นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 10 ท้องฟ้า ล้วงหยิบกระดาษชิ้นเล็กๆจากการเป๋าเสื้อขึ้นมาดูอีกครั้ง บ้านเลขที่จากความทรงจำ น่าจะอยู่ ข้างหน้านี้ เงินหนึ่งล้านบาทมิได้หยุดเขาจากเรื่องราวในคฤหาสน์ เขาทำใจไม่ได้ ว่าจดหมายและการจากไป ของคุณท่าน มันเป็นเรื่องบังเอิญพอเหมาะพอดี คุณท่านช่างกรุณากับเขาเหมือนลูกเหมือนหลาน แล้วเขาจะ ไม่ทำตามคำขอของท่านแม้มันจะฟังดูแปลกไปสักหน่อยหรอกหรือ การเรียกเงินหนึ่งล้านบาทเพื่อเป็นการหยั่งเชิง ว่าการตายของคุณท่านเป็นเรื่องผิดปรกติ แถมทำให้ ท่านประธานแน่ใจว่าเรื่องราวในคฤหาสน์จะจบสิ้นจากเขา พ่อหนุ่มท้องฟ้าทำตามคำขอของคุณท่าน แจ้งข่าวแก่ลูกสาวตามเนื้อความในจดหมาย เขาคิดว่าการ ปิดบังการเลอะเลือนของชายชรา ไม่ควรมีค่าถึงหนึ่งล้านบาท ‘เงินจำนวนนี้เหมาะแก่การปิดบัง เหตุถึงแก่ ชิวิตมากว่า’ เขาเดินวนไปมาระหว่างบ้านสามหลัง บ้านเลขที่คุ้นตาในความทรงจำ เขาจะเริ่มต้นอย่างไร ไม่มี จดหมาย ไม่มีหลักฐาน ซ้ำความนำมาบอกนั้น มิใช่เรื่องที่คนแปลกหน้าควรนำความมา ละล้าละลัง ไม่นาน ประตูรั้วบ้านหลังหนึ่งเลื่อนเปิดออก ชายคนหนึ่งสตาร์ทเครื่องยนต์ กำลังขับออกจากบ้าน ท้องฟ้าไม่ทันคิดอะไรวิ่งเข้าไปขวางรถคันนั้นไว้ มองผ่านกระจกคนขับหน้าละม้ายคล้ายคุณภาณุภาพ หรือเขามาบ้านถูกหลังแล้ว ชายในรถลดกระจกลง ยื่นหน้ามาคุยกับเขา “มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” ท้องฟ้าเห็นใบหน้าชัดเจนขึ้น ชายคนนี้กับคุณภาณุภาพเหมือนเกือบทุกระเบียดนิ้ว จะต่างก็ริมฝีปาก เหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา “คือ คือ” เขาลังเล คนในรถต้องเป็นญาติกับนายของเขา ต้องใช่บ้านที่คุณท่าน ให้มาบอกเนื้อความ ในจดหมายติดก็แต่ว่า “บ้านนี้มีคุณผู้หญิงอยู่หรือเปล่าครับ” ท้องฟ้าถาม ชายในรถเงียบสักพักก่อนตอบ “ผมอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” ท้องฟ้ายังลังเล ควรพูดหรือไม่ “จริงๆแล้วมีผู้หญิงอยู่บ้านหลังนี้อีกคน แต่ท่านเสียไปแล้ว คุณแม่ของผม” ‘น่าจะใช่’ ท้องฟ้าคิด ลูกคุณท่านนับอายุน่าจะประมาณคุณแม่คนหนึ่ง เขาพลันเสียดายที่ว่า มิอาจ ทำตามความต้องการของคุณท่านได้ “มีอะไรบอกผมก็ได้ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของท่าน” ท้องฟ้ามองชายในรถ หากเขาเป็นผู้สืบเชื้อสายก็เท่ากับว่า ได้ทำดั่งใจคุณท่านต้องการ ‘ช่วยนำความไปบอกลูกสาวของฉันทีว่าฉันถูกฆาตกรรม’ ท้องฟ้าเล่าเรื่องจดหมายให้ชายคนนี้ฟัง เขารับฟังอย่างสงบไม่มีคำพูดใด ได้แต่ฟังท้องฟ้าเล่า เรื่องนิ่งอยู่อย่างนั้น ชายคนนี้จะคิดอย่างไรกับความที่เขาบอก เขาควรใส่ใจหรือ คุณท่านอาจรู้คำตอบอยู่แล้วก็เป็นได้ ท้องฟ้าแค่ผู้ส่งข่าว ชายหลังพวงมาลัยหัวเราะในลำคอ ส่ายหัวให้กับเรื่องเล่าของเขา ถอยรถออกจากบ้านไม่หันมองท้องฟ้า แม้ขณะลงจากรถมาปิดประตูร้้วบ้าน เหมือนท้องฟ้าไร้ตัวตนอยู่ตรงนั้น คนส่งข่าวได้แต่มองชายคนนั้น ขับรถ จากไป เขาคิดไม่ออกว่าจะรั้งหรือไม่รั้งชายคนนั้นไว้ทำไม ท้องฟ้าไม่มีสมาธิทำงานสักเท่าไร ไหนจะเรื่องจดหมายของคุณท่าน หลายวันมาแล้ว ที่เขาควรจะ หยุดครุ่นคิด อีกทั้งยังมีเสียงจากการตกแต่งห้องประชุมย่อยเพื่อให้เป็นห้องทำงานของผู้บริหาร คนใหม่ดัง เป็นระยะ เสียงนี้ไม่ได้ รบกวนเพียงแต่เขา แต่กลับเป็นรบกวนพนักงานทุกคนบนชั้นทำงานนี้อีกด้วย แต่ก็ยังมี อีกเรื่องส่งเสียงดังยิ่งกว่า ‘ผู้บริหารคนใหม่ เป็นใคร’ พนักงานผู้อยากรู้ ได้ลองเอ่ยถาม ฝ่ายอาคารจัดการเรื่องห้องใหม่ แต่ทางนั้นได้รับคำสั่งแค่ต้องการ ห้องทำงานด่วนที่สุดเท่านั้น ไม่รู้ว่าด่วนนั้น หน้าตาเป็นเช่นไร “ท้องฟ้า” เสียงเรียกจากเจ้านาย ปลุกเขาจากสมาธิพลุ่งพล่าน “ครับผม” “เดี๋ยวไปโรงงานกัน” คุณภาณุภาพเป็นเช่นนี้ สั่งงานสั้น แต่เชื่อเถอะทำงานทั้งวัน ท้องฟ้าเป็นคนหนึ่งที่รู้ เตรียมตัวทำงาน ทั้งวันเป็นอย่างไร หยิบตารางการผลิต สมุดบันทึก แม้กระทั้งเครื่องคิดเลข เจ้านายเข้าดูโรงงานครั้งใด ใช้เวลานาน ละเอียดถี่ถ้วน ท้องฟ้าลุกจากเก้าอี้ เก็บงานที่ทำค้างไว้ก่อน เดี๋ยวของคุณภาณุภาพ สั้นกว่าเดี๋ยวนี้นิดเดียว โรงงานอยู่ห่างอาคารสำนักงาน ราวสามสิบกิโล เป็นโรงงานรุ่นเก่า จึงอยู่ลึกและห่างจากอาคารบริหาร ก้าวเข้าภายใน รู้สึกร้อนวูบ เครื่องจักรเดินการผลิต ท้องฟ้าหันมองเครื่องวัดอุณหภูมิตัวหนึ่ง แสดงค่าสูงขึ้นกว่าปรกติ “พึ่งให้เขาเร่งการผลิตในตอนเช้า ตอนนี้เรามาดูผล” คนสั่งมาโรงงานกล่าว เขาไม่เอ่ยสิ่งใด เจ้านายคนนี้ตัดสินใจเร็ว ไม่ต้องถามเหตุผล ไม่ต้องขัด ห้ามขัด “นายว่าเราจะเป็นอย่างไร” “ไม่รอด” ท้องฟ้าตอบ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้บริหารตอบตรงๆแบบนี้ได้ คุณภาณุภาพสีหน้าเข้มขึ้น เขามองออกว่าไม่พอใจ “โรงงานเราระบบระบายความร้อยยังไม่ดีพอ ไม่เหมือนโรงงานอื่นๆ” “ระบบจ่ายไฟก็เก่า หากเร่งเครื่องจักรมาก อาจเกิดลัดวงจรได้” ท้องฟ้าตอบ เราต้องการขยายโรงงาน เพื่อรองรับการผลิตมากขึ้น ท้องฟ้าได้ยินเรื่องนี้จากคุณภาณุภาพหลายครั้ง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร “ถ้ามีโรงงานใหม่ก็ต้องมีคนช่วย” ตอนนี้เขารู้แล้วว่า คนที่กล่าวขวัญถึงกันนั้น จะมาทำหน้าที่อะไร “จะมีผู้บริหารมาใหม่ ฉันจะให้นายคอยดูเขาไว้” “หมายถึงคอยช่วย” ท้องฟ้าทวนคำ “ไม่ใช่ คอยดู” เจ้านายซ้ำคำเดิม คุณภาณุภาพเดินดูโรงงานโดยรอบ เขายังคงทำหน้าที่จดบันทึกสิ่งที่ต้องการแก้ไขในจุดต่างๆ ท้องฟ้าเขียนคำว่า ‘คอยดูไว้’ ตรงหัวกระดาษ เขาอยากแน่ใจว่าได้รับคำสั่งนี้จริงๆ การเข้าดูโรงงานใช้เวลาทั้งวันตามคาด ท้องฟ้าจึงต้องขนงานกลับมาทำต่อที่บ้านเหมือนเคย ช่วงนี้งานเยอะ แต่ความนัย มันทำให้เขาไม่คิดฟุ่งซ่าน ถึงเรื่องจดมายฉบับนั้น เอกสารหยิบวางบนโต๊ะพลันพัดกระดาษชิ้นเล็กร่วงหล่น ท้องฟ้าหยิบกระดาษขึ้นมาดู เป็นเลขที่บ้าน ที่เขาเขียนสลับไปมา มองย้อนคิด ก่อนโยนลงถังขยะ ความนำบอกตามที่คุณท่านต้องการ เขาได้นำความแล้ว ถือว่าสิ้นสุดตามปรารถนาสุดท้ายของท่าน ใช่หรือไม่ แต่เงินห้าแสนซ่อมบ้าน กลับทำไขสือ ทำปรารถนาสุดท้ายสะดุด คุณท่านต้องการประการใดกันแน่ เขาหยุดคิดไม่ได้จนต้องละจากกองงาน เปิดตู้เย็นหยิบขวดเครื่องดื่ม เดินถือขึ้นมาชั้นสอง ก้าวออกระเบียงระมัดระวัง ยืนในจุดมั่นแหงนมองดาวยามค่ำคืน ยกขวดขึ้นชนกับจันทร์สว่าง แด่คุณท่านผู้ใจดี เขาทำได้เพียงเท่านี้อย่างนั้นหรือ ‘เพียงระลึกถึงท่าน’ เชื่อสิ ถ้าเขามีโอกาสมากว่านี้ เขาจะทำให้ถึงที่สุด
|
บทความทั้งหมด
|