เบาะนอนผ้าแพรของหนู ตั้งแต่ลูกสาวตัวน้อยเกิด บ้านเราจะแยกให้ลูกนอนเตียงไม้ของเค้าเองมาตลอดเลยค่ะ โดยคิดเอาเองว่าเค้าน่าจะติดนอนเป็นที่เป็นทางในที่นอนของตัวเอง แต่เปล่าเลยค่ะ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไม่ได้ช่วยจริงๆ สุดท้ายที่บ้านเลยต้องจัดการขยายเตียงจากเตียงคอกให้เป็นเตียงเด็กธรรมดาทันที พูดถึงเตียงนอนเด็ก เริ่มแรกนี่เราใช้เตียงไม้ของ Brown Farm ให้ลูกนอนข้างบน ส่วนเตียงไม้ข้างล่าง ให้นอนเตียงไม้ที่เคยให้คุณพ่อเค้าใช้ตอนสมัยเด็กๆ สภาพยังสวยงามอยู่เลยค่ะ เหลือเชื่อมาก หลายสิบปีผ่านมาแล้วนะ พอลูกเริ่มโตขึ้นมาหน่อย เรามองว่าเตียงไม้ Brown Farm คงจะเล็กไปแล้ว เลยต้องรีบหาเตียงไม้อันใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ก็ได้เตียงไม้ที่ขยายได้มือสองสภาพเทพมาในราคาไม่แพงนัก ของอะไรก็จำไม่ได้ละ แต่ขนาดเตียงตอนกั้นเป็นคอกก็ใหญ่มากกว่าเตียง Brown Farm แถมแข็งแรงกว่าเยอะ ก็เลยยังคงให้ลูกนอนบนเตียงคอกอยู่พักนึง จนลูกไม่ยอมนอนนั่นละคะ เลยต้องขยายเตียงแล้วเอามาวางติดกับเตียงพ่อแม่แทน (ใครมีงบเยอะหน่อยแนะนำเลยค่ะว่าให้ซื้อเตียงเด็กที่ขยายได้รอบเดียวไปเลย ไม่ต้องซื้ออีกหลายรอบเหมือนเรา) ส่วนวิธีการก็ เวลานอนก็จะไปนอนกับลูกที่เตียงเค้า กล่อมจนหลับแล้วก็กลิ้งมานอนเตียงตัวเอง ผ่านไปสักพักลูกก็ชอบลุกขึ้นมากลางดึกมานอนเตียงพ่อแม่ตลอด ตอนนั้นคิดว่าเบาะที่นอนลูกแข็งไปเลยไม่ชอบ เลยลองหาผ้านวมนิ่มๆ มาปู ก็ไม่ได้ผล ถึงขนาดลงทุนซื้อฟูกแบบนิ่มๆ สองพันกว่าบาทแน่ะ มาเสริมก็ไม่ได้ผลอีก 555 สุดท้าย ลูกพูดรู้เรื่องแล้ว บอกเลยทีนี้ ไม่นอนที่นอนตัวเอง จะต้องนอนตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ตรงนี้นี่แหละ พอเค้าหลับก็แอบอุ้มไปวางที่นอนตัวเองกลางคืน แป้บเดียวก็กลิ้งกลับมาที่เดิมตรงกลางค่ะ 555 ไม่ได้ช่วยอะไรเลยที่อุตส่าห์ทำมา ตอนนี้เจ้าหนูก็ยึดที่นอนพ่อแม่ ตรงกลางถาวรเรียบร้อยแล้วค่ะ เวลานอนนี่ ก่อนนอนก็จะชอบนอนบนแขนพ่อหรือแม่ แล้วให้เล่านิทานให้ฟัง แล้วก็จะหลับเอง แต่ช่วงหลังนี่จะนอนกับคุณพ่อบ่อย เพราะคุณแม่นอนเร็วมาก แอบหลับก่อนทุกคืน อิอิ (มันเป็นแผนค่ะ) เค้าก็จะนอนเล่นฟังคุณพ่อเล่านิทานทุกคืน เดี๋ยวนี้คุณพ่อเริ่มบ่นแล้วค่ะว่า ลูกสาวเริ่มนอนดึกขึ้นทุกวัน ต้องให้เล่านิทานเป็นชั่วโมงเลยกว่าจะนอน เล่าจนคอแห้งนั่นละคะ อิอิ สามเดือนแรกคุณพ่อนอนหลับสบาย คุณแม่รับภาระไม่ได้หลับไม่ได้นอนตลอด ตอนนี้คุณพ่อรับเองหมดแล้วค่ะ เล่านิทานก่อนนอน รวมถึงตื่นกลางคืนมาห่มผ้าให้ลูกสาวตัวน้อย แล้วก็อุ้มขึ้นมาถ้าลูกดิ้นไปนอนปลายเตียงด้วย ส่วนคุณแม่หลับยาวค่า
วันก่อนก็จะใช้ผ้านวมของ Ikea แต่กะขนาดผิด ได้ผืนใหญ่มาซะนี่ เลยใช้ไม่ได้ พอดีเมื่อวันเสาร์มีโอกาสไปเดิน Big C เลยเห็นผ้าแพรของ Lotus ผืนละ 500 ได้นะ เลยตัดสินใจว่าใช้ผ้าแพรน่าจะดี เพราะผ้าแพรนี่เวลาเจอแอร์ อากาศเย็น ผ้าจะเย็น อยากได้สีเขียว แต่ไม่มีเลย เลยเอาสีชมพูมาแทน ก็พอไหวอยู่ กางออกมาก็ผืนใหญ่พอสมควร ดูคร่าวๆ น่าจะทำผ้าฟูกรองนอนได้ 1 อัน แล้วก็เอาไปทำเป็นผ้าปูที่นอนเตียงเล็กที่อยู่ข้างล่างไว้ให้ลูกนอนกลางวันได้อีกผืนนึง ลองวัดดูแล้วพอดีเลยค่ะ เริ่มทำฟูกรองนอนกันเลยดีกว่า ตัดผ้าออกเป็น 2 ผืน เท่าๆ กันนะคะ ผืนนึงเอามาทำฟูกรองนอน ผืนนี้พับครึ่งนึง จะได้ขนาดที่พอดีกับที่เราต้องการเลยค่ะ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เอามาวางพับครึ่งไว้ แล้วก็เตรียมแผ่นใยที่จะใช้เสริมด้านในเพิ่มความนิ่ม อุปกรณ์มีครบเรียบร้อยค่ะ แผ่นใยนี่เราใช้แผ่นใยที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช้ใยสังเคราะห์ เพื่อความนิ่มนอนสบายหลัง ราคาแผ่นใยรู้สึกว่าจะห่อละ สองหรือสามร้อยกว่าบาทนี่ละคะ แพงหน่อยแต่เป็นใยธรรมชาติ ดีกว่าเยอะ
ตัดขนาดแผ่นใยให้เท่ากับขนาดผ้าแพรที่จะทำเป็นฟูกรองนอนนะคะ แผ่นใยอันนี้คงต้องใช้ 2 แผ่นวางซ้อนกัน เพราะแผ่นเดียวมันน้อยไป บางไปนิดนึงค่ะ สองแผ่นนี่กำลังพอดี
ตัดเสร็จก็เอามาวางติดกับผ้าแพร ให้พับผ้าแพรด้านดีประกบเข้าหากันนะคะ ผ้าด้านเสียอยู่ด้านนอก แล้ววางแผ่นใยธรรมชาติบนผ้าแพร แล้วใช้เข็มกลัดติดให้ทั่วทั้งผืน
ตอนนี้ผ้าที่จะทำการเย็บจะมีทั้งหมด 4 ชั้น สองชั้นเป็นใยธรรมชาติ และอีก 2 ชั้นเป็นผ้าแพร 2 ผืนนะคะ ขั้นตอนการเย็บนี่เราจะใช้ตีนผีธรรมดาไม่ได้ เพราะผ้าจะไม่วิ่ง หรือวิ่งแบบไม่เป็นธรรมชาติ แรงกดทับของตีนผีธรรมดาจะไม่ช่วยส่งผ้าหนาหลายชั้น ต้องใช้ตีนผีที่ใช้เย็บผ้าหลายชั้นโดยเฉพาะนะคะ เราเรียกตีนผีอันนี้ว่า Walking Foot (ราคาตีนผีแบบนี้จะค่อนข้างแพง แต่ก็คุ้มที่จะหาซื้อมาเก็บไว้นะคะ มีประโยชน์จริงๆ ของ Bernina นี่ตกราคาน่าจะสองพันปลายๆ นะคะ) วิธีใช้ก็ไม่ยากแค่ติดตัวตีนผีใหม่ไปก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น เริ่มเย็บกันเลยค่ะ ช่วงที่เราเย็บตรงนี้ ลูกสาวนอนหลับกลางวันอยู่ในห้องเดียวกันเปิดแอร์ ปิดหน้าต่าง เราค่อยๆ เย็บไปอย่างช้าๆ ลูกสาวก็ไม่ตื่นนะคะ ยังหลับได้อย่างสบาย แถมหลับยาวด้วยค่ะ แสดงว่าจักรไม่ได้มีเสียงดังมากขนาดรบกวนโสตประสาทการนอนของเด็กๆ แต่ไม่พูดถึงเสียงจักรโพ้งนะคะ อันนั้นดังกว่านี้เยอะ ไม่ต้องสืบเลย ตื่นแน่นอนค่า ถ้าเป็นจักรโพ้ง
ดูอีกด้านนะคะ จะเห็นว่าผ้าหนาทีเดียว เพราะใยธรรมชาติ 2 ชั้นเลย แต่ก็เย็บได้ลื่นไหลไม่ติดขัดเลย
พอเย็บครบ 3 ด้านก็เอาผ้ายืดลายดอกไม้มากุ้นขอบทุกด้านเป็นอันเสร็จ ผ้ายืดที่เอามากุ้นขอบนี่เราไม่ได้พับทบเก็บชายผ้ายืดนะคะ ปล่อยธรรมชาติเลย เพราะผ้ายืดนี่ชายผ้าไม่มีรุ่ยอยู่แล้ว เวลาตัดก็เบี้ยวๆ บูดๆ มากเพราะตัดสดเลย ไม่ได้ใช้ไม้บรรทัดวัด มีเบี้ยว มีอะไรบ้าง ไม่เป็นไร
ใช้เข็มกลัดเนารอบแล้วก็เตรียมเย็บจริงเลยค่ะ
เย็บรอบแรกเราใช้วิธีเย็บเส้นตรงให้ครบทั้ง 4 มุม แล้วก็เย็บซิกแซกใกล้ๆ ขอบริมผ้าเพื่อเก็บปลายผ้าอีกครั้ง
เย็บเสร็จแล้วก็ใช้กรรไกรเล็กตัดขอบปลายผ้าที่เหลือออกมาจากแนวเย็บซิกแซกออกให้หมดนะคะ
เตรียมลงตระกร้าให้พี่เลี้ยงซักให้ ^^ วันแรกที่เอามาฟูกผ้าแพรมาปูนอนให้ลูก ก็บอกเค้าว่านี่แม่ทำให้นะ หนูจะได้นอนตรงนี้ เย็นๆ ผ้าเย็นๆ หนูชอบใช่มั้ยค่ะ แล้วอย่ากลิ้งไปนอนปลายเตียงนะ เดี๋ยวจะตกเตียงเอง ลูกสาววิ่งไปตรงเตียงนอนแล้วไปดูฟูกผ้าแพรสีชมพูอันใหม่ แล้วก็กลิ้งๆ ตรงฟูกผ้าแพร บอกคุณแม่ว่า "มันสวยมากเลย" แค่นี้คุณแม่ก็ยิ้มหน้าบานแล้วค่ะ
|
บทความทั้งหมด
|