นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 8 พาใจหันมองต้นไม่ทีละต้น ดอกไม้ทีละดอก จนเธอต้องหมุนรอบตัว พลางคิดไปว่าตนเองตก อยู่กลางดงธรรมชาติอันงดงาม ดวงอาทิตย์อ่อนแสงรำไร ณ ขอบฟ้า แต่ก่อน เธอทำงานธุรการอยู่นั้น หลังเลิกงานมักซื้อของกินเล่น มานั่งจมอยู่ในสวนสาธารณะ บางทีเช่านิยายมาอ่าน มันเป็นการหย่อน ใจแบบประหยัด และเธอชอบมาก ชอบฟังเสียงต้นไม้ลู่ลม ชอบมองดอกไม้ไหว มองผู้คน มนุษย์ไม่คิดร้ายกัน เวลาพักผ่อน พาใจเห็นความสุขจากผู้คนรอบกาย เธอมีความสุขร่วมด้วย เสียงภาณุภาพเย้ยทัก “ดูท่ากรกฏจะอาลัยคุณมาก เขาปฏิเสธไม่ยอมไปดูงานต่างประเทศกับคุณพ่อ” กระนั้นยังไม่ทำลายบรรยากาศหย่อนใจของเธอ เธอรอฟังเขาพูดต่อว่าจะใช้แรง ได้อย่างวาจาที่ให้ไว้ได้หรือไม่ “คุณคงเสียดาย ที่สุดท้ายเขายอมไป” นายสิบล้านออกแรงเป็นเหมือนกัน “ฉันต้องระวังอะไรบ้างค่ะ” เธอหย่อนใจจนอยากพูดอะไรกับใครบ้าง พอดีภาณุภาพอยู่ใกล้ที่สุด “ระวังทุกฝีก้าว” ภาณุภาพตอบ “คุณวิทยาจะกลับมาวันพรุ่งนี้ กลับเร็วกว่ากำหนด” การเร่งการผลิต ทำให้คุณวิทยาต้องรีบกลับ เป็นเหตุสมควร แต่เท่ากับว่า พาใจจะมีโอกาสน้อยลงในการเข้าถึง ข้อมูลที่ต้องการ “ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณอาจได้เงินสิบล้านเร็วขึ้น” การแลกเปลี่ยน ปรับเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ พาใจจะกระโดดโลดเต้นดีใจต่อหน้าเขา หรือแสดงสีหน้า แววตา ออกมาว่าอยากได้มากอย่างนั้นหรือ เป็นตรงกันข้าม พาใจยังคงเงียบเฉยต่อคำพูดของเขา เขาพูดถึงเงินสิบล้านเหมือนมีค่าแค่สิบบาท จะให้ใครซื้อ อะไรก็ได้ตามใจ เธอหย่อนใจมากจนลืมไปว่า เธอเป็นเหมือนคนที่เขายื่นเงินให้ แล้วใช้ไปหยิบของของคนอื่น ภาณุภาพ เป็นฝ่ายนิ่งเฉยบ้าง เขายืนชมต้นไม่อยู่นานรอให้พาใจถาม เธอจะได้รู้บ้างว่า การเงียบเฉย เมื่อมีคนพูดด้วยนั้นมันน่าอึดอัดรำคาญสักเพียงใด เขาคือคนยื่นเงินสิบล้านให้กับเธอ เธอต้องถามเขา มากกว่า ให้เขาเจราอยู่ฝ่ายเดียว ไม่นานพาใจก็เจรจา สมใจภานุภาพ “คุณจะให้เงินดิฉันมากกว่า สิบล้านหากดิฉันพูดอีกประโยค” เขามีเงินให้พาใจแน่นอน หากเธอจะแบล็คเมล์เขาในตอนนี้ เธอมีโอกาส เอาข้อมูลมาให้เขา เธอจะเรียก เงินเพิ่มอีกสักหน่อยก็คงได้ แต่เธอกลับไม่เรียก เขากลับใช้อารมณ์น่ารำคาญจนพาใจต้องเอ่ยปากให้รู้ นี่เท่ากับ เขาแบล็คเมย์ตัวเองใช่ไหม ภาณุภาพกลั้นใจเฮือกใหญ่ แล้วค่อยๆคลายลมหายใจออกมา เพื่อระงับความโกรธ ทำไมนะผู้หญิงคนนี้ ถึงทำให้เขาหัวเสียได้ตลอดเวลา “คุณคอยดูพฤติกรรมทุกคนแล้วมาบอกผม เป็นอันได้เงินสิบล้าน” เขาไม่คอยให้เธอเงียบใส่เขาอีก สิ้นคำเขาก็เดินจากไป ผู้หญิงจอมมารยา ห้องทำงานห้องใหญ่วางเอกสารเกลื่อนสักเท่าใด ก็ยังคงมีที่ว่างให้วางเพิ่มอยู่ดี พาใจกางหนังสือ หลายเล่มไว้บนโต๊ะ เป็ดหน้าสำคัญที่ต้องจำต้องทำความเข้าใจ เธอรู้ว่ายังขาดประสบการณ์ ความรู้ที่เธอเรียนมา มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการโรงงานแต่อย่างใด ถึงเธอจะขยันอ่านดำราจนเข้าใจ ก็เทียบ ไม่ได้กับคนที่เรียนมาโดยตรง การที่เธอยอมรับตำแหน่ง มันไม่ทำร้ายคนที่ให้ตำแหน่งแก่เธอหรือ ถ้ารู้เช่นนั้น แล้วทำไมถึงให้เธอทำหน้าที่นี้ เหตุผลข้างๆคูๆที่คุณวิทยา และผู้บริหารอ้างกับเธอน้น แค่ฟังอย่างเสียไม่ได้ การที่มีตำแหน่งงานเงินเดือนสูงกว่าเดิมมาให้เธอเลือก ใครเล่าจะไม่รับไว้ เรื่องงานทำได้หรือไม่ได้นั้นเวลา เป็นข้อพิสูจน์ และข้อพิสูจน์ก็ใช้เวลาทดรองงานถึง สี่เดือน หากทำไม่ได้อย่างน้อย ก็ได้เงินเดือนเป็นทุนเพิ่ม จากปกติถึงสามเท่า คุณวิทยายังให้โอกาสเธอซ้อนอีกว่า “ผมเบื่อพวกเรียนเก่งแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง สู่เอาคนทำงานมาฝึกเองดีว่า พาใจคุณจะรับงานนี้ไหม” เธอตอบรับเงินที่ได้ ส่วนคุณวิทยาเลือกเธอด้วยสาเหตุใด เธอไม่รู้ ถ้าให้เดามันคงเป็นวิธีของผู้บริหาร เธออาจมาขั้นเวลาขณะรอหาผู้ช่วยตัวจริงก็เป็นได้ แต่มันทำให้ะธอมีโอกาสมิใช่หรือ พาใจพลิกเปิดสมุด เธอจดบันทึกข้อมูลของโรงงานต่างๆ ตามความเข้าใจของเธอเอง เปิดสมุดอีกเล่ม ที่ภาณุภาพให้ไว้เขาสรุปได้ชัดเจน เรียบเรียงอ่านเข้าใจไม่ยาก ในขณะอ่านสมุดทั้งสอง ทำความเข้าใจเธออดคิดถึงเงินสิบล้านไม่ได้ อีกไม่นานแล้วหรือที่เธอจะได้มันมา เธอจะใช้มันอย่างไรดี พาใจเห็นว่าสมาธิของเธอคลาดเคลื่อน เธอจำต้องสลัดความคิดนั้นออกโดยเร็ว เธอมีเวลาคิดอีกมากหลังจากนี้ ตอนนี้เธอต้อง ทำให้ได้ก่อน พาใจอ่านต่ออีกไม่นาน มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอสังหรณ์ว่ามันต้องเกี่ยวกับงาน จึงรีบ ลุกไปรับสาย โรงงานเร่งการผลิตเพื่อส่งสินค้าให้ทันตามออเดอร์ ไม่ผิดปรกติหากคุณอนิก และเธอแวะเข้ามาดู เครื่องจักรในตอนกลางคืน พาใจเดินเลยเข้าไปในห้องทำงานของวิศวกรคุมเครื่อง โดยมีเจ้าของห้องนั่งกระสับกระส่าย รอการมาของเธอ “ครบแล้วซินะ” เธอเห็นว่าคุณธารา ผู้จัดการโกดังสินค้าก็อยู่ด้วย เธอยกมือสวัสดี ด้วยพบกันเป็นทางการครั้งแรก เธอไม่แปลกใจเพราะการเร่งเครื่องจักร ต้องเกี่ยวข้องทุกฝ่าย “ผมอยากโยนปัญหาให้คุณ แต่นี่มันออกจะยากอยู่สักหน่อย” คุณอนิกกล่าว “ปัญหามันซับซ้อนหรือค่ะ” “เธอเดาเก่ง มันซับซ้อนมาถึงผม” ผู้จัดการโกดังออกตัว “การเร่งการผลิตทำให้พบว่าโกดังมีวัตถุดิบไม่เพียงพอ” “เป็นไปได้อย่างไร” พาใจไม่เชื่อ “ตามรายงานวัตถุดิบที่ดิฉันคำนวณ มันเพียงพอเพราะเรามีสต๊อก ไว้เผื่อเสมอ” “ตามรายงานนะ ใช่” คนโกดังกล่าว “คุณธาราหมายถึง รายงานมีแต่ตัวเลข” พาใจมองด้วยสายตา มากคำถาม “ที่ผมรู้เพราะมาเตรียมวัตถุดิบป้อนโรงงาน มาเช็คดูแล้วหายไปสองในสาม ผมเช็คสต๊อกล่าสุดเมื่อ สองอาทิตย์ที่แล้ว” “ของหายจากโกดังทำไม่ถึงไม่มีใครรู้” วิศวกรกล่าวอย่างหัวเสีย “ถ้าคุณคิดว่าผมขนไปก็พูดมาตรงๆดีกว่า” คุณธาราเริ่มเสียงดัง “ถ้าผมขนไปก็คงเอามาคืนแล้ว ไม่ต้องรอให้ของขาดสายการผลิต แล้วมีคนมาพบหรอก ที่ผมมา นี่ก็มาขอคำปรึกษาคุณนะ” “คุณธาราคิดว่ามีคนในเกี่ยวข้องใช่ไหมค่ะ” พาใจตัดบท “มันก็ต้องอย่างนั้นละ ขนเข้าขนออกกันง่ายๆได้อย่างไร” วิศวกรบ่นอีกละลอก “ถ้าขนออกไปแล้วไม่ใครแจ้ง หมายความว่าของนั้นต้องขนกลับมา” พาใจกล่าว “หมายความว่าอย่างไร” “เอาของออกไปขาย แล้วก็เอาของใหม่มาเติมด้วยราคาถูกกว่า เอาของเสียภาษีถูกต้อง ไปขาย และซื้อของเถื่อนมาคืน แค่นี้ก็ได้กำไร” “ใครจะทำเช่นนั้นได้ จะง่ายอย่างนั้นเลยหรือ “ “ถ้าขอหายมากขนาดนั้น ก็ต้องมีคนในร่วมมือต้องมีลู่ทางหลบเลี่ยง อาจไม่ได้แอบขนออก ไปเหมือนการขนถ่ายปกติ” “วัตถุดิบหายนั่นก็เรื่องหนึ่ง แล้วเรื่องการผลิตจะว่าอย่างไร ออเดอร์สำคัญซะด้วย” “มีใครแจ้งตำรวจหรือยังค่ะ” คนโรงงานทั้งสองนิ่งเงียบ หันมองหน้ากัน “เมื่อกี่พี่อนิกแจ้ง” คุณธาราเอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วเงียบเสียง “คุณลำดับเรื่องราวได้ดีทีเดียว” น้ำเสียงแปรเปลี่ยน “มันตรงกับเรื่องของคุณใช่ไหม คุณธารา” “เธอไม่มีประสบการณ์ ลำดับเรื่องได้อย่างไร” การอ่านเอกสาร เคสต่างๆเรียนรู้เรื่องการผลิต ทำให้เธอคิดได้ แล้วคนที่ทำงานมานานมีประสบการณ์ จะไม่รู้เรื่องเชียวหรือ “ดิฉันเด็กใหม่ รู้แล้วจะทำอะไรได้ ถ้าไม่แจ้งตำรวจ” “เด็กใหม่อยากมีส่วนด้วยไหมละ” พาใจมองคนถามแล้วละสายตาไปที่อีกคน “คุณอนิกก็มีส่วนด้วยใช่ไหม” คนถูกถามเพียงถอนหายใจไม่ได้กล่าวอะไร “แล้วถ้าคุณวิทยารู้ว่าดิฉัน…” “เรื่องนั้นเธอไม่ต้องห่วง” “ดิฉันคงไม่ได้เพียงตอบตกลง แล้วก็ได้ส่วนแบ่งใช่ไหม” “เธอต้องช่วยหาวิธีตอบให้ได้ ว่าทำไมถึงผลิตไม่ได้ตามแผน” “ดิฉันกลับคิดว่า แผนของคุณธาราน่าจะดีกว่า” คนคุมโกดังต้องมีวิธีอยู่แล้ว “ดีที่สุดที่มีคุณเลยพาใจ” เธอเห็นเงาบางอย่างทาบทางเบื้องหลัง หันไปเจออะไรฟาดลงมา ร่างทรุดลง สติวูบดับเธอไม่รู้ ว่าแผนของคุณธาราคืออะไร พาใจค่อยๆลืมตาขึ้น กลิ่นน้ำมันรุนแรงจนต้องเบือนหน้าหนี ประตูเหล็กปิดลง เธอหันตามเสียง มองเห็นเลือนราง ดวงตาของเธอพร่ามัว มือสัมผัสถึงเลือด ‘อาบใบหน้า’ ‘ฉันอยู่ที่ไหน’ เปลวเพลงสีส้มลอดผ่านเข้ามาใต้ประตู ลุกลาม รวดเร็ว แสงเจิดจ้า ทำให้รู้ว่าอยู่ในโกดัง เธอถูกตีที่ศรีษะแล้วนำตัวมาไว้ที่นี่ ‘ไฟไหม้โกดัง’ นี่คือคำตอบว่า ทำไมถึงผลิตไม่ได้ตามแผน เธอพยายามลุก แต่ไร้เรียวแรง ศรีษะแผลฉกรรน์ ไฟลุกโชติขึ้น เธอตกอยู่ในกองไฟ ความร้อนแผดเผาถึงตัว ดวงตาพร่ามัวค่อยๆปิดลง เธอไม่ได้เงินสิบล้าน เธอถูกฆ่า.....อำพราง
|
บทความทั้งหมด
|