นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 33 พาใจเดินไปป้ายรถสาธารณะ แม้หลังเวลางาน การช่วยผลิตทำให้คนงานและพนักงาน หนาตา เธอเดินเลียบทาง บางช่วงต้องหลบรถที่พึ่งออกจากบริษัท รถคันหนึ่งบีบแตร เธอเบี่ยงตัวหลบ หากแต่รถมิได้ขับตรงไป กลับเทียบจอด คนในรถลดกระจกลง ‘นายสิบล้าน’ “เราไปทางเดียวกัน” เขากล่าว นายภาณุภาพ มาพบคนในไวยตรา พบใคร พาใจไม่อยากรู้ เขาผู้บริหารอิทธิลักษณ์ เจอกันที่นี่ เวลานี้ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เขา ยังบริหารอยู่อย่างนั้นหรือ ได้ยินว่าไปทำงานอื่น เขาเลี้ยวรถเข้าลานจอดรถสวนสาธารณะ ใกล้หมู่บ้าน เขาและเธอเดินผ่านทาง ต้นไม้สูงใหญ่ นายภาณุภาพนั่งลงบนม้านั่งตัวหนึ่ง เธอยืนรอคำสนทนา “ผมเตรียมเงินให้คุณแล้ว” พาใจรับฟัง ความต่อ “จากข้อมูลทั้งหมด รอแค่ลงมือ” “หรืออาจไม่ลงมือ ทางคุณคุมเข้ม” “ก็เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น” “แค่รอ” “ระหว่างรอนี่ละสำคัญ คุณต้องระวังข้อมูลของผมให้มาก” เขามิได้บอกเธอระวังตัว ให้ระวังข้อมูลที่เธอหาให้เขาเท่านั้น เธอมิได้ใส่ใจ เธอแค่ต้องระวัง “คุณได้รับเงินแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลง” เขาลุกขึ้น มองเธอ สายตาของเขายังปรามาส เพียงแต่เหมือนอ่อนแรง เขาเดินกลับไปตามทาง การสนทนาจบลง เขาและเธออยู่บนเส้นทางเดียวกันอย่างนั้นหรือ ทำไมเธอต้องสนใจ แค่ได้ข้อมูลมาเท่านั้น เธอมีโอกาส ดังเขาเคยกล่าว โอกาสได้เงิน สิบล้าน บัดนี้ใกล้เข้ามาทุกที ท้องฟ้ารู้ว่าคุณภาณุภาพมาบริษัท แต่ห้องทำงานยังปิดไฟ คุณกรกฏก็ด้วย ห้องทำงานเปิดไว้แต่เจ้าตัวไม่อยู่เช่นกัน “ท้องฟ้า วันนี้มีประชุมหรือ” พี่คนหนึ่งถาม “ไม่มีนะครับ” “ทางโอเปอร์เรเตอร์ไล่โทร เห็นผู้ถือหุ้นทยอยกันมา ฝ่านต้อนรับเขาไม่ได้เตรียมการ” “นัดนอกรอบไม่เป็นทางการหรือเปล่าครับ” “เห็นว่า ใช้ห้องประชุมใหญ่” “หรือว่าเป็นเรื่องนี้” พี่อีกคนเรียกมาดูข่าวบนจอคอมพิวเตอร์ หน้าข่าวเศรฐษกิจ กรอบวงใน ‘ไวยตราแต่งตัวเก้อ อิทธิลักษณ์ขอตรวจดีเอ็นเอตัวเองก่อน ทายาทอาจมิใช่ตัวจริง’ “อะไรกัน ไม่ใช่ตัวจริง” คนหนึ่งทัก หลังจากอ่านข่าว พนักงานทุกคนต่างจ้องหน้าจอ ค้นหาข้อมูลเป็นการใหญ่ เสียงโทรศัพท์ดังเป็นระยะ จนถึงช่วงสายมี บันทึกประกาศจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ ถึงเรื่อง ที่เป็นข่าว ‘ข่าวเรื่องภายในของตระกูลอิทธิลักษณ์เป็นเรื่องส่วนบุคคล จะไม่สงผลต่อการถือหุ้นและการบริหารของกิจการ ขอให้ทุกท่านรอฟังประกาศต่อไปจากบริษัทฯเท่านั้น ขอให้พนักงานทุกท่านทำหน้าที่ตามปกติ’ ประกาศคลายความวุ่นวายได้บ้าง แต่ไม่คลายความกังวล สงสัย การจับกลุ่มสนทนา ยังคงมีขึ้นหากแต่เบาเสียงลง ท้องฟ้าได้แต่คิดว่า ใครปล่อยข่าว อิทธิลักษณ์ ภูมิใจในตราประทับว่าเป็นตระกูลนักธุรกิจ จุดแข็งนี้บางทีคู่แข่งใช้เป็นจุดอ่อนโดยมิรู้ตัว ตลอดทั้งวันทุกคนพยายาม หาข่าวเพิ่ม ต่างสันนิษฐานกันไปต่างๆนาๆ ตกเย็นคุณภาณุภาพ เดินเข้ามาที่ฝ่ายพร้อมคุณกรกฏ พนักงานต่างมองเป็นตาเดียว ทั้งสองหายเข้าไปในห้องทำงานของตน สายตาพนักงานย้ายมามองที่เขาแทน จนเขาก้มหน้าทำงาน ทำทุกอย่างเหมือนเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เพียงไม่นาน “ท้องฟ้า” เสียงเรียกคุ้น “ครับ” เขาขานรับ รีบไปที่ห้องคุณภาณุภาพ ในห้องเขาเห็นเจ้านายกำลังเก็บของ “ถ้ากรกฏอยากดูรายงานอะไร นายหยิบในห้องนี้ได้เลย” “ครับ” “แล้วนายก็หาเวลาพักร้อนบ้างนะ” เจ้านายกล่าว คุณภาณุภาพเปิดลิ้นชัก หยิบเอกสารสองสามอย่าง ใส่กระเป๋าหนัง เก็บรูปถ่ายที่เคยไปดูงานแล้วถ่ายคู่กับเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ ปากกาเซ็นต์งานคู่ใจ ด้วยชอบสีน้ำหมึก ท้องฟ้ามอง รู้ว่า การเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว อยู่ตรงหน้าเขา แม้เขาไม่อยากยอมรับ มันถึงการณ์เปลี่ยนแปลง “คุณภาณุภาพ ไปพักร้อนหรือครับ” เจ้านายยิ้มให้กับเขา ไม่มีทางที่ผู้ช่วยคนนี้จะไม่รู้ว่า เขาไปไหน “ใช่ ฉันไปพักร้อน” เจ้านายเก็บกล่องนาฬิกาข้อมือไทแทเนียม ของขวัญจากลูกค้าต่างประเทศ แต่แล้ว กลับมอบมันให้เขา “เอาไปใช้ ชอบไม่ใช่หรือ” เขาชอบจริง คอยเหลือบมองประจำตอนมาคุยงาน “อย่าดีกว่าครับ ของแพงอย่างนี้ ผมแค่คนงานโรงงาน” “ฉันก็เหมือนกัน เลยวางไว้อย่างนี้ไง” เจ้านายหัวเราะอารมณ์ดี เขาพลอยหัวเราะไปด้วย เขายินดีเห็นเจ้านายในสภาพนี้มากกว่า เจ้านายสั่งงานเขาอีกสองสามอย่าง ท้องฟ้าเดินออกจากห้อง ด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงนี้ เหตุใดมีรอยยิ้ม เขายิ้มให้กับเรื่องราวใดกัน อดีต ปัจจุบัน แล้วหากเป็นเรื่องราวอนาคตเล่า เขายังมีรอยยิ้มอยู่อีกหรือไม่ ในวันนี้เขามีรอยยิ้มนั่นดีที่สุดแล้วมิใช่หรือ พาใจดูรายงานสินค้า จากโรงงานเทียบการคำนวณ ตัวเลขไม่แตกต่าง และเป็นเลขเดียวกับที่ส่งให้ทางอิทธิลักษณ์ เธอไม่รู้ว่า ที่นายสิบล้านให้รอ คือ รออะไร “พาใจ พิมพ์เอกสารที่ผมส่งให้แล้วตามผมไปหาพี่องอาจ” คุณวิทยาเดิมมาบอกเธอที่โต๊ะ “ค่ะ” เธอสังเกตุว่าเอกสารในมือคุณวิทยา เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นเล่มรายงานแต่ไม่มีชื่อเรื่อง เธอขึ้นถึงชั้นผู้บริหารระดับสูง ออกจากลิฟท์ เลขาหน้าห้อง ส่งสัญญาณให้หลบทางด้วยแขกกำลังกลับ ‘ประธานบริษัทอิทธิลักษณ์’ พาใจยืนรอมุมหนึ่ง เพียงยืนนิ่ง ไม่โน้มตัวดังแขกผู้ใหญ่คนอื่น หากแต่ เทวดาตนนี้ไม่เห็นเธอ ว่าเถอะไม่เคยมองมุนุษย์ในสายตาอยู่แล้ว ทำไมเธอต้องสนใจ ในห้องทำงานใหญ่ คุณวิทยารับเอกสารจากเธอ เปิดทวนรอคุณองอาจกลับจากส่งแขก “เรามีเวลาเท่าไรครับพี่” คุณวิทยาถามทันที ปิดประตูห้อง หลังกลับจากส่งแขก “มีเวลามากพอละกัน” “แต่ผมว่างานนี้เสี่ยง ทางนั้นจับตาดูตลอด” “ทางนั้นยังยืนกรานเข้าบริหาร” “ต่างอะไรกับซื้อเราละ” “เหมือนผู้ถือหุ้นเราเริ่ม คล้อยตาม” “รอปล่อยอีกข่าวก่อน แล้วจะเปลี่ยนใจ” “ผมทำตัวเลขมาให้พี่แล้ว” คุณวิทยาส่งรายงานในมือให้ รายงานไม่มีชื่อเรื่อง คุณองอาจรับเอกสาร เปิดอ่าน “เครื่องจักรติดตั้งใหม่ ทำให้มีเวลารอบละ ห้าวัน เราอาจต้องลดปริมาณขนออก เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย” “แต่มันจะคุ้มหรือพี่” “ก็ดีว่าไม่ได้อะไรอีกอย่างปลายทาง เขามีวิธีฟันกำไร” “ไม่รู้สิ ผมว่า ทั้งนั้นเขาจ้องเราอยู่โดยเฉพาะ นายภาณุภาพ” “เดี๋ยวคงไม่อยู่จ้องแล้วกระมัง” “แล้วทางตรวจสอบ” คุณวิทยาให้เธอรายงาน “รอบตรวจบ่อยขึ้น ด้วยห่วงว่าโกดังสินค้าจะนับรวมปนกับสินค้าของเรา” เธอส่งตารางตรวจให้ “ผมเทียบตารางตรวจกับวันที่เราจะทำการได้ในรายงาน เพื่อเลี่ยง ถ้าทางนั้นพร้อมก็ให้ใช้วันตามนั้น” คุณวิทยากล่าว พาใจรู้ในวันนี้ ว่ารอ คือรออะไร เพียงเธอไม่รู้วันเวลา ที่รอ ผู้บริหารทั้งสอง สนทนาเหมือนเรื่องชิงผลประโยชน์นี้เป็นหนึ่งในการทำงานปกติ รอยรั่วควรปิดมิใช่ ค้นหาเพื่อรอตักตวง พาใจเธอคิดเช่นนี้ได้อย่างไร เธอเองที่ตักตวงไม่น้อยไปกว่าคนอื่นมิใช่หรือ ที่เธอรับซองน้ำตาล กล่องขนม นั้น มิใช่เป็นการช่วยหารอยรั่วหรืออย่างไร ท้องฟ้าถอยรถออกจากลานจอด เห็นรถคุณภาณุภาพแล่นผ่าน โบกมือให้เขาจากด้านใน เขามองภาพนั้นจนลับตา ราวกับเขาจะไม่เห็นภาพนั้นอีก เป็นไปได้หรือไม่ เจ้านายแค่ไปพักร้อน ไม่นานก็กลับ เขาคิดเข้าข้างตัวเองอีกครั้ง ครั้งนี้ ไม่มีผิดหรือถูก เขาอยากให้เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาขับรถแล่นไปตาม ทางเดียวกัน ต่างแต่ ต่างมีเส้นทางของตน เขามาตามเวลาในวันนี้ นั่งรอในความเงียบ ในหัวของเขาไม่สามารถคิดอะไรได้ มันตื้อไปหมด เขาไม่รู้ร้อน หนาว ฝุ่นควันริมถนนใหญ่ เขาไม่มีความคิดอะไรเลยจริงๆ มีเรื่องมากมายจนเขาไม่อยากคิดอะไร เขาเห็นพาใจเดินมาหา คว้าหมวกกันน็อคด้วยคุ้นเคย การขยับร่างกายทำหัวใจของเขาเต้นอย่างนั้นหรือ เขาเห็นเธอชัดกว่าทุกครั้ง เธอรับหมวกไปจากเขา ขึ้นซ้อนท้าย เขาขับรถออกโดยรู้สึกตลอดว่ามีเธออยู่ด้านหลัง ทุกครั้งเขาคิดเพียงมุ่งหน้าตามเส้นทาง ตอนนี้กลับตรงข้าม เขาเป็นอะไรไป เขาส่งเธอที่เดิม การจากลายังคงความเงียบ พาใจคืนหมวกกันน็อค เดินไปตามทาง หัวใจเขากลับเต้นแรง จนเขาต้องจับหน้าอก ว่าที่เขารู้สึกมันจริงหรือไม่ นายท้องฟ้า ใจนายเต้นแรงจริง จนพาใจเดินลับตา มันจึงเบาลง นายมีเรื่องต่างๆมากมายให้ครุ่นคิด จนไม่รู้ว่าเรื่องที่นายไม่ได้คิด มันกลับทำให้นายรู้สึก มากที่สุด เขาคิดได้ว่าควรหาเวลาพักร้อนจริงๆ |
บทความทั้งหมด
|