นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 29 ในห้องทำงานใหญ่ พาใจวางรายงานตรวจสอบรวมกับเอกสารอื่นๆที่เธอนำกลับมากจากบริษัท เอกสารมากมายทำเธออดคิดไม่ได้ว่า มีเรื่องราวมากมายเช่นกัน เธออยู่ในเกมส์ กลับไม่เข้าใจหมากบางตัว ลองเป็นเหยื่อล่อปลาใหญ่ กลับมีเบี้ยเดินตาม หลายฝ่ายอยู่ในเกมส์ อาจเต็มตัวหรือแค่ริมสนาม ผลประโยชน์มากมาย แล้วมีใครบ้างไหมไม่อยากลงเล่น เธอนั่งลงอ่านทบทวนข้อมูลอีกครั้ง จะมีการประชุมครั้งที่สอง การเจรจาต้องมีมติชัดเจน ต่างฝ่ายต่างรีบเดินตามแผน หารู้ไม่ผู้ตรวจเกมส์เฝ้ามอง เธอรี้อหยิบเอกสารจนปัดแก้วน้ำ ตกลงพื้น เธอรีบหาผ้ามาเช็ค จำต้องเดินไปในครัวหยิบผ้า เดินกลับมาน้ำไหลเป็นทาง หากเช็คได้เร็วก็จะง่ายกว่านี้ แล้วใครเล่ารู้ที่หยิบผ้า ทำความสะอาดได้รวดเร็ว เดินเข้าออกได้ทุกฝ่าย เธอเช็คน้ำแห้งแล้ว กลับเจอหมากในเกมส์ เม็ดหนึ่ง มิอาจมองข้าม พาใจนั่งรออยู่ในห้องๆหนึ่ง เช้านี้เธอไม่ไปตามเวลา เธอยังไม่ไปทำงาน ด้วยต้องนั่งรอ ไม่นานเจ้าหน้าที่ ตำรวจสองนาย เปิดประตูเข้ามา ทักทายเธอด้วยสุภาพ “ห้องมืดไปสักหน่อย คุณพาใจไม่ต้องกังวล คิดเสียว่ามาสัมภาษณ์งาน” เจ้าหน้าที่ผู้ร้องทัก เดินไปเปิดม่านบางหน้าต่าง ทำห้องสว่างขึ้น “ที่เชิญมาด้วยเรื่อง การเสียชีวิต ของคุณกบิณฑ์กรณ์ อิทธิลักษณ์” พาใจมีสีหน้าสงสัย จนเจ้าหน้าที่อธิบาย “เจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่สุด ในหมู่บ้านของคุณ” สีหน้าเธอแสดงความเข้าใจ “ค่ะ แต่เรื่องมันนานมาแล้ว” นายตำรวจ นั่งลงปล่อยให้พาใจย้อนคิดสักครู่ก่อนกล่าว “คนที่บ้านแจ้งว่าคุณพบท่านในวันเสียชีวิต” “ทุกคนในบ้านก็พบท่านทั้งนั้น” “ญาติสงสัยการเสียชีวิตของท่าน” “สงสัยว่าถูก ฆาตกรรมอย่างนั้นหรือค่ะ” “คุณพูดเหมือนรู้” “ถ้าสงสัย ก็คือ เสียชีวิตแบบไม่ธรรมดา” “แต่ไม่ได้บอกว่า ฆาตกรรม” “แล้วสงสัยเรื่องอะไรค่ะ” นายตำรวจกลับไม่ต่อความ “ทางญาติอยากให้คุยกับคุณเป็นพิเศษ” “เพราะดิฉันเป็นคนนอก ที่บังเอิญอยู่ถูกที่ถูกเวลา” นายตำรวจยิ้มให้กับคำพูดของเธอ พาใจเล่าเรื่องเธอเข้าไปในบ้าน ขอพบคุณท่านเจ้าของคฤหาสน์ ด้วยเรื่องขับรถชนประตูบ้านเธอ คนรับใช้พาเธอเข้าพบ คุณท่านเดินนำ ไปคุยในห้องที่เธอคิดว่าเป็นห้องหนังสือ คุณท่านดื่มน้ำชาอย่างใจเย็น เธอยอมรับว่า ทนรอไม่ได้จนต้องแสดงอารมณ์โกรธ “คุณเสียงดังกับเจ้าของคฤหาสน์ แถมยังอยู่ในที่ของเขา” “คนผิดอยู่ที่ใดก็เป็นคนผิด บ้านหลังใหญ่ไม่อาจทำให้พ้นผิดใช่ไหมค่ะ คุณตำรวจ” นายตำรวจทั้งสองหันมองกัน “คุณสงสัยอะไรในบ้านบ้างไหม” บรรดาญาติตาแก่รุมสงสัยเธอ เธอน่าสงสัยที่สุด จะให้เธอตอบว่าอย่างไร “ดิฉันพึ่งไปบ้านหลังนั้นครั้งแรก ดูน่าสงสัย มากว่า บอกเรื่องสงสัย” เธอมองนายตำรวจทั้งสอง ซึ่งตอนนี้กำลังมองพิจณราเธออยู่ “มีอะไรที่คิดว่า อาจช่วยในการสืบอีกหรือไม่” จดหมายแจ้งเหตุฆาตกรรม เงินหนึ่งล้านบาท จากลูกชายผู้ถูกฆาตกรรม ช่วยในการสืบหรือไม่ ว่าไปจดหมายอาจกลายเป็นเรื่องลวงด้วยไม่มีปรากฎ เงินหนึ่งล้านบาทเป็นค่าซ่อมประตูรั้ว “ตอนนี้ไม่มีค่ะ” การสัมภาษณ์จบลงดังคำอ้าง เจ้าหน้าที่แจ้งแค่เบื้องต้น อาจเชิญมาให้คำอีก พาใจยินดี หากเธอมีคำถาม “คุณตำรวจสัมภาษณ์ใครบ้างแล้วค่ะ” เธอกลับเข้าทำงานในช่วงบ่าย ถึงที่ทำงานก็ต้องรีบพบคุณวิทยา ด้วยมีเรื่องหารือด่วน ภายในห้องผู้จัดการเริ่งงานทันที “นี่สูตรการผลิตใหม่ ผมต้องการกำลังการผลิตของเครื่องว่างทั้งหมด” คุณวิทยากล่าว “ไม่ได้รับแจ้งว่าเราจะมีสินค้าใหม่” “ไม่ใช่สินค้าใหม่” พาใจนึกถึงคำคุณสาโรจน์ ให้ส่งการคำนวณให้ “เรายังมีเครื่องรอติดตั้ง” พาใจหยั่งถาม “ไม่ต้องคำนวณรวม” เธอสงสัย เครื่องจักรรออะไร ล่าสุดที่เธอรู้คือ รอคำสั่งติดตั้ง คำสั่งใคร พาใจกลับมานั่งทำงาน ทำการคำนวณตามสูตร เธอทำเสร็จก่อนเวลาเลิกงาน การทบทวนทุกค่ำคืน ได้ผล เธอทำการคำนวณได้โดยคิดว่า ถูกต้อง หลังส่งอีเมล์ให้คุณวิทยา พอมีเวลาก่อนสิ้นวัน เธออยากไป โรงงาน หากแต่หางตาเห็นแม่บ้าน คอยสังเกตุเธอไม่วางตา เธอหยิบแก้วน้ำ เดินตรงเข้าห้องกาแฟ แม่บ้านนำเอกสารมาวางบนเคาท์เตอร์น้ำ ใกล้ๆเธอ แล้วเดินหายไป เธอรินน้ำใส่แก้วก่อนหยิบเอกสาร เดินกลับโต๊ะทำงาน ‘เอกสารการจัดซื้อเครื่องจักร’ เธอนำเอกสารใส่กระเป๋า พอดีกับชายผู้ช่วยคุณคณิต ฝ่ายตรวจสอบเดินมาติดต่องานในชั้น เข้ามาทักเธอ “เย็นนี้คุณคณิตรอโรงงานเปลี่ยนกะแล้วเข้าตรวจ คุณพาใจไปด้วยกันไหม” เธอไม่เคยเห็นการตรวจจากฝ่ายตรวจสอบมาก่อน อยากไปแน่นอน หากแต่เธอไม่รู้ การเดินเกมส์ ไปทางไหน หรือเธอควรไปเพื่อได้รู้ เธอต้องเป็นเหยื่อชั้นดี ปลาใหญ่จึงปรากฏ “ขอแจ้งคุณวิทยาก่อน” หมายถึงเธอรับคำ “คุณเขาสไตล์ตรวจสอบ อาจซักถามละเอียดคุณพาใจต้องเตรียมข้อมูลมากหน่อย” “ตรวจโรงงานหรือ ตรวจสอบดิฉัน” “ตรวจทั้งหมด” เธอคิดว่ามีข้อมูลมากพอ เวลาใกล้เลิกงานเธอคิดถึงเรื่องข้อมูลอย่างนั้นหรือ เธอมองนาฬิกา เธอคงไปไม่ทันตามเวลา แต่ไม่แน่เวลาต่อไปเธออาจมีเรื่องให้ยืดเวลา บาทีเธออยากไปตามเวลาแล้ว ใช้เวลานานขึ้น แล้วเธอจะใช้เวลาให้นานขึ้นได้อย่างไร เวลาที่ใช้เธอรู้สึกว่ามันน้อยไปอย่างนั้นหรือ คุณกรกฏโกรธที่ฝ่ายจัดหา ถามเรื่องการผลิตไปที่ไวยตรา เป็นทางเลือกหนึ่ง อันเป็นการส่งสัญญาณให้ทางนั้นรู้ในที ด้วยข้อมูลโรงงานช่วยผลิตหามาให้ ต้องจ้างถึง สามโรงงาน จึงสามารถรองรับการผลิตได้ทั้งหมด ด้วยแต่ละโรงงานมีการผลิตของตน ท้องฟ้าจำต้องฟังคารมบ่น จากเจ้านาย ‘ทั้งสอง’ “ฝ่ายจัดหาต้องถามทางนั้นอยู่แล้ว ด้วยเห็นว่าจะรวมกัน” คุณภาณุภาพกล่าว “แต่ตอนนี้เหมือนคู่แข่ง ไม่ควรถาม” “เรื่องการผลิตสำคัญ ทุกคนอยากช่วยบริษัทกันทั้งนั้น” เขาเห็นคุณกรกฏไม่พอใจอย่างมาก อยากเรียกฝ่ายจัดหามาคุยถึงการทำงาน ไม่รู้ทิศรู้ลม ว่าช่วงนี้อยู่ในการเจรจา อย่างน้อยควรถามกันก่อน หากแต่คุณภาณุภาพแนะนำเรื่องไม่ต้องถามไวยตรานี้ทางผู้บริหารจำต้อง กำชับเอง ด้วยเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อผู้ใตับัญชาอาจไม่รู้ “สรุปผมผิดใช่ไหม” กรกฏถาม “ผิดด้วยกันหมดนี่ล่ะ” คุณภาณุภาพตอบ คุณกรกฏฉุนเฉียวลุกขึ้นยืน เดินกัดฟันกรอด หันมองวิวนอกหน้าต่าง สะกดอารมณ์ คุณภาณุภาพ มองเช่นกัน อาคาร โกดัง อนาจักรอิทธิลักษณ์ คนหนึ่งเกรี้ยวกราดด้วยอยากนำพา อีกคนสงบนิ่ง หนุนนำ หากแววตาสงบนิ่งนั้นทอดอาลัย ท้องฟ้ามองนายทั้งสอง อดคิดไม่ได้ว่า แววตาสงบนิ่งคือคนร้าย อย่างนั้นหรือ มนต์มัจจุราชตนใดสะกดเล่า เขาจำต้องอดทนอย่างถึงที่สุด มองเจ้านายที่เขารัก และเคารพ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยรอก่อนนายท้องฟ้าตำรวจเข้าสืบตามคำร้อง เวลาลดรอน คงอีกไม่นาน คนร้ายต้องปรากฏ ท้องฟ้าออกจากการประชุมก่อนเวลาพักเที่ยง เขาทำงานต่อสักพัก เดินลงมาทานอาหาร คนฝ่ายจัดหาปรี่เข้ามาทัก “เห็นว่าคุณกรกฏไม่พอใจ” “ได้ยินมาจากไหน” “ก็โทรคุยกับหัวหน้าก่อนลงมานี่ แกบ่นเปรยๆให้ฟัง” “เขาร้ายเหรอ” “ก็ไม่นะ” “คุณภาณุภาพยังดีซะกว่า” เพื่อนอีกฝ่ายคงเห็นเขาคุย เหมือนกระซิบ ก็โผล่เข้ามาทัก “คุณกรกฏนะหรือ” “พูดแบบนี้มีอะไรจะคุย ก็ว่ามา” “ชอบเร่งงาน” เพื่อนต่างฝ่ายทั้งสองตามคุย ให้ท้องฟ้าได้ยิน ตลอดพักเที่ยง ลูกน้องติเจ้านายมีถม แต่เขาพลันสังเกตุ หลายฝ่ายเริ่มเปรียบเทียบ ก่อนหน้าคือฝ่ายโรงงาน พร่ำว่านายใหม่จี้ทุกเรื่องความผิดปรกติ ในการบริหารเริ่มรู้เป็นวงกว้าง หลังพักท้องฟ้าซื้อขนมติดมือกลับสำนักงาน เป็นเค้กสีสวยชิ้นหนึ่ง วางไว้บนโต๊ะทำงาน เขาชอบกินขนมหวาน อย่างนั้นหรือ หรือเขาซื้อด้วยสีสัน เขาชอบสีสัน หรือเขาซื้อด้วยรสชาติ เขาเคยกินอย่างนั้นหรือ หรือว่าเขาเห็น คนอื่นเคยกินแล้วอยากรู้รสชาติบ้าง เขาคิดถึงรสชาติอย่างนั้นหรือ หลายวันแล้วเขาไปตรงเวลา หากแต่หมวกกันน็อคอีกใบ กลับว่างเปล่า เขาคิดถึงได้แค่รสชาติ ในตอนนี้ ห้องคุณภาณุภาพปิดไฟ กลายเป็นภาพคุ้นตา หากมีเรื่องต้องตัดสินใจ กลายเป็นคุณกรกฏมากกว่า แรกพนักงานยังละล้าละลัง นานไปเริ่มมั่นใจ งานต้องเดิน โดยเฉพาะในช่วงนี้ แต่ช่วงวุ่นวายเช่นนี้ ควรเป็นคุณภาณุภาพมิใช่หรือ เป็นเพียงเขาผู้เดียวคิดอยาก อย่างนั้นหรือ “ท้องฟ้า” คุณกรกฏเรียกเขาจากหน้าห้อง เสียงไม่คุ้นชิน พนักงานต่างมอง เขาลุกขึ้น เดินตามเสียเรียก หากสายตาพนักงานกลับมองห้องปิดไฟ ก่อนทำงานต่ออย่างเงียบๆ “นายให้สเปคกับจัดหาใช่ไหม” “ครับ” “จัดหาที่นี่เก่ง เวลาน้อยยังหาได้ตามสเปค” “คุณกรกฏจะเลือกโรงงานไหนผลิตแทน” “ไม่เลือกไวยตรา” บริษัทคู่แข่งตามคุณกรกฏว่า ความเงียบปรากฏแก่ท้องฟ้า “ไม่ถามหรือว่าทำไม” “คุณกรกฏน่าจะถามตัวเองดีแล้ว” “ภาณุจะเลือก แต่ฉันไม่” ท้องฟ้าก้มหน้ายิ้มให้กับคำตอบ เหตุผลเพียงเท่านี้ เพียงพอแล้วสำหรับท้องฟ้า เขาจะติดใจ ในการตัดสินใจของเจ้านายได้อย่างไร เขาแค่พนักงานกินเงินเดือน ท้องฟ้านายถอดใจแล้วหรือ นายเหนื่อยด้วยทำงานมิได้หยุดพัก หรือนายเหนื่อย กับเรื่องการเปลี่ยนแปลง นายไม่เคยบ่นเรื่องงาน ไม่เคยบ่นเรื่องเปลี่ยนแปลง นายเป็นหนึ่งช่วยทำการ เปลี่ยนแปลง ช่วยคุณกรกฏ ช่วยพาใจกลับเดินงาน จำไม่ได้หรือ นายถอดใจได้อย่างไรกัน “แล้วเรื่องการประชุมควบรวม” “ทางนั้นยืนกรานอยากมีส่วนบริหารเลยยังไม่ปล่อย” “เราไม่ยอมหากไม่ได้สิทธิทั้งหมด” “เราเองก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” ผู้ถือหุ้นต่างไม่เห็นด้วย คำพูดคล้าย ‘เจ้านายอีกคน’ เป็นการเปลี่ยนแม่ทัพกลางศึก ท้องฟ้าอดคิดไม่ได้ หากเป็นคุณภาณุภาพจะทำเช่นไร เขากลับมาที่โต๊ะเปิดเค้กสีสวยกินเพื่อเรียกกำลัง เขามิได้หมดแรงกาย หากแต่เป็นแรงภายในมอดลง เขาขอตัวเองนั่งพักสักครู่ ค่อยๆคิดทบทวนว่าควรทำอย่างไร เขาไล่ตักชั้นสีทีละชั้นเรียกคืนแรงทีละเรื่อง เค้กหมดชิ้นแล้ว แรงเขากลับมาหรือยัง ถ้ายังอาจต้องเพิ่มเค้กอีกชิ้น เลิกงานท้องฟ้าไปตามเวลา จอดรถมอเตอร์ไซด์เทียบรอ แสงอาทิตย์สีส้ม หายจากขอบฟ้า หมวกกันน็อคอีกใบว่างเปล่าอีกครั้ง เธอทำงานดึกเหมือนเช่นเคย เอาเรียวแรงมาจากไหน จากน้ำหวานสีสวย หรือเค้กสีสดใส เขาเงยหน้ายิ้มในหมวกกันน็อค แล้วเขาเล่า เค้กอีกกี่ชิ้นกันเขาจึงคืนแรง
|
บทความทั้งหมด
|