นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 4
        พนักงานกรูออกจากลิฟท์ รีบเดินไปประจำโต๊ะทำงานของตน ถ้าเป็นเมื่อวาน พาใจเป็นหนึ่งในนั้น แต่วันนี้เธอต้องขึ้นไป อีกหลายชั้น
                        “อ้าว พาใจ ไม่ออกมาหรือ” เพื่อนร้องทัก เมื่อเห็นว่าพาใจเพียงขยับให้คนในลิฟท์ออกมา พาใจได้แต่ส่ายหัวเธอไมรู้จะบอกกล่าวอย่างไรกับเพื่อนๆ ได้แต่โพลงออกไป
                       “มีธุระข้างบน”
เธอโล่งอกเมื่อประตูลิฟท์ปิดลง ธุระที่เธอว่า เธอยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร เธอเหลือบมองหมายเลขชั้น เตรียมตัวสำหรับการเปิดประตูลิฟท์ครั้งต่อไป
 
                       “พาใจใช่ไหม” ชายวัยกลางคนทักขึ้นทันที ที่เห็นเธอก้าวออกจากลิฟท์
                        “ใช่ค่ะ”
                        “ผมปกรณ์”
            เธอขึ้นมาเพื่อพบคุณปกรณ์คนนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมายืนรอหน้าลิฟท์ คุณปกรณ์เดินนำทางเธอ ผ่านแนว ปาติชั่นสู่ห้องผู้บริหาร พาใจมองหาโต๊ะว่างซึ่งอาจจะเป็นโต๊ะนั่งทำงานของเธอ ชั้นทำงานผู้บริหารดูเรียบร้อย สะอาดตา แต่ละพื้นที่ทำงานมีการกั้นเป็นสัดส่วน ทุกคนนั่งทำงานเงียบๆ จะมีเสียงคุยบ้าง แต่ฟ้งแล้ว ก็ยังสรุป ได้ว่า เงียบอยู่ดี เธอเข้าใจบรรยากาศนี้ ยิ่งใกล้เจ้านาย ยิ่งต้องระวังตัว ทำดีได้ขึ้นเงินเดือน ทำไม่ดีเถูกไล่ออก ง่ายและรวดเร็ว
ถึงหน้าห้องผู้บริหาร ชายกลางคน พูดกับเธอ
          “พร้อมหรือยัง” เหมือนหยั่งเชิง หรือไม่ก็ปลอบใจ
          “พร้อมซิคะ” พาใจยิ้มสู้ตอบโดยมิรู้ตัว เธอไม่พร้อมพบผู้บริหารได้ด้วยหรือ ถึงไม่พร้อมก็ไม่กล้าตอบ อย่างไรก็ต้องเข้าพบ ต้องพร้อมไว้ก่อนเพื่อเรียกขวัญ เรียกกำลังใจ..งานคือเงิน
            คุณปกรณ์ เปิดประตูพาเธอเข้าพบผู้บริหาร
 
               พาใจนั่งลงบนเก้าอี้สาธารณะริมทะเลสาบ ลมโชยแต่เธอกลับไม่รู้สึกแสนสบายไปตามลมนั้น เธอมิได้ นั่งพักผ่อน หากแต่มารอพบคนที่เคยดินหนีจากตรงนี้ เขาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลื่อนตำแหน่ง จาก เจ้าหน้าที่ธุรการระดับปฏิบัติการไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการโรงงานอันเป็นการปรับตำแหน่งข้ามขั้น อย่างน่า สงสัยที่สุด
                              เธอหันมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้
                              “เป็นคุณจริงๆด้วย คุณจำผมได้ไหม”
                              “นี่คุณ” พาใจชักเหลืออดกับการที่เขาแกล้งทำหน้าซื่อกับเธอ ทั้งๆที่ไม่นาน เขาก็แขวะใส่เธออีก
                              “ผมเอง” เขาก้มตัวนิดๆ ส่งยิ้มให้กับเธอ
                              “คุณคือ” พาใจกระพริบตา เธอทักคนผิดอีกแล้ว เขาคือชายหนุ่มที่เธอนำความเรื่อง ฆาตกรรมไปแจ้งถึงบ้าน
                              “คุณอยู่หมู่บ้านนี้ด้วยหรือ”
                              “ค่ะ”
                              “บ้านหลังไหนละ”
                              “เออ”
                              “บอกมาเถอะ คุณกำลังจะมีเพื่อนบ้านคนใหม่นะ”
                              เขาใช้มือทาบที่หน้าอกก่อนแนะนำตัว “ผมชื่อกรกฏ จะมาเป็นเพื่อนบ้านคุณในอีกไม่กี่วันนี้ ผมจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนั้น”
                              ท่าทางการพูดพร้อมโค้งตัวนิดๆแนะนำตัวดูสุภาพอ่อนโยน จนพาใจโค้งกลับให้บ้าง แต่แล้ว เธอก็ตัวแข็งดั่งเดิมเมื่อคิดได้ว่าบ้านหลังใหญ่ทีกล่าวน่าจะเป็นคฤหาสน์นั่น เขาเหมือนรู้ พยักหน้าตอบรับ ความคิดของเธอ
                              “ผมตกลงย้ายเข้ามาอยู่ เพราะผมอยากหาตัวฆาตกร”
                              พาใจฟังชายหนุ่มตอบคำถามในใจของเธอ
                              “ผมไปก่อนนะ รับรองคุณจะได้พบผมอีก”
                              กรกฏมองนาฬิกาก่อนจากไป เขาคงนัดใครในคฤหาสน์นั่น
                             
                              ไม่นานภาณุภาพก็มาพบเธอ หน้าตาบุรุษสองคนละม้ายกัน เธอพอจะแยกออกหากตั้งใจพิจรณา
                              “ให้ผมนั่งลงก่อน เรามีเรื่องคุยกันยาว”
                              ภานุภาพนั่งลงข้างพาใจ ทั้งสองนิ่งเงียบราวคนแปลกหน้า ต้นเหตุนัดพบครั้งนี้ พาใจควร เป็นคนเริ่มเรื่องราว
                              “ทำไมฉันต้องช่วยพวกคุณ” น้ำเสียงเธอติดขัดเธอไม่อยากเอ่ยชื่อหรือ คำพูดใดอันจะพาดเกี่ยว ไปถึงตาแก่นั่นอีก
                              สีหน้าไม่ยี่ระ ของเขาแปรเปลี่ยนไป ผู้หญิงคนนี้เริ่มต่อรองกับเขาทันที่ ทั้งที่ตัวเอง ไม่ได้ มีค่ามีราคา ตามแต่คุณสมบัติของผู้หญิงคนหนึ่ง
                              “คุณจะได้รับเงินสิบล้านบาท”
                              พาใจฟังการเจรานิ่งเงียบ เธอเดาไม่ผิด เธอคือเบี้ยตัวหนึ่งในกระดานเกมส์คนรวย เธอไม่รู้ว่า เจ้านายของเธอและผู้ชายคนนี้วางแผนอะไร แต่เธอรู้แน่ ‘ต้องเกี่ยวข้องกัน’
เขาเข้ามาเสนอตัวช่วย ก่อนที่เธอจะรู้ว่างานคืออะไร การเลื่อนตำแหน่งดูลึกลับ ไม่สมเหตุผลสักเท่าไร
                              “ฉันมีค่าถึงขนาดนั้นหรือ” เธอท้าทาย
                              “ไม่มีค่าอะไรเลย” เขาตอบด้วยแววตาจ้องมอง สิ่งไร้ค่า “แต่คุณมีโอกาส”
             พาใจหัวเราะกับคำพูดของเขา นี่ซิกิริยาแท้จริงของพวกเทวดาจอมปลอม เธอนึกบันเทิง
                              “ถ้ามีความจำเป็น ต้องใช้โอกาสของฉันมากขนาดตีราคาสิบล้าน คุณต้องอธิบายให้ฉันฟัง ว่าฉันอยากมีค่าหรือมีโอกาส”

               ภานุภาพหวลคิดอีกครั้ง ว่าทำไมเขาถึงต้องช่วยเธอ เอาเงินกองให้ง่ายๆก็ไม่รับไว้ นี่ใช้มารยาอะไรอีก แต่สุดท้ายเธอต้องรับเงินเขาแน่ๆ ทว่าผลที่ได้ จะเป็นของเขาหรือไม่ อยู่ที่เขาทำให้เธอเชื่อได้สักเพียงใด ผู้หญิง คนนี้ไม่ได้ง่าย ครั้งที่แล้วเขาเสนอตัวด้วยเจตนาดี แต่ครั้งนี้กลับตรงข้าม
               “ผมขอซื้อข้อมูลบริษัท ไวยตรา จากคุณ โอกาสคือเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด จากเจ้านายของคุณ และที่สำคัญ” เขามองด้วยสายตาเยือกเย็น “ผมไม่ชอบหน้าคุณ พอๆกับคุณไม่ชอบคุณปู่ของผมนั่นละ คุณไม่อยากเข้ามายุ่ง กับบ้านของผม พอๆกับผม ไม่อยากข้องเกี่ยวกับชีวิตคุณ คุณเป็นโอกาสที่ผมจะ ได้ข้อมูลของบริษัทนั้น และผมเป็นโอกาสเดียวที่ ชีวิตคุณจะได้เงิน สิบล้าน”
               เขาปล่อยให้ความเงียบขั้นการสนทนา
               “คุณไม่ต้องรู้สึกเสียเกียรติใดๆกับผม เพราะคุณรู้ดีว่าสำหรับผม คุณไม่มีสิ่งนั้น”
               พาใจมองภานุภาพเรียบเฉย ไม่จำเป็นต้องแสดงสีหน้าสนใจ ประหลาดใจ รำคาญใจ หรือสีหน้าใด ตามแต่ปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์พึงกระทำ เขาพูด เธอฟัง เท่านั้นก็จบ กับเขา เธอไม่จำเป็นต้องมีพันธะทางสังคม ต้นไม้ใบหญ้ายังดูมีชีวติชีวากว่าคนทั้งสองเจรจากัน จบการสนทนา คือสิ้นการเจรจา ไม่มีข้อตกลง ไม่มีการขานรับ แต่กลับมีการแลกเปลี่ยน
               พาใจเตรียมเข้ารับหน้าที่ในตำแหน่งงานใหม่ ภาณุภาพคอยแนะนำอยู่เบื้องหลัง เงินสิบล้าน แลกกับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว รอแต่เพียงว่า มันจะใช้เวลานานเท่าใดที่พาใจจะได้รับเงิน
 
               เริ่มงานวันแรกเธอต้องหอบงานกลับมา ทำต่อที่บ้าน
               “ในขั้นแรก คุณต้องศึกษาข้อมูลในอดีตให้รู้ทั้งหมด” เขาบอกงานบทแรกกับเธอ
 
               เธอวางแฟ้มงานลงบนโต๊ะไม้ตัวใหญ่ เธอคิดว่าน่าจะเป็นไม้สัก บ้านคนรวยถ้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ ก็ต้องไม้สักไม่ใช่หรือ บ้านหลังโตของเธอ มีห้องทำงานขนาดใหญ่ เธอมักปิดประตูห้องไว้ เพื่อกันฝุ่นเข้า และนานๆ จะเปิดเข้ามาสำรวจมดปลวก ว่าจะสร้างรังไว้หรือไม่
               ห้องทำงานที่บ้านเธอ ใหญ่กว่าห้องผู้บริหารของเธอ สักสองเท่าได้กระมัง ทำให้แฟ้มงานหอบใหญ่ที่เธอแบกมานั้น ดูน้อยลงถนัดตา เก้าอี้ทำงานตัวใหญ่นั่งสบาย บริษัทของเธอน่าซื้อเก้าอี้แบบนี้ ให้พนักงานทุกคนนั่งทำงานบ้าง มันจะทำให้ ได้งานเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะพนักงาน ไม่ต้องลุกขึ้นมา เอี้ยวตัวบิดเอว ยืดเส้นยืดสาย จาการปวดเมื่อย จากการคุดคู้อยู่ในเก้าอี้ทำงานตัวเล็ก
             พาใจวางเรียงแฟ้มทั้งหมด ไว้บนโต๊ะ เธอจะเริ่มเปิดจากแฟ้มไหนก่อน เธอนึกถึงภานุภาพขึ้นมา พร้อมๆกับเงินสิบล้านบาท  เอกสารที่วาง อยู่ตรงหน้าเธอนี่ละ มีมูลค่าถึงสิบล้าน พาใจหยิบแฟ้มหนึ่งขึ้นมา เปิดออกอ่านอย่างตั้งใจ เธอมีเงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทเป็นทุน แต่ใจยังคงคิดไปว่า มันมีโอกาสหมด หากเธอใช้มันผิดวิธี แต่ถ้าเธอเพิ่มเข้าไปอีกสิบล้าน เธอจะใช้มันได้อย่างสบายใจกว่านี้ เธอจะซื้อบ้านหลังเล็กสักหลัง เงินที่เหลือก็เอาไว้เป็นทุน ส่วนจะเลี้ยงชีพ ด้วยวิธีใดนั้น ลูกจ้างหรือเปิดร้านขายของ ก็คงเป็นลูกจ้างไปก่อนนั่นละ เธอไม่มีความคิดเรื่องการค้า การขายเลย แม้แต่น้อย ชีวิตที่ผ่านมา ขอแค่มีงานมั่นคง มีเงินต่อเดือนแน่นอน แม้กระนั้น เธอยังคงดำรงชีวิตลุ่มๆ ดอนๆมาตลอด   
             พาใจทอดถอนหายใจเลื่อนอีกแฟ้มเข้าหาตัว เปิดออกอ่านสักครู่ ก็เป็นอันต้องละสายตา เธอไม่สามารถ ปะติปะต่อข้อมูลเหล่านี้ได้ จะทำอย่างไรดี ให้นายภานุภาพ นายสิบล้านนั่นมาชื้ทางให้เธอดีไหม
               เสียงกริ๊งประตูดังขึ้น ราวสัญญานบางอย่าง พาใจไม่คุ้นกับเสียงนี้สักเท่าใดนัก นับแต่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่ ไม่เคยมีใครมาหาที่บ้าน มีแต่กดฟังตามรอบซ่อมบำรุงเท่านั้น
               เธอออกไปหน้าประตูพบกับ นายสิบล้าน ยืนยิ้มนอกประตูร้้ว
               “สวัสดีครับคุณพาใจ” เขาก็มีมารยา ไม่น้อยไปกว่าเธอ
               พาใจส่งยิ้มมารยาตอบ เพียงเล็กน้อย ด้วยรู้เหตุที่เขาต้องแสดงมารยา ด้วยมีผู้อื่นติดตามมา
               “ผมพาช่างมาดูประตูรั้ว ว่าจะทำการซ่อมมากน้อยขนาดไหน มาค่ำสักหน่อยอยากให้คุณอยู่ด้วยจะได้คุยกัน”
               พาใจเปิดประตู ปล่อยให้ช่างทำงาน
               “ขอผมเข้าห้องน้ำได้ไหมครับ”
               “อยู่ชั้นสองขวามือค่ะ” พาใจตอบ
               ช่างใช้เวลาตรวจประเมินไม่นาน ภานุภาพก็เข้าไปในบ้านไม่นานเช่นกัน เธอยืนคุยกับช่างเมื่อเขากลับออกมา
               “เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”
               “เรียบร้อยค่ะ” เธอตอบ
 
               ห้องชั้นสองขวามือ คือห้องทำงาน พาใจกลับเข้าห้อง พบแฟ้มเอกสารวางเรียงลำดับใหม่ นายสิบล้านเตรียมไว้ให้เธอ เธออ่านข้อมูลทุกแฟ้มจนดึกดื่นแต่ยังมีหลายจุดที่เธอยังไม่เข้าใจ เธอเขียนมันลงบนกระดาษ เพื่อหาวิธีทำให้เข้าใจภายหลัง พาใจเอ๋ยเงินอีกสิบล้านอยู่แค่เอื้อม หลังจากได้มาแล้วเธอก็ไม่ต้องกลัวว่าใครๆจะมาเวทนาเธออีก เธออาจได้เวทนาเขาเหล่านั้นกลับด้วยซ้ำ หากเธอต้องการ
 



Create Date : 12 กันยายน 2567
Last Update : 12 กันยายน 2567 13:30:32 น.
Counter : 132 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
สุดไม่เคย...เลยตลอด จันทราน็อคเทิร์น
(26 พ.ย. 2567 12:29:44 น.)
คอนโด Duplex ก้าวข้ามขีดข้อจำกัดของการอยู่อาศัยในคอนโด สมาชิกหมายเลข 8284846
(25 พ.ย. 2567 09:59:18 น.)
๏ ... BANGKOK ... ๏ นกโก๊ก
(25 พ.ย. 2567 00:55:12 น.)
บทที่ 2 - นิยายชีวิต ดอยสะเก็ด
(23 พ.ย. 2567 11:08:16 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bluetheme.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



madam payee
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด