นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 34 เจ้านายไปพักร้อน เขาคิดย้ำอยู่อย่างนั้น ห้องทำงานคุณภาณุภาพ ปิดประตู มาหลายวันแล้ว พนักงานในฝ่ายนั่งทำงานกันเงียบๆ ไม่มีการคุยสนุกถึง เจ้านายจะซื้ออะไรมาฝาก เหมือนครั้งเจ้านายไปเที่ยวต่างประเทศ บางคนชวนคุยเรื่องหาของอร่อยกิน เพื่อคลายบรรยากาศ แค่กลับทำให้คิดถึงห้องปิดประตู มากว่าเดิม คนในห้องนั้น มักจะถูกของบประมาณส่วนตัว เพื่อให้ลูกน้องไปชิมร้านอาหารใหม่ๆ เป็นประจำ เช้า จรด เย็น สำหรับเขา มันผ่านไปอย่างเลื่อนลอย เขาเหมือนขาดหลัก ประคอง เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนี้ มันจะนานสักเพียงใด ท้องฟ้าค่อยๆขับมอเตอร์ไซด์ผ่านช่องว่าระหว่างรถแต่ละคัน ก่อนเลี้ยวเข้าประตูบริษัท หน้าประตูมีรถนักข่าว จอดเรียงราย คนรักษาความปลอดภัยโบกให้เขาจอด “นักข่าวมาเรื่อง คุณภาณุภาพ” “เรื่องเชื้อสายนะเหรอ ทางเราก็แจ้งไปแล้ว” “เห็นว่ามีอีกเรื่องหนึ่ง” รปภ สีหน้าไม่สู้ดีนัก “เรื่อง ฆาตกรรม” เขาขับรถเข้าลานจอด รีบเดินขึันตึกไปยังชั้นทำงาน พนักงานที่มาถึงก่อน ต่างทำตัวไม่ถูกกับเรื่อง ข่าวปรากฏทุกสื่อ อีกทั้งยังมีนักข่าว มารอเต็มหน้าบริษัท เหมือนยืนยันเรื่อที่เกิดขึ้น ‘ญาติสงสัยการเสียชีวิต คุณปู่ อิทธิลักษณ์ โดน ฆาตกรรม’ ในเนื้อข่าว กล่าวถึงผู้ต้องสงสัยนายภาณุภาพ อิทธิลักษณ์ ก่อนหน้ามีข่าวไม่ใช่คนในตระกูล ท้องฟ้านั่งมองเนื้อข่าว ราวกับว่าเขาไม่รู้เรื่องมาก่อน ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวในความคิดของเขามานาน เพียงแต่ไม่มีใครอื่นร่วงรู้ เขายังถามตัวเองได้อีกหรือไม่ ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ หรือหากเขาถาม ในตอนนี้มันจะกลายเป็นคำโกหกหลอกตัวเองขึ้นมาแล้วจริงๆ ที่ผ่านมาเขาโกหกตัวเองอย่างนั้นหรือ เขาละสายตาจากเนื้อข่าวด้วยเห็นมากพอ บนโต๊ะมีกล่องนาฬิกาไทเทเนียม ของคุณภาณุภาพวางไว้ให้ นัยตาเขาชื้นขึ้น ท้องฟ้านายยอมรับเถอะว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง คุณภาณุภาพไม่ได้ไปพักร้อน ตอนนี้อาจอยู่ที่ไหนสักแห่ง 'ที่แห่งความจริง' เขายกล่องขึ้นมาดูใกล้ๆ ราวกับว่าได้รับมันจากมือเจ้าของ เขายิ้มให้กับเรื่องราวที่ผ่านมา หันมองห้องคุณภาณุภาพ ปิดไฟมืด ตาเขาพร่ามัว เขามีน้ำตาให้กับเรื่องเดียวกัน น้ำหวานสองสีบนโต๊ะทำงานพาใจ พร่องลงครึ่งหนึ่ง เธออ่านข่าวอิทธิลักษณ์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ นายกรกฏ ประสบความสำเร็จตามคำกล่าวอ้างจนได้ คุณวิทยา ไปพบคุณองอาจ ตั้งแต่เช้า เธอคิดว่าหากวันเวลา ต้องการลงมือ คงไม่พ้นช่วงนี้เป็นแน่ แต่เธอต้องสนใจอะไร เธอต้องการแค่เงินสิบล้านเท่านั้นมิใช่หรือ เธอเหลือบมองกองเอกสารบนโต๊ะ แทรกอยู่คือสำเนารายงานไม่มีชื่อเรื่อง เธอหยิบมันจากโต๊ะคุณวิทยา นำไปทำสำเนาก่อนวางบนโต๊ะดังเดิม ชั้นทำงานของเธอ มีคำถามจากเพื่อนพนักงานฝ่ายอื่น ถึงเรื่องข่าว และการควบรวม ทางนี้ตอบได้แค่ ไม่มีคำตอบใด ด้วยหน้าที่ใกล้ชิดผู้บริหารเกรงคำตอบ กลายความ เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว คุณวิทยาเดินกลับเขาฝ่ายมาเวลาใกล้เที่ยง เรียกเธอเข้าไปคุยงาน “โกดังเดิมซ่อมใกล้เสร็จ สามารถวางสินค้าได้” คุณวิทยาหมายถึงโกดังวางวัตถุดิบที่เคยไฟใหม้ “โรงงานผลิตสินค้าได้มากว่าที่ส่งตัวเลขให้อิทธิลักษณ์” “ตัวเลขต่อรอบมากกว่า แต่สุดท้ายยอดรวมเท่ากัน เราก็ต้องมีสินค้าส่งให้” “เรามีสินค้าส่งตรงทุกรอบอยู่แล้ว แต่สินค้าที่ล้นมาเราช่วยเก็บไว้ก่อนส่ง” “คุณวิทยาหมายถึง” “สินค้าจะวางอยู่กับเรานานขึ้นก่อนส่งให้อิทธิลักษณ์” เครื่องจักรติดตั้งเพื่อการณ์นี้ การสับเปลี่ยนสินค้า “สินค้าผลิตเร็วตัดขายก่อน ด้วยราคาแพงกว่าปกติ” สินค้าที่ผลิต กำลังขาดตลาด ใครหาขายได้ก่อนทำกำไรก่อน “ถ้าทางนั้นรู้ว่า สินค้าหลุดมาจากเรา” “ตอนนี้คงไม่มีใครว่างรู้หรอก พาใจ” เธอเชื่อในคำคุณวิทยา เรื่องเชื้อสาย วงศา การฆาตกรรม คงทำอิทธิลักษณ์ ท้้งอับอาย ทั้งเสียหน้า ยักษ์ใหญ่เจ้าตลาตเพิ่งขยับก้าว ก็สะดุดขาตัวเองล้ม เธอได้แต่หมายว่า การล้มจะไม่ทำให้เจ็บหนัก เธอยังรอเงินของเธอ พาใจเดินไปป้ายรถ ตามเวลา เธอรู้ว่าตั้งแต่วันนี้ การไป กลับ จะเป็นเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น เธอส่งมอบงาน หนึ่งล้านบาทเสร็จสิ้น ความเคยชินทำเธอหยุดยืนห่างป้ายรถสาธารณะ ครู่หนึ่ง เหลียวมองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินถึงป้ายโบกรถสาธารณะหยุดจอด ก้าวขึ้นโดยสาร รถแล่นออกไปตามทาง เธอนั่งเก้าอี้ติดริมหน้าต่าง ลมพัดแรงจนเธอต้องเอามือมารวมผม เธอไม่ต้องทำเช่นนี้ภายใต้หมวกกันน็อค เธอคิดถึงการนั่งโดยมีหมวกกันน็อคอย่างนั้นหรือ หรือเธอคิดถึงอย่างอื่น เธออาจไม่ได้คิดถึงหมวกกันน็อค เพียงอย่างเดียว ในห้วงความคิดมีหลายสิ่งต้องครุ่นคิด หากมีเพียงสิ่งหนึ่ง ‘หมวกกันน็อคสีเข้ม’ การกระทำหนึ่ง ‘แม้อากาศร้อน ยังสวมหมวกรอโดยไม่ยอมถอด’ คนคนหนึ่ง ‘จอดรถรอตามเวลา’ ทำสายตาเธอเป็นประกาย -------------------------------------------------------------------------------------------- พาใจมองรถหลายคัน ฝุ่นเกาะหนา ในลานจอด เธอเดินตรงเข้าไปในตึกสองชั้น พบใครคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อคร้้งเรื่องวัตถุดิบหนีภาษี ในไวยตรา เจ้าหน้าที่กำลังคุยกับ ตำรวจคนหนึ่ง เหลือบเห็นเธอก็โบกมือ ชี้ให้นั่งรอก่อน สักพักคุยจบ กวักมือเรียกเข้าไปหา เชิญนั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะ “ผมยังตามเรื่อง ไวยตราอยู่ ช่วงหลังเห็นเงียบๆไม่เคลื่อนไหว” “นี่ค่ะ” พาใจ นำเอกสารวางให้ตำรวจ ‘รายงานไม่มีชื่อเรื่อง’ “เป็นการแก้แค้นใช่ไหม” นายตำรวจกล่าว “เป็นการรักษาความยุติธรรม” “ถ้าผมจำไม่ผิด นายท้องฟ้า ทำงานให้ อิทธิลักษณ์” “ใช่ค่ะ” “ทางนั้นก็กำลังยุ่ง เพื่อนผมทำคดีอยู่” “เพื่อน” “ใช่ มีอะไรหรือเปล่า” “แค่อยากรู้ ว่าเป็นจริงตามข่าวไหม” “เห็นว่าหลักฐานแวดล้อม ไปที่นายภาณุภาพ” พาใจฟังนิ่งอยู่ “กลัวแฟน จะตกงานหรือ” นายตำรวจถาม “ก็ทำนองนั้นค่ะ” นายตำรวจ ลืมไปแล้วว่าเรื่องเธอและนายท้องฟ้านั้น เป็นเรื่องสมมุติ เธอจึงเออออคำถาม ตอบ ด้วยไม่อยากอธิบายให้มากความ หากเพียงการไม่อธิบายนั้น ได้อธิบายความรู้สึกของเธอบางอย่าง ดอกกุกลาบที่แสร้งนำมา คำพูดหวาน เธอมีความรู้สึกเรื่องนายท้องฟ้า จนไม่มีคำอธิบายอย่างนั้นหรือ เธอเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน มองรถของเธอ มีฝุ่นจับแต่ไม่หนาเหมือนรถหน้าสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่โทร ให้เธอไปรับรถได้สักพักหนึ่งแล้ว เธอกลับจอดมันทิ้งไว้ ทั้งที่รถยังใช้ได้อยู่ พรุ่งนี้เธอจะเริ่มใช้มันขับ ไปทำงานอีกคร้้ง ด้วยเธอไม่ต้อง ไป กลับ ตามเวลา แม้ เธอชอบการ ไป กลับตามเวลา มากกว่า พาใจรู้ เธอไม่ชอบตามเวลา หากเธอชอบ...ช่วงเวลา ท้องฟ้า เห็นรถราคาแพงหลายคันในลานจอด การประชุมผู้ถือหุ้นนอกรอบครั้งนี้มีการ เตรียมการ ต้อนรับ ด้วยคุณกรกฏเป็นผู้ขอเชิญประชุม ชั้นทำงานบรรยากาศเงียบกริบ ราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง ไม่มีใครถามอะไร ตอบอะไร นอกเหนือจากเรื่องงาน เหมือนทุกคน เลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่อง ติดอยู่ในใจ หรือไม่รอหลังการประชุม บางทีอาจมีคำตอบ ท้องฟ้าได้รับโทรศัพท์ ให้รีบนำรูปถ่ายโรงงานไวยตรา ไปให้ในที่ประชุม เขาไปถึง เลขาหน้าห้องเปิดประตู เขาเห็นผู้ถือหุ้นพักดื่มกาแฟ ท่านประธานยืนคุยโทรศัพท์อยู่มุมหนึ่ง เว้นแต่คุณกรกฏจิบเรื่องดื่มไปพร้อมจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาเข้าไปหา เพิ่มไฟล์รูป ฉายภาพบนจอใหญ่ ลองเลื่อนภาพ สองสามภาพ แล้วปล่อยให้คุณกรกฏ ดูภาพต่อ ผู้ถือหุ้นต่างหันมา ด้วยความสนใจ เขาออกจากห้องประชุม เลขารีบเข้ามาถาม “เริ่มประชุมกันหรือยัง” “กำลังจะเริ่ม มีอะไร” ท้องฟ้าเห็น กลุ่มนายตำรวจ เดินเข้ามา คุณเลขาให้หยุดรอหน้าห้อง ก่อนเธอเข้าไปแจ้งคนข้างใน ไม่นานประตูห้องเปิด เชิญนายตำรวจเข้าไป ท้องฟ้า เห็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ รีบเข้ามา ตามด้วยคุณปกรณ์ฝ่ายบุคคล เขาได้แต่ปลีกตัวออก ก่อนลงลิฟท์ ยังสวนกับ ฝ่ายกฏหมาย ที่พึ่งมาถึง กลับถึงชั้นทำงาน หลายคนถาม “เกิดอะไรขึ้น” เขาเล่าได้แค่ ตามที่เห็น บรรยากาศการทำงานตลอดวันเงียบ คอยฟังข่าว “เห็นว่าตำรวจกลับไปแล้ว พร้อมท่านประธาน” หลายคนทัก “หมายความว่าอย่างไร กลับพร้อมกัน” “นั่นสิ” เริ่มเป็นหัวข้อสนทนา บางคนถึงกับ หาข่าวในจอคอมพิวเตอร์ จนเวลาเลิกงานไม่ปรากฏข่าวใดหรือการประกาศจาก ประชาสัมพันธ์ ท้องฟ้าได้แต่มอง กล่องนาฬิกา คุณภาณุภาพ จะรู้หรือไม่ บริษัทเกิดเรื่องวุ่นวาย เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ทุกครั้งจะมีคุณภาณุภาพ คอยสั่งการณ์เสมอ “ท้องฟ้า” พลันเสียงเรียก “ครับ” คุณกรกฏ กลับลงมาจากชั้นประชุม กวักมือเรียกเขาเข้าไปในห้องทำงาน พนักงานต่างยินดีในเสียงเรียก อย่างน้อยยังมีผู้บริหารให้เห็น ในห้องทำงาน เจ้านาย ให้เข้าปิดประตูก่อนกล่าว “คุณอากลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย” “อะไรนะครับ” เขาตกใจ “ตำรวจพบยา ของคุณปู่อยู่ใน กล่องยาเส้น” “ผมไม่เข้าใจ” “มีคนเอายาไปซ่อน คือจงใจให้ท่านไม่มียา หากเกิดอาการหัวใจกำเริบ” “คนนั้นคือ ท่านประธานหรือครับ” “ลายนิ้วมือบนกล่องยาเส้น มีแต่คุณปู่กับคุณอา” “แต่กล่องก็ของในบ้าน มีลายนิ้วมือไม่ถือว่าผิดปรกติ” “ตำรวจเลย เชิญคุณอาไปสอบอย่างไรละ” ท้องฟ้านายยินดีหรือไม่ ผู้ต้องสงสัยเป็นท่านประธาน หากคนร้ายตัวจริงเป้นท่านด้วยเล่า นายจักดีใจที่ไม่ใช่คุณภาณุภาพอยู่อีกหรือ ท้องฟ้าขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน เขาสับสนกับเรื่องราวที่เหมือนเทลงมาพร้อมกัน เขาอยากช่วยตาม ประสงค์ของคุณท่าน ผู้กรุณาเขา เขาช่วยให้ผู้ร้ายปรากฏตัว สมประสงค์แล้ว ใยเขายังไม่คลายใจ เขาวุ่นวาย ด้วยผู้ร้ายคือคุณภาณุภาพใช่หรือไม่ ตอนนี้ผู้ต้องสงสัยยังเป็นท่านประธานอีกคน เขาคิดไม่ออกบอกไม่ถูก ยินดีหรือยินร้าย เขาควรทำอย่างไรต่อไป เขาจอดเทียบรถด้วยคุ้นชิน มองรอบข้างกลับคิดได้ว่า เขาไม่ต้องมาตามเวลาอีกต่อไป พาใจทำงาน ครบค่าจ้างของเขา เขามองไปทางที่เธอเคยเดินมาหา ด้วยเห็นคนคนหนึ่ง หากมิใช่พาใจ ในหมวกกันน็อคสีเข้ม เขามีรอยยิ้ม เขายิ้มให้กับคนที่มิใช่พาใจอย่างนั้นหรือ เขาไม่อยากให้เธอเห็น หรือเขายิ้มให้กับคนที่เข้าใจว่า เป็นผู้หญิง ชื่อพาใจ
|
บทความทั้งหมด
|