นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 14 วันนี้เขาออกไปทำงานตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เรื่องราวมากมายทำเขานอนไม่หลับ มอเตอร์ไซด์ คู่ใจแล่นเอื่อยไปตามทาง แสงแดดทอสีรำไร ‘คนเราจะทำร้ายกันถึงตายเพื่อเงิน อย่างนั้นหรือ’ ท้องฟ้าถามคำถามนี้กับตัวเองหลายครั้ง ชิงมรดก แย่งผลประโยชน์ จริงสิตัวเขาจะเข้าใจเหตุอุบัติได้อย่างไร เขาไม่เคยตกอยู่ในกองเงิน วังวนมนตราวาสนา บรรดามี หาเช่นนั้นโอกาสการศึกษา วงศาระดับสูงมิทำให้เกิดคุณธรรมหนักหรอกหรือ เม็ดเงินมหาศาล แบ่งกันใช้ชาตินี้ไม่มีวันหมด จำต้องแย่งชิงทั้งหมดเป็นของตนเพื่อความสุขอันใด มีแต่หาเหตุแห่งทุกข์มากกว่า แต่ก็อีก หากเขาตกเป็นหนึ่งในวนตรา จักเป็นเช่นเดียวกันก็เป็นได้ เขาแวะกินอาหารเช้าริมทางแถวหน้าบริษัท นั่งมองรถสัญจรไปมา ‘รถวิ่งหน้ามองกว่ารถติด’ เขาคิด รถบรรทุกใหญ่แล่นผ่านหลายคันจนเป็นที่สังเกตุ การหมกมุ่นกับงานทำเขาอดคิดไม่ได้ว่า หรือจะไปที่โรงงาน ของเขา คิดแล้วพลันนึกขำขึ้นมากับความคิดตน ‘เขาหมกหมุ่นจริง’ วันนี้คิดว่าคงเป็นวันทำงานสบายๆ เพราะคุณกรกฏไปต่างประเทศแล้ว เขาไม่ต้องวิ่งตามเจ้านายทีละสองคน ขณะขี่มอเตอร์ไซด์เข้าบริษัท กลับได้ยินเสียงบีบแตรไล่หลบทางจากรถบรรรทุกคันใหญ่ เขาหงุดหงิด เล็กน้อย ด้วยทำลายบรรยากาศดีในตอนเช้า รถใหญ่วิ่งเร็ว บีบแตรไล่รถเล็กตลอดทาง ท้องฟ้ามองตามด้วย ขุ่นข้อง จนเห็นรถเลี้ยวเข้าบริษัทของเขา ‘ขนส่งบริษัทไหนต้องให้ ฝ่ายจัดซื้อจัดการสักหน่อย’ ถึงบริษัท รปภแจ้งว่า “คุณภาณุภาพเข้าโกดังแต่เช้า” ท้องฟ้าจึงตามไป เผื่อมีอะไร ถึงโกดัง เห็นคุณภาณุภาพตรวจรับของเอง ท้องฟ้าเดินเข้าไปช่วย “ฉันสั่งด่วน” เจ้านายบอกสั้น “ครับ” คนฟังขานรับสั้นเช่นกัน เขาไม่ถามอะไรให้มากความ หน้างานสำคัญก่อน รายละเอียดเดี๋ยวรู้เอง ท้องฟ้าอดสังเกตุ ไม่ได้ว่า เจ้านายเหมือนเร่งทำงานในช่วงนี้ ช่วงที่ท่านประธานและคุณกรกฏไปต่างประเทศ หรือเขาคิดมากไป มันอาจเป็นการณ์พอดีกันก็ได้ ขณะกำลังตรวจวัตถุดิบ คนโกดังมากระซิบถาม “ของจากไหนครับ” “มีอะไรหรือเปล่า” “ผมว่าดูแปลกๆ ไม่ใช่วัตถุดับที่ดูแปลก แต่เป็นคนขับ” ท้องฟ้ามองตาม คำสงสัย “อาจเป็นพวกรับจ้าง ก็จะดูแบบนั้นละ” หมายถึงรถรับจ้างทั่วไปคนขับมักจะแต่งตัวตามสบาย รายนี้ดูออกจะแต่งตัวเถื่อนสักหน่อย “คุณท้องฟ้าว่า ไม่แปลกเหรอ สินค้าเกรดเออย่างนี้ จ้างรถสิบล้อสามช่ามาส่ง” เขาสงสัยแน่นอน ถึงที่มาของวัตถุดิบ แปลกตั้งแค่คุณภาณุภาพมารับสินค้าด้วยตัวเอง แปลกตั้งแต่ ท่านประธานและคุณกรกฏไปต่างประเทศ ที่ว่าแปลกคือเจ้านายของเขา เร่งงาน ทุกอย่าง เหมือนใช้ช่วงที่ทั้งสองไม่อยู่ให้คุ้มค่า วัถุดิบวางจัดอยู่ริมในสุดของโกดัง นั่นหมายถึงอีกนานกว่านะนำมาใช้ ท้องฟ้ายืนมองสำรวจ ความเรียบร้อย ก่อนเดินออกมาด้านนอก เห็นเจ้านายยืนจิบกาแฟ นั่นเป็นสัญญานว่า สักพักคงไปที่โรงงานต่อ ไม่แวะออฟฟิศ ที่โรงงานเครื่องจักรลดกำลังการผลิตเป็นปกติ แต่เดินเครื่องทำงานตลอด ยี่สิบสี่ชัวโมง “เราต้องเร่งผลิตสินค้า จะเป็นการดีถ้าได้ส่งสินค้าก่อนกำหนด” เจ้านายเอ่ยกับเขา “ผมไม่ยักรู้ว่ามีลูกค้ารายไหนจ่ายเงินเพิ่ม” “ก็มันไม่มี” เจ้านายตอบ การเร่งผลิตทำให้เสียค่าโอที ค่าใช้จ่ายเพิ่มจิปาถะ แถมเสี่ยงกับการทำงานของเครื่องจักร “ถ้าเราส่งสินค้าได้เร็ว โอกาสที่จะได้รับออเดอร์เพิ่มก็มีมาก” ออร์เดอร์นี้กำไรน้อยแต่แสดงฝีมือผลิตเร็ว ไว้ฟันกำไรออเดอร์หน้า ท้องฟ้ารู้แต่ “ผมกลัวเครื่องจักรเราไม่ไหว” “ไม่เสี่ยงก็ไม่ได้ชิ้นปลามัน” เจ้านายของเขากล้าได้กล้าเสีย ซึ่งบางทีท่านประธานไม่ชอบใจนัก ‘มันเสี่ยงเกินไป’ บางทีท้องฟ้า ได้ยินการโต้เถียงรุนแรง จากในห้องทำงานใหญ่โดยเฉพาะช่วงหลังๆมานี่ หลังจากที่เจ้านายใหม่ปรากฏ กลับจากโรงงาน นายและผู้ช่วย ง่วนอยู่กับกองเอกสาร ฝ่ายขายส่งออเดอร์มาให้พิจรณา ส่วนใหญ่เป็นออเดอร์ที่วัตถุดิบขาดตลาด ‘แต่เรากลับมีวัตถุดิบนั้น ตุนอยู่ปลายโกดัง’ ช่างเป็นเรื่องพอดิบพอดีเกินไป ท้องฟ้ามองไปที่ห้องทำงานเจ้านาย ‘คนเก่า’ หากเป็นเมื่อก่อนเรื่องบังเอิญเช่นนั้น เป็นแผนธุรกิจ แต่ตอนนี้ มีหลายเรื่อง บังเอิญเกินไป ท้องฟ้าเห็นว่า ไม่ใช่เพียงแต่แผนธุรกิจเท่านั้น ‘มีแผนการณ์อื่นอยู่ด้วย’ วันนี้ทั้งวันเขาง่วนอยู่แต่ ที่โรงงาน สิ้นวันตรงกลับบ้านเลยไม่ได้เข้าไปเคลียร์งานที่โต๊ะ แต่ลำพังงานคาในโน้ตบุ้คก็ทำเขาเข้านอนดึกตามปกติ ก่อนเข้านอนเขาเปิดสมุดบัญชีเงินฝากเงินหนึ่งล้านบาทที่รับมาจากคุณภาณุภาพ ครุ่นคิด มันเป็นเหตุให้ เจ้านาย ลดความไว้วางใจเขาลงใช่หรือไม่ ไม่เช่นนั้นเขาคงได้รับรู้เรื่องผู้หญิง ชื่อพาใจ มากกว่าได้ยินแต่ชื่อ เขาเก็บมันกลับเข้าลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียง ลมตัวลงนอน ไม่ทันหลับ พลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เอื้อมมือคว้า ใจคิดว่าเรื่องงาน เหลียวมองดูนาฬิกาบนหัวเตียง “สวัสดีครับ” เขากรอกเสียงตามสาย พลางยิ้มมุมปากนึกเย้าตัวเอง 'โทรมาดึกขนาดนี้แจ้งว่าใครคือคนร้ายกระมัง' ------------------------------------------------------------------------- ท้องฟ้าบีบมือคนนอนป่วยเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเริ่มรู้สึกตัว “คุณถูกปล้น คนร้ายพยายามฆ่าปิดปาก มันดึกมากแล้ว คุณจะมาเซอร์ไพรส์ผมที่บ้าน ผมไม่สบาย คุณเลยอยากมาดูแล อ๋อเกือบลืม คุณเป็นแฟนผม ผมชื่อ ท้องฟ้า” หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้น เธออยู่ในนรกหรือสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดเสียงกระซิบจากสถานที่นั้น ฟังประหลาด มือเธอได้รับสัมผัสอุ่น “คุณ คุณได้ยินผมพูดหรือเปล่า” เสียงกระซิบข้างหูทำให้หันเห็นใบหน้าต้นเสียง “ที่โรงพยาบาลนี้คุณชื่อเนตรนภา” เธอได้ยินเสียงเบาลง ง่วง หลับตา ‘ฉันชื่อเนตรนภาจริงหรือ’ ริมฝีปากเธอขยับยิ้มเล็กน้อย แต่แล้วสติกลับข้าสู่ห้วงภวังค์ ท้องฟ้าเฝ้ามองรอยยิ้มนั้น เธอยิ้มเพราะดีใจที่รอดชีวิตอย่างนั้นหรือ เขาไม่อยากเชื่อ มันต้อง เป็นรอยยิ้มให้กับกองเงิน ที่สุมอยู่มากกว่า เพราะอะไรนะหรือ เพราะผู้หญิงคนนี้ ชื่อ ‘พาใจ’ ผู้หญิงเห็นแก่เงินอย่างไรเล่า
|
บทความทั้งหมด
|