นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 28
                 พาใจถือเครื่องดื่มเย็นสีเข้มเข้ามาในที่ทำงาน เธอแวะซื้อระหว่างทางด้วยอากาศร้อนอบอ้าว เธอสั่งคนขายชงกาแฟอ่อน เธอไม่ค่อยคุ้นความเข้ม แล้วเหตุใดเล่าสั่งกาแฟ เธอคุ้นตาว่ามีใครสั่งประจำใช่หรือไม่ เธอคิดถึงกาแฟ อย่างเดียวหรือ
                เธอวางแก้วบนโต๊ะ นั่งอ่านรายงานการประชุม หากแต่อดคิดถึงรายงานคุณภาพวัตถุดิบไม่ได้ ทำไมถึงต้องทวงถามในที่ประชุม เธอหยิบรายงานจากลิ้นชักเปิดอ่านอีกครั้ง ล้วนเป็นการตรวจสอบก่อนเข้า สายพานเครื่องจักร เหมือนตีตรา หากตรานี้หลุดออกจากโกดังแล้วนำของไร้ตรามาแทน ใครมีหน้าที่ต้องรู้ ตอนนี้ผู้จัดการโกดังเปลี่ยน เขารู้อะไรบ้าง หันมองห้องทำงานใหญ่ คุณวิทยาไม่อยู่ แต่เธอเห็นรถจอดอยู่ตอนเข้าบริษัท ครุ่นคิดไม่นาน เธอได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงรับสาย
               “ผมขอดูคำนวณการผลิตด้วยนะ” เสียงคุณสาโรจน์
               “การผลิตอะไรค่ะ”
               “ที่วิทยาให้ทำ”
               “ค่ะ”
               พาใจรับคำแม้เธอยังไม่รู้เรื่อง หากแต่คิดว่าเรื่องจะมาถึงในไม่ช้า
               เธอหยิบสูตรการคำนวณมาทวนอ่าน ครั้งที่แล้วเธอผิดพลาด ครั้งนี้จำต้องต่างออกไป
               คุณวิทยา เดินเข้าห้องทำงานตอนสายๆ พาใจรอคำสั่งด้วยรู้ตัวก่อน หากแต่จนเที่ยงยังไม่มีคำสั่งใด
 
               จนพาใจพักทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนร่วมงาน ระหว่างเดินกลับเข้าบริษัท มีเสียงทักชื่อเธอ
               “คุณพาใจใช่ไหมครับ”
               เธอและกลุ่มเพื่อนหันตามเสียง
               “ผมจากฝ่ายตรวจสอบ รายงานที่คุณพาใจขอได้แล้วนะครับ”
               “รายงาน” พาใจทวนคำ เพื่อนเห็นเป็นธุระจึงเดินนำไปก่อน
               “รายงานอยู่ฝ่ายตรวจสอบหากคุณพาใจว่างแวะไปรับได้”
              หลังอาหารเที่ยงเธอเจอปลาอีกตัวอย่างนั้นหรือ
              “บ่ายนี้ก่อนไปโกดังดิฉันจะแวะไป ให้ไปหาใครค่ะ”
              “คุณคณิต ฝ่ายตรวจสอบภายใน”
              พาใจเดินตามเพื่อนๆกลับเข้าบริษัท มื้อเที่ยงบรรรดาปลาใหญ่ออกหาเหยื่ออย่างนั้นหรือ เธอเป็นหนึ่งเดียวหรือหนึ่งในหลายเหยื่อ เธอเริ่มอยากรู้ เหยื่อมีใครบ้าง
 
            พาใจเข้าดูโกดังโดยไม่แวะฝ่ายตรวจสอบตามคำอ้าง ‘เธอระวังตัว’
 คุณชาญชัย กำลังนั่งดูเอกสารเมื่อเธอไปถึง หลังจากทักทาย เขาปล่อยเธอเดินดูโดยรอบตามปกติ เธออดมอง จุดวางเครื่องดับเพลิงไม่ได้ ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ด้วยประสบการณ์ที่เคยเจอ จนบ่ายคล้อยตรวจเสร็จ ขากลับคุณชาญชัยเดินเข้ามาหา พร้อมเอกสาร
            “รายงานที่ขอ”
            “คุณวิทยาขอหรือค่ะ”
            “เธอนั่นละขอ พาใจ”
            “ดิฉันไม่ได้ขออะไร”
            “เธอขอจากฝ่ายตรวจสอบภายในอย่าลืมซิ”
            คุณชาญชัย เดินกลับไป เอกสารอยู่ในมือเธอ พาใจใส่เอกสารรวมไว้ในแฟ้ม คุณชาญชัยเป็น เหยื่อด้วยหรือไม่ เธอจะรู้ได้อย่างไร ฝ่ายตรวจสอบคือปลาขนาดใด เหตุใดกล้าให้เธอเข้าพบเวลางาน ภายใต้สายตาเบี้ย ขุน ผู้หลบซ่อน การเดินหมากยากขึ้นทุกขณะ เธอยังคง ระวังตัว ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก พาใจเธอควรทำอย่างไร
 
            กลับจากโกดัง เป็นเวลาเย็นใกล้เลิกงาน คุณวิทยา มีแขกมาพบคุยงานอยู่ในห้อง พาใจทำสรุป รายงาน จากแฟ้มเอกสารจดบันทึก หากมีเอกสารที่เธอมิได้จดบันทึกปนอยู่ เธอเปิดอ่าน
               ‘ผลการตรวจสอบการไฟไหม้โกดัง’
               พาใจอ่านได้แต่หัวข้อ จำต้องปิดเอกสารด้วยได้ยินเสียงเรียกจากเพื่อนร่วมงาน
               “คุณวิทยาให้พบ”
               เธอหยิบสมุดบันทึก ติดมือเข้าคุยกับเจ้านาย ในห้องทำงานมีแขกนั่งอยู่สองคน หนึ่งในนั้นคือ พนักงานชาย ผู้กล่าวทักเธอเมื่อตอนเที่ยง อืกคนคือ
               “คุณคณิต นี่พาใจ ผู้ช่วยผม” คุณวิทยาแนะนำ
               เธอยกมือไหว้ ‘คุณคณิต หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบภายใน’
               “เรื่องควบรวม ทำให้ทางตรวจสอบต้องชี้แจ้งเพิ่ม จึงมาคุยกับเราก่อน”
               “ถ้าอย่างนั้นทางผม ขอข้อมูลจากคุณพาใจโดยตรงได้เลย หรือว่าต้องขอผ่านพี่วิทยา”
               “ขอโดยตรงได้เลย ถ้ามีอะไรติดขัด พาใจจะแจ้งผมเอง” คุณวิทยากล่าว
               “ตอนนี้ใกล้เลิกงานแล้ว ผมนัดคุยเป็นพรุ่งนี้สายๆดีกว่า คุยกับพาใจ พี่วิทยาว่าอย่างไร”
               “ได้เลย ตามสบายทางนี้ยินดี”
               หากเป็นปลา คุณคณิต นับว่าไม่ธรรมดา ปรากฏตัวชัดเจน ต่อหน้าปลาตัวอื่นๆ ขาดอีกอย่าง ใช่ปลาตัวใหญ่ หรือเพียงเบี้ยแถวหน้า เท่านั้น
               คุณคณิต ลากลับพร้อมผู้ติดตาม นับแต่นี้ ฝ่ายตรวจสอบ จะพบเธอ คุย หรือเจรจา เมื่อใด ที่ใดก็ได้ นับเป็นเรื่องธรรมดาในงาน หากนำหน้าคือการเดินง่ายในเกมส์ เธอจำต้องระวังหรือมิต้องระวังกันเล่า
              
              คุณกรกฏเรียกท้องฟ้า บ่อยขึ้น กลับตรงข้ามคุณภาณุภาพมิค่อยเรียกใช้เขา ส่วนใหญ่เป็นคุณกรกฏ เดินงานต่อ บางวันห้องทำงานปิดไฟ คุณภาณุภาพ ไม่เข้าบริษัท การเปลี่ยนผ่านเริ่มขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ พนักงานต่างสงสัย มีแต่กลุ่มพี่ๆที่รู้ ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเงียบๆ
             “แรกฉันไม่เห็นด้วยเรื่องควบรวม อยากให้อิทธิลักษณ์เป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว” คุณกรกฏพูดกับท้องฟ้า
             “หากพี่ภาณุบอกไว้เป็นจริง การควบรวมจะทำให้อิทธิลักษณ์ยิ่งใหญ่กว่าเดิม”
             “อิทธิลักษณ์ยิ่งใหญ่ แล้วกับคนไม่ใช่อิทธิลักษณ์…”
             ท้องฟ้าขัดใจ ตระกูลวงศาต้องการความยิ่งใหญ่เขาเข้าใจ เพียงแต่คนกำลังถูกขับจากวงศา กลับทำให้ตระกูลยิ่งใหญ่ เขาไม่เข้าใจ
            “คงอยากแก้ตัวเรื่องการเสียชีวิตของคุณปู่”
            ท้องฟ้าผลุนผลันลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาไม่อยากฟังคำกล่าวนั้น
            “นายอยากทำงานกับฉันหรือเปล่า นายท้องฟ้า”
            “มันไม่ได้อยู่ที่ผมคนเดียวไม่ใช่หรือ ถ้าคุณกรกฏคุยจบแล้วผมขอตัวก่อน”
             “ทางญาติผู้ใหญ่ เดินเรื่องสงสัยการเสียชีวิตของคุณปู่แล้ว” คุณกรกฏพูดไล่หลัง
             ท้องฟ้าเดินออกจากห้องทำงาน เขาหัวเสีย ไม่อยากได้ยินคำกล่าวถึงคุณภาณุภาพเช่นนั้น เป็นคนร้าย ใช้ผลประโยชน์มาลบล้างความผิด
คุณภาณุภาพคือคนร้ายจริงหรือ เจ้านายที่เขานับถือ เป็นคนร้ายอย่างนั้นหรือ
 
               ท้องฟ้าขับรถมอเตอร์ไซด์มาจอดเทียบตามเวลา พาใจยังไม่มา เธอคงทำงานกลับช้าดังเคย เขารอสักพัก จึงสตาร์ทเครื่องได้ยินเสียงเหมือนคนเดินมาใกล้ เขาหันไปด้วยยินดี กลับเป็นผู้ชายคนหนึ่ง
               “คุณท้องฟ้าใช่ไหม”
               “ครับ”
               “ผมมาจากฝ่ายสืบสวน” ชายคนนั้นโชว์บัตรประจำตัว
               ท้องฟ้าเป็นหนึ่งในคนพบเจ้าบ้านอิทธิลักษณ์ ในวันสุดท้าย เจ้าหน้าที่เชิญเขามาเพื่อให้การณ์
               ท้องฟ้ามาสถานีตำรวจ ตามนายสืบสวน เขาเดินผ่านประตูชั้นใน มีเจ้าหน้าที่ พาเขาไปห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง เขานั่งรอไม่นานเจ้าหน้าที่สองคนเปิดประตูเข้ามา
               “อย่างกังวล ผมแค่สอบถาม คิดเสียว่าสัมภาษณ์งาน” เจ้าหน้าที่คุย
               “ผมไม่เคยสัมภาษณ์งาน แบบนี้มาก่อน” ท้องฟ้าหวั่นเกรง ใครเล่าไม่หวั่น ข้างหน้าคือตำรวจ ยิ่งแต่งกายเต็มยศด้วยแล้ว
              คุณตำรวจแนะนำตัว ว่าเชิญมาด้วยเรื่องตระกูลอิทธิลักษณ์ ร่วมแจ้ง สงสัยการเสียชีวิตของ  คุณกบิณฑ์กรณ์ อิทธิลักษณ์ ปูของคุณภาณุภาพ
             “พบอะไรผิดสังเกตุไหม”
             ท้องฟ้าเล่าถึงเขานำเอกสารให้ท่าน ท่านชวนสนทนา พาเดินชมบ้าน เพียงเท่านั้น
             “มีอะไรที่คิดว่าอาจช่วยในการสืบอีกหรือไม่”
             ท้องฟ้าครุ่นคิด เรื่องจดหมาย การรับเงินหนึ่งล้านบาท อาจช่วย หากแต่ไม่มีจดหมาย อยู่ การรับเงินจากท่านประธาน ผ่านคุณภาณุภาพ ถือว่าช่วยปกปิดหรือไม่ เขาควรทำอย่างไร เขารับเงินและสัญญาว่าจะไม่พูดถึงเรื่องในบ้านอีก แต่เขากลับทำตามความในจดหมาย แจ้งลูกสาวท่าน จนความถึงคุณกรกฏ เขาควรบอกเรื่องเงิน หรือไม่ เขาควรทำอย่างไร
              การนิ่งเงียบชั่วครู่ทำนายตำรวจ ถามซ้ำ
              “ไม่มีครับ” ท้องฟ้าตอบ
              การสืบสวนจบลง ตำรวจแจ้ง แค่เพียงเบื้องต้น อาจขอเชิญมาคุยกันอีก ซึ่งเขายินดี
            ท้องฟ้าออกจากสถานีตำรวจเวลาราวเที่ยงคืน ถนนขากลับมืดจนเขาต้องเปิดหน้ากากหมวกกันน็อคสีเข้ม สองข้างทาง มีแสงสว่างเฉพาะป้ายรถเมล์ ทำเขานึกถึง ใครอีกคน ตำรวจเชิญตัวไปคุยแล้วหรือยัง เธอควรเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก มิควรเป็นคุณภาณุภาพ ผู้หญิงจอมมารยา ไม่ว่าเธอทำอะไรไว้ คราวนี้เป็นทีของเธอ ผู้หญิงชื่อ พาใจ
 
             เช้านี้ท้องฟ้าตั้งใจไม่ไปตามเวลา เขาตรงเข้าบริษัทไม่ไปรับใครทั้งนั้น เขาเป็นอะไรไป ความจริงก่อกวนเขาอย่างนั้นหรือ การสืบการเสียชีวิตของคุณท่าน เริ่มขึ้น เขาต้องการเช่นนี้มิใช่หรือ ความจริงจักปรากฏในไม่ช้า เขาคิดสับสนไปหมด เขาควรทำอย่างไร
              ท้องฟ้านั่งทำงานเงียบๆ อันเป็นวิธีหนึ่ง พอช่วยสงบครุ่นคิดเขาได้ คือทำงาน รายงานการผลิต ตัวเลขการคำนวณ เขาอ่านทวนไปมา เพื่อตรวจสอบ เพื่อยั้งความคิดฟุ่งซ่าน แต่เพียงไม่นาน มีงานทำให้ลืมได้ชั่วขณะ
               เจ้านายเรียกเขาเข้าประชุม ห้องประชุมย่อย ‘เจ้านายทั้งสอง’
               “ทางเราต้องให้ไวยตรา ช่วยผลิต เพื่อหยุดเครื่องจักร ทำการตรวจระบบไฟทั้งระบบ” คุณภาณุภาพพูดขึ้นเมื่อ ทุกคนมากันครบ
               “เรากำลังเจรจากับไวยตรา เหมือนเปิดไพ่ ว่าต้องการเขา เพราะเรามีจุดอ่อน” กรกฏกล่าว
               “เราไม่เคยผลิตไม่ได้ตามออเดอร์ นั่นเป็นจุดแข็ง” ภาณุภาพค้าน
               “ผมว่าจ้างบริษัทอื่นดีกว่า ผมคิดว่าทางไวยตราน้้นจะเพิ่มข้อต่อรองถ้ารู้ว่าเราต้องการ”
               “การผลิตได้อย่างเรามีไม่กี่บริษัทรับได้”
               “ก็อาจจะ จ้างมากกว่าหนึ่ง”
               คุณกรกฏยังยืนกราน หากแต่คุณภาณุภาพกล่าว
               “พี่แค่มาเสนอ ยังไม่ต้องตัดสินใจในวันนี้ แต่เรื่องหยุดเครื่องจักร เราควรทำ”
               คนฟังการประชุมเงียบๆ อดคิดไม่ได้ คุณภาณุภาพแค่มาเสนอ อย่างนั้นหรือ ทุกครั้งเป็นคำสั่ง การเปลี่ยนผ่านเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ปล่อยให้การตัดสินใจเป็นของคุณกรกฎ เท่ากับว่าที่คุณกรกฏพูดเป็นความจริง ปล่อยอำนาจเพื่อแลกกับอิสระภาพ นั่นหมายความว่าคุณภาณุภาพคือคนร้าย อย่างนั้นหรือ ท้องฟ้านายเชื่อเช่นนี้หรือไม่ หรือนายต้องหนักแน่น ตำรวจเข้าสืบคดีแล้ว นายทำได้ดีที่สุดแล้วใช่หรือไม่ ถ้าใช่ นายทำได้แค่รอ
                หลังประชุม ท้องฟ้ากลับมาที่โต๊ะ เตรียมข้อมูลให้ทางฝ่ายจัดหาโรงงานผลิต เจรจา ต่อรอง เขาคิดว่าคงกินเวลา เครื่องจักรอาจเกิดปัญหาก่อน ข้อเสนอของคุณภาณุภาพเป็นทางเลือกที่เร็วและอาจดีที่สุด เพราะเขารู้ว่า เครื่องจักรในโรงงานนั้น ขาดสายการผลิต
                ท้องฟ้าทำงานด้วยด้วยครุ่นคิดนัก เขาคิดถึงเครื่องจักรในโรงงานนั้นอย่างนั้นหรือ วันนี้ทั้งวันเขายุ่งอยู่กับข้อมูล เอกสาร จนถึงเวลาเลิกงาน เขาลุกจากโต๊ะตรงเวลา เขาจัดการข้อมูลได้เรียบร้อยเแล้ว หรือเขา ไม่อยากเกินเวลา  
 
                ท้องฟ้านายเป็นอะไรไป ตอนเช้ายังรีบตรงเข้าที่ทำงาน ตกเย็นรีบออกรีบไปให้ทันตามเวลา นายคุ้นชินกับเวลา หรือนายเพียงแค่อยากไปตามเวลา เขาจอดมอเตอร์ไซด์เทียบรอ เลยเวลาแล้วพาใจยังไม่มา เขารออีกสักพัก หรือเธอถูกเรียกไปฝ่ายสืบสวน เขาไปเวลานี้เช่นกัน ถ้าเธอถูกจับในฐานะคนร้าย งานคุณภาณุภาพ สำเร็จหรือ ตอนนี้คุณกรกฏ รับช่วง เธอยังมีประโยชน์อยู่หรือไม่ แล้วเธอมีประโยชน์อะไรกับนายเล่า ที่นายทั้งค้าน ทั้งคลาย อยู่ในขณะนี้ เป็นด้วยพิษร้าย หรือไม่ นายโดนพ่นพิษใส่อย่างนั้นหรือ
                เสียงเคาะหมวกกันน็อค ทำนายท้องฟ้าหลุดครุ่นคิด พาใจ เคาะเพราะเห็นเขานั่งนิ่ง เขาหยิบหมวดกันน็อคส่งให้เธอ
                “เราต้องคุยกัน” พาใจกล่าว
 
               รายงานจากฝ่ายตรวจสอบ มีภาพก่อนและหลังไฟไหม้โกดังภาพก่อนถ่ายไว้สองอาทิตย์ก่อนเกิด เหตุไฟไหม้ ตรงกับรายงานกล่าวอ้างของคุณธารา แต่ในรายงานแทรกเพิ่มภาพขยาย เห็นเลขรหัสบนถุงบรรจุ วัตถุดิบ ชี้ว่าไม่ตรงกับรายงาน ฝ่ายตรวจสอบปล่อยผ่าน แล้วส่งมาให้เธอ เพื่อสิ่งใดกัน พาใจไม่เข้าใจในเกมส์
               “วิธีใช้ตรวจสอบคือสุ่มตรวจ รายงานนั้นถูกหลักการ แต่ไม่ถูกต้อง” ท้องฟ้ากล่าว
                ทั้งสองนั่งคุยกัน ในร้านอาหารริมทาง บนโต๊ะมีเครื่องดื่ม เขามองเธอ น้ำหวานทำให้ริมฝีปากมีสีแดง
               “ของถูกไฟไหม้แล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้”
               “ทางนั้นคิดว่าหากรายงานอยู่ในมือเธอ อาจช่วยเปิดเผยบางอย่าง”
              “ฉันไม่มีหน้าที่เปิดเผยอะไร”
              “คงคิดว่าเธออยู่ด้านดีกระมัง” ท้องฟ้าปรามาส
              เธอต้องสนใจคำพูดเขาทำไม เขาคิดว่าเธอเป็นเช่นไร แล้วอย่างไรเล่า เขาคิดของเขา เธอมีความคิด ของเธอ
              “ฝ่ายตรวจสอบเจอการโยกย้ายวัตถุดิบ แต่แจ้งใครไม่ได้”
              “เลือกมาแจ้งเธอ เพราะคิดว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม”
              เธออยู่ฝ่ายไหน ฝ่ายตามตรวจสอบคิด ฝ่ายประธานบอร์ด ฝ่ายรองประธาน ฝ่ายบริษัท ฝ่ายตรงข้ามบริษัท เธออยู่ที่ใดกัน เธอได้คำตอบเรื่องรายงาน
               “ฉันกลับละ” พาใจกล่าว

               ท้องฟ้า นายอยากถามอะไร ตอนนี่คือโอกาส อยากรู้ว่าเธอคือคนร้าย นี่คือโอกาส อยากรู้ว่าตำรวจ ถามเธอหรือยังถามว่าอย่างไร นี่คือโอกาส นายยิ้มเยะเธอ ว่าไม่พ้นผลผิดจรรยาบรรณ นี่คือโอกาส นายมีคำถามว่าอย่างไร ท้องฟ้าได้แต่เพียงขยับตัวลุกขึ้น
               เขาขับรถมาส่งเธอที่เดิม การจากลาเงียบ ดั่งทุกครา ไร้คำสนทนา แม้ภายในเต็มด้วยคำเจรจา กลับไม่มีคำถามใดผ่านเสียงออกมา ใยเขาไม่มีคำถาม ทำไมนะเขาอยากให้ทุกอย่างเป็นดังเดิม เขาอยากให้คุณภาณุภาพ ทำงานเหมือนเดิม เขาอยากให้งานเป็นตามวิถีเดิม เขาอยากให้พาใจ เป็นผู้ต้องสงสัยเหมือนเดิม ไม่มีการตัดสิน ไม่มีผลสุดท้าย เขาไม่รู้ว่าทำไม เพียงตอนนี้เขาไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร บางทีเพราะมีเรื่องต้องเปลี่ยนแปลง มากเกินไป หรือเขาไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง

 



Create Date : 02 ตุลาคม 2567
Last Update : 2 ตุลาคม 2567 8:58:17 น.
Counter : 152 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
嘸通嫌台灣 (I Love Taiwan) By 蕭泰然 (เซียว​ไท้​เหยิน) ปรศุราม
(3 ธ.ค. 2567 09:58:59 น.)
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 365 :: กะว่าก๋า
(30 พ.ย. 2567 05:54:49 น.)
๏ ... พ่อเล่นแง่ แม่เลยงอน ... ๏ นกโก๊ก
(29 พ.ย. 2567 20:58:06 น.)
๏ ... หลงเล่นหมากชีวิต ... ๏ นกโก๊ก
(28 พ.ย. 2567 20:12:43 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku

ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bluetheme.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



madam payee
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด