Group Blog
 
All blogs
 
Winning or Unforced error

สองอนงค์ต่างขั้วพากันมานั่งเสวนาที่ศาลาไม้ท่าน้ำเบื้องหน้าเป็นดวงอาทิตย์สีส้มดวงใหญ่ที่กำลังเคลื่อนคล้อยต่ำจะชิงพลบลาลับขอบฟ้าไกลออกไปสุดปลายขอบสายตาเป็นดวงจันทร์กลมสีขาวซีดรอเวลาเปลี่ยนสีเหลืองนวลครอบครองน่านฟ้าอันธการฝูงนกต่างบินกลับรัง ลมโชยเอื่อยริมน้ำพัดปอยผมของสาวหวานให้ปลิวไสว อิงค์กาญจน์ตัดสินใจพักรบมาพบรักขอละเว้นพักจากการปฏิบัติภารกิจชั่วคราว ปล่อยให้บรรยากาศนำพา หันมาสบพักตร์กับเป้าหมายหัวใจ

“สวยจังค่ะ” มธุรสวาจาออกมาจากinner ที่ปราศจากการปรุงแต่งและคัดกรองเพลินพิศสมัยยังไม่ละสายตาจากภาพทิวทัศน์ ถามกลับมาด้วยวจีที่ไร้มารยาเฉกเช่นกัน

“ดวงอาทิตย์เหรอคะ”

“ดวงหน้าของคุณพิศต่างหากค่ะ” สาวเปรี้ยวปล่อยหมัดตรงเข้าใส่หวังใจโกยแต้มรัก แม้นว่ามือแรกในการจับปลาอาจจะพลาดเป้าวืดวาดไม่คืบหน้าแต่มือที่สองขอรุกคืบกระชับพื้นที่ตีกิน

“คุณอิ๊งค์ก็สวยค่ะ..มากด้วย” สาวหวานหาได้เอียงอายไม่ หันหน้ามาชมกลับให้ทัดเทียมกันคู่สนทนาต่างมอบยิ้มผุดผาดผ่านใบหน้าและหน้าต่างของหัวใจ ภาพอีกมุมหนึ่งของเพลินพิศสมัยฉายชัดในแววตานิ่งและลุ่มลึกยิ่งอิงค์กาญจน์จับความรู้สึกได้เพียงเท่านั้นสุดจะคาดเดาว่าเป็นไปในทางดีหรือร้าย

“บ้านคุณอิ๊งค์ใหญ่จังนะคะทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างเป็นพิศนะคะจะเทครัวจรลีจากกรุงเทพฯมาใช้ชีวิตอยู่เสียที่นี่เป็นการถาวร” เช่นเคยกับประโยคเล่าความที่ฟังเพียงผิวเสมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสามัญหากในชั้นลึกเล่า เป้าหมายกินนัยถึงสิ่งอันใด อิงค์กาญจน์ขบไม่แตกกับปัญหาที่ค่อนไปในทางยาก

“คนเมืองอย่างเราๆเสพติดกับความสะดวกสบายแล้วล่ะค่ะที่คุณพิศเห็นผิวน้ำราบเรียบภายใต้นั้นมีทั้งคลื่นใต้น้ำโคลนตมและฝูงปลาใหญ่ที่จดจ้องหาปลาเล็กเป็นเหยื่อค่ะ”

“ไม่เรียบเราก็ทำให้เรียบสิคะหากทำไม่ได้ก็ปรับตัวอยู่กับมัน ชาวบ้านเขายังอยู่กันได้ เราเองก็มิแตกต่าง”

“คุณพิศพูดอย่างกับว่าจะเลิกเป็นแอร์ฯแล้วมาจับปลาส่องกบเลยนะคะผิดที่ผิดเวลา anachronism ชัดๆ”พินิจจากเหลี่ยมไหนอิงค์กาญจน์ไม่อาจจินตภาพได้ออกเลยว่าสาวอ้อนแอ้นบอบบางแบบคุณพิศจะใช้ชีวิตนอกเมืองกรุงได้?

“แหมๆ ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะจากใจจริงพิศอยากทำ home stay ค่ะถ้าเป็นบ้านคุณอิ๊งค์รับประกันซ่อมฟรีว่าเวิร์คแน่ๆ” สาวหวานเร่ง step จังหวะพูดของเธอให้เร็วขึ้น นัยน์ตาแฝงเร้นไปด้วยเล่ห์กระเท่ห์อากัปกิริยาที่ผิดแปลกมิอาจพ้นจากการลอบสังเกตของสายลับสาวได้อีกคราว เพลินพิศสมัยอ่านใจยากยิ่งผุด project สุดบรรเจิดได้ใหม่ทุกวี่วัน แต่ก็ไม่แปลกเงินทองทรัพย์ศฤงคารจากธุรกิจสีเทาได้มาง่ายดายราวกับพระสังข์เรียก ปลาในท้องนทีชะรอยสาวเจ้าต้องหาหนทางฟอกเงินแปรเปลี่ยนให้ถูกกฎหมายเป็นแม่นมั่นสายตาเคลือบแคลงของอิงค์กาญจน์เพลินพิศสมัยใช่จะมองไม่ออก

“จริงๆค่ะ น่าสนุกดีออกคุณอิงค์ลองจิ้นตามสิคะ โลกหมุนช้าพาเพลิน สรรพสิ่งจำเริญตาตื่นขึ้นมาก็เห็นคนรู้ใจ" ประโยคชวนให้ตีความหลายเขบ็ต

“รู้ใจสายลับสาวเอียงคอทวนคำยิ่งฟังยิ่งงุนงงคละเคล้าเจือปนกับความรู้สึกผิดและละอายนักเป้าหมายส่งสัญญาณแห่งความจริงใจทอดไมตรีสานสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่ตัวเธอกลับจะจ้องจับผิดเอาเสียให้ได้

“ชะอุ่ย..พิศเวิ่นเว้อไปไกลขอโทษนะคะ ท้องธาราพาไปหัวใจนำพา" สาวหวานออกตัวแต่ดูเหมือนคำพูดจะยิ่งเป็นการรุกเร้าไหนว่าเป็นแม่พลอย นะ..นี่จะจีบเราก่อน? อิงค์กาญจน์สุดประหลาดใจที่เพลินพิศสมัยเผยอีกบุคลิกซับซ้อนให้เห็นยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนและเวียนวนกลับมาอยู่ที่จุดเดิมคือสายลับสาวไม่เข้าใจสิ่งอันใดเลยจะด้วยความความรู้สึกส่วนลึกที่นำพาปล่อยใจให้เลยเถิดเลยธงหรือเหตุเพราะว่าบรรยากาศชักนำมือเรียวของอิงค์กาญจน์ทาบทับลงบนมืองามของสาวหวานพร้อมเผยความในใจ

“หากทุกอย่างคลี่คลาย..เอ่ออิ๊งค์หมายถึงว่า ระยะนี้งานอิ๊งค์ยุ่งมากอ่ะค่ะอิ๊งค์จะรีบพิจารณาจริงจังเลย"

“พิจารณาว่า?"

“ก็..ให้คุณพิศมาทำ home stay ได้ตามปรารถนาไงคะหรือว่าจะเปิดmuseum ของเก่าดีน้า..” สาวเปรี้ยวทำเสียงหวานใส่บ้าง

“ดีใจที่สุดเลยค่ะ มีคนเก่งระดับเทพอย่างคุณอิ๊งค์มาเป็นที่ปรึกษารับรองโลดดดด!!”

“คะ..แค่นั้นเองหรือคะ"อิงค์กาญจน์สลดไปน้อยหนึ่งเธอคาดหวังกับตำแหน่งที่สำคัญมากกว่านี้ลืมไปไหมว่ากำลังเรียกร้องกับแม่พลอย 2015 ?

“ก็ไม่แค่นั้นหรอกค่ะ พิศ..” เพลินพิศสมัยน้ำเสียงขาดห้วง

“...” สายลับสาวนั่งตัวเกร็งกับคำต้องลุ้น

“พิศ..เอ่อปวดชิ้งฉ่องน่ะค่ะ" แง่วววว.. หักมุมเข้าจนได้

“ห้องน้ำอยู่ชั้นล่างของเรือนใกล้ๆกับที่เรานั่งคุยกับแม่น่ะค่ะเดี๋ยวอิ๊งค์ไปเป็นเพื่อนนะคะ" เจ้าเรือนทำท่าจะยันกายลุกขึ้นมาแต่ครั้งนี้ว่องไวสู้สาวหวานไม่ได้

“เพื่อนมีเยอะแล้วอ่าค่ะ คริคริ"คนเนิบช้าเดินลิ่วมุ่งหน้ากลับเรือนทิ้งให้สายลับสาวมึนตึ๊บตามไม่ทันทั้งความคิดและฝีเท้า ในห้วงที่นั่งรอแม่งามตากลับมาและกำลังเหม่อลอยอยู่นั้นเองสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของอิงค์กาญจน์ก็ดังขึ้นเป็นไปโดยอัตโนมัติ เธอตัดสายทิ้งทันที

“อะไรของเค้านะนางพี่โอม โทรจิกอยู่ได้ทำงานอยู่เห็นไหม.. เชอะอิงค์กาญจน์ส่ายศีรษะบ่นอุบไม่ต้องปรายตามองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นผู้ใดโทรเข้ามาดรรชนีนางจะกดปุ่มปิดเครื่องแต่กลับต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงหวานแทรกเข้ามาจากด้านหลัง

“บ่นอะไรคร้า”

“อุ่ย!..คุณพิศ ไหนว่าไปเข้าห้องน้ำไวจุงค่ะ” ยังไม่ทันจะรู้ความ เสียงเรียกเข้าก็ดังสวนขึ้นมาอีกครั้ง

“ตรู๊ดดดด”

'ฮร่ายยย..จะโทรมาทำไม๊ทำไมยัยพี่โอม'อิงค์กาญจน์สองขิตสองใจ จะกดทิ้งเช่นเคยก็ส่อถึงพิรุธมากไปครั้นจะรับความลับอาจรั่วไหล โดยเฉพาะต่อหน้าเป้าหมายที่ฉลาดเป็นกรด หากย่ามใจประมาทแม้เพียงนิดเคสนี้ได้จบสิ้นแน่ๆ

“ไม่รับหน่อยเหรอคะ เผื่อเป็นงานสำคัญไม่ต้องเกรงใจพิศหรอกค่ะ" เปล่าเกรงใจแต่เกรงว่าจะไหวตัวทันต่างหากท้ายที่สุดสายลับสาวจนทางจำใจกดรับสาย

“อิ๊งค์ยุ่งอยู่นะกำลังทำงานให้ไม่ต้องห่วง มีอะไรค่อยว่ากัน" ประโยครวบรัดตัดความทั้งมัธยัสถ์ถ้อยคำให้มากที่สุดและวางสายไปโดยพลัน

“พูดจากับแฟนห้วนจังนะคะงอนกันอยู่ล่ะสิท่า"

“คือ..อิ๊งค์ยังไม่มีแฟนน่ะค่ะเมื่อครู่เป็นรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกัน" อิงค์กาญจน์ตอบตามความเป็นจริงไหนๆก็ละเมิดกฎเหล็กเสียแล้วเป้าหมายจะรู้อะไรๆในตัวเธอบ้างใช่สลักสำคัญ คนฟังยิ้มพึงใจ แต่แววตาแฝงเร้นซุกซ่อนความคิดซับซ้อนสายลับสาวจับสังเกตได้เพียงนั้นเธอมิอาจล่วงรู้ได้เลยว่าอากัปกิริยาเช่นว่าหมายถึงสิ่งใดยิ่งพยายามค้นหาค้นใจกลับพบว่าตนเองเวียนวนมายืนอยู่ ณจุดเริ่มต้นไร้ความคืบหน้าทุกที

“คุณอิ๊งค์นี่ลื่นไหลพริ้วได้เสมอเลยนะคะหลบมาเที่ยวเล่นแต่พูดได้หน้าตาเฉยว่าทำงาน นี่ถ้าผู้..เอ่อหัวหน้างานรู้เข้ามิโดนเล่นงานแย่หรือคะ”เพลินพิศสมัยเย้าเล่นไม่จริงจังแต่สำหรับอิงค์กาญจน์แต่ละคำถามช่างแสนยากกับการตอบนักวลีแปร่งๆสะดุดหูสายลับสาวเหลือเกิน วันนี้เป้าหมายมาแปลกมากเพลินพิศสมัยเบี่ยงหน้าไม่สบสายตาเช่นเคยเดินเลี่ยงมาอีกทางสองอนงค์นางยังชวนคิดชวนคุยกันอยู่ที่ริมน้ำอย่างเพลินใจ...

ที่ครัว สายใจตั้งเตาอั้งโล่นำกุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่น้องๆขวดโค้กมาแปดตัว เตรียมจะผ่าครึ่งบุศยมาศลูกมือถึงกับอ้าปากค้าง เธอไม่เคยเห็นกุ้งตัวเป็นๆขนาดใหญ่สีเขียวครึ้มก้ามโตขนาดนี้มาก่อน

“ใหญ่มากเลยค่ะคุณน้า”

“จ้ะไซส์พิเศษแบบนี้หายากเป็นที่ต้องการของตลาดมากถ้าน้าส่งร้านอาหารกิโลฯหนึ่งเกือบพันได้นี่ในบ่อเหลือไม่มากลำพังไซส์ย่อมกว่านี้ก็กำไรโขแล้วจ้ะ”บุศยมาศพยักหน้ารับเข้าใจดี เธอเคยอ่านในรีวิวตาม webpage กุ้งไซส์ซุปเปอร์จัมโบ้แบบนี้มีสองพันอัพแน่นอน

“อ้าว..มาศนึกว่าเป็นกุ้งธรรมชาติเสียอีกค่ะ”

“ไม่มีแล้วจ้ะ เป็นกุ้งเลี้ยงกันหมดหนูรู้ไหม ขนาดปลาม้าที่อำเภอบางปลาม้าจังหวัดสุพรรณฯที่นั่นยังต้องไปรับปลามาจากที่อื่น ผู้บริโภคมีมากขึ้น กุ้งปลาลำพังตามธรรมชาติโตไม่กันจ้ะ”สายใจให้อรรถาธิบาย มือก็เอากรรไกรมาตัดหนวดกุ้งคงเหลือก้ามไว้หันหัวกุ้งเข้าหาตัวใช้กรรไกรตัดเลาะที่กลางลำตัวกุ้งจรดหางเอาเส้นดำหรือขี้กุ้งออกกลับเอาหัวออกตัดเลาะตรงกลางเช่นเคยและเอาก้อนดำใหญ่ที่ตรงหัวกุ้งออกจากนั้นเอามีดผ่าครึ่งเป็นอันเสร็จพิธี

“ทำแบบนี้เวลาเผามันกุ้งจะไม่แห้งไม่ตกหล่นคนทานก็ทานง่ายจ้ะและยังสะอาดด้วยบางร้านน้าเห็นว่าเขาไม่ผ่าเอาขี้ออกเป็นเส้นดำยาวๆเลยล่ะ”ผู้อาวุโสสอนเทคนิคและให้เหตุผลไปในคราวเดียวพร้อมทั้งเอาขี้เถ้ามากลบบนถ่านเป็นการลดความแรงจากไฟ นำกุ้งขึ้นตะแกรงและวางบนเตา

“เอาล่ะขั้นต่อไปคือเตรียมน้ำจิ้มรสเด็ดหนูช่วยน้าหน่อยนะจ๊ะ”บุศยมาศกระวีกระวาดเอาส่วนผสมมาโขลกรวมกันอันประกอบไปด้วย กระเทียม รากผักชีใบโหระพาสับ พริกขี้หนูสวนสีเขียวและแดง น้ำปลา น้ำตาลทรายเล็กน้อยและน้ำมะนาวสักพักก็เรียบร้อย กลิ่นกุ้งที่ต้องไฟอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์เริ่มส่งกลิ่นยั่วน้ำลายขจรขจายไปทั่วอาณาบริเวณเตะจมูกสองนารีที่เดินกลับมาเลียบๆเคียงๆเข้าพอดี

“หอมมากเลยค่ะคุณน้า”เพลินพิศสมัยตรงรี่มาที่เตาภาพตรงหน้าคือกุ้งตัวใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงมันที่หัวสีส้มแกมแดงฉูดฉาดบาดตาเดือดปุดๆเย้าใจเนื้อกุ้งเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นขาวนวลอิงค์กาญจน์ที่รู้งานเอากุ้งขึ้นจากตะแกรงใส่จานสวยวางคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของมารดา

“อดใจอีกนิดนะจ๊ะเด็กๆเหลือกับข้าวอีกสามอย่าง” สายใจพูดมือก็ยกเอาหม้อต้มน้ำมาตั้งบนเตาเพื่อจัดการลวกสะเดาจากท้ายบ้านเป็นของแกล้มกับน้ำปลาหวานที่ทำเสร็จไว้ล่วงหน้าบุศยมาศเห็นหอมซอยอยู่ไม่ต้องให้ผู้อาวุโสบอกเธอตั้งกระทะบนอีกเตาหนึ่งใส่น้ำมันเตรียมเจียวทันที สายใจลวกสะเดาสองน้ำเรื่องกุ้งๆเป็นอันแล้วเสร็จพร้อมรับประทาน อีกสองจานถัดมาถูกปรุงอย่างรวดเร็วเริ่มจากฉู่ฉี่ปลาหมอและปิดท้ายด้วยเนื้อติดมันผัดใบยี่หร่าอิงค์กาญจน์คดข้าวใส่จานเตรียมตั้งวงรอ

“ฉุกละหุกนิดหน่อยนะจ๊ะมื้อนี้ไม่มีอะไรซดแก้ฝืดคอเลย” สายใจออกตัวหลังจากกับข้าวเสร็จสรรพทั้งหมดช่วยกันตั้งสำรับพรักพร้อมบนโต๊ะไม่อเนกประสงค์ใต้ชานเรือนตัวเดิมนั่งล้อมวงล้อมรักกันเตรียมเปิบมื้อค่ำ เสียงจิ้งหรีดเรไรแข่งขันร้องระงมเป็นบรรยากาศพื้นบ้านที่คนเมืองกรุงมิใคร่ได้สัมผัสนัก

“เท่านี้ก็วิเศษมากๆแล้วค่ะร้านอาหารมีอายเลยนะคะนี่”เพลินพิศสมัยเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปอาหารสุดล้ำที่ยังไม่ต้องชิมเพียงพินิจด้วยตาเนื้อและประสาทรับกลิ่นก็รู้ได้ทันที่ว่าอร่อยยกนิ้วแน่ๆ

“เต็มที่เลยนะเด็กๆ ไม่ต้องเกรงใจ”สายใจกล่าวเปิดพอเป็นพิธีเป็นเพลินพิศสมัยตักเนื้อปลาหมอใส่จานให้สาวเปรี้ยวเป็นการเทคแคร์ก่อนจะตักใส่จานตนเองบ้าง

“อ้าวแล้วฉันล่ะ ตักให้แต่เพื่อนใหม่น่าน้อยใจชะมัด” บุศยมาศโวยเล็กน้อยแต่ต้องยอมจำนนให้เหตุผลหนักแน่นของเพื่อนรัก

“คุณอิ๊งค์เธอขับรถพาเราตระเวนมาทั้งวันแล้วไม่พอยังเป็นเจ้าภาพมื้อนี้อีกแกก็เถอะนะ ดูแลคุณน้าด้วย”..มื้อค่ำที่เรียบง่ายผ่านไปอย่างรวดเร็วสำรับทุกอย่างตกถึงท้องทั้งสี่ไม่เหลือหรอสายใจดูเวลาแล้วกลัวสาวๆจะกลับถึงกรุงเทพฯดึกดื่นเกินไปในฐานะเจ้าบ้านจึงเอ่ยปากชวนอาคันตุกะทั้งสอง

“นี่ก็ค่ำมากแล้วหนูทั้งสองจะอยู่ค้างกันเสียที่นี่ไหมจ๊ะ น้าจะได้บอกเด็กให้เตรียมห้องหับไว้ให้หรือว่าจะนอนห้องเดียวกับยัยอิ๊งค์ดี”

“ขอบคุณคุณน้ามากเลยค่ะแต่พิศต้องขอโทษจริงๆ วันนี้ไม่ใคร่สะดวก แต่รับปากคุณน้าค่ะว่าวันหยุดครั้งหน้าพิศจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ยาวๆเลยค่ะ“

“จ้ะ..งั้นเดี๋ยวน้าไปส่งอิ๊งค์พาแม่แวะที่โรงงานก่อนนะ หนูๆเขาจะได้มีของฝากติดไม่ติดมือไป”สายใจบอกความต้องการทั้งยังเดินไปตามลุงเฮงให้เอาปลาและกุ้งไซส์ย่อมๆมาอีกสามสี่กิโล..ที่ร้านขายของฝากริมถนนใหญ่คลาคล่ำไปด้วยรถราของนักท่องเที่ยวหนาตาแม้จะค่ำมืดแล้วในร้านมีสินค้าพื้นเมืองหลากหลายตั้งแต่ขนมขบเคี้ยวน้ำพริกเกือบร้อยชนิดใส่กระปุกและ package สีสันสะดุดตาในราคาดึงดูดใจ3 กระปุก 50 บาท โรตีสายไหมและบรรดาของสดผักผลไม้ตามฤดูกาล

“ว่าแต่ลูกสาวน้าไปไหนแล้วนี่กระโดกกระเดกไม่เคยเปลี่ยน” สายใจบ่นพึมเมื่อไม่เห็นบุตรสาวตัวเดินมาส่งสองสาวที่รถเป็นจังหวะเดียวกับที่อิงค์กาญจน์วิ่งสุดฝีเท้ากระหืดกระหอบกลับมาในมือถืออะไรบางอย่างติดมาด้วย

“ไปไหนมาแก หัดอยู่นิ่งๆบ้างแม่เวียนหัวว่ะ” คนถูกบ่นอมยิ้มไม่ตอบแต่ยื่นของในมือให้แม่ดูเท่านั้นผู้เป็นแม่ก็ไม่ถามอะไรต่อ อิงค์กาญจน์โผเข้ากอดสายใจเต็มวงแขน

"ครั้งหน้าอิ๊งค์จะมาอยู่กับแม่นานๆๆๆๆเลยนะคะ"

“เห็นแกก็พูดหลอกแม่แบบนี้ทุกที"สายลับสาวคลายอ้อมกอดตามมาด้วยหอมแก้มร่างท้วมฟอดหนึ่งประนมมือกราบแนบอกและก้าวขึ้นรถไป สองอาคันตุกะไหว้ลาสายใจเช่นกันมารดาของอิงค์กาญจน์ยืนส่งที่หน้าร้านจนกระทั่งรถหรูแล่นลับสายตาไป

“คุณอิ๊งค์นี่ที่แท้ก็ลูกสาวเถ้าแก่เนี๊ยผู้นำชุมชนนี่เอง อย่างนี้ก็เป็นลูกผู้มีอิทธิพล เรียกแบบนี้ได้ใช่ไหมคะ”ในรถเพลินพิศสมัยชวนคุย ส่วนบุศยมาศหนังท้องตึงหนังตาก็ปิดสนิทหลับผลอยที่เบาะหลังไปแล้ว

“คุณพิศ ช่วยแกะถุงนี้ให้หน่อยสิคะ"สายลับสาวไม่ตอบหันมายิ้มให้จางๆ เพลินพิศสมัยทำตามโดยดีทันทีที่สิ่งของภายในถูกหยิบออกมา นัยน์ตาที่โตอยู่แล้วกลับขยายกว้างยิ่งกว่าเดิมมันเป็นธนบัตรสิบบาทสีน้ำตาลพับต่อกันเป็นรูปปลาสวยงามสองตัว

“ให้พิศเหรอคะ"

“ค่ะไว้ครั้งหน้าอิ๊งค์จะพับให้เองกับมือเลย”

“ขอบคุณนะคะ มันเป็นของขวัญชิ้นที่พิศประทับใจมากที่สุด"สองสาวยิ้มหวานให้กันราวชั่วโมงเศษก็กลับมาถึง apartment ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายเข้าห้องตามปกติ...

รุ่งขึ้นอิงค์กาญจน์ขลุกอยู่แต่ที่ห้องตนเองเพื่อตระเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมทั้งยังเขียน reportสรุปความคืบหน้านั่งนึกอยู่ครึ่งวันก็นึกไม่ออกเพราะมันไม่มีอะไรให้เขียนน่ะสิอรรถชัยวีดีโอคอลเข้ามา ตีหน้าเกย์ยักษ์แยกเขี้ยวใส่

“ไงยะหล่อนเมื่อวานอู้งานไปไหนมา"

“ใครอู้

“อย่ามาเฉไฉ สายพี่รายงานมา"

“มั่วแล้ว..เค้าก็ไปทำงานตามติดชีวิตเป้าหมายไม่คลาดสายตานะ"

“มีอะไรคืบหน้าบ้าง"

“เมื่อวานเหรอ นางไปเที่ยวไหว้พระส่วนวันนี้เป้าหมายไม่อยู่ วันนี้ไปรับรถที่อู่แถวศรีนครินทร์มีออกนอกเส้นทางไปบางนา-ตราด กม. 30 ราวครึ่งชั่วโมง"อิงค์กาญจน์จงใจรายงานแต่เฉพาะเนื้องานล้วนๆปากโทรโข่งอย่างเก้งกล้ามโตขืนบอกเรื่องส่วนตัวไปไม่โดนบริภาษกลับมาก็โดนค่อนขอดอยู่ดี

“บางปะกงนี่..หรือว่าจะแอบไปขนแบงค์!"อรรถชัยเดาไปเรื่อยเขามั่นใจเต็มประตูว่าสาวหวานซ่อนความร้ายกาจไว้ภายในและนางคืออาชญากรตัวจริง

“ไม่ม้างพี่โอมคิดมากไปป่าว"

“แน่ะๆออกตัวแทนกันอีกแระ..แล้วเป้าหมายมีถืออะไรกลับเข้าห้องไหม"

“ฮื่อ..ไม่เห็นมี"

“งั้น..หล่อนลงไปดูที่รถ..เดี๋ยวนี้"

“จะบร้าเหรอ เชื่ออิ๊งค์เหอะนะคุณพิศไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก" ไม่บ่อยครั้งไม่สิไม่เคยเลยมากกว่าที่อิงค์กาญจน์จะไม่รับฟังคำสั่งของรุ่นพี่

“รักเธอเหรอ" คู่บัดดี้ถามสิ่งที่กลัวว่าจะเกิดที่สุดออกมาแต่อิงค์กาญจน์กลับไม่ได้เกรงแม้เพียงน้อย

“รักหรือไม่รักหาได้เกี่ยวไม่อิ๊งค์ไม่ได้ตามืดบอดแต่สรุปได้จากที่เกาะติดชีวิตเธอต่างหาก" คำสำคัญคำนั้นเธอขอสงวนไว้ก่อนไม่อาจและไอยากคิดไปไกลเพราะเพียงแค่รู้สึกดีมันก็ผิดหนักหนาแล้ว

“อย่าด่วนสรุปเพียงเพราะความเอนเอียงของหัวใจแค่นี้นะเก้งเหนื่อย" สายตัดไปอิงค์กาญจน์ก็สุดเหนื่อยใจเคสนี้ยากแสนเข็ญแสนสาหัสหากคุณพิศเป็นวายร้ายจริงๆล่ะก็เธอยังไม่สามารถแกะรอยอะไรได้เลยสักนิดทั้งยังรู้สึกว่ากำลังเล่นเทนนิสแต้มสุดท้ายในเกม tie-break ตีโต้rally กันอยู่ ต่างฝ่ายต่างงัดกลเม็ดไม้เด็ดออกมา ยันกันไว้ได้ด้วยรู้ทางกันหมดแต่หากเผลอเมื่อใดอีกฝ่ายก็พร้อมจะตี winning ทันทีหรือไม่ก็เป็นเธอที่ตี unforced error เสียเอง...




Create Date : 18 ธันวาคม 2558
Last Update : 18 ธันวาคม 2558 11:09:21 น. 0 comments
Counter : 258 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.