bloggang.com mainmenu search
มาเก๊า ... เมืองที่ได้ชื่อว่า “สวรรค์ของนักพนัน” เพราะมี casino มากมายตั้งแต่ตู้ slot ตามโรงแรมเล็กๆ ไปจนถึงบ่อนตามโรงแรมขนาดใหญ่ที่จงใจสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อจะโกยเงินจากนักพนันท้องถิ่น หรือนักพนันในคราบนักท่องเที่ยว โรงแรมใหญ่ๆเหล่านี้มีทั้งโรงแรมที่เป็นสัญชาติมาเก๊าเองคือ Lisboa หรือจะเป็นโรงแรมสัญชาตอเมริกาเช่น The Venetian

แต่มาเก๊า ... เมืองที่มีพื้นที่รวมกันแค่ 28.8 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 500,000 ยังมีแง่มุมอะไรที่ดีกว่านั้นครับ

มาเก๊าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนที่ถูกครอบครองโดยประเทศโปรตุเกส โดยแลกกับการที่โปรตุเกสทำการปราบปรามโจรสลัดที่อยู่ในน่านน้ำแถวๆนี้ตั้งแต่ปี 1557 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มาเก๊าก็กลายเป็นจังหวัดๆ หนึ่งที่อยู่โพ้นทะเลของโปรตุเกส ถึงจะมีการส่งขุนนางมาปกครองก็ตาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในมาเก๊าก็มีสิทธิ เสรีภาพอย่างเต็มที่

นอกจากโปรตุเกสจะพัฒนามาเก๊าไปในทางที่เจริญขึ้นทั้งการค้า สิ่งก่อสร้าง และวัฒนธรรมต่างๆ โปรตุเกสก็ได้ถ่ายทอดสู่มาเก๊าอย่างเต็มที่ อย่างเช่นสถาปัตยกรรม คฤหาสน์ที่โอ่อ่า โบสถ์เก่าแก่ศิลปะแบบบารอค ความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการ รวมไปถึงถนนสายคดเคี้ยวสไตล์ยุโรป หรือว่าจะเป็นการศาสนา แม้กระทั่งอาหารการกิน

แต่คนมาเก๊าที่โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนจีนที่ขยันขันแข็ง ก็ได้ทำการปรับตัวรับเอาวัฒนธรรมมาเก๊าเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันแล้วปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมจีนได้โดยอย่างไม่ขัดเขิน

เพราะฉะนั้นในเขตเมืองเก่าของมาเก๊าจึงมีส่วนผสมที่งดงามของวัฒนธรรมตะวันออกของจีน กับวัฒนธรรมตะวันตกอย่าง ยุโรปและที่สำคัญคือโปรตุเกสให้เราได้เห็นโดยทั่วไป

จากการประชุมครั้งที่ 29 ที่เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ ของคณะกรรมการมรดกโลก ได้มีการลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเอา ‘The Historic Monuments of Macao (อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์มาเก๊า)’ หรือชื่อในทางการว่า ‘The Historic Centre of Macao’ อยู่ในบัญชีมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรม และธรรมชาติของโลก (Convention concerning the Protection of the World Cultural and Natural Heritage – World Heritage Convention) ซึ่งได้มีการประกาศโดยประธานคณะกรรมการมรดกโลกเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 เวลา 16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่นของมาเก๊า

ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวมาเก๊ามา 4 วัน สิ่งที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุด ก็คือการไปเดินชมมรดกโลกของมาเก๊านี่แหละครับ เพราะผมได้เห็นรูปจากหลายๆท่านแล้วรู้สึกว่าสวย .... สวยมากๆๆ .... ถึงจะไม่ใหญ่โต ไม่มีการตกแต่งอลังการอย่างโรมที่เคยไปมา แต่รู้สึกว่าการตกแต่งแบบง่ายๆตามสถานที่สำคัญของมาเก๊ามันกลับดึงดูดความสนใจได้มากกว่าครับ

เส้นทางการเดินชมมรดกโลกของเมาเก๊ามีระยะทางประมาณ 2.8 กิโลเมตร (อันนี้วันเอาเองจาก google earth ครับ) ความยากของการเดินระดับง่ายถึงปานกลาง มีต้องเดินบนทางชันเพียงเล็กน้อย ผมใช้เวลาทั้งหมด 7 ชั่วโมง รวมการเข้าชมสถานที่ต่างๆ อย่างละเอียด พักกิน coffee break และกินข้าวกลางวัน ถ้าใครเดินเร็ว เดินทนกว่าผม ก็สามารถทำเวลาได้ไม่ยากครับ แต่ผมยังเดินไม่คล่อง แล้วต้องหยุดพักบ่อยๆ เพื่อให้ขาขวาได้พักครับ
(เส้นทางที่แสดงในแผนที่ ถ้าเป็นเส้นประหมายถึงเส้นทางที่กำลังจะเดินไปนะครับ ถ้าเป็นเส้นทึบหมายถึงเส้นทางที่เดินไปแล้ว)

Macau's World Heritage Miles Walk จะแบ่งออกเป็นตอนๆ แต่ละตอนก็จะเป็นเรื่องของแต่ละสถานที่บนเส้นทาง Macau's World Heritage Miles Walk เพราะรูปเยอะมากๆ อยากได้ดูรูปกันอย่างเต็มที่เลยต้องแบ่งเป็นตอนๆ ครับ

ผม “ทนายอ้วน” จะพาท่านทั้งหลายไปชื่นชมมรดกโลกของมาเก๊ากันครับ .......... ถ้าพร้อมแล้วเราออกเดินทางกันเลยนะครับ



เส้นทางของเราเริ่มจากโรงแรม Sofitel @ Ponte’ 16 ที่เราไปพัก เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม แล้วเดินเข้าถนนเล็กๆฝั่งตรงข้ามโรงแรม เดินทรงมาเรื่อยๆ ผ่าน Rue Nova do Commercio, Rue do Guimarares แล้วมาเลี้ยวซ้ายที่ Rua de Cinco de Outubro เดินตรงไปอีกบล็อกเดียว


Photobucket


ทางซ้ายจะเป็นลานโล่งๆ


Photobucket


Photobucket


ตรงนี้คือ สถานที่แรกที่เราจะมาเที่ยวกันครับ Kong Kung Temple


Photobucket


Photobucket



วัด Hong Kung Temple นี่ไม่ได้อยู่ในลิสต์มรดกโลกนะครับ เราเห็นว่าอยู่ใกล้กับโรงแรม และเป็นทางเดินผ่านก็เลยแวะชมซะหน่อยครับ แต่พอได้มาเห็นแล้วไม่ผิดหวังเลยครับ ถึงจะเป็นวัดแบบจีนเล็กๆ แต่ตกแต่งภายนอกได้สวยมากเลยครับ พอดีเวลาที่เราไปถึงกันเช้ามากๆ (8 โมงกว่าๆ) ประตูวันก็เลยยังไม่เปิดครับ


Photobucket


Photobucket


ที่ประตุเข้าวัดจะมีรูป “เสี้ยวกาง” เรียกอย่างนี้คงไม่ผิด เพราะคงเป็นรูปเทพอารักษ์รักษาวัด


ถ้าสังเกตดีๆรูปเทพอารักษ์จะมีหน้าตาไม่เหมือนกันครับ ทางขวามือจะหน้าตาใจดีกว่า ส่วนทางซ้ายมือจะมีหน้าตาที่ดุดันกว่าครับ


Photobucket


Photobucket


Photobucket


วัด Hong Kung Temple สร้างขึ้นเมื่อปี 1750 และมีการบูรณะปฎิสังขรณ์หลายครั้งหลายคราวหลังจากนั้น สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ Kuan Tai ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม และความร่ำรวย ตามตำราเค้าบอกว่า โต๊ะบูชาของวัด Hong Kung Temple แกะสลักได้สวยมากๆ แหม.. เสียดายนะครับ ประตูวัดยังไม่เปิดเลย เลยไม่ได้พิสูจน์ว่าสวยจริงตามคำร่ำลือหรือเปล่า อิอิอิ บนคานไม้หน้าวัดทั้งหมดมีรูปสลักนูนสูงสีทองบนพื้นสีแดงเต็มพื้นที่เลยครับ


Photobucket


Photobucket


ด้านบนของกำแพงหน้าวัดมีภาพจิตรกรรมฝานังบอกเล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนจีนในสมัยก่อนด้วยครับ

เราเดินออกมาด้วยความเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปชมภายในวัด ..


Photobucket


ติดตามชมสถานที่ต่อไปบล็อกหน้านะครับ


ทัวร์ทนายอ้วน ............... เที่ยวไป ......... ตามใจฉัน











Create Date :08 กรกฎาคม 2554 Last Update :24 กรกฎาคม 2554 5:07:04 น. Counter : Pageviews. Comments :39