bloggang.com mainmenu search





เปิดประสบการณ์ใหม่  -  พบจิตแพทย์
 
 



อยากที่เจ้าของบล็อกเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆว่า  ตั้งแต่เจ้าคุณพ่อไปเดินเล่นบนสวรรค์แล้วเจ้าของบล็อกก็แยกบ้านจากครอบครัวขยายขนาดใหญ่มาอยู่เป็นครอบครัวเล็กๆของตัวเอง 
 
 



 
จากที่เคยไปไหนมาไหนไกลๆได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงบ้าน  เป็นห่วงคุณนายแม่  ก็กลายเป็นว่าเจ้าของบล็อกไม่เคยไปไหนแบบค้างคืนกัน  2  คนกับคนข้างๆ  อีกเลยตั้งแต่ย้ายบ้านมา  จะไปไหนแบบค้างคืนกันทีก็ต้องขนไปหมดครอบครัว  เอาน้อลหมาไปฝาก  ฝากบ้านกับพี่ๆ  ป้า  ข้างบ้าน  โกลาหลไปหมด
 
 




ยังไม่นับรวมงานบ้านที่เจ้าของบล็อกเหมามาทำเองทั้งหมด  คนข้างๆก็ช่วยดูแล  hardware  ทั้งหมดในบ้าน  วันหยุด  วันเสาร์ – อาทิตย์  ไม่เคยได้อยู่บ้านกันเฉยๆ  ถ้าไม่ออกไปเดินดูต้นไม้  ดอกไม้  มาปลูกในสวน  ก็ต้องไปซื้อของมาซ่อมแซมบ้าน  ตกแต่งบ้านเสมอ
 
 
 



วันธรรมดาเจ้าของบล็อกก็แทบจะไม่ได้ออกจากบ้าน  นอกจากงานบ้านจะเยอะแล้วเจ้าของบล็อกยังเป็นห่วงคุณนายแม่  ไม่กล้าทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียวนานๆ  เป็นห่วงน้อลวาซาบิ  กลัวเค้าจะเหงา 
 
 



จริงอยู่ที่เจ้าของบล็อกชอบไปเดินดูของตกแต่งบ้าน  ซื้อของมาซ่อมแซมบ้าน  ซื้อต้นไม้  ดอกไม้  เดินซุปเปอร์มาเก็ตนะครับ  .....  แต่เจ้าของบล็อกลืมนึกถึง
  “ความสุขส่วนตัว”  ไปโดยสิ้นเชิง  โดยเจ้าของบล็อกคิดว่าที่เจ้าของบล็อกทำมาทั้งหมดในวันหนึ่งๆ เป็นความสุขประสา  “แม่บ้านเกาหลี”  แล้ว








 



 
2 – 3  ปีหลังมานี่เจ้าของบล็อกรู้สึกเพลียง่าย  ไม่ค่อยมีแรงทำอะไรๆเหมือนเดิม  รู้สึกขี้เกียจทำกับข้าว  งานบ้านบ้างเป็นบางวัน  ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน    และที่สำคัญเจ้าของบล็อกเคยรู้สึกว่า  “สำหรับตัวเองแล้ววันนี้มันช่างไม่สดใสเลย”
 
 



ก่อนที่จะไปพบจิตแพทย์ก็ได้คุยกับเพื่อนๆ  พี่ๆ  น้องๆ  เยอะนะครับ  ทั้งที่คุยเอามันส์  และที่คุยกันเป็นวิชาการ  และเจ้าของบล็อกก็ฟังธรรมะ อ่านธรรมทั้งในหนังสือและอินเตอร์เนตมาเป็นปี  แต่เจ้าของบล็อกก็คิดว่าน่าจะไปปรึกษาผู้รู้แบบเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า  เลยเป็นที่มาของการตามหาคลินิคจิตเวชในโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อนที่จะนัดไปคุยกับจิตแพทย์แบบเป็นเรื่องเป็นราว
 



 
เจ้าของบล็อกไม่ได้รู้สึกว่าการไปหาจิตแพทย์เป็นเรื่องน่าอายนะครับ  คุณนายแม่ของเจ้าของบล็อกเป็นพยาบาลเก่า  เด็กๆเจ้าของบล็อกเคยได้คุยกับจิตแพทย์ที่เป็นคนรู้จักของคุณนายแม่เป็นประจำ  แต่เป็นการคุยกันนอกรอบ  คุยกันในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่ในโรงพยาบาล 
 









 
 
การนัดพบจิตแพทย์เป็นการนัดที่ยากมากจริงๆครับ  แนะนำเลยว่าถ้าตั้งจะไปหาจิตแพทย์แล้วจะต้องรอประมาณ  1  เดือนเป็นอย่างต่ำจึงจะได้พบ  (มีคนบอกว่านานกว่านั้นมากถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐ  อาจจะถึงปีนึงก็ได้)  ซึ่งตอนที่เราทำนัดเราอาจจะรู้สึกจิตใจแย่  ถึงเวลานัดแล้วเราอาจจะรู้สึกดีขึ้น  แต่อย่าพลาดนัดนะครับ  เพราะอาจจะใช้เวลาอีกนานมากกว่าที่จะได้วันนัดอีกครั้งหนึ่ง
 
 
 









เจ้าของบล็อกเลือกที่จะไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้าน  ....  ไม่มีเหตุผลเจาะจงครับ  เลือกเพราะใกล้บ้านที่สุด  ได้วันนัดเร็วที่สุด 
 
 




วันที่ไปพบคุณหมอ  อยู่ในช่วงที่สบายใจขึ้นมาบ้าง  เลยไม่รู้ว่าจะบอกคุณหมอว่ายังไงดี  คุณหมอให้เล่าเรื่องที่กวนใจที่สุดในช่วงที่ผ่านมา  ก็เล่าไปเรื่อยๆ  ตอบคำถามคุณหมอบ้าง  คุยเล่นกันบ้าง  รู้สึกว่าเป็นการบอกอาการและวินิจฉัยอาการที่นานที่สุดตั้งแต่เคยไปหาหมอครับ  เกือบๆชั่วโมงนึงได้ครับ
 
 

 
สรุปว่าเจ้าของบล็อกเข้าข่ายว่าจะเป็น 
“โรคซึมเศร้าเล็กๆ”  กับ  “โรควิตกกังวล”  เนื่องจากเจ้าบล็อกเป็น  perfectionist  หน่อยๆ  กลัวว่าสิ่งต่างๆจะไม่เป็นไปตามที่เจ้าของบล็อกตั้งใจไว้




 
 
คุณหมอสั่งยามาให้กินหนึ่งขนานถ้วน  ก่อนที่จะสั่งยาคุณหมอให้เลือกว่าจะเอาเป็นยาชนิดเดียวกันแต่อยู่ในบัญชียา  ราคาถูกกว่า  แต่  side  effect  แรงกว่า  (มีตั้งแต่อาการ  นอนไม่หลับหรือนอนทั้งวัน  ใจสั่น  คลื่นไส้  เบื่ออาหาร  ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว  ฯลฯ)  หรือจะเอายาที่อยู่นอกบัญชีซึ่งราคาแพงกว่าแต่  side  effect  น้อยกว่า 
 
 



พอดีช่วงนี้เจ้าของบล็อกมีอาการที่เป็น  side  effect  ทั้งหมดอยู่แล้วนิดๆ  จึงเลือกที่จะจ่ายค่ายาแพงกว่า 
 
 




ถึงกระนั้นก็ตาม  ตั้งแต่เจ้าของบล็อกทานยาที่คุณหมอสั่งก็มีอาการ  side  effect  ตามที่คุณหมอบอก  ไม่แน่ใจว่าเป็นอาการ  side  effect  จริงๆ  หรือมาจากจิตใจที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก 
 
 












เลยเป็นเหตุให้เจ้าของบล็อกไม่อยากทำอะไรเลยตั้งแต่ไปพบคุณหมอเมิ่อวันจันทร์ที่แล้วโน้น  ไม่ทำงานบ้านเลย  ไม่ทำกับข้าวเลย  อาศัยพี่  Grab  แทบทุกมื้อ 
 


 
วันนี้อาการดีขึ้น  รู้สึกว่ารวบรวมสติได้มากขึ้น  แต่ก็ยังอาศัย  พี่  Grab  ในเรื่องปากท้องไปก่อนครับ




 
 
จริงๆแล้วเจ้าของบล็อกอยากไปพูดคุยกับจิตแพทย์เท่านั้นนะครับ  ไม่อยากทานยา  แต่จะลองทานดูซักพักนึงครับ  เผื่อว่าจะดีขึ้น




 
 
แต่ยาที่คุณหมอสั่งมาให้ที่เป็นยาแพง  นอกบัญชีหลักก็ยังมี  side  effect  ครับ  ...  ทุกอย่างที่คุณหมอเตือนมาเลยครับ  เจ้าของบล็อกรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างมาก  ฝืนทานไปอาทิตย์นึงแล้วทนไม่ได้ครับ  โทรไปปรึกษาคุณหมอ  คุณหมออนุญาตให้หยุดยาได้ครับ  รอไปพบคุณหมอตามวันนัดอีกที
 
 











 
มีกัลยานเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมแนะนำคุณหมอคนใหม่  ไม่เน้นทานยา  เน้นคุย  ปรึกษากัน  มาให้  เจ้าของบล็อกดูท่าว่าน่าจะถูกจริตมากกว่านะครับ  แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
 
 
 


วันนี้หยุดยาที่คุณหมอคนเดิมสั่งมาอาทิตย์นึงพอดี  รู้สึกสดใสมากขึ้น  เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น  ปฎิบัติกิจกรรมตามปกติได้ดี 











 
 
เย็นนี้มีนัดกับคุณหมอคนเดิม  เดี๋ยวต้องนั่ง  list  อาการต่างๆที่เป็นมาภายใน  2  อาทิตย์นี้ไปรายงานคุณหมอครับ









131132131
Create Date :22 มกราคม 2567 Last Update :22 มกราคม 2567 13:26:00 น. Counter : 455 Pageviews. Comments :19