Group Blog
 
All blogs
 
Onsen ล่อนจ้อน ณ ออนเซ็น

รุ่งเช้าสองแม่ค้าตาคมและโหนมาช่วยกันตั้งแผงขายขนมปังแซนวิชและหมูทอด วันนี้ฝนไม่ตกท้องฟ้าแจ่มใสบรรยากาศช่างเป็นใจพ่อค้าแม่ขายต่างยิ้มกันหน้าชื่นตาบานแสงแดดยามเช้าที่เริ่มสว่างมากขึ้นเป็นปฏิภาคตรงกับจำนวนผู้คนที่สัญจรไปมาอย่างขวักไขว่หนาตาขึ้นประดาลูกค้าหลากหลายวัยและอาชีพต่างก็ทยอยแวะเวียนเข้ามาลองซื้อขนมปังและหมูทอดจากร้านของสองแม่ค้าสุดสวย

“หมูทอดร้อนๆสูตรคุณยายค่าเชิญแวะมาชิมก่อนได้นะคะไม่ซื้อไม่เป็นไรแต่ถ้าติดใจกรุณาติดไม้ติดมือไปสักขีดสองขีด”รับพรร้องเรียกให้ลูกค้าเข้าร้านที่หน้าโต๊ะมีจานใส่หมูทอดสูตรเด็ดดวงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆพร้อมไม้จิ้มฟันให้ผู้คนได้ชิมกันก่อนแม้ว่าของมันอร่อยอยู่แล้วแต่ก็ต้องมีการเชิญชวนบ้างอะไรบ้างใครว่าค้าขายข้างทางแบบนี้ไม่ต้องใช้หลักการตลาดล่ะก็ผิดถนัดทั้งหมดนี่เป็นความคิดเครดิตพี่พิมพ์เค้า.. ชายวัยประมาณสามสิบดูดีทีเดียวเชียวหล่ะในชุดทำงานเดินอาดๆทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ยส่งสายตาเจ้าชู้เข้ามาใกล้

“มีโปรโมชั่นอะไรบ้างไหมครับคนสวย”มาแระลูกค้าที่ไม่ใคร่พึงประสงค์จะต้อนรับเท่าไหร่ชีกอหัวงูเจ้าชู้ไก่แจ้มาตั้งแต่ร้อยเมตร พิมพ์ลภัสเกิดหวงของไม่อยากขายขึ้นมาทำหน้าง้ำซะอย่างนั้นรับพรไม่ได้สังเกตสังกาอาการของพี่สาว ด้วยมัวคิดอยู่ ราวสามวินาทีก็โพล่งออกมา

“ซื้อครบ 100 แถมชานมหนึ่งขวดค่ะเฉพาะลูกค้าคนพิเศษเท่านั้น”ประโยคขัดหูขัดใจยิ่งสร้างความขุ่นเคืองเข้ากับคนหวงและหึง! เท่านั้นยังไม่พอไอ้หนุ่มรู้มากรีบขายขนมจีบปิดดีลหัวใจ

“อ้าว! พี่นึกว่าจะแถม line ของแม่ค้าให้ซะอีก”

“ฮะ..แฮ่ม”พิมพ์ลภัสอดรนทนไม่ไหวต้องกระแอมกระไอแสดงตัวตนออกมา นี่ขนาดวันสองวันแรกสงสัยคงต้องแหก อุจาระตาตื่นแต่ไก่โห่มาเฝ้าแม่กลอยใจทุกเช้าเสียแล้วกระมัง

“พี่สาวหวงน่ะค่ะ..มากด้วย”รับพรยิ้มแหย เธอรู้แล้วว่าพี่พิมพ์ไม่พอใจ หนักมาก! ก็ดูหน้าตอนนี้สิบูดเป็นปลาร้าค้างปีเลย

“ก็ขอทั้งสองคนนั่นแหล่ะคร้าบ” ลูกค้าจอมยียวนไม่เลิกตอแยไหนๆก็ไหนๆแล้วพลาดคนน้องยังมีคนพี่แม้จะดูมั่นๆแต่คมเข้มไม่เบาเจอหนุ่มแท้ทั้งแท่งอย่างเขาไปสักดอกขี้คร้านจะติดจาย

“ถ้าอย่างนั้น พี่มาซื้อครบสามวันแล้วแม่ค้าจะให้ค่ะ”รับพรพยายาม keep ลูกค้าเอาไว้ จะจีบก็จีบไป แต่เงินน่ะมีไหม!ลูกสาวเจ้าหนี้แทบลมจับจะโกรธน้องมันก็ทำไม่ลง คนอยากขายของก็เข้าใจอยู่แต่ให้มันเปลืองตัวน้อยๆหน่อยทีนะแม่คุณ..หลังจากที่ทำการซื้อขายกันเรียบร้อยรับพรทำเป็นไม่รู้ความ เฉไฉไม่รู้ไม่ชี้รีบโบ้ยเรื่องให้ไกลตัว

“ร้ายไม่เบานะคะ”

“ใครคะ หมอนั่นน่ะเหรอ ชอบเขาล่ะสิ”คนถามประหวั่นใจน้อยหนึ่งกระทาชายนายนี่ก็ดูดีประมาณนึงไม่ถึงกับเลิศเลอแต่ควงได้ไม่อายใคร

“หมายถึงพี่พิมพ์ต่างหากที่ร้าย”

“ก็แม่ค้าหน้าหวานขนาดนี้นี่คะประเดี๋ยวขายไปขายมาได้มีแฟนแทนกำไรเสียนี่ พี่ก็เศร้าสิ”นั่นสุดท้ายก็โยงเอาเข้าเรื่องจนได้บัณฑิตสาวไม่อยากต่อความให้ยืดเยื้อเพราะตัวเองดูจะเสียเปรียบและเป็นจังหวะที่ลูกค้าเข้าร้านต่อเนื่องผลปรากฏว่าหมูทอดขายดีมากหมดตั้งแต่คนยังไม่วาย ส่วนขนมปังกับแซนวิชก็เดินเรื่อยๆจนผู้คนเริ่มบางตาเพราะเข้าทำงานกันหมดแล้วรับพรและพิมพ์ลภัสช่วยกันเก็บโต๊ะเมื่อตอนเก้าโมงครึ่งแม่ค้ามือใหม่ล้วงเอาเงินออกมานับได้เกือบสี่พัน

“โห! กำไรตั้งเกือบสองพัน นี่ยังไม่รวมกับขนมปังของพี่พิมพ์เลยนะคะนี่”

“เห็นมั้ยคะ ว่าค้าขายแบบนี้ก็พอจะลืมตาอ้าปากได้..”

“ถ้าเรามีหลักการบริหารที่ดี” สองสาวพูดออกมาพร้อมกันประโยคนี้มันฝังอยู่ในหัวสมองของรับพรเสียแล้วเพราะพี่พิมพ์พูดกรอกหูอยู่มิได้ขาดปากทั้งคู่หัวเราะร่วนต่างมีความสุขคนเราหากลองตั้งใจทำด้วยวิธีที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดีคำว่าสำเร็จก็อยู่ไม่ห่างไกลเลย

“กลับไปแต่งตัวเอาให้สวยๆนะคะ พี่จะพาไปเที่ยว”พี่สาวออกปากเป็นแกมบังคับ เพราะได้ลงเรียนวิชาเลือกเสรีไปแล้วบัณฑิตป้ายแดงแม้จะเกรงใจแต่กลับจนทางปฏิเสธเธอขอตัวกลับบ้านไปแต่งองค์ตามคำร้องขอหลังจากที่ธีมารับอุปกรณ์ไปแล้ว...

รับพรกลับมายังเรือนของตนระหว่างทางก็พูดคุยกับเจ้าด่างมาตามเรื่องตามประสาคุ้นเคยมันเล่าแจ้งแถลงไขว่าวันนี้พี่สาวสุดแปลกเอาไก่ย่างมาให้กินด้วยรับพรพยักหน้าเข้าใจและบอกกับมะหมาว่าพี่ภาน่ะไม่มีพิษภัยอะไรหรอก เจ้าด่างนิ่งไปรับพรอ่านใจเจ้าสี่ขาไม่ออกแต่คงไม่ใช่เห็นด้วยแน่เพราะหากเป็นเช่นนั้นมันจะกระดิกหางระริกๆสาวสวยเจ้าเรือนแต่งองค์ด้วยชุดแซกสีขาวลายจุดชมพูน่ารักสดใสสมวัยรับพรไม่ค่อยได้แต่งตัวดีๆแบบนี้หรอกและใจจริงกลับไม่ใคร่ชอบด้วยซ้ำมันดูไม่ค่อยเหมาะกับสาวบ้านๆอย่างเธอเท่าไหร่แต่ทำอย่างไรได้ก็พี่พิมพ์กำชับกำชามาจนหูเปื่อยว่าเอาให้เริ่ดรับพรเดินคลอเพลงจะลงเรือนอย่างอารมณ์ดีแต่ต้องเย็นหลังวาบเมื่อพี่สาวหน้านิ่งไม่รู้โผล่มาตั้งแต่ตอนไหนเมื่อใดมารู้ตัวอีกทีก็โดนทักเข้าให้

“จะไปไหน แต่งตัวซะสวยเชียว”

“ห้าร้อยค่าบอก”ดาวไถเริ่มทำงานเธอหันกลับมาทำหน้าเย้ยหยันอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่าอยากจะบอกก็ต้องง้างปากด้วยเงิน ภารตีไม่ยั่น ควักธนบัตรสีม่วงให้โดยง่าย

“ไปเจแปนทาว์นแล้วก็ออนเซ็น อิจฉาล่ะสิจ๊า”เจ้าเรือนลอยหน้าลอยตาเจื้อยแจ้วออกไปแต่ถ้าปล่อยให้ไปง่ายดายมันก็ไม่สาแก่ใจท่านผู้อ่านสิคร้า

“ไปด้วยสิ” ไม่พูดเปล่า ภารตีใจกว้างเป็นแม่น้ำส่งเงินให้อีกสองพัน

“เห็นพรหน้าเงินนักหรือไง”ปากน่ะบ่นแต่มือกลับสวนทางยื่นมาคว้าไปซะอย่างนั้น

“แต่ก็รับก็ต้องเอาสิคร้าโบราณเขาว่าไว้ผู้ใหญ่ให้ของต้องน้อมรับรับพรยังตีหน้าตายใส่คนหน้านิ่งเข้าบ้าง บอกจุดหมายทั้งยังได้โอกาสยื่นข้อต่อรอง

“จะไปกับพี่พิมพ์ เพราะฉะนั้น ห้ามทะเลาะกันไม่งั้นจะปรับหมื่นนึง” แม้จะเห็นเค้าลางแห่งความยุ่งยากเกินจะคาดเดาแต่คิดว่าสมองปราดเปรื่องแยบคายของตนน่าจะเอาแม่นางทั้งสองอยู่มันจะเป็นอย่างนั้นมั้ยน้อ...

พิมพ์ลภัสตกใจนิดหน่อยที่เห็นยัยแกงจืดเดินลอยชายมากับแม่กลอยใจตรงมาที่รถของเธอแต่ต้องปรับอารมณ์รีบทำสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ ชิส์! ผิดแผนไปพอประมาณแถมยังไม่ได้คิดก๊อกสองสามสำรองเอาไว้ด้วยสาวหน้าคมแวะเอารถมาล้างที่คาร์แคร์สุดหรูแห่งหนึ่งใกล้ๆกับที่หมายรับพรต้องเป็นฝ่ายตกอกตกใจเข้าบ้างเมื่อคล้อยหลังมาจากหน้าแคชเชียร์ก็ค่าล้างมันแพงหูฉี่ เธอต้องเหนื่อยยากขายหมูทั้งวันไม่รู้จะพอหรือเปล่าเลย

“โอ้โห! พี่พิมพ์ล้างรถครั้งหนึ่งตั้งสองพันแปดพรต้องขายของสองวันเลยนะคะ” คู่อริที่เงียบมาตลอดทางได้จังหวะเหมาะเปิดฉากต่อตี

“คนเค้ารวยนะ แค่นั้นไม่พอนะต้อง..”

“อะไรยัยแกงจืด” สาวหน้าหล่อไม่รอให้ตนเองถูกด่าฟรีรีบแดกดันด้วยเสียงเข้มกลับเข้าให้ทันควันเหมือนกันก่อนจะเปลี่ยนโทนเสียงราวกับสับสวิทช์เมื่อหันมาพูดกับแม่นางน้อย

“..ก็รถมันมีเชื้อโรคนี่คะ ต้องทำความสะอาดกันหน่อยไปเถอะค่ะทิ้งรถไว้ที่นี่ เราเที่ยวเสร็จแล้วค่อยกลับมาเอา”

คนเจ้าความคิดพาชาวคณะมาถึงออนเซ็นแถบย่านสุขุมวิทที่หรูหราอลังการงานสร้างมากแว่วๆว่าลงทุนเฉียดร้อยล้านบาทเนรมิตให้สถานที่แห่งนี้ถอดแบบออนเซ็นมาจากต้นตำรับขนานแท้อย่างประเทศญี่ปุ่นรับพรสุดแสนตื่นเต้น จริงอย่างที่พี่สาวว่าไว้ บรรยากาศรอบๆทั้งผู้คนและอะไรต่อมิอะไรมันดูเจแปนไปเสียหมดเหมือนกับว่าเธอได้บินลัดฟ้ามายังดินแดนซากุระเข้าจริงๆส่วนภารตีก็อย่างที่รู้ๆกัน เธอเฉยไปกับทุกเรื่องอยู่แล้ว

Onsen(温泉) ออนเซ็น เป็นคำภาษาญี่ปุ่นหมายถึงบ่อน้ำร้อน แรกเริ่มเดิมทีหมายเฉพาะถึงบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติ จากสภาพภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาที่ประเทศนี้ตั้งอยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟ(Ring of fire) คือรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่เป็นแนวแผ่นดินไหวและภูเขาไฟพลังงานจากความร้อนใต้พิภพนี้เองก่อให้เกิดบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติมากมายทั่วทั้งประเทศต่อมาคำว่า ออนเซ็น ใช้รวมถึงบ่อน้ำร้อนที่สร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ด้วยเช่นกัน

ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อมาตั้งแต่โบราณกาลนั่นรวมไปถึงหลักฐานที่สนับสนุนจากการวิจัยตามหลักวิทยาศาสตร์พบว่าออนเซ็นคือวารีบำบัด (Hydrotherapy) ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายทั้งกล้ามเนื้อและความตึงเครียดได้เป็นอย่างดีโดยองค์ประกอบของแร่ธาตุในน้ำพุร้อนมีส่วนสำคัญในการบำบัดรักษาโรคแร่บางชนิดเช่นเรเดียมจะช่วยลดภาวะความดันโลหิตสูงได้ ออนเซ็นกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับชาวเจแปนนีสมานานนมนับพันปีจากหลักฐานอ้างอิงพบว่าออนเซ็นบางแห่งมีอายุเก่าแก่เกือบสามพันปีทีเดียวตำนานหนึ่งได้ระบุว่านกที่ได้รับบาดเจ็บมารักษาตัวที่บ่อน้ำร้อนและผู้คนได้จดจำเอาวิธีการนี้มาใช้เหล่าซามูไรสามารถที่จะฟื้นตัวจากบาดแผลฉกรรจ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจออนเซ็นจึงแพร่หลายมากขึ้นและกลายเป็นสิ่งหนึ่งในวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาจนกระทั่งปัจจุบันกระนั้นก็ดี ธุรกิจออนเซ็นใช่ว่าจะเปิดได้อย่างเสรีตามอำเภอใจมันมีกฎเกณฑ์ควบคุมจากรัฐบาลกลาง นอกจากออนเซ็นจะเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมแล้วมันยังได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นจุดขายหนึ่งในการท่องเที่ยวอีกด้วย

พิมพ์ลภัสพาอีกสองนางเปิดประตูเข้ามายังสถานที่สุดหรูมีพนักงานต้อนรับทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นเข้ามาทักทายลูกสาวร่างทรงมองไปรอบๆผู้คนไม่พลุกพล่าน บรรยากาศโปร่งสะอาดตาช่างแตกต่างจากโรงอาบน้ำที่เธอเคยรับรู้และผ่านความทรงจำจากภาพยนตร์มาก่อนหน้าคนอาสาพามาจัดแจงชำระเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ สามคนก็ราวพันกว่าบาทโดยสามารถใช้ชีวิตที่นี่ได้ทั้งวันนับว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามากและรับกุญแจล็อคเกอร์มาสามดอกถือไว้ในมือโดยยังไม่แจกจ่ายสมาชิกสามอนงค์เดินเข้ามายังส่วนภายในเปลี่ยนรองเท้าของตนเป็นรองเท้าแตะแบบญี่ปุ่นจนกระทั่งมาถึงทางแยกที่จะเข้าบ่อแล้ว สำหรับที่นี่เป็นสัดส่วน ชาย-หญิงแบ่งแยกกันชัดเจน

“ดูพ่อหนุ่มก้ามปูกล้ามโตคนนั้นสิ น้องชายเล็กกระจิ๊ดเสียชาติเกิดจุง”

“นั่นน่ะสิ เห็นทีแรกว่าจะจีบซะหน่อยหมดมู๊ดเบยแหนมตุ้มจิ๋วไม่พออ่ะยังเหี๊ยวเหี่ยวยานโตงเตงยังกะไข่หมาถูกตอน”

“สู้ตาลุงอีกคนไม่ได้เนอะ ใหญ่มว๊ากกน่าบ๊วบน่าเจี๊ยะชะมัด” เสียงซุบซิบของบรรดาเก้งกวางบ่างชะนีสตรีข้ามภพดังมากระทบโสตประสาทของรับพรเธอเงี่ยหูฟังทั้งยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เกือบจะหลุดก๊ากออกมา ก็มันตลกอ่ะหันมาสบสายตากับพี่พิมพ์รายนี้ก็ขำน้ำตาเล็ดเลยทีเดียว แต่ช้าก่อนยังมีทีเด็ดกว่านี้อีก รับรองขำไม่ออกแน่ๆ พิมพ์ลภัสตีหน้าเจ้าเล่ห์แววตาเป็นประกายภารตียังนิ่งเช่นเคยไม่ได้แสดงอาการประหม่าอายออกมาแม้แต่น้อยสาวหน้าคมแสดงกุญแจล็อคเกอร์กับพนักงาน กระซิบกระซาบเข้าที่ซอกหูของเธอเบาๆรู้กันสองคน

“ของพวกพี่ไม่รับผ้าคาดอกกับกางเกงในนะคะอยากได้ฟีลแบบเจแปนออริจินอล” พนักงานพยักหน้ารับ ความจริงสถานที่แห่งนี้เขามีผ้าไว้ให้สุภาพสตรีด้วยเข้าใจหัวอกคนไทยว่าขวยอายไม่ต้องเปลือยกายล่อนจ้อนแบบออนเซ็นต้นฉบับพนักงานส่งของในตะกร้าให้มีของอยู่สองสามอย่างอันประกอบไปด้วย ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ผ้าผืนเล็ก อันนี้สำคัญเพราะมันเป็นผ้าเพียงผืนเดียวที่อนุญาตให้นำเข้าไปข้างในบ่อได้และก็ชุดยูกาตะหลากสีคนเจ้าเล่ห์ยื่นผ้าผืนเล็กผืนหนึ่งคืนให้กับพนักงานก่อนจะส่งตะกร้าให้กับสองสาวยิ้มเหี้ยมเกรียม น้องพรขาถึงตาพี่เอาคืนแล้ว

“ร้ายไม่เบานะหล่อน” ประหนึ่งว่าแม่นางเฉยจะเท่าทันความคิดเธอรับตะกร้าและพ่นคำออกมา พิมพ์ลภัสกลัวเสียแผนร้ายแผนรักโต้กลับฉอดๆใครจะไปยอมรับว่ามันเป็นแผน

“อะไร!ยัยแกงจืดหล่อนก็ใช่ย่อยนะตามมาจนได้” ใช่ ไม่รู้จะตามรังควานกันไปถึงไหน แถมยังนกรู้อย่าเชียวนะ ไม่อยากดูอะไรดีๆหรืออย่างไร จะมาโชว์แมนโชว์วูแมนอะไรตอนนี้

“อย่าคิดนะว่าอยากดูเรือนร่างเธอน่ะ ไม่เห็นจะมีอะไรดี เชอะกับคู่อริน่ะเฉยๆ ผีคงไม่อยากเห็นผีสักเท่าไหร่ แต่กับแม่กลอยใจอูยส์!! แค่จิ้นก็เกือบจะฟินแล้วอ่าพิมพ์ลภัสจิตเตลิดกระจัดกระจาย

“พอๆๆ พี่ภาอ่ะอย่าลืมข้อตกลงสิ” รับพรเข้าใจไปว่าพี่สาวทั้งสองกำลังเล่นสงครามประสาทกันอยู่ซึ่งมันก็จริง เธอรีบห้ามปรามก่อนจะเกิดศึกใหญ่ทันทีสามอนงค์เดินมาถึงล็อคเกอร์สถานที่ที่จะยังคงมีอาภรณ์ห่อหุ้มเรือนกายเป็นจุดสุดท้ายถัดจากนี้จะเป็นห้องอาบน้ำและบ่อน้ำร้อนรับพรแม้จะรู้มาก่อนหน้าว่าออนเซ็นต้องนุ่งน้อยห่มน้อยเป็นธรรมดาแต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นพี่สาวนางหนึ่งน่าจะเป็นชาวยุ่นปี่เดินเปลือยเปล่าเย้ยฟ้าท้าสายตาไม่สนใจก็ให้ได้อายแทนจิตเริ่มประหวั่นนึกถึงตัวเองขึ้นมาโดยพลันม้วนหน้าแดงๆด้วยความขวยหันกลับมาปะกับพี่พิมพ์เธอก็ทำท่าทีเรียบเฉยได้นิ่งดีแท้

“วัฒนธรรมญี่ปุ่นน่ะคะเขาคุ้นชินกันมานานกาเลไม่มีใครสนใจใครพรไม่ต้องอายหรอกนะ” ลูกสาวเจ้าหนี้ปลุกปลอบกระต่ายน้อยไม่ให้ตื่นตูมตกใจชี้มือให้ดูป้ายธรรมเนียมและข้อปฏิบัติที่แปะประกาศเอาไว้ทำเป็นตัวการ์ตูนน่ารักเชียวมีทั้งภาษาไทย อังกฤษและญี่ปุ่นพี่ยุ่นเขาทำอะไรๆในชีวิตให้ดูง่ายไปเสียหมด รับพรดูประเดี๋ยวก็แจ้งใจ หน้าถอดสีพลาดท่าเข้าแล้วสิเรา! หลวมตัวโดนพี่พิมพ์หลอกเข้าจนได้อ่า

“สรุปว่า..พรต้องแก้ผ้าจริงๆเหรอคะ”ถามไปอย่างนั้นเผื่อฟลุ๊ค หันมาดูแม่นางเฉยยิ่งอารามตกใจเป็นเท่าทวีเธอปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองออกไปตั้งแต่เมื่อไร??! ภารตีอยู่ในสภาพแรกเกิดคือมีมาแต่ตัวเปล่าจริงๆ มันอล่างฉ่างอ้าซ่าท้าทายคนตรงหน้าทั้งสองก็นะเธอมันคนไร้ยางอาย เอ้ย! ไร้อารมณ์จะอายอยู่แล้วกับเรื่องขี้ประติ๋วไม่เห็นจะแคร์ รับพรจดจ้องไม่ละสายตาเรือนกายของพี่ภาช่างงามช้อยแม้ภายนอกจะแลดูแห้งบางกรอบเป็นข้าวเกรียบคาลบี้แท่งยาวไร้ซึ่งทรวดทรงองค์เอวแต่นั่นมันแค่เพียงเปลือกที่ฉาบไว้ พอสลัดผ้าผ่อนแก่นแท้ก็เผยโฉมออกมาภารตีเป็นสาวสะพรั่งสมบูรณ์สมวัยแม้จะย่างเฉียดสามสิบและดูว่าจะไม่ใคร่ได้พิถีพิถันดูแลตนเองนักสาวเซอร์หน้านิ่งกลับมีผิวพรรณผุดผ่องขาวโพลนแสบตาไปทั้งร่างแหะๆยกเว้นหย่อมดำขลับตรงนั้น!! บัณฑิตสาวเลื่อนสายตาขึ้นมาด้านบนหน้าท้องแบนราบของพี่ภาช่างน่าสัมผัส สะดือกลมไร้ร่องรอยการเจาะและเรื่อยลามมาถึงบัวตูมคู่งามเป็นกระเปาะเหมาะมือ ม่ายช่ายๆแระ เหมาะกับรูปร่าง

“พี่ภาเป็นคนเหนือเหรอ”รับพรถามเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตนเมื่อรู้ตัวว่าแม่นางเฉยจ้องประสานตากลับมาอย่างไม่หวั่นเกรง ลูกสาวร่างทรงกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่หน้านวลกลับแดงก่ำจะว่าอายก็ไม่เชิงจะว่าตื่นเต้นก็ไม่ผิดนักนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่เห็นคนอื่นมาเปลือยโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่มจะๆกันต่อหน้า!

“เหนือความคาดหมายพิมพ์ลภัสหลุดคำชมออกมาเบาๆยัยแกงจืดนี่ใช่เล่น น่าซดสักชามสองชาม อุต๊ะ!

เมื่อการณ์ออกมารูปนี้สาวหน้าหล่อขอท้าชนด้วยมั่นใจในรูปร่างตัวเองจะยอมน้อยหน้าได้อย่างไร เธอจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองทันทีรับพรหันมามองด้วยลุ้นระทึกและยิ่งต้องตกใจเมื่อพี่พิมพ์ปลดเปลื้องกระโปรงบานย้วยลายดอกไม้ของเธอออกก่อนเป็นเบื้องแรกอวดกางเกงในตัวจิ๋วสีน้ำตาลทองลูกสาวร่างทรงจะเบือนหน้าหนีแต่อีกใจกลับหน่วงไว้ด้วยอยากจะดูให้เห็นเต็มๆสองตานั่น..ตรงกลางสามเหลี่ยมมันช่าง..

“พรืดดด” พิมพ์ลภัสถอดชิ้นที่เหลือออกอย่างว่องไวอายจะเกินทนดู รับพรต้องเอามือน้อยๆของตนมาปิดหน้า แต่ก็นั่น แหล่ะ ความอยากรู้อยากเห็นกลับมีมากกว่าสาวเจ้าไม่วายสอดสายตามองลอดช่องนิ้วมือของตน!! คนหน้าคมยิ้มพึงใจกับการได้โชว์ของก็นะมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จากนั้นเธอจัดการกับท่อนบนเสื้อ blouse และบราเซียร์ปลิดปลิวไปต่อหน้าต่อตาคนแอบดู ปทุมถันทั้งสองชูชันมันรับกับใบหน้าคมคายเป็นที่สุดประเมินจากสายตาพี่พิมพ์น่าจะใหญ่กว่านิดๆ หุหุ.. กรรมการกลางอย่างสาวน้อยตัดสินไม่ถูกว่าจะให้ใครชนะมากไปกว่านั้นเธอรู้สึกประหนึ่งว่าตัวเองจะเป็นลมล้มพับไปกองที่พื้น ปากคอแห้งผากระบบหายใจเรรวน เลือดกายสาวมันสูบฉีดเป็นท่อระบายน้ำแตก โอ้ยย!! อะไรกันทำไมพี่สาวทั้งสองต้องมาทำอะไรทะลึ่งตึงตังแบบนี้ต่อหน้าเธอด้วยนะรับพรบ่นคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายจ้องมองเขาไม่แตกต่างจากแม่นางเฉยที่พินิจเพ่งพิศนิ่งๆ

“ทำไมจ้องอะไร” พิมพ์ลภัสหันมาแว๊ดใส่จะวิพากษ์อะไรก็เว้ากันมาตรงๆ สาวหน้าคมยืดอกพกความมั่นใจเต็มประดาในสิ่งที่ตนเริ่ดกว่าชิส์! ไปกลับชาติมาเกิดใหม่ซะไป ยัยแกงจืดค้างคืนรับพรยิ้มแก้มแทบแตก ก็มันขำในท่าทางของพี่สาวอ่า ใจคอจะเอาชนะกันทุกเรื่อง!!

“ภูมิลำเนาเดิมเป็นคนโคกมะตูมล่ะสิ” นั่น..ภารตีแซวหนักหน่วง ตาลามเลียมาถึงส่วนสำคัญ คราวนี้รับพรกลั้นหัวเราะไม่อยู่แต่จะว่าไปพี่ภาก็แซวไม่ผิดฝาผิดตัวหรอก ก็ของพี่พิมพ์มันช่าง เอิ่ม..นี่ล่ะน้าที่โบราณเขาว่าตำราเขาบอกไม่มีผิดเพี้ยนสาวใดมีหน้าผากโหนกนูนมันจะสอดรับกับพื้นที่เรดโซนตรงนั้นด้วยคนโดนแซวหน้าม้านไปนิด ก็มันกระดากเหมือนกันที่ต้องโดนล้อเรื่องพรรค์นี้แต่ใช่หายอมโดยง่ายไม่ โต้กลับด้วยคารมเผ็ดเจ็บจี๊ด

“ยัยแกงจืด เธอก็คงเป็นคนบ้านท่าสินะ”โดนโยนกลองมาแบบนี้ใครที่ไหนจะไปรับทัน คนหน้านิ่งงงเป็นไก่โดนแรดวิ่งชน ท่า?ท่าอะไร?

“ท่ากระดาน คริคริคริ ยัยบ้านท่ากระดาน”แม่นางเฉยชักอยู่เฉยไม่ได้ จะต่อว่าเรื่องอันใดยังพอใช้ความอดทนเข้าข่มใจแต่เรื่องนี้มันวาระแห่งชีวิต ยอมไม่ด้ายยย!!

“นึกว่าย้อมผมข้างล่างด้วย” คนเป็นรองเปลี่ยนประเด็นทันทียังไม่หยุดวิจารณ์ส่วนนั้นของคู่อริ

“จะบร้าเหรอ เธอก็เถอะหัดซอยซะมั่งนะจ๊า รกเป็นป่าอเมซอนแล้ว” โดนเข้าให้อีกดอก แม่นางเฉยหงายเงิบ แต่ด้วยมานะเธอกัดฟันกระแทกเสียงกลับมา

“ใครมันจะไปแห้งแล้งโล่งเตียนเป็นทะเลทรายโกบีแบบเธอ” ใช่พิมพ์ลภัสตกแต่งเนินน้องสาวแบบฉบับ D.I.Y.คงเหลือไว้เป็นสวนหย่อมน้อยๆพองามไอ้ครั้นจะwax ก็ใจไม่ด้านพอ มิใช่อายช่างแต่เขาว่ากันว่าเจ็บเหลือคณาน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วงจิตตกกินไม่ได้ประหนึ่งโดนพรากความสาวกันไปเลยทีเดียว ผิดกับยัยมาตาฮารี อี๋! ดูเข้าสิ ฟูฟ่อง จะเก็บไว้ถักเปียหรือไรฟระ!! ศัตรูหัวใจทั้งสองมายืนเปลือยเปล่าประจันหน้ากันรับพรเห็นจะไม่สนุก ประโยคถัดๆไปอาจลามไปถึงมดลูกถึงรังไข่ พอกันทียกนี้

“ตกลงว่าจะวิจารณ์กันนานมั้ยคร้า พรจะได้กลับ”สองอนงค์ส่ายหัวพร้อมกัน ขืนเป็นเยี่ยงนี้ก็เสียของเห็นทีต้องยอมสงบศึกเพราะมีภารกิจใหญ่และท้าทายกว่านักรออยู่เบื้องหน้า

“แก้ผ้าสิ” เป็นภารตีที่เอ่ยขึ้น

“ไม่อ่ะ พรกลับดีกว่ากลัวเป็นตากุ้งยิง” บัณฑิตสาวเปรยขึ้นให้เหตุผลส่งเดชเตรียมจะหิ้วตะกร้าไปคืนแต่คนมือไวอย่างพิมพ์ลภัสก็คว้าท่อนแขนเอาไว้

“หือ ก็เห็นของพี่สองคนแล้วไง ไปเถอะค่ะแช่น้ำเสร็จแล้วจะได้ไปหาอะไรกินกันต่อ” ผู้พูดทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องแสนธรรมดาออนเซ็นน่ะออนเซ็นมันต้องโจ่งแจ้งจะจะตา ไม่มีเซ็นเซอร์โมเซอิคม่านเมฆให้รำคาญใจรับพรได้แต่ยืนบิดตัวขาไขว้ยิ้มแห้งๆทำอะไรไม่ถูก

“เอ้า!.. กระมิดกระเมี้ยนอยู่นั่น ยัยแกงจืด มาช่วยน้องหน่อยเร็ว”สองอริสาวต่างก็ต้องยุติศึกชั่วคราวพิมพ์ลภัสหาแนวร่วมอุดมกามเอ้ยอุดมการณ์เดียวกันเธอทั้งคู่ต่างพร้อมใจสืบเท้าเข้ามาใกล้เหยื่อน้อยผู้น่าขย้ำนางหนึ่งเปรียบนางพญาเสือโคร่งอีกนางหนึ่งดุจดั่งนางสิงห์ลูกกวางน้อยยืนตาปริบขาแข็งหมดหนทางรอดได้แต่ทำใจยอมรับสภาพ

“พี่ๆอ่า พรถอดเองได้” รับพรพูดเสียงอ่อย

“ก็ปล่อยให้ถอดเองตั้งนานสองนานแล้วนี่คะ มามะพี่ๆจะช่วย”พิมพ์ลภัสพูดเสียงหวาน เธอใช้สิทธิ์ของความเป็นผู้ล่อลวงเริ่มลงมือก่อน

“เฮ้! ยัยมะโหนกโคกมะตูม ชั้นก่อน”เกิดศึกเจ้าป่าขึ้นมาทันใด เหยื่อโอชะเช่นนี้ใครก็อยากจะฟาดฟันก่อนทั้งนั้น

“ได้ไงยัยท่ากระดาน ชั้นเป็นคนลวงเอ้ยชวนมานะเธอน่ะมันแค่ผู้ติดตาม” สาวหน้าคมยกเอาความดีความชอบเป็นบำเหน็จรางวัล แต่สาวหน้านิ่งใช่จะยอม

“งั้น.. เป่ายิ้งฉุบ”รับพรมองคู่อริซ้ายทีขวาสองที ตลกร้ายอ่า เธอจะหลุดขำก็ไม่สุดมันสะดุดเพราะตัวเองนั้นคือเหยื่อ

“เคร..ยันยิงเยาปักเป้า..ยิ้งฉุบ..ฉุบ” สาวท่ากระดานออกกรรไกรส่วนสาวโคกมะตูมออกค้อน!!

“เย้!!..ถอยไปยัยแกงจืด”พิมพ์ลภัสลิงโลดใจ เธอขอใช้สิทธิ์นั้นบัดเดี๋ยวนี้แม้ว่าจะเคยผลัดผ้าให้แม่กลอยใจมาก่อนเมื่อครั้งยังเยาว์ในยามที่รับพรจับไข้แต่นั่นมันตอนมัธยมหนึ่งมัธยมสองได้มั้ง อะไรๆในเรือนกายยังไม่ขึ้นไม่มีและหากแม้นจะมีมันก็คงไม่เตะตาต้องใจ สบึมบะละฮึ่มเช่นตอนนี้เป็นแน่ลูกสาวเจ้าหนี้จดจ้องมาที่ร่างของบัณฑิตสาว ใครก็ไม่รู้เคยให้ข้อมูลไว้ว่าในบรรดาสาวรุ่นวัยกระเตาะจนถึงวัยทอง ช่วงวัยนักศึกษาเป็นอะไรที่ ‘หรอยแรง’ที่สุดแล้วกินเนสบุ๊คหรือสำนักงานสถิติก็ไม่เคยเก็บข้อมูลเรื่องพรรค์นี้ไว้ด้วยเลยไม่มีแหล่งข้อมูลว่าจะจริงเท็จประการใดแต่ช่างเถิดพิมพ์ลภัสโยนความคิดนอกเรื่องให้ออกไปไกลๆ หันมาสนใจในสิ่งที่ควรทำเธอบรรจงถอดชุด แซกของสาวน้อยออกอย่างง่ายดายสภาพของรับพรตอนนี้จึงเหลือเพียงชั้นในท่อนบนและท่อนล่างเพียงสองชิ้นเท่านั้นมันเป็นการเปิดเผยโนมเนื้อต่อหน้าผู้อื่นมากที่สุดในชีวิตแล้ว โอยยย! อายจุง

ถึงคราวแม่นางเฉยบ้างคนหน้านิ่งเพ่งพิศรูปร่างโค้งเว้าน้อยหนึ่ง ถ้าประกวดประชันกันสองนางคงไม่มีใครกินกันลง แต่ร่างเพรียวตรงหน้าหากลงชิงชัยด้วย แน่นอนว่าเธอชนะเลิศผิวกายละเอียดไร้ตำหนิแม้กระทั่งเม็ดไฝขี้แมลงวันปลีน่องเรียวรับกับขาอ่อนขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ สะโพกที่กลมกลึงหนั่นเนื้อแน่นตึงเปรี๊ยะไร้ริ้วรอยแตกลายงาประหนึ่งว่าสาวน้อยดูแลตัวเองเป็นอย่างดีภารตีนั่งคุกเข่ารูดกางเกงชั้นในสีดำตัดกับโนมเนื้อขาวอย่างสายฟ้าแลบ!

“ว้ายๆๆ! ไม่เอาแล้วพรจะกลับ”คนโดนแกล้งรีบเอามือน้อยๆของตนมาปกปิดพื้นที่สุดสงวน อีกมือก็ควานหาชุดแซกของตนกลับมาใส่ช้าไปแล้วพี่พิมพ์ที่รู้งานชาร์จเข้ามาจัดการเอากับบราเซียร์ของเธออย่างไม่ทันให้ตั้งตัว

“ผ่างอกคู่งามออกมาอวดสายตาทั้งสี่รับพรตะลึงลานรีบเอามือปกปิดปกป้องเนื้อตัวพัลวัน ชุลมุนชุลเกกันพอสมควรมือทั้งสี่ของผู้รุกรานปัดป่ายไปโดนเนินนมบ้าง สะโพกไหวบ้างเสียงเริ่มเจี๊ยวจนพนักงานต้องเข้ามาดู ส่งสายตาจิกเข้าให้เพลาๆกันหน่อยทั้งสามอนงค์จำต้องอยู่ในความสงบ แต่มันเป็นแค่อาการภายนอกเท่านั้นดอกในใจลูกสาวร่างทรงเต้นระรัวในชีวิตเคยต้องตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมล่อเป้าแบบนี้เสียที่ไหนกัน อ๊ายอาย!พิมพ์ลภัสยืนจ้องร่างเปลือยที่แสนงามดั่งมีจิตรกรเอกรังสรรค์ไม่ละสายตาเช่นเดียวกับภารตี ทั้งคู่ฟินกระจายตะกายดาว ก็คนตรงหน้าช่างน่ารักน่าฟัดยิ่งนี่หากไม่ติดว่าเป็นสถานที่ต่อหน้าธารกำนัลละก็นะ แม่ปล้ำทำแกงเห็ดไปแล้ว..

นี่มันแค่หนังตัวอย่างที่รัก ยังมีอะไรสนุกๆรออยู่รับพรไม่ไหวจะเคลียร์ แม้ส่วนลึกมันพึงใจเหลือจะเอ่ยที่โดนกระทำเยี่ยงนี้ ระ..หรือว่าเธอจะมีรสนิยมสวิงกิ้ง!!!




Create Date : 14 สิงหาคม 2558
Last Update : 14 สิงหาคม 2558 11:19:57 น. 0 comments
Counter : 591 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.