นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 36 จบ ท้องฟ้า เปิดประตูรถ ลงวิ่งไปด้านท้าย โบกรถขนส่งใหญ่ถอยเข้าเทียบพอดีช่องจอด เขาแต่งกายในชุดยูนิฟอร์มบริษัทขนส่ง วันนี้เขาเป็นคนขนส่งอย่างนั้นหรือ เขามองโกดังโดยรอบ เผื่อมีใครอาจคุ้นหน้าเขา เขาได้หลบหลีก คนขนส่งอีกคน ถือแผ่นเอกสารเดินมาหา ยื่นให้ดูรายการสินค้า “มีรถอื่นมาเทียบ โกดังด้านโน้น” เรื่องสนทนากลับมิใช่เรื่องสินค้า ไวยตรา พื้นที่กว้าง เขาเดินดุ่ม ไปได้อย่างไร พอดีรถขนคันหนึ่งแล่นออก ท้องฟ้าวิ่งตาม โบกให้จอด เขาขึ้นนั่งข้างคนขับ “พี่ทำเป็นขับหลง อ้อมไปส่งผมที” คนขับรู้จัก นายท้องฟ้า ผู้ช่วยผู้บริหาร แม้แปลกใจยังคงทำตามคำขอ “มาแอบดูเจ้าสาว ก่อนแต่งเหรอคุณ” “ทำนองนั้น” ท้องฟ้ากล่าว เขาขอลงเมื่อใกล้ถึงโกดัง เดินหลบตามมุมลับสายตา จนเห็นการขนสินค้าออก ตามคนขนส่งกล่าว ‘สินค้าอิทธิลักษณ์’ เขาถ่ายภาพ พยายามปรับขยายให้เห็นตัวสินค้าชัดที่สุด เขาหลบดูอยู่จนการขนสินค้า เสร็จสิ้น ขากลับ ไม่ง่ายเหมือนขาเข้า ระยะทางระหว่างโกดังไกลจนเขา แทบหมดแรง พอวิ่งมาถึงรถขนส่ง คันสุดท้ายรอเขา แต่มีคนอิทธิลักษณ์ ยืนคุมอยู่ รปภ โรงงานดูแลการขนถ่าย หันมองมา เขาหลบมุมอาคาร รปภ เดินมาทางเขา ท้องฟ้าหัวใจเต้นแรง เขาควรทำอย่างไร “คุณพาใจ ยังไม่กลับหรือครับ” เขาหลบในมุมมืด เธอก้าวปรากฏออกมาในที่สว่าง ไม่รู้มาเมื่อใด เลยไปเขาเห็นรถของเธอ “กำลังจะกลับค่ะ” รปภเห็นเป็นพาใจ จึงเดินกลับโกดัง เธอมองมา เขาเดินออกมาให้เห็น ความสว่างพาทั้งสองพบกันอย่างนั้นหรือ ถึงอย่างไรความเงียบ ยังคงดำเนินด้วยคุ้นชิน เธอขับรถพาเขาออกจากบริษัท เทียบจอดป้ายรถโดยสาร ท้องฟ้าเปิดประตู หัวใจเขายังเต้นแรงไม่หยุด ความเงียบของทั้งสองอาจได้ยินเสียงหัวใจเต้น เสียงหัวใจดังพาเขาอยากเอ่ยถ้อยคำจากเสียงนั้น เขาหันไปหาเธอ สร้อยข้อมือกลับทำเสียงนั้น ไม่อาจดัง สร้อยลายเดียวกับที่เขาเห็น คุณกรกฏเปิดกล่องดู เขาปล่อยให้เสียงหัวใจ กลายเป็นเสียงเงียบดังเดิม เธอมองเขาปิดประตู ทั้งสองจากกันโดยมิได้ร่ำลา หากสำหรับคนหนึ่ง อาจเป็น การจากลา ทั้งที่หัวใจยังไม่หยุดเต้น พาใจขับรถจากมา เธอมาดูการขนสินค้า กลับเห็นท้องฟ้า แม้อยู่ในชุดแปลกตา แต่เธอยังจำเขาได้ เธอจำเขาได้แม้สวมหมวกกันน็อค ใส่เสื้อคลุมหนา ใส่เชิ้ตทำงาน ใส่สูท เธอจำเขาได้ทั้งหมด เธอมิใช่นักจำ เหตุใดจดจำมากมายนัก หรือมิใช่ความจำ กลับเป็นความอื่น อย่างนั้นหรือ ความใดเล่าทำเธอจดจำเขา ได้ท้้งหมด ทั้งเรื่องราว ทั้งตัวเขา ความนั้นเธอเรียกว่าอะไร เธอจำได้ไหม ตลอดเวลาในความเงียบ มีความนั้นอยู่ เธอมองเขาลงจากรถด้วยความสงสัยในหัวใจ การช่วยผลิตสิ้นสุดเร็วกว่ากำหนด ด้วยอิทธิลักษณ์ เสร็จสิ้นการปรับปรุงระบบ เครื่องจักรพร้อมผลิต พาใจจิบเครื่องดื่มรสเข้ม เธอนั่งตรวจรายงาน สินค้าจัดส่ง ครบตามจำนวนผลิต แล้วสินค้าที่ลักลอบขนออก นับรวมส่งด้วยหรือ ทางนั้นรับสินค้าครบได้อย่างไร เธอทวนการคำนวณ กลับมีรายการผลิตเสริม 'สินค้าเผื่อมีตำหนิ’ ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติ หากแต่ทางนั้น ต้องเห็นสินค้านี้ขาด เหตุใดไม่ทักท้วง บริษัทขนส่ง ทางนั้นจัดหามา เข้า ออก ไวยตราได้ดังใจ ทั้งนายท้องฟ้า ปรากฏตัวในวันขนถ่าย เธอคิดไม่ถึง อิทธิลักษณ์ลงเล่นเกมส์โดยไม่มีขุนตัวใดล่วงรู้ เธอจิบเครื่องดื่มอีกครั้ง หัวใจเธอเต้นแรง ด้วยฤทธิ์เข้มอย่างนั้นหรือ หรือเธอคิดทวนภาพจำนั้นตลอดเวลา ภาพปรากฏ คนชอบดื่มเครื่องดื่มสีเข้ม การเจรจาควบรวม ดำเนินต่อ หลังจากหยุดด้วยเรื่องภายในอิทธิลักษณ์ เปลี่ยนตัวผู้บริหาร การประชุมจัดขึ้นที่ไวยตรา วงในต่างรอฟัง อาจมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ หรือเพียงแค่การเสวนาทางธรุกิจ คุณองอาจ คุณสายชล เข้าร่วมประชุม ฝ่ายจัดการ รอการมาถึงของอิทธิลักษณ์ คุณวิทยา เดินออก จากห้องทำงาน เมื่อใกล้ถึงเวลา พาใจนั่งทำงานที่โต๊ะตามปกติ ชั้นทำงานพนักงานบางตาด้วย ขึ้นไปช่วยการประชุม เธอรออยู่แถวนี้ เผื่อคุณวิทยา ต้องการข้อมูลเพิ่ม เธอเปิดภาพสไลด์ การประชุมอ่านขั้นเวลา มีโทรศัพท์ดังแต่ไม่มีคนรับ เธอดึงสายภายใน “ขอรายงานการประชุมเพิ่ม 1 ชุดด่วน” “ได้ค่ะ” พาใจวางสาย ลุกเดินหยิบชุดรายงาน ที่เตรียมเผื่อไว้ รีบกดลิฟท์ขึ้นชั้นประชุม ประตูลิฟท์เปิด ภายในมีพนักงานตอนรับจากด้านล่าง และอีกคนเธอคุ้นตา “คุณพาใจ นี่แขกอีกท่านไปห้องประชุม” แขกจากอิทธิลักษณ์ มองมา เธอทักทายตอบตามมารยาท “สวัสดีค่ะ” ‘นายภาณุภาพ อิทธิลักษณ์’ ผู้มาเพิ่ม ขยับมือกระชับกระเป๋าเอกสาร พยักหน้ารับคำ ถึงชั้น พนักงานรับรองต่อ นำไปห้องประชุมใหญ่ เขาหันมากล่าวกับ ผู้นำทาง อย่างสุภาพ “ขอบคุณครับ” หากสายตาก่อนหันไปนั้น มองมาที่เธอ หน้าห้องเธอเห็นนายท้องฟ้าออกมารับ ด้วยรอยยิ้ม คว้ากระเป๋าเอกสารไปถือ พาเจ้านายอิทธิลักษณ์ เข้าห้องประชุม เธอมองรอยยิ้มนั้น มองทั้งสองผ่านประตูบานใหญ่ เงินสิบล้าน คุ้มค่าหรือไม่ แต่ทำไมเธอต้องใส่ใจ ตอนนี้เธอคิดได้ว่า ได้เวลาออกจากเกมส์ การประชุมจบลง ในที่สุด คนช่วยประชุมทยอยกลับมาที่ฝ่าย มีเสียงพูดถึงผู้บริหารอิทธิลักษณ์ หน้าตาคล้ายกัน หากแต่ข่าวคนหนึ่งไม่ใช่อิทธิลักษณ์ อาจโคมลอย บางเสียงบอกอาจมีการเชิดสิงโต ในเวลาอันใกล้ หากแต่มีการเชิดสิงโตจริงตามคาด สิงโตเก้าตัว ในการเปิดการควบรวมอย่างเป็นทางการ สิงโตตัวใหญ่ เข้ารับซองจากประธานบอร์ด ‘คุณสายชล’ ที่เหลือ รับจากผู้บริหาร หน้าเก่า หากทำทีแย่งกันรับมากที่สุดไม่พ้น ผู้บริหารใหม่ ‘นายภาณุภาพ อิทธิลักษณ์’ ขณะภายนอกเสียงอึกทึกด้วย กลองเชิด พาใจเก็บของลงถุงเอกสาร เธอยื่นใบลาออก หลังได้ยิน ประกาศการลาออกของ คุณองอาจ ไม่กี่วันต่อมาคุณวิทยา ก็ยื่นใบลาออกเช่นกัน วันเดียวกับเธอ บางเสียงว่าเธอเป็นคน ของคุณวิทยา นายไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน แต่เธอจะสนใจทำไม กับเสียงรายล้อมต่างๆ “ผมเห็นคุณหลบเข้ามา” เธอหันตามเสียง นายกรกฏ “คุณใส่สร้อยข้อมือ” กรกฏกล่าว “ฉันใส่มาได้สักพักแล้ว” “คุณมั่นใจผม” “ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากคุณคนเดียว” กรกฏยิ้มให้กับเธอ “คุณไม่ได้ใส่มันให้กับผมใช่ไหม” เธอไม่ตอบคำถามเขา เธอสวมมันเท่านั้นเพียงพอแล้วมิใช่หรือ “คุณบอกตำรวจเรื่องกล่องยาเส้น” “ตำรวจให้แจ้งหากมีอะไรน่าสงสัย” “เราจะได้พบกันอีกไหม” เขากล่าว “อยู่ที่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน” เธอยิ้มให้กับเขา “ดูเหมือนที่ผมอยากให้ คุณไม่อยากรับไว้” พาใจมองนายกรกฏ เธอไม่อาจรับอะไรจากเขามากกว่านี้ได้ เขามองเธอเช่นกัน “เดี๋ยวคงมา พอดีพอดีไปทำธุระให้ภาณุ” “ใครค่ะ” “คนที่เขาอยากให้อะไรเหมือนผม แต่ไม่กล้านะ” กรกฏมองนาฬิกา “ผมไปก่อน” พาใจได้แต่มองตาม ที่นายกรกฏหมายถึง ‘ใคร’ ท้องฟ้ามาถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ยังไม่ทันกดกริ่ง ประตูเปิดด้วยนายชุ่มรออยู่ ในมือ ถือถุงเนกไท ส่งให้ท้องฟ้า ‘เนกไท ผ้าไหมสีน้ำตาลแดงปัก ชื่อสกุล อิทธิลักษณ์’ “มาเองเลยหรือคุณ” “ผมเหมาะที่สุดแล้ว” เขายิ้มให้กับคนขับรถผู้ภักดี เขามองคฤหาสน์หลังใหญ่ ก่อเกิดเรื่องราวมากมาย คุณท่านผู้ใจดี บัดนี้ได้รับความ ตามประสงค์ ท้องฟ้ากล่าวลาคุณลุง ขี่มอเตอร์ไซด์จากมา เขาไม่ทันสังเหตุ กลุ่มควันจางๆ ข้างในกำแพง พี่เอียด แม่บ้าน ยืนมองกองใบไม้แห้ง มอดไหม้ ในกองปรากฏไฟลามชิ้นกระดาษ ซึ่งดูเหมือนมีตัวหนังสือ ‘ถึงหนูใจ’ และอีก ‘ถึงพ่อหนุม…’ เธอยืนมองจนแผ่นกระดาษกลายเป็นธุลี พาใจเก็บของเสร็จก็นำลงเก็บที่รถ ลานจอดด้านหนึ่งกันไว้เป็นที่จัดเตรียมอาหารในลานกว้าง อิทธิลักษณ์จัดใหญ่โตเช่นเคย เธอมองเพลินจนไม่ทันสังเกตุ รถมอเตอร์ไซด์ขับเทียบ เสียงรถทำเธอหันมอง คนขับสวมหมวกกันน็อคสีเข้ม เธอหยุดเดิน รถหยุดเช่นกัน ท้องฟ้ามองเธอผ่านหมวกกันน็อกกระจกสีเข้ม ความเงียบอันคุ้นชิน หากเธอเอื้อมมือเคาะกระจกสีเข้ม เขาเปิดกระจก เธอเริ่มสนทนา เสียงประทัดจุดดัง ฉลองการควบรวมสำเร็จ ความเงียบหายไป ด้วยทั้งสองมีคำสนทนา เสียงประทัดทำเธอโน้มตัวเข้าใกล้สนทนา หากแต่เสียงประทัดกลบเสียงสนทนา ไม่มีใครได้ยินทั้งสองสนทนาด้วยเรื่องใด คนฟังถอดหมวกกันน็อค ขยับใกล้สนทนาตอบ เรื่องราวนั้น อาจเป็นเรื่องงาน หรือมิใช่เรื่องงาน แล้วเป็นเรื่องใด ใครเล่าจะร่วงรู้ ระหว่างคนสองคนไม่มีความเงียบอีก อย่างนั้นหรือ ความเงียบส่งเสียงสนทนาใช่หรือไม่ การสนทนาของนายท้องฟ้า และผู้หญิง ชื่อ พาใจ -----------------------------------จบ--------------------------------------------- |
บทความทั้งหมด
|