล้ววาทำไมคนไทยถึงบ้าตามคนต่างชาติ(แต่ด้านแย่ๆห่วยๆ) เพราะมีคุณคอยปลูกฝังแต่เรื่องแย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วคุณก็ได้มาจากคนแย่ๆเลวๆที่คุณนับถือที่เลวจนทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสีย ขอให้คุณเลิกการวิจารณ์แย่ๆชะ
แล้วขอโทษ ดร. ป้อป ด้วย แล้วที่คุณบอกมาว่า [5.ความไม่สมจริงของเนื้อเรื่อง โรงเรียนไม่เก็บค่าเล่าเรียนแต่ดันมีเงินให้และยังสร้างห้องที่มีโฮมเธียเตอร์ อ่างน้ำกุชชี่ คาราโอเกะ ให้นักเรียนใช้กันได้ ให้สอบหยุดกระสุนปืนที่ดูราวกับว่าถ้าตัวเอกมันทำไม่สำเร็จแล้วก็ไม่สามารถให้อาจารย์คนไหนมาช่วยได้เลย การแข่งขันที่เกือบจะให้นักเรียนฆ่ากันตาย ถามว่าความปลอดภัยในความเป็นจริงอยู่ที่ไหนครับ ดูอาจารย์ ผู้ใหญ่ทั้งหลายในเรื่องช่างไร้ประโยชน์เหลือเกินทำอะไรไม่ได้เลย ขนาดตอนเกิดเรื่องในตอนแข่งขัน อาจารย์เป็น 10 คนก็หยุดนักเรียนคนเดียวไม่ได้แล้วมาสอนทำไมครับ โครงการลับของรัฐบาล แต่ป้องกันเด็ก 4 คนไม่ให้บุกเข้าไปไม่ได้แถมเป็นการบุกแบบซึ่งๆหน้าด้วยไม่ได้ใช้แผนเลย โอย..พวกพระเอกจะเก่งถึงไหนชนะทั้งโลกแล้ว] มันผิดขั้นรุนแรงเราะคุณมันหัวไม่มีน้ำหนักจึงอ่านหนังสือไม่เป็น (ส่งถึงคนวิจารณ์ห่วยๆ)
แล้วคุณเอาเงินที่หลือมาลองชื่ออ่านหรือยังมันไม่เสียหายอะไรนี้แพราะคุณนั้นละเอาเงินไปชื้อของไม่มีประโยนช์ สักวันกรรมจะตามสนอง 55555+

คุณอยู่กับพวกเลวๆจึงมีนิสัยอย่างนี้ นี้ไม่ได้บอกว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาลนะเกรียดหมดนั้นล่ะ 55555

ผมคิดว่าทุกข้อที่คุณกล่าวหาเขานั้นมันตรงกับคุณหมดเลย ลองดูสิ
ความคิดของคุณ
1.การมั่นใจในการเขียนของตัวเองมากเกินไปของคนเขียน ซึ่งอาจจะเป็นผลที่เขาไม่เคยอ่านหนังสืออะไรมากเท่านักเขียนปกติ หรือการที่มีแต่เด็กซึ่งประสบการณ์พอกันมาชมเรื่องของตัวเองก็ตาม ทำให้เกิดการใช้โปรโมทด้วยถ้อยคำโฆษณาเกินจริง ซึ่งส่งผลสะท้อนกลับให้เป็นการคาดหวังที่สูงเหลือเกินของคนที่ได้ยินและเมื่อเขาได้อ่านแล้วพบว่ามันไม่สมราคาคุยนั้นก็……ความผิดหวังจะมากกว่าเรื่องอื่นๆเป็นเท่าตัวน่าเสียดายเหลือเกินเป็นการไม่ฉลาดเลยที่ต้องการดังจนทำแบบนี้ เพราะแทนที่จะได้คำวิจารณ์แบบว่า “ก็ดีนะแต่ต้องปรับปรุงอีก” ก็ได้เป็นความเกลียดของคนจำนวนมากแบบตอนนี้แทน
2.เนื้อเรื่องที่ไม่กลมกลืนไม่สมจริงเหมือนคนเขียนไม่เข้าใจในเทคนิคการเขียนเรื่องพื้นฐาน เช่นการที่ให้ทุกคนในโรงเรียนนี้รักพระเอกกันหมดและ รู้สึกดีกับพระเอกกันทันที ให้พระเอกเป็นคนดังทันทีที่ก้าวมาในโรงเรียนโดยเหตุผลแค่ว่าเขาหล่อ ดูจะเบาหวิวเหลือเกิน เหมือนคนเขียนลอกสูตรมาจากแฮรรี่ ว่าคนอ่านชอบตรงมีคนอื่นชื่นชมแฮรรี่ ดังนั้นเขาจึงทำให้พอลมีคนรักมากๆ และรักมากกว่าแฮรรี่อีกโดยหวังจะให้คนอ่านชอบมากกว่า แต่สิ่งที่ออกมากลายเป็นความไร้เหตุผล เพราะไม่มีอะไรมารองรับคนเขียนอาจจะไม่เข้าใจว่าแฮรรี่มีการปูพื้นมาทั้งในเรื่องและกับคนอ่านเพื่อให้คนอ่านรู้สึกดีก่อนแล้ว แต่ตัวละครพอลของเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่แย่ที่สุดคือการให้ผู้หญิงทั้งโรงเรียนเป็นเหมือนตัวการ์ตูนที่งี่เง่าที่ไร้ตามจีบพระเอก เหมือนจะปล้ำผู้ชาย และให้พระเอกวิ่งหนีเข้าห้องน้ำเป็นการเขียนที่แสดงถึงนิสัยเพศชายของคนเขียนที่ไร้มารยาทและดูถูกเพศแม่ของตัวเอกสิ้นดี ไม่ว่าเขาจะหวังให้ชีวิตของตัวเองเป็นอย่างไรก็ตามก็ไม่ควรจะเขียนอย่างนี้
3.การต่อสู้แบบดาร์ก้อนบอล ที่ลอยไปปล่อยพลัง ชื่อไฟนอลแฟลช (ที่ชื่อเหมือนท่าของเบจิต้า) ทำให้เรื่องออกมาเป็นการ์ตูนที่ไม่มีภาพ และทีให้เรื่องดูไร้คลาสไปชอบกล และตรงนี้ก็แสดงให้เห็นอีกว่า เรื่องที่ผ่านมาดูจะไม่ได้ปูให้เห็นเลยว่าทำไมพระเอกที่ตอนแรกไม่เข้าใจพลังของตัวเองเลยจนอายุ 18 แต่อยู่ดีๆก็ลอยได้ เหาะได้แบบกระโดดข้ามพัฒนาการ ของตัวละคร
4.การออกแบบตัวละครที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง คือคนเขียนคงจะชินกับเกมมากไปที่คนเล่นจะพอใจที่ตัวละครของตัวเองเก่ง แต่ในนิยาย คนอ่านเป็นบุคคลที่ 3 การที่ให้ทุกอย่างมาดีตรงพระเอกหมดไม่ว่าจะหล่อที่สุด เก่งที่สุด เล่นเกมก็ชนะ แข่งอะไรก็ชนะ ทำอะไรดีไปหมด ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องลุ้นเอาใจช่วยอะไรพวกตัวเอกแล้วและทำให้เกิดความชอบในตัวละครน้อยลง นอกจากนี้ตัวละคร ชื่อรีเมียสก็เรียนเก่งสุดและหล่ออันดับ 1 เฟริสก็หล่อ ผู้หญิงในกลุ่มก็สวยอันดับ 1 กับ 2 ของโรงเรียน ทำให้จุดดีๆมากองกันที่กลุ่มตัวเอก จนตัวละครอื่นในโรงเรียนไร้ค่าไปเลย คนเขียนลืมแม้กระทั้งพวกอาจารย์ในโรงเรียนจนออกมาดูเหมือนนักเรียนพวกนี้เก่งกว่าอาจารย์ 10 เท่า แล้วคนอ่านจะต้องลุ้นอะไรอีกล่ะในเมื่อพวกนี้เก่งตลอด
5.ความไม่สมจริงของเนื้อเรื่อง โรงเรียนไม่เก็บค่าเล่าเรียนแต่ดันมีเงินให้และยังสร้างห้องที่มีโฮมเธียเตอร์ อ่างน้ำกุชชี่ คาราโอเกะ ให้นักเรียนใช้กันได้ ให้สอบหยุดกระสุนปืนที่ดูราวกับว่าถ้าตัวเอกมันทำไม่สำเร็จแล้วก็ไม่สามารถให้อาจารย์คนไหนมาช่วยได้เลย การแข่งขันที่เกือบจะให้นักเรียนฆ่ากันตาย ถามว่าความปลอดภัยในความเป็นจริงอยู่ที่ไหนครับ ดูอาจารย์ ผู้ใหญ่ทั้งหลายในเรื่องช่างไร้ประโยชน์เหลือเกินทำอะไรไม่ได้เลย ขนาดตอนเกิดเรื่องในตอนแข่งขัน อาจารย์เป็น 10 คนก็หยุดนักเรียนคนเดียวไม่ได้แล้วมาสอนทำไมครับ โครงการลับของรัฐบาล แต่ป้องกันเด็ก 4 คนไม่ให้บุกเข้าไปไม่ได้แถมเป็นการบุกแบบซึ่งๆหน้าด้วยไม่ได้ใช้แผนเลย โอย..พวกพระเอกจะเก่งถึงไหนชนะทั้งโลกแล้ว
6.เนื้อเรื่องเริ่มมั่ว ตอนแรกบอกว่าพระเอกโดนเก็บมาโรงเรียนเพราะเป็นคนมีพลังพิเศษในโลก เหมือนเรื่อง Xmen แต่อยู่ดี พระเอกโอนสัญชาติเป็นชาวโลกอากาเซียโดยอัตโนมัติ กลายมาเป็นความหวังของโลกในภายหลังเฉยเลย และอยู่ดีๆเรื่องก็ขยายขึ้นมีเผ่าต่างโผล่ออกมา ราวกับว่าคนเขียนพึ่งจะได้ดูหนังเรื่อง lord of the ring ตอนปลายปีที่ผ่านมาจึงคิดเพิ่มเรื่องตัวเองให้ยิ่งใหญ่ไปด้วย
7.ฉากบรรยายแต่ วีดีโอเกม โฮมเธียเตอร์ใหญ่ที่สุด ห้องนอนสุดสบาย ระบบอินเตอร์เน็ตหรู แม้แต่ยานของทางการก็บอกว่ามีแต่ของพวกนี้ อ่างอาบน้ำกุชชี่ ที่เล่นเกม สถานที่พักผ่อน สาวๆตามหลงรักตัวเอง แสดงถึงความเป็นวัตถุนิยมของคนรุ่นใหม่และนิสัยของคนเขียนอย่างแท้จริง ที่ทำให้เนื้อเรื่องช่างมีแต่ความสบายเสวยสุขกันของพวกตัวเอกจนคนอ่านไม่รู้ว่าวันๆพวกเขาจะต้องลำบากบ้างไหม สบายกว่าพวกเราอีกที่ผจญน้ำท่วมกันอยู่ตอนนี้ และคนอย่างนี้นะจะมากู้โลก
ตัวอย่างเจ็ดข้อนะครับ จริงมีอีกสัก 93 ข้อ คนอื่นคิดอะไรออกก็เขียนเองแล้วกัน ความจริงถ้าเขาจะแก้ให้ดีคือต้องเปลี่ยนทั้งเรื่องแน่ๆ
ข้อดีของการที่เรื่องนี้ออกมาคืน ความกล้าที่อาจจะส่งเสริมทำให้ค่ายอื่นมาสนับสนุนวรรณกรรมเยาวชนฝีมือคนไทยมากขึ้น บางที พวกอิมเมจ อมรินทร์ เนชั่น นานมี อาจจะคิดทำบ้างแล้วก็ได้เพราะไวท์โรดได้วางฐานไว้แล้ว แต่สำหรับตอนนี้ไวท์โรดไม่ดีพอจะให้ซื้อครับ ผมจะรอเรื่องอื่นซึ่งอาจจะเป็นแนวใหม่อย่างนี้และมีความสมบรูณ์มีมาตรฐานสมควรเป็นวรรณกรรมมากกว่า ตอนนี้อ่านครุฑน้อย กับส้มสีม่วง ของอมรินทร์ไปพลางๆก่อนแม้จะไม่หวือหวาแต่มีสาระมากกว่าเล่มหนาๆแต่ไม่มีอะไรเยอะ และใครที่คิดจะซื้อคุณควรเอาเงินไปซื้อหนังสือดีๆมากมายดีกว่า
เรื่องนี้เอาไป 3 เต็ม 10 ครับ
ความคิดของผม
1.ความมั่นใจที่มากเกินไปของคนวิจารย์ ซึ่งอาจจะเพราะว่าเขาอ่านไวท์โรดไม่จบ หรืออ่านไม่เป็นก็ได้ และพวกที่เห็นด้วยกับคุณทั้งหมดคงจะเป็นพวกที่อ่านนิยายไม่เป็นเหมือนกัน เลยทำให้มีคนเกลียดแบบนี้(สม)
2.การที่ปลูกฝังผู้อื่นเช่นนี่ก็เหมือนกับการปลูกฝังให้คนอื่นดูถูกวรรณกรรมไทย ช่างไร้มารยาทสิ้นดี!
3.การวิจารย์ของคุณดูไร้คลาสไปชอบกล
4.การมีนิยายที่ตัวเอกดีไปหมดก็แหวกแนวดี แล้วอีกอย่างใครเป็นคนบัญญัติว่าห้ามให้ตัวเอกเก่งมิทราบวะ
5.โอย คุณจะอัจฉริยะอะไรถึงคิดข้องติได้ตั้ง100ข้อ
6.การวิจารย์แนวชักจูงให้คนอื่นคล้อยตาม หยั่งกับว่าเพิ่งไปฟังการหาเสียงของนัการเมืองมาอย่างนั้น
7.เขาจะมากู้โลกได้หรือไม่ แล้วคุณทำได้ใหม หรือมัวแต่ลอยคอวิจารย์คนอื่นไปวันๆ
ผมคิดว่าถ้าคุณพิมพ์ไอ้93ข้อที่เหลือมา ก็คงมีคนหาข้อสวนได้จนครบ ข้อดีของบทวิจารย์นี้ ก็คือทำให้รู้ว่ามีคนรักไวท์โรดมากแค่ไหน(จงอ่านบทวิจารย์ก่อนหน้านี้) และการที่คุณบอกว่าเสียเวลาทำมาหากินกับการอ่านนิยายเรื่องนี้ เวลาคุณคิดบทวิจารย์ห่วยๆนี้คงเสียเวลาไปมากกว่า
สรุปว่าผมให้คะแนนคุณ 1 เต็ม 10 ครับ 555+

คำวิจารย์ที่155ถูกใจผมครับ555+

คำวิจารที่156ก็ตรงใจผมเช่นกันเพราะว่านิยายแฟนตาซีนั้นมันก็บอกอยู่แล้วว่าเกี่ยวกับอะไรเราอ่านมันเพราะมันสนุกมันอ่านแล้วมีความสุขไม่ใช่อ่านแล้วมานั่งลุ้นจนทุกข์และที่สำคัญมันเป็นเพียงจินตนาการเคยอ่านเจอในหนังสือสุขศึกษาไหมว่าที่เหล่าชายหนุ่มและหญิงสาวช่วยตัวเองในนั้นได้กล่าวว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายสมควรตายหรือไม่ลองคิดดูนี่ก็เหมือนกันมันเป็นเพียงจินตนาการเราเพียงแต่อ่านมันให้คลายอารมณ์จากโลกความจริงซึ่งแน่นอนล่ะว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้แล้วไงเราต้องยอมรับความจริงแต่แค่เพียงเราจะคิดอยากทำอะไรบางอย่างที่เหนือกว่ากฎธรรมชาตินั้นมันก็ไม่ผิดเพราะเราเพียงแต่คิดให้เกิดความรู้สึกดีบ้างไม่ใช่วันๆคิดแต่นิยายจนกระทั่งคิดว่านิยายมันเป็นจริงๆๆนั่นหมายความว่าแกบ้าไปแล้วล่ะน่ะไปศรีธัญญาซะไม่งั้นอาจกระโดดจากยอดตึกเพราะคิดว่าบินได้ซะก่อนการคิดน่ะไม่ใช่ความเลวร้ายไม่งั้นเจ้าคงจะยังไม่รู้จักวิธีใช้ไฟให้เป็นประโยชน์ด้วยซ้ำและเราไม่ควรจะวิจารณ์คนอื่นออกมาตรงๆเพราะเขาเรียกว่าไร้มารยาทไม่ว่าจะทางสังคมหรือในกลุ่มเพื่อนส่วนตัวแต่อาจให้คำแนะนำอย่างมีมารยาทได้เล็กน้อยเพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของเราถ้าคุณอยากให้พระเอกกระจอกงอกง่อยชอบถูกคนอื่นรังแกนั่นหมายความว่าถ้าคุณแต่งต่อไปมันก็จะไม่เก่งขึ้นเท่าไหร่หรอกไม่คิดว่าสวนทางเกินไปเหรอที่ต้องอ่อนแอก่อนถึงเก่งได้มันต้องเริ่มคิดก่อนที่จะทำนะถ้าคุณเคยอ่านนิยายเรื่องอื่นๆก็ไม่มีคนอยากให้ตัวเอกขี้เหร่หรอกนะไม่งั้นในละครน่ะคงเอาคนขี้เหร่ไปเล่นแล้วเพราะอย่างงี้ไงถึงได้ทำให้เกิดพวกที่ชอบพระรองมากกว่าเพราะว่าเอาตัวเอกให้มันขี้เหร่ไว้ก่อนตัวรองต้องหล่อๆคนจะได้ติดตามเพราะสงสารที่ท้ายที่สุดตัวรองก็ต้องแป้ดนางเอกจนได้แม้พระเอกจะขี้เหร่ตัวรองจะหล่อแค่ไหนแต่ชื่อก็ติดไว้มีคำนำคือเอกอยู่แล้วเอกคือมันดีเก่งด้านนั้นๆไม่ใช่รองคือเก่งคือตัวชูโรงไม่งั้นต้องเปลี่ยนบทกันพอดีถ้านางตอนจบไปชอบตัวรองปกตินะตัวเอกในหนังน่ะต้องเลวมากแต่แอบดีนิดนึงแล้วก็ไปสนิทกับนางเอกส่วนตัวรองหลงรักเป็นคนดีสุดท้ายก็ปิ๋วอย่างนี้มันน่าให้ทำความดีไม๊น่าจะทำความเลวมากกว่าเนอะจะได้มีนางเอกใช่ไม๊นู๋ชอบคนเลวหน้าตาไม่ดีค่ะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เคยได้อ่านบ้างแล้ว ก็สนุกดีนะ

เห็นด้วยกับ 3 เรื่องห่วยมากๆ ยิ่งอ่านแล้วยิ่งหมั่นไส้ ยิ่งอ่านอีนังพอลแล้วหมั่นไส้สุดๆ เขียนก้อมั่ว สำนวนไม่ได้เรื่อง

แมร่งขายดีได้ไงวะ สู้การเขียนของหัวขโมยแห่งบารามอสไม่ได้เลย ขอแนะนำว่าถ้าอยากจะอ่านแนวเวทย์มนต์ยังงี้

ไปอ่านแฮรี่ พอตเตอร์ดีกว่าอีก

แต่ก็มีบางตอนอาจจะดีบ้างแต่ก้อหลังๆก้อเริ่มมั่ว ผู้ชายจะบรรยายแต่ว่าดีๆๆ ผู้หญิงก้อจะเปงตัววุ่นวายใช่มั๊ย

หมั่นไส้สุดยอดดดดดดดดดดดด *,* 'O'

สำหรับผู้ที่ยังทนอ่านอยู่ อย่าอ่านนิยายที่เพ้อฝันยังงี้ กุว่าไปอ่านหนังสือแปลดีกว่า

ดูมีสาระกว่าอีก

นิยายที่ทำตัวเป็นคล้ายๆกับหนังสือที่เป็นแนวต่างประเทศทั้งๆที่คนแต่งเป็นคนไทยแท้ๆ

งี่เง่าสุดๆเล้ย กระแดะชื่อเป็นอังกฤษบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง แล้วบรรยายๆๆๆจนเสียอารมณ์

ขอร้อง

ถ้าเกิดมือไม้สั่นๆ เป็นโรคชักกระตุก อยากแต่งจิงๆ

ลองไปอ่านหนังสือแปลให้มากๆ จับสำเนียงการแต่งของเขาให้ได้ก่อนดีกว่า bye!

ของเค้าดีจะตายทำได้แบบเค้าป่าว ตัวเองอ่านไม่เข้าใจแล้วมาวิจารณ์เค้า ถ้าไม่ชอบก็อยู่เฉยๆดีกว่าทำแบบนี้คนที่
ยังไม่อ่านก็ไม่อยากอ่านกันพอดีสะใจมากหรอที่ได้แกล้งเค้าอ่ะ

อ่านแล้วก็สร้างจินตนาการหน่อยดิ่มันถึงจะหนุกโด่

พี่ป๊อบเก่งโครต น่าชื่นชมเจงๆ น่าสนับสนุนและแนะนำให้เขาพัฒนาต่อไปเรื่อยๆไม่ใช่มาด่านะคับ

ขอบคุณ คนที่ ทำเพื่อ ประเทศชาติ แล้วกัน ฮิฮิ

ไวท์โรดเป็นนิยายที่เยี่ยมมาก

เคยอ่านภาคแรก เล่ม 1 และ 2 ที่ร้านเช่าหนังสือ พี่ว่าสนุกดีนะ ยังตามหาเล่มอื่นๆ เพื่ออ่านต่ออยู่เลย (บังเอิญไอ้ร้านเช่าหนังสือดันเลิกกิจการซะก่อน) นี่ก็เข้ามา search net เพื่อหาว่าจะซื้อได้ที่ไหน เพราะร้านซีเอ็ด มีเล่ม generation อะไรสักอย่าง พี่ไม่รู้ว่าเคยอ่านหรือยัง เลยให้ซีเอ็ดเขาหาว่าสำนักพิมพ์ไหนพิมพ์ แล้วก็มีกี่ภาคแล้ว นี่ก็เลยลองค้นหาใน internet ดู เพิ่งจะรู้ว่าเขามีภาคอื่นๆ ตามมาหลายภาค และก็มีด่า+วิจารณ์ผลงานเขากันเยอะ พี่ไม่ใช่วัยรุ่น อายุ 40 กว่าแล้ว เป็นคนทำงาน มีเวลาว่างเพื่ออ่านหนังสือแบบนี้ไม่มากนัก แต่เท่าที่ได้อ่านพี่ว่าโอเคนะ ยิ่งรู้ว่าคนเขียนอายุเท่าไรตอนเขียนหนังสือ พี่ยังทึ่งเลยนะ พี่มีความคิดเห็นว่าความชอบของแต่ละคนแตกต่างกัน พี่ชอบสไตล์นิยายไซไฟแบบนี้ อ่านแล้วสนุก แต่บางคนไม่ชอบ ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เหมือนกับการกิน อาหารร้านเดียวกัน บางคนว่าอร่อย บางคนบอกว่างั้นๆ เลือกเสพเถอะ อย่าว่ากันเลย ดีกว่าเด็กเขาไปตีกัน เสพยากัน แบบนี้ดีกว่าเยอะ

ชอบอ่านแฮร์รี่ บารามอส ไวท์โรด และก้อเดอะลอร์ด

คือว่า อ่านไวท์โรดแล้วน้อถึงภาค3เล่ม1
เมื่อก่อนไม่ได้อ่านไปเช่าหนังสือมาลองอ่านดูอ่านแบบรีบมากๆเพราะมานแพงอ่านแล้วตอนแรกๆไม่ได้คิดจะอ่านจริงๆจังๆเพราะที่บ้านก็มีหนังสืออื่นหลายเล่ม
อ่านแล้วถึงภาค2เล่ม5แล้วจึงเลิกเช่าเพราะตอนนั้นมานงงมากกับเนื้อหาเลยไปซื้อย้อนหลังตั้งแต่ภาค1มาภาค2เล่ม5 ซื้อพร้อมกับไซออนเลย
ผมว่าคนแต่งก็แต่งดี
ตัวละคร พระเอกก็ไม่ได้ดีเลศนักหนารู้พลังแต่ใช้ไม่เป็นหล่อก็จริงแต่ รีเมียสหล่อกว่า
ติดนะครับตอนนั้นไม่รู้เพราะอะไรอ่านแล้วหนุกดี
คนเราต่างมุมมองต่างความคิดน้อส่วนคนว่านี้ก็เกินไปมั้ยเขาแต่งได้ก็บุญแล้วคุณแต่งได้ก็แค่คำวิจารญ์มานขายได้มั้ยครับคำพูดที่บอกออกมาถึงจะบอกว่าอ่านแล้วก็เหอะมานผิด ถ้าผมเป็นคุณผมจาไม่บ่นออกมาหรอกว่าเป็นไงถ้ารู้ไม่สนุกบ่นออกมาทำไมหว่าไม่สนุกอ่านหนังสืออื่นสิมีเพียบ หรือที่ว่านี้จาบอกว่าไม่ให้ซื้อ (อ้อมๆนะ)อิจฉาเขาหรือครับ หรือถ้าดูอีกมุมมอง คำวิจารญ์นี้ก็ดีนะครับทำให้รู้ว่ายังมีจุดไม่ดีอยู่จะได้ปรับแต่งสำหรับหนังสือเล่มต่อไป ถ้าดร.ป๊อบ มาเห็น ผมรู้ว่าเขาไม่ใช่คนท้อต่อคำวิจารญ์ แบบคุณเขานำไปปรับใช้แบบที่ผมว่าแน่ๆเลย อิอิ

คำแรกที่ผมนึกถึงหลังจากอ่าไนบทความของคุณจบคือ "อคติ" เหตุผลไร้สาระก็ยังเอามาเขียนได้ บ้ารึเปล่า อย่าข้อนี้ล่ะ
7.ฉากบรรยายแต่ วีดีโอเกม โฮมเธียเตอร์ใหญ่ที่สุด ห้องนอนสุดสบาย ระบบอินเตอร์เน็ตหรู แม้แต่ยานของทางการก็บอกว่ามีแต่ของพวกนี้ อ่างอาบน้ำกุชชี่ ที่เล่นเกม สถานที่พักผ่อน

แล้วเป็นคุณถ้าเจอที่พักแบบนี้ให้นอนฟรีแบบนี้คุณจะอยู่ไหมล่ะ หรือจะยอมนอนกับหมาข้างถนนไปวันๆกับความอัคติของตนเอง

ไอ่คนไม่มีจินตนาการเอ้ย

ใครชอบไวท์โรดแปลว่าไม่ได้เล่นไฟนอลชัวร์
ไม่ก็อ่านหนังสือนิยายไม่เยอะ

170 แฮะ ไอพวกสาถั่วอ่านม่ายหนุกเชี่ย

มันก็หนุกคนละแนวนิ ทั้งไวท์โรดทั้งบารามอส เราอ่านทั้งสอง

เรื่องแล้ว จะไปว่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ก็ไม่ได้เพราะยังไงก็คือนิยาย

มันไม่ใช่ความจริง เขาเขียนให้อ่านเพลินๆ คนชอบมานก็เยอะ

น่า จะไปว่าไม่ดีก็เท่่ากับดูถูก คนอีกหลายร้อยหลายพันหลาย

หมื่น สำหรับเรามันก็หนุกทั้งสองเรื่องล่ะ หนุกมากๆๆเลยด้วย

ลำดับไวท์โรด

ภาค1มี3เล่ม ของสยามอินเตอร์

ภาค 2มีราวๆ5เล่ม(เจเรเนชั่น)

ภาคSpirit1เล่ม มีCD แถม

ภาคอีโวลูชั่น ของซีเอ็ด
ปัจจุบันมี 3เล่ม

แต่เราว่าภาคอีโวลูชั่นเริ่มไม่ดีเลยอ่านแล่วเบื่อจัง แต่2เราว่าน่าอ่านไปเปิดๆที่งานหนังสือมา

แต่ใช้ฟอนต์ึคล้ายๆอังสนานิวและเว้นระยะห่่างระหว่างบรรทัดมากรูปลักษณ์ไม่มน่้าอ่าน

ถ้าคุณไม่ชอบแล้วคุณจะอ่านทำไม? คนเราหันมองโลกสองมุมบ้างก็ได้นะ หรือถ้าคุณคิดว่าคุณดีกว่า ?

ยอมรับว่า สองภาคแรกค่อนข้างแย่
แต่ dr.pop ก็พัฒนาการเขียนได้ดีมากในภาค 3

ตลกจังนะคะ เมื่อได้อ่านคอมเมนต์แล้ว จะไม่ให้มันหลุดโลกได้ไงล่ะในเมื่อมันคือ เดอะไวท์โร้ด นิยายแฟนซีหลุดโลก ถ้ามันไม่เวอร์ก็คงไม่เรียกหว่านิยายแฟนซีหรอกค่ะ
สำหรับคนที่ไม่ชอบนิยายเล่มใหญ่ๆแสดงว่าคุณยังไม่ใช่นักอ่านนิยายแฟนซีตัวยงเพราะนักอ่านนิยาแฟนซีมันจะต้องเล่มใหญ่กันเกือบทุกเล่มอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่แนะนำให้มือสมัครเล่นอ่านค่ะ


**ใครชอบไวท์โรดแปลว่าไม่ได้เล่นไฟนอลชัวร์
ไม่ก็อ่านหนังสือนิยายไม่เยอะ

ฮ่าๆๆ น่าแปลกนะคะอ่านยิยายไม่เยอะ ลองไปถามคนที่เค้าอ่านเดอะไวท์โร้ดดูสิคะว่าเค้าอ่านนิยายมากี่เล่มแล้วถึงจะมาอ่านเดอะไวท์โร้ดได้ คนที่มีจินตนาการสูงและมีความอดทนเท่านั้นค่ะถึงจอ่านจบที่สำคัญเลยนะคะ อ่านไม่จบไม่มีสิทจะวิจารณ์ค่ะ มันเสียมารยาท

ขอวิจารณ์หน่อยนะ:ผมเึคยอ่านนิยายเล่มนี้มาบ้างเหมือนกัน เพราะพี่ผมเคยบอกเหมือนกันว่ามันสนุกดี ผมเลยลองอ่านเล่ม1ดู มันก็สนุกดีแหละแต่ไปๆมาๆเล่ม2มันเศร้าและก็ไม่สนุกเลย อันนี้ภาค1นะ พอมาภาค2พระเอกก็คือพอลเนี่ยชักจะไม่ค่อยดีและ ริกกี้เองก็หยิ่งยะโสและก็ชั่วเกินกว่าจะเป็นคนได้และพอมาภาค3ผมอ่านแค่ตัวอย่าง มาลาไจน์(ปู่ของมิไลก้าที่ตายในภาค2)ก็ฝึกโหดซะเกินคนจะทนได้ และข้อสุดท้ายที่ผมของติหน่อยนะครับคือเนื้อเรื่องนะครับ ทำไมถึงได้ยาวนัก ถ้ายาวแบบกระชับนะคับจะดีมาก แต่ทำไมมันถึงยาวแบบเหมือนกะว่าฉันจะทำจนกว่าจะตายล่ะ มันยาวแบบน่าเบื่อมากเลย
ขอให้คำวิจารณ์ของผมนี้ทำให้Dr.ป๊อปพัฒนาการเขียนนะครับ

ด้วยความหวังดีจะให้นิยายเรื่องนี้ดีขึ้น

namkangkung

ดิฉันก็อ่านเรื่องนี้แล้วน่ะค่ะ
จะมาว่าดีแน่วิจารณ์ไม่เคยอ่านจริงๆไม่ได้น่ะ (ร้อนตัว อิอิ)
แถมซื้อมาอ่านเองด้วย
มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนล่ะน่ะ
ถ้าคนที่ชอบเกมส์อ่านเรื่องนี้แล้วก็คงโดนใจ
แต่ดิฉันเป็นประเภทไม่ชอบแนวนี้ (ตอนซื้อไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องมันจะเกมส์ขนาดหนัก) อ่านแล้วรู้สึก
อื้ม...จินตนาการได้ใจดี เกมส์สุดๆ ไม่มีความหนักแน่นทางเนื้อหา
จะหนักไปทางความเก่งของพระเอก ต่อสู้ อะไรเทือกนั้น
แต่สาระอย่างอื่นจะหามิได้ ดิฉันอยากจะลองอ่านวรรณกรรมของเยาวชนที่พิมพ์ลงในเน็ตดูเพื่อจะเป็นการส่งเสริมความคิดของเยาวชนไทย แต่เรื่องนี้ดิฉันขอบอกว่าผิดหวังอย่างแรง เอาไปสร้างการ์ตูนฉายช่องเก้าแบบไร้สาระดูเพลินๆดีกว่าค่ะ
อย่ามาเรียกว่าเป็นการสร้างวรรณกรรมเลย
แต่ดิฉันอาจเล่มแรกน่ะค่ะ ไม่แน่เล่มหลัๆงอาจจะดีขึ้นแล้วก็ได้

ชอบดร.ป๊อปมากๆค่ะ

อยากให้มาโรงเรียนสิรินธรอีกจังงงเลยยยยยยย
อีกอย่างชอบเฟริสมากกกค่ะ
ดร.ป๊อปคิดได้ไงค่ะเนี่ยกับการทำนิยายแฟนตาซีตั้งแต่
อายุ14น่าชื้นชมจังค่ะ
ส่วนพวกวิจารณ์ก็วิจารร์เว่อร์จริงทำได้อย่างดร.ป๊อปไหม
ในเรื่องเดอะไวท์โรสคือการผสมผสานระวังนิยายทั่วโลก
และสิ่งหลายๆอย่างที่เกิดจาดจินตนาการและความคิดสร้างสัน
อย่างเจเคโวลิ่งอะไรเนี่ยเราก้ชอบอ่านนะชอบมาก
แต่เมื่อมาเรียบเทียบกันแล้ววเจเคโวลิ่งอาจจะเขียนดีกว่าเพราะเขามีประซบการมากมายยยเขาเริ่มเขี่ยนตอนอายุ35มั้งแต่เมื่อมาเปรียบกับดร.ป็อปแล้วเขียนตอนอายุ14
มันชั่งแกกันมากกก

คุณลองคิดไนทางที่ดีหน่อยสิค่ะพวกที่มีอคติมีปัญญาทำได้แบบดร.ป้อปไหม

ปล.เป็นกำลังใจให้ดร.ป๊อปเสมอค่ะ

จากเด็กหญิงGAMSAI อายุ13 ณร.ร.สิรินธร

ปกติเราเป็นคนที่ชอบอ่านวรรณกรรม นิยายแฟนตาซี และหนังสืออีกเกือบทุกประเภท ทั้งของไทย และเทศ

เพื่อนเราเอาไวท์โรดมาให้ลองอ่านเล่มแรก เพราะมันชอบมาก เราก็รับมาอ่านนะคะ
แต่รู้สึกว่า มันคล้ายกับหนังสือมากมายที่เราได้เคยอ่านไปอย่างบอกไม่ถูก

อ่านแล้วเกิดอาการแอนตี้อย่างบอกไม่ถูก ไม่ประทับใจอย่างแรง อ่านไปหงุดหงิดไป (แต่ก็อ่านจนจบเล่มแรกนะ)
และก็รีบเอาไปคืนเพื่อนอย่างเร็ว สาบานกะตัวเองว่าจะไม่ซื้อเด็ดขาด โชคดีแล้วที่ไม่บ้าซื้อตามกระแส

ดร.ป๊อปถือว่าเป็นคนเก่ง ที่นั่งเขียนนิยายยาว ๆ ออกมาได้
แต่ไม่เก่งที่ได้รับอิทธิพลจากหนังสือเล่มอื่น และเหมส์มากไปหน่อย ทำให้รู้สึกว่าคนแต่งไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย

ถ้าดร.ป๊อปแต่งหนังสือที่ ไม่ได้รับ "อิทธิพล" จากสิ่งรอบกายขนาดนี้ เค้าอาจจะสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่ามากกว่านี้ได้

อยากให้ไวท์โรดทำมาเป็นการ์ตูนจัง

1ชั้นอ่านมาครบทุกภาคแล้วค่ะ บอกตามตรงตอนแรกอ่านจนถึงภาคสอง ก็เกือบจะรู้สึกแบบเดียวกันจขกท. แต่ไปๆมาๆตัดสินใจซื้อมาจนจบ แล้วอ่านรวดเดียวจบ ก็รู้สึกเลยว่า ที่ตอนแรกชั้นคิดว่านิยายเรื่องนี้กาก ชั้นคิดผิดซะแล้ว
2พอลองอ่าน แล้วค่อยๆคิดตามไปเรื่อยๆ นิยายเรื่องนี้เปรียบเสมือนตัวแทนของมนุษย์เรานี่แหล่ะค่ะ การกระทำของตัวละครบางอย่าง เช่นผู้หญิงไล่ตามกรี๊ดผู้ชายอย่างที่จขกทว่าคนแต่ง แต่งให้ตัวละครหญิงดูงี่เง่า วันๆเอาแต่ตามปล้ำผู้ชาย มันก็มีจริงๆ ผู้หญิงประเภทนี้ เพียงแต่คุณอาจจะยังไม่เคยเห็นก็เท่านั้นเอง และที่จขกท.ว่า ผู้เขียนแต่งให้พระเอกวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำชาย เป็นการดูถูกเพศแม่ อยากถามว่าดูถูกยังไง? ชั้นเองเป็นผู้หญิง การที่ผู้ชายคนนึงวิ่งหนีชั้นเข้าไปในห้องน้ำ ไม่คิดว่าจะเป็นการดูถูกตรงไหน การที่เค้าแต่งแบบนี้เราว่าเป็นการดีเสียอีก เพื่อที่จะให้ผู้หญิงที่ได้อ่านเรื่องนี้ ได้เห็นการกระทำของผู้หญิงที่แรดจนผู้ชายต้องวิ่งหนี ว่ามันไม่สมควรเอาเยี่ยงอย่าง การกระทำแบบนั้นมันไม่ดีเอาซะเลย (อ่านแล้วคิดหน่อยค่ะ แล้วจะรู้ว่ามันสอนคนได้ ยกเว้นพวกที่อ่านเอาแต่สำนวนและความมันส์)

3แถมตัวละครแต่ละตัว ก็เป็นตัวแทนของนิสัยที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเราพึงจะมี
4.ตอนจบออกจะน่าผิดหวังไปซักหน่อย แต่สำหรับ การอ่านนิยายที่ตอนจบทำให้เราผิดหวัง ถือเป็นรสชาติอย่างหนึ่งของชีวิตค่ะ เพราะงั้น ชั้นถึงชอบนิยายเรื่องนี้
5ชั้นก็ชอบบารามอสมากนะ แต่ถ้าจะบอกว่าเทียบกับบารามอสแล้วบารามอสดีกว่า อยากจะบอกว่าคิดผิดแล้วค่ะ บารามอสเป็นนิยายแฟนตาซี ไวท์โรดออกแนวsci-fi คนละแนวกัน เอามาเทียบกันได้ไงคะนั่น
6สุดท้ายนี้ อยากให้คนแต่งกลับไปรีไรท์ภาคสองใหม่ เพราะอ่านแล้วรู้สึกว่าสำนวนการแต่ง(ย้ำอีกทีว่าเฉพาะสำนวนการแต่ง)แย่(ต้องบอกว่าห่วยแตก)เหลือเกิน ชอบสำนวนแบบภาคแรก แต่เรื่องนิสัยตัวละครและเนื้อเรื่องนั้นดีอยู่แล้วค่ะ มันเป็นตัวแทนของหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างได้ดี

อัลเบิร์ต ไอสไตน์:

ระหว่างผู้ที่มีความรู้มีการศึกษามากที่สุด กับ ผู้ที่มีความรู้มีการศึกษาน้อยที่สุด มีความแตกต่างในระดับเล็กน้อยที่ไม่อาจเอ่ยอ้างถึงได้ เมื่อเทียบกับสิ่งต่างๆที่เรายังไม่รู้

เห็นด้วยว่าภาค2 มันห่วยมาก เว้นไปหลายปีมาต่อภาค3 รู้สึกว่ามันใช้ไ้ด้ โอเคอ่านได้อยู่

ชอบเวบนี้ เพิ่งเข้ามาอ่ะ

จะว่าไรนักหนา รู้ว่าไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน บางคนเค้าชอบเค้าก็อ่านไอคนไม่ชอบ แค่บอกว่าแก้ตรงแก้ตรงนี้ก็พอแล้ว จะไปว่าเค้าทำไม ทามทีท่าคุณคิดอยาก จะทำไรขึ้นมาโดยจิตนาการของคุณให้คนอื่นเค้ารู้ว่า คุณมีจิตนาการแบบไหน และแบ่งปันให้คุณรับรู้ ไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่านแล้วไม่ต้องวิพาทวิจารณ์กันเกินเหตุ ขอลงความเห็นไว้เท่านี้ ท่าอ่านไม่รู้เรื่องก็ไปอ่าน"แก้วหน้าม้า"หรือ"สังทอง" โน้นท่าชอบอ่านแนวนี้ก็ไปอ่านซะอย่าไปลดทอนความตั้งใจในการเขียนและ จิตนาการของเค้าแค่นั้นเป็นพอ"

แต่เราเห็นต่างนะ เราอ่านดูแล้ว ก็คิดอยู่แหละว่าเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ก็เอามาจากเกมและการ์ตูนต่างๆจริง แต่มาคิดในมุมกลับว่า ตอนนั้นนักเขียนเรื่องนี้ยังเด็ก (จำไม่ได้ว่าเรื่องนี้ตีพิมพ์ตอนเค้าอายุเท่าไหร่ แต่น่าจะไม่เกินช่วงวัยรุ่น) แล้วก็มีความสามารถในการนำสิ่งที่ชอบรอบตัวมาใช้เป็นแรงบันกาลใจ ผนวกเรื่องราวต่างๆ แล้วก็ผสานจินตนาการสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานได้ขนาดนี้ ในช่วงอายุเท่านั้น ตอนนั้นเรายังโดดเรียนไปซ้อมดนตรี แตะบอล อ่านการ์ตูนกิ๊กก๊อกไปเรื่อยอยู่เลย แต่คนเขียนคนนี้กลับทำเงินได้จากงานอดิเรกและความชอบของเขา
ส่วนตัวก็ชอบเนื้อเรื่องนะ รู้สึกอิน เพราะตอนนั้นก็ติดเกม ติดการ์ตูนเหมือนกัน พอได้มาเสพในอีกมิตินึงในรูปแบบนิยายก็ว่ามันโอเค เมื่อเทียบกับความสามารถของนักเขียนในตอนนั้นแล้ว
ใดๆก็คือ นานๆจิตตัง อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากคำของคนอื่น ถ้าสงสัยก็ไปลองหาอ่านดู ชอบก็ไปต่อ ไม่ชอบก็พอแค่นี้ เพราะสุดท้ายแล้ว มันก็เป็นแค่เรื่องของความรู้สึกว่าเรา ชอบ หรือ ไม่ชอบ งานชิ้นนี้

การวิจารณ์ก็มีเพื่อให้เค้าเกิดการพัฒนาผลงาน ไม่ใช่ไปสาดเค้าซะยับ จนเค้าหมดกำลังใจ (นี่เข้าใจได้ว่า งานต่างๆของศิลปิน กว่าจะออกมาแต่ละชิ้น มันยากจริงๆนะ กว่าจะบิ้วอารมณ์ให้เริ่มและจบมันลงได้สักชิ้น)

ที่อยากบอกก็มีเท่านี้จ้า