Group Blog
 
All blogs
 
Classmate, Sister and Stranger

Classmate, Sister and Stranger

เพื่อน พี่สาวและคนแปลกหน้า

“นี่ถ้าไม่ใช่เป็นแกขอร้องนะให้ตายยังไงก็ไม่ไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเป็นหน้าม้าให้แบบนั้นหรอกโคตรบาปเลยอ่ะ” กรองแก้วฉะเพื่อนสาวทันทีที่เจอหน้ากัน ตรงบริเวณอาคารเรียนของคณะสถิติประยุกต์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง

“เอาน่า ถือซะว่าช่วยลูกช้างลูกม้าแล้วกัน อีกอย่างไม่มีแม่ฉันทำเรื่องพรรค์นี้ชาวบ้านเขาก็แห่กันไปที่อื่นอยู่ดี เรื่องนี้มันเป็นเรื่องระดับชาติ” แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ครอบครัวตัวทำเป็นเรื่องไม่ดีไม่งามแต่สาวเจ้าก็พยายามแถแก้ตัว

“จ้า แม่คนมีเหตุผล” กรองแก้วแขวะเข้าให้อีกหนึ่งดอกแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนักนอกจากเรื่องทำมาหากินของที่บ้านซึ่งถือเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว รับพรเป็นเพื่อนที่ดีมากไม่นับว่าหน้าตาละม้ายคล้ายญาญ่า หุ่นแจ่มน่าเจี๊ยะน่าฟัด ด้านนิสัยส่วนตัวเจ้าเพื่อนรักไม่เคยนินทาว่าร้ายใคร ทั้งยังตั้งใจเรียน และรักครอบครัวเป็นที่ยิ่ง

“ว่าแต่งานที่แกเคยชวนน่ะยังโออยู่มั้ย” ระหว่างทางที่นั่งรถประจำทางมา รับพรครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ในหัวสมองตลอดมันจริงอย่างที่แม่ว่าไว้ หากเธอทนทำงานที่ร้านสะดวกซื้อต่อไปด้วยรายได้เพียงน้อยนิด เจ้าหนี้มีหวังได้ยึดเอาบ้านไปครอบครองอย่างสะดวกโยธินแต่งานอะไรเล่าที่จะสามารถสร้างรายได้เพียงพอ จะช่วยแม่ใช้หนี้ในระยะเวลาเพียงสามเดือนขายยา? เลวบัดซบเลยนะนั่น ไม่เอาหรอก เล่นหุ้น? ไม่อ่ะ เธอขี้เกียจมานั่งวิเคราะห์ตัวเลขให้ปวดหัวลำพังที่ร่ำเรียนมาสี่ปีก็เบื่อจะย่ำแย่ เรื่องค้าขายยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไร้ซึ่งทุนรอนจะไปหยิบยืมจากใครที่ไหน? คิดวนเวียนสะระตะนะโมหลายคำรบ มันก็เหลือเพียงช้อยส์เดียวงานพิเศษที่ยัยแก้วทำอยู่ไง.. เด็กนวด!!

“กล้าแล้วเหรอ?” เพื่อนสนิทที่เข้าใจสถานการณ์ดีถามกลับมาแบบไม่แน่ใจนักยัยพรออกจะธรรมะธัมโมซ้ำยังเหนียมอายจะตายขนาดเพื่อนผู้ชายยังไม่ค่อยจะกล้าเสวนาเรื่องไปนั่งถอดเสื้อผ้าเป็นพริตตี้นวดให้ลูกค้าผู้ชาย ถ้าไม่กร้านโลกเจนจัดพออย่างเธอผู้สาวใดจะกล้าทำ

“จวนตัวจนทางน่ะสิ บ้านจะโดนแฮฟอยู่รอมร่อแล้ว” รับพรตอบวาดฝันถึงรายได้ก้อนโตที่กรองแก้วเคยบอกกล่าวเอาไว้ เมื่อครั้งเอ่ยปากชักชวนให้ไปทำงานพิเศษด้วยกัน ก็หัวใจพองโตรอดแล้วแม่จ๋า ฝ่ายคนรับฟังที่กลายเป็นว่าหัวใจห่อเหี่ยวแทน เพราะเธอไม่เคยได้บอกลงลึกถึงรายละเอียดหรอกว่าลักษณะของงานมันเป็นเช่นไร ยัยพรก็แค่เข้าใจว่าเราไปนวดตัวให้ผู้ชายเฉยๆมันจะเฉยได้อย่างไร เมื่อต้องเปลื้องผ้า เปลือยกายนวดน่ะสิแล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้น เมื่อหนุ่มสาวต้องอยู่ในห้องหับกันอย่างล่อนจ้อนสองต่อสอง.. เฮ้อ! กรองแก้วไม่กล้าแม้จะสบตาเพื่อนรักเธอได้แต่ตอบปัดๆไปให้พ้นตัว

“เออๆ เดี๋ยวถามพี่อ้นให้แล้วกัน ไปกันเหอะ อยากจะรู้ใจจะขาดแล้วว่าผ่านไม่ผ่าน”สองกานดาออกจากคณะของตนเดินลัดเลาะตามทางเดินเท้าของมหาวิทยาลัย จนมาถึงตึกคณะจิตวิทยา เพื่อมาดูประกาศผลการเรียนวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรม เป็นกรองแก้วที่มุ่งหน้าขึ้นบันไดอาคารเรียนไปก่อนพอถึงชั้นพักสาวเจ้าเพิ่งสังเกตได้ว่า เพื่อนสาวไม่ได้เดินตามกันมาด้วยรับพรยืนนิ่งอยู่ที่บันไดขั้นแรก แหงนหน้าใสขึ้นไปมองที่สหายร่วมคณะ

“ตื่นเต้นเล็กน้อยถึงปานกลางอ่ะแก” คู่สนทนาส่ายหน้าด้วยไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับกรองแก้วแล้ว เธอก็แค่เรียนเอาวุฒิเอาใบปริญญาเรียนไปแกนๆพอให้ผ่านเกณฑ์เท่านั้น

“ไม่เห็นต้องตื่นเต้นวิตกจริตขนาดนี้เลยก็เห็นแกยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งออกมาจากห้องสอบนี่นะ แล้วยังเป็นวิชาเลือกเสรีอีก ‘จารย์เขาปล่อยๆช่วยเด็กอยู่แล้วความจริงฉันเห็นแกได้เอบวกบวกตั้งแต่ลงทะเบียนนู่น”

“ก็ว่าแบบนั้นแต่พอนึกขึ้นได้ว่าถ้าหลุดจากบี อดได้ เกียรตินิยมมันก็เสียดายฝุดๆอ่ะ สู้ขยันเรียนมาตั้งสี่ปี อีกอย่างตอนเขียนคำตอบในข้อสอบ ดั๊น..คิดนอกกรอบไปเยอะออกทะเลอ่าวไทยไปไกลถึงฮาวาย ไม่รู้อาจารย์แกจะเมตตาเราบ้างมั้ย”รับพรเดินตามเพื่อนสาวมาถึงชั้นสองของอาคารเรียนเบื้องหน้าอีกราวสิบเมตรเป็นบอร์ดติดประกาศข่าวกระดาษเอสี่สีขาวแปะลอยเด่นมาแต่ไกล มีนักศึกษาสามสี่คนมายืนดูผลการเรียนของตนเองเช่นกัน

“นั่นสินะถ้าแกอดได้เกียรตินิยมฉันคงเศร้าไปด้วย” กรองแก้วไม่ได้แหล รับพรตั้งใจเรียนเวอร์ ขนาดเจมส์จิ มา อีเวนท์ที่มหาวิทยาลัยในคาบเรียนเพื่อนในชั้นต่างโดดกันหมดเพื่อไปดูซุปเปอร์สตาร์ เหลือเพียงรับพรคนเดียวที่อยู่ในคลาสเธอก็เคยสร้างวีรกรรมมาแล้ว

“ขนาดนั้น?” คนที่ลุ้นเกียรตินิยมยิ้มที่มุมปากเรื่องเอาอกเอาใจปลอบใจต้องยกให้หล่อนล่ะ

“ก็มีเพื่อนเลอค่าเอาไปอวดใครต่อใครได้นิ” สองเพื่อนซี้ยังเม้ามอยกันอยู่ที่หน้าบันไดรับพรพยายามทำใจ หากผลไม่เป็นดั่งหวังจะได้ไม่ต้องเสียใจมาก ได้แต่ปลอบใจตัวเองเป็นปรัชญาที่อับราฮัมลินคอน เคยว่าไว้

“ช่างเถอะความยุติธรรมที่สุดแล้วมันอาจจะไม่ยุติธรรมก็เป็นได้”

“ยื่นเรื่องกับอธิการเลยมั้ยหรือว่าฟ้องนักข่าว” เพื่อนสาวบ้าจี้เล่นมุกต่อทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายลงไปบ้าง

“บ้าเหรอก็แค่คิดว่ามันออกจะทำลายจิตใจกันมากไปหน่อย คือถ้าอย่างนั้นไม่ต้องมีลุ้นไปซะเลยยังจะดีกว่า” รับพรกลั้นใจเดินมาใกล้บอร์ดในระยะสายตากวาดดูรายชื่อของตนเองตามรหัสเลขประจำตัว 5410014343 นายบวร บุญกระโทก C… 5410014344 นางสาวรับพรพรพงค์พรรณ A

“แก้วฉันทำได้! ฉันได้เกียรตินิยม!!” รับพรกระโดดโลดเต้นด้วยความปิติสุข ยิ้มปากกว้างอวดฟันขาวเป็นระเบียบและไม่ลืมที่จะคว้าร่างกรองแก้วมากอดแน่น

“เออๆ ไม่ต้องกอดแน่นแบบนี้ก็ได้หายใจไม่ออก” คนโดนกอดรู้สึกใจเต้นหวิวๆรีบออกปากให้เพื่อนรักหยุดลิงโลดออกห่างจากเธอหน่อย

“แล้วแกอ่ะผ่านหรือเปล่า?” ร่างอรชรละอ้อมกอดอดเป็นห่วงคู่ซี้ไม่ได้

“ฉันมันพวกฐานนิยมน่ะนะซีว่ะ” ก็อย่างที่รู้เรื่องเรียนเรื่องเกรดใช่สลักสำคัญอะไรกับกรองแก้วรับพรมองดูอาการของเพื่อนที่ไม่ยินดียินร้าย ก็พลันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ปากที่ยิ้มกว้างหุบลงดั่งดอกไม้เหี่ยวเฉา พูดออกไปด้วยเสียงนิ่งเรียบ

“ไม่ดีใจแระ” ผู้ฟังเอียงคอทำหน้าฉงนฉงายอะไรของคุณมรึงวะคะ?

“มาคิดดูอีกทีมันก็แทบไม่มีความหมายอะไรเลยหากมันเปลี่ยนเป็นเงินสักหมื่นสองหมื่นก็ค่อยน่าดีใจหน่อย” มันเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในห้วงความคิดของสาวสวยกรองแก้วพยายามปลอบไม่ให้เพื่อนรักคิดเวิ่นเว้อไม่เข้าเรื่อง

“บ้าเหรอแกอย่างน้อยตอนประสาทปริญญาแกก็ได้ขึ้นรับพระราชทานก่อน แถมยังมีเสียงปรบมือดังลั่นห้องประชุมโก้จะตายไปเอางี้ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงไอติม” คนปลอบไม่รอให้เพื่อนพูดพร่ำต่อให้เศร้าใจลากร่างบางออกไปทันที...ที่ร้านเบเกอรี่หน้ามหาวิทยาลัยนักศึกษาบางตาเนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียน สองสหายนั่งคุยกันอย่างออกรส

“ใจหายว่ะจะไม่ได้เจอแกอีกแล้ว” กรองแก้วเปรยขึ้นลอยๆ หากฟังเพียงผิวเผินก็ดูเป็นคำรำพันที่เพื่อนมีให้กันต่อความสัมพันธ์เกือบสี่ปีและมันก็เป็นเช่นนั้นในการตีความของรับพร

“เฮ้ย! ยังไม่ตาย ไลน์ก็มี คิดถึงก็วีดีโอคอลดิวะ”

“มันเหมือนกันซะที่ไหนเล่าคนเคยเจอหน้าค่าตากันทุกวัน” กรองแก้วปรารถนาจะเอื้อนเอ่ยความรู้สึกในส่วนลึกที่มีต่อเพื่อนรัก แต่หากบอกออกไปความเป็นเพื่อนที่เคยมีมันอาจจะสูญสลายไปพร้อมๆกับการจากลาก็เป็นได้

“พูดแบบนี้คิดไรปะเนี่ย?” รับพรสัพยอก ยิ้มบางๆ ด้วยไม่เอะใจคิดเป็นอื่น

“ก็ถ้าคิดแล้วจะว่าไง?” แหย่ๆหยอดๆไปอีกนิดเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อหวังเช็คสถานะภาพหัวใจ รับพรแทบวางช้อนไอศกรีมไม่ทัน ไอ้ที่รู้แน่ๆก็คือแก้วน่ะชอบดนตรีไทยแต่เพื่อนหน้าสวยก็ไม่เคยแสดงอาการก้อร่อก้อติดเกินเลยกับเธอ ตลอดระยะเวลาที่เลยผ่าน

“จะ..จริงเหรอ” รับพรย้ำถามเอาให้ชัดๆตัวเธอนั้นเล่าก็ไม่ใคร่แน่ใจหัวใจตัวเองนัก หากจะมีคนรู้ใจเป็นเพศสภาพเดียวกัน แต่เป็นกรองแก้วที่ยุติความคลุมเครือดังกล่าวเธอควรจะพอใจในสิ่งที่เป็น

“คริคริล้อเล่นน่ะ ถ้าคิดก็จีบแกไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ไม่มารอเอาวันจบหรอก”

“แล้วพี่แพรวติดต่อกลับมาบ้างมั้ย” คนได้เกียรตินิยมถามไถ่ถึงรุ่นพี่ป๊อบปูล่าที่แก้วเคยควงไม่ใช่สิต้องพูดว่าพี่แพรวเคยควงแก้วต่างหาก ความจริงพรก็รู้อยู่แก่ใจเพราะคาดเดามาตั้งนานนมแล้วว่าคู่นี้น่าจะไปกันไม่ไกล ก็ดูพี่แพรวสิเธอลุกส์คุณหนูไฮโซผู้เย่อหยิ่ง สวยพิลาสพิไลหยาดฟ้ามาดินแต่ยัยแก้วยังอาจเอื้อมหมายเด็ดดอกฟ้า นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เพื่อนรักต้องถีบตัวเองอัพคลาสขึ้นมาเพื่อให้ทัดเทียมพี่แพรวด้วยการไปทำงานพิเศษอย่างว่า

“คงไปมีแฟนแหม่มแล้วหล่ะ” คนตอบคำถามพูดเสียงราบเรียบแววตาเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ จนรับพรอดเป็นห่วงไม่ได้

“พูดยังกับไม่เสียใจเลยนะแกนี่นับวันจะตายด้าน”

“ทำใจตั้งแต่วันที่ไปส่งที่สนามบินแล้วจากสถิติร้อยละเก้าสิบเก้าของคนที่แฟนไปเรียนต่อต่างประเทศความสัมพันธ์ไม่เคยได้ไปต่อ” ลูกสาวร่างทรงยังไม่ปักใจเชื่อคนเราหากรักกันจริงแม้นอยู่ไกลกันคนละฟากฝั่งมหาสุมทรก็มิอาจกั้นขวางแรงรักแรงใจที่จะโบยบินไปถึงกันได้ สาวสวยกำลังจะอ้าปากเถียง แต่ก็มีไลน์จากพิมพ์ลภัสลูกสาวคนโตของ เฮียบุญเลี้ยงเจ้าหนี้ที่แม่สุดานำบ้านไปจดจำนองเอาไว้

“พรคะพี่อยากเจอเราหน่อย จะคุยเรื่องบ้าน”

“ได้ค่ะกำลังจะออกจากมอ เจอกันร้านข้าวแกงป้าผ่องนะคะ” มือเรียวกดหน้าจอสัมผัสตอบกลับ หมดเวลาคุยเล่นหัวแล้วไม่รู้ว่าพี่พิมพ์จะคุยกับเฮียเลี้ยงสำเร็จมั้ยนะ รับพรคว้ากระเป๋า ลุกยืนขึ้นและเอ่ยปากร่ำลาเพื่อนทันที

“เครต้องกลับแล้วล่ะ อย่าลืมคุยเรื่องงานให้ด้วยนะ พี่อ้นอะไรของแกน่ะ”

“พรคือ..” กรองแก้วอึกอักอยากจะอธิบายขยายความถึงเรื่องการงานที่เพื่อนรักน่าจะเข้าใจไม่ละเอียดพอคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่รอฟังคำเล่นลิ้น สมาธิของหล่อนตอนนี้มุ่งไปที่พี่พิมพ์ลภัสหมดสิ้น

“อะไรว้า!ไหนว่าเป็นเพื่อนรักกันไง เรื่องแค่นี้ทำเป็นอิดออด จะไม่ช่วยก็บอกกันมาตรงๆ” รับพรเดินมาที่หน้าร้านคว้าเอาพายกรอบมาถุงหนึ่ง เบ้หน้าบอกใบ้ให้เด็กไปเก็บเงินเอาที่โต๊ะเพื่อนเธอ

“เออๆไว้เดี๋ยวจะโทรให้แล้วกัน” กรองแก้วก็จนใจ รับปากส่งๆไป ไว้ถึงหน้างาน รับพรคงจะรู้และตัดสินใจได้เอง ลูกสาวร่างทรงโบกมืออำลาและสาวฝีเท้าออกจากร้านไป ทิ้งให้คนแอบปลื้มนั่งเซื่องซึมไม่ใช่เพราะถูกรื้อฟื้นเรื่องคนรักเก่าหรอก แต่เป็นเพราะอดสงสารยัยพรไม่ได้ทำไมคนดีๆเช่นเพื่อนรักจะต้องมาลงเอยเป็นเด็กนวดด้วย จริงอย่างที่ยัยพรว่าไว้ที่สุดแล้วความยุติธรรมก็คือความไม่ยุติธรรม แต่มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้สินะ...ที่ป้ายรถประจำทางรับพรรอขึ้นรถเมล์ฟรีอยู่เกือบสี่สิบนาทีความจริงเธอก็ไม่ได้อนาถอนาถาถึงขั้นนี้หรอก แต่ที่ต้องเขียมเพราะเงินทุกบาทมันมีค่ามากหากไม่ติดว่ามันเป็นสมบัติและสิ่งที่ให้ระลึกถึงผู้เป็นบิดาเพียงสิ่งเดียวแล้วเธอจะปล่อยบ้านให้มันหลุดๆไปเลย ระหว่างที่ใจลอยปล่อยความคิดให้ฟุ้งซ่านนักศึกษาสาวมารู้ตัวอีกครั้งรถเมล์ก็เลยป้ายปากซอยบ้านไปสองป้ายรับพรต้องเดินย้อนกลับมาอีก โมโหตัวเองเป็นหนักหนา เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามไรผมเมื่อถึงหน้าร้านข้าวแกงป้าผ่อง มีรถ BMW ทะเบียน999 สีแดงแป๊ดสะท้อนแสงแดดเป็นเงางามจอดเด่นเป็นสง่าร่างบางกวาดสายตามองหาเจ้าของรถ เจ้าตูบที่นอนหมอบอยู่ใกล้บอกเธอว่าเขานั่งอยู่ในรถ รับพรตรงรี่มาทันที บานกระจกที่ติดฟิล์มหนาทึบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ถูกเลื่อนลงมาเผยให้เห็นคนนั่งเป็นหญิงสาวผมซอยสั้นถึงหูสีบรอนซ์อมเขียวดูจากโครงหน้าแล้วก็รู้ได้ทันที โดยไม่ต้องถอดแว่นตากันแดดสีชาด้วยซ้ำว่ารูปโฉมโนมพรรณจะน่าเพ่งพิศเสาวภาคย์ขนาดไหน

“สวัสดีค่ะ” รับพรยกมือประนมและยิ้มสวย เห็นหน้าหวานๆของพี่พิมพ์แล้วก็หายเหนื่อยโดยพลัน

“ขึ้นมานั่งในรถก่อนสิอากาศข้างนอกมันร้อน” พิมพ์ ลภัสเอ่ยปากชวนเสียงหวานจับใจเมื่อเห็นว่าเสื้อนักศึกษาชุ่มไปด้วยเหงื่อ รับพรยิ้มแหยๆ อายตัวเองแต่ก็อดชื่นชมคนใจดีไม่ได้ คนอะไร สวยรวยเริ่ดแต่กลับไม่เชิดใส่ดั่งคำคล้องจอง

“เอ้ามัวยืนเป็นแป๊ะยิ้มไปได้ เห็นมั้ยคะว่ารถจอดขวางเขาอยู่” พอได้ยินคำก็ไม่รอช้าร่างบางเปิดประตูเข้ามานั่งในรถหรูอุณหภูมิเย็นฉ่ำภายในรถทำให้คนเหงื่อโทรมกายรู้สึกเย็นวาบ

“นั่งถนัดรึเปล่าคะปรับเบาะได้นะ” เสียงหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งป่าเดือนห้าจากเจ้าของรถถามขึ้นเมื่อดูแล้วว่าสาวเจ้าจะนั่งไม่ใคร่สบายนักรับพรเอามือน้อยๆข้างซ้ายของตนคลำดูที่ข้างๆเบาะเจอปุ่มสามสี่อันก็ยิ่งงงจะลองกดดูสักปุ่มก็ไม่กล้า เกิดของเขาพังขึ้นมาล่ะก็นะ ซวยบรม นักศึกษาสาวหันมายิ้มแหย ก็ทำไม่เป็นเธอเคยนั่งรถหรูเฟ่แบบนี้เสียที่ไหนกัน พิมพ์ลภัสไม่ตอบ เธอปลดล็อคเข็มขัดนริภัยเอี้ยวตัวโน้มมาที่เบาะฝั่งของรับพร มือยาวๆพาดผ่านร่างกายลงมาที่ข้างเบาะกลิ่นน้ำหอมน้ำปรุงมีระดับฟุ้งกำจรกำจาย แก้มนวลเนียนของพี่พิมพ์อยู่ในระยะประชิดห่างเพียงไม่กี่เซ็นติเมตรแม้จะเป็นเพียงชั่วไม่กี่วินาทีแต่มันช่างยาวนานในความรู้สึกของรับพรพิมพ์ลภัสกลับมานั่งในท่วงท่าเดิมเอามือสวยที่ดูปราดเดียวก็มองออกว่าเป็นลูกผู้ดีมีตระกูลหมุนปุ่มที่คอนโซลเพลงสากลซึ้งๆก็ดังขึ้นคลอเคล้ารับพรจ้องมองบั้นหน้าคนสวยอย่างไม่ละสายตาและลืมตัว คิ้วเข้มชนิดที่เธอก็ดูไม่ออกว่าสักมาหรือไม่แต่จมูกที่โด่งเป็นสันน่ะไม่ได้พึ่งมือหมอแน่ๆ พี่พิมพ์บั้นหน้าเป๊ะเวอร์จะว่าหล่อเลยก็ไม่ผิดนัก ดาราผู้ชายหลายๆคนต้องมีอายหากยืนประกบกัน

“หือไม่ชอบเพลงฝรั่งเหรอคะ” เสียงหวานๆถามไถ่พร้อมๆกับหมุนปุ่มเปลี่ยนมาเป็นเพลง‘เบาเบา’

“ปะ..เปล่าค่ะอ๋อ พรซื้อพายกรอบหน้ามหาวิทยาลัยมาฝาก พี่พิมพ์จะได้ไว้ทานคู่กับชา” คนหน้าใสตรงหน้าไม่โปรดกาแฟเพราะเธอเชื่อว่าดื่มมากจะทำให้แก่ กอปรกับดีกรีนักเรียนนอกผู้ดีอังกฤษพี่พิมพ์จึงชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ ไม่เพียงดื่ม เธอยังชงชาได้อร่อยจับใจ พิมพ์ลภัสเปิดร้านชาอยู่ในห้างสรรพสินค้าหลายสาขาและมีเบเกอรี่นิดๆหน่อยๆพอไว้ให้ลูกค้าได้เลือกเสิร์ฟคู่กันกับชา อ้าว นี่เราก็ดันซื้อขนมมาให้คนขายขนมกรรมแท้น้อ รับพรยิ้มเจื่อนๆเมื่อรู้ว่าตัวเองปล่อยไก่ให้ได้อาย.. แต่ผิดคาดมือเรียวงามรับเอาถุงขนมมาวางไว้บนตัก และหยิบเอากระดาษซับมันที่วางอยู่หน้าคอนโซลมาซับเหงื่อที่หน้าผากและใบหน้าให้เธอแผ่วเบาก่อนที่จะขยำทิ้งใส่กระตร้าและขับรถเคลื่อนออกไปนักศึกษาสาวไม่รู้หรอกว่าพี่สาวน่ารักจะพาเธอไป ณ ที่แห่งหนใด เธอรับรู้แต่เพียงว่าเบาะหนังแนวสปอร์ตกระชับตัวแสนนุ่มนิ่ม เจ้าของรึก็ช่างอ่อนโยน เพลงก็ช่างหวานหยาดเยิ้ม โอย! ฟิน กระหวัดถึงคำของเพื่อนสาวไม่แน่หรอกนะ ถ้าพี่พิมพ์ตาบอดคลำช้างมาจีบเธอเข้า แม่จะไม่ลังเลที่จะเซย์เยสเลย!

“พี่คุยกับป๊าให้แล้วนะคะ เรื่องสัญญาน่ะ” รับพรหูผึ่งหลุดออกจากจินตนาการฝันหวานทันทีเธอหันหน้ามาจะเตรียมจะฟังความอย่างตั้งอกตั้งใจ

“พี่กับณัฐเองก็อยากจะช่วยแต่ติดที่ว่ามันมีผลผูกพันทางกฎหมายแล้วนี่สิ ป๊าได้แต่บอกว่าก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามสัญญาแต่พรไม่ต้องห่วงนะคะ ทางเราไม่คิดจะไล่ไปไหน” พี่พิมพ์ยิ้มละไม แจงความอย่างช้าๆ จ้องมองมาที่นักศึกษาสาวที่แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นกังวลยิ่งนักนอกจากสีหน้าและแววตาที่ซุ่มซ่อนไว้ไม่มิดแล้วเธอยังนั่งกระสับกระส่ายแทบไม่ติดเบาะ แม้คำหวานจะบอกว่าไม่เป็นอะไรถึงกระนั้นก็ดี ขึ้นชื่อว่าเป็นนายทุน เป็นเจ้าหนี้วันนี้อาจจะยังไม่ไล่เพราะไม่มีสิทธิ์แต่เมื่อถึงวันที่ทุกอย่างต้องตกเป็นของเขาแม้จะไม่เอ่ยปากไล่กันตรงๆ เธอกับครอบครัวก็ต้องอัปเปหิตัวเองไปโดยอัตโนมัติอยู่ดีร่างบางพยายามหาทางหนีทีไล่ ประสบการณ์ชีวิตที่น้อยนิดก็คิดออกเพียงวิธีเดียวคือเป็นเด็กนวด

“ไปนั่งเล่นๆที่ร้านพี่ก่อนดีกว่านะคะ”

“พรอยากกลับบ้านค่ะขอโทษจริงๆนะคะ พี่พิมพ์ช่วยจอดตรงนี้เลยได้มั้ย”พิมพ์ลภัสทำตามคำร้องขออย่างว่าง่าย กับเธอแล้วพรเป็นน้องสาวที่น่ารักแต่เธอก็ช่วยได้เพียงเท่านี้จริงๆ สิ่งที่บอกกับร่างบางหน้าใส มันเป็นความจริงเพียงส่วนเดียวหากแต่เมื่อเช้าเธอทะเลาะกับผู้เป็นบิดาถึงเรื่องนี้มาแล้วยกหนึ่งและดูทีท่าว่าป๊าจะไม่ยอมผ่อนปรนผ่อนผันโดยง่าย อันที่จริงป๊าก็ใช้วิธีนี้มาโดยตลอดรับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากชาวบ้านในราคาแสนถูกคนที่ไม่มีปัญญาไถ่ถอนปล่อยหลุด ป๊าก็เอาไปทำกำไรขายต่อ

“ไม่ต้องมาใจบุญทำเป็นนักสังคมสงเคราะห์หน่อยเลยดูอย่างม๊าแกปะไร ไปช่วยคนอื่นแล้วตัวเองต้องตาย จำไว้นะบนโลกใบนี้ผู้ที่เข้มแข็งกว่าเท่านั้นจึงจะมีที่ยืน”คำพูดของบิดาดังก้องในโสตประสาท สาวหน้าหล่อหยุดรถอย่างกะทันหันพร้อมๆไปกับพยายามจะหยุดความคิดของตนเรื่องอดีตน่าเศร้าของแม่ก็สำคัญและเรื่องของคนข้างๆก็มีส่วนสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน รับพรไม่ได้สนใจความเป็นไปของพี่สาวแสนเท่นักเธอยกมือไหว้และรีบออกจากรถราคาแพงทันที ลูกสาวร่างทรงเดินกลับบ้านด้วยจิตใจห่อเหี่ยวเช่นเดียวกันกับผู้ที่นั่งอยู่ในรถ หากเป็นคนอื่นเธอคงไม่ยินดียินร้ายอะไรแต่กับสาวน้อยคนนี้ เธอทำใจไม่ได้ที่จะดูดายไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ..

“ไงจ๊ะเจ้าด่างวันนี้ไม่ได้ขอเศษอาหารจากป้าผ่องมา ไม่โกรธกันนะ” รับพรเดินกลับมาถึงสะพานข้ามคลองเจอเจ้าด่างมายืนรอรับมนุษย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาจิตรับฟังร่างบางพูดกับมันด้วยน้ำเสียงแสนเศร้า เจ้าด่างนั่งลงและยกเท้าหน้าขึ้นพยายามปลอบใจแบบหมาๆ

“ไม่เป็นไรหรอกก็แค่ยังหาทางออกไม่ได้.. เหรอคนนั้นมาด้อมๆมองๆอีกแล้ว!”ผู้มีความสามารถพิเศษสื่อสารกับเจ้าด่างและได้ความว่าวันนี้มีคนแปลกหน้าคนเดิมเดินผ่านไปผ่านมาถึงสองรอบ รับพรละจากเจ้าด่างและเดินกลับบ้านมาไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะลำพังเรื่องของตนก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้วแต่คำเตือนจากสัตว์ร่วมโลกก็สำแดงผล เมื่อนักศึกษาสาวเดินมาถึงหน้าบ้านของตน และเห็นว่ามีผู้หญิงหน้าตาสะสวยไม่แพ้พี่สาวหน้าหล่อแถมอายุก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันมายืนเมียงมองบ้านนู้นทีบ้านนี้ที

“มาส่องอะไรแถวนี้พี่บ้านนี้ไม่ได้ขายยา” เจ้าถิ่นร้องทัก ด้วยคำพูดห้วนๆและเสียงเข้มๆก็ทำให้รับพรดูน่ากลัวขึ้นมานิดหนึ่งแต่คนโดนทักไม่กลัวหรอก สาวหน้าหวานแบบนี้จะโหดร้ายได้อย่างไร

“พี่มาหาบ้านเช่า” เสียงก็หวานรื่นหูไม่แพ้พี่พิมพ์สักนิดติดที่ไม่มีหางเสียงเท่านั้นแม่นางผู้นี้มาลุกส์สาวสวยมาดมั่น จะมีที่ด้อยกว่าเห็นจะเป็นเรื่องการแต่งองค์ คนตรงหน้าแสนเซอร์ไม่มีแม้การทาปากเขียนคิ้วปัดแก้มผมยาวสยายถึงกลางหลัง สวมเพียงเสื้อยืดคอวีสีขาวโล้นๆ กางเกงยีนส์และรองเท้าแตะ คนมีชนักติดหลังเริ่มเอะใจคนบ้าอะไรจะมาเช่าบ้านอยู่ในซอกหลืบที่ตาบอดแบบนี้

“แถวนี้นี่นะไม่มีหรอก” รับพรตอบกลับไปแบบมะนาวไม่มีน้ำเช่นเคย หวังขับไสไล่ส่งไปพ้นๆจากหน้าบ้านไม่เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบก็พวกนักข่าวสอดรู้ทำทีมาดูลาดเลาตำหนักร่างทรงของเธอเป็นแม่นมั่นมือน้อยๆล้วงเข้าไปในย่ามจะหยิบกุญแจออกมาไขประตู เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สมองวาบคิดอะไรได้แม้จะเสี่ยงก็คงต้องขอลอง เขาอยากจะเข้าถ้ำเสือ เราเป็นเสือใยจะไม่ต้อนรับ

“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนๆพี่สาวบ้านพรนี่แหล่ะ มีเรือนหลังเล็กอยู่ตรงนั้น นั่น เห็นมั้ย” บุตรีเจ้าของตำหนักหันขวับกลับมาร้องเรียกชี้มือชี้ไม้ไปที่เรือนหลังเล็กสภาพซ่อมซ่อไม่ต่างจากผู้มาหาถิ่นที่อยู่

“พี่สาวสนใจมั้ยล่ะ ไม่แพงหรอกนะ” จังหวะนี้เวลานี้อะไรที่เป็นเงินเป็นทองจะมากจะน้อยเธอต้องคว้าเอาไว้ให้หมด เรื่องอื่นไว้ค่อยแก้ไขกันเฉพาะหน้าเฉพาะกิจรับพรหารู้ไม่ว่า มันเป็นการตัดสินใจที่จะนำพาเรื่องยุ่งๆทั้งหมดทั้งมวลมาให้...




Create Date : 27 มิถุนายน 2558
Last Update : 27 มิถุนายน 2558 9:03:10 น. 0 comments
Counter : 285 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.