นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 17 พาใจนั่งอยู่โต๊ะทำงานของเธอมาได้สามวัน ทำงานเอกสารซึ่งหลักๆ เป็นเรื่องการเคลมประกัน จากเรื่อง โกดังสินค้า บริษัทจัดงานเล็กๆในโรงอาหารเลี้ยงต้องรับการกลับมาของเธอ แถมยังมอบเงินปลอบขวัญ ให้อีกจำนวนหนึ่ง มันเป็นพิธีหรือวิธี พาใจไม่แน่ใจ เรื่องคุณธาราก็เช่นกัน กลับถูกกระพือ เป็นคนผิดคิดร้าย ประการใหญ่ เหมือนมุ่งเป้าให้เป็นคนร้ายแต่เพียงผู้เดียว แต่เธอจะสนใจอะไรกับข่าวเท็จหรือลวง เธอสนใจอยู่เพียง เรื่องเดียวในตอนนี้ ‘คุณวิทยา จะจ้างเธอต่อหรือไม่’ ไม่นานเจ้านายที่เธอนึกถึง เรียกเข้าพบ ในห้องทำงาน เธอสังเกตุเห็นบนโต๊ะคุณวิทยา มีเอกสาร รูปถ่าย วางเรียงราย คุณวิทยาวางเอกสารใบหนึ่งก่อนหันมาคุยกับเธอ “อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง” “ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่บางทีมีอาการหน้ามืด” “เธอ โชคดีนะ” “ค่ะ” คุณวิทยา หยิบแฟ้มบางขึ้นเปิดอ่าน “คนในโรงงานบอกว่าเห็นเธอไปหาอนิกในวันนั้น” “และเธอเป็นคนที่อยากแจ้งตำรวจ” “เธออยากรู้วาฉัน มีส่วนด้วยหรือไม่ ใช่ไหม” พาใจเตรียมการนี้มาบ้างแต่พอเอาเข้าจริง กลับไม่ใช่การณ์ง่าย เธอจะลงในเกมส์คนรวย หรือ จะสร้างเกมส์ของเธอเอง ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ต้องเลือกสักเกมส์ “ดิฉันแค่อยากทำงานที่นี่ต่อก็เท่านั้น” คุณวิทยายิ้มมุมปาก ปิดแฟ้มโยนลงบนโต๊ะทำงาน “ก็จริงอยู่ ใครๆก็อยากทำงานที่นี่ เงินดี สวัสดิการดี แต่….เธอไม่กลัวเหรอ” คุณวิทยาหยิบรูปถ่ายโกดังไฟไหม้ ที่ทางฝ่ายช่างส่งมาให้ทำเรื่องเคลม พาใจมองภาพที่แทบไม่เหลือ ซากให้เห็นว่าเคยเป็นโกดังมาก่อน “กลัวซิค่ะ” “กลัวอะไร” คุณวิทยาจ้องมาที่เธอ “กลัวจะได้กลับไปทำงานตำแหน่งเดิม ทั้งๆที่คิดว่าสามารถทำงานนี้ได้” คนตอบจ้องหน้าเจ้านายผู้กำลังตัดสินเธอ คุณวิทยาหยิบรูปต่างๆขึ้นมาดู แล้วหยุดที่รูปใบหนึ่ง “แต่ดิฉันไม่มีอะไรให้คุณวิทยาต้องกลัว” “ฉันจะแน่ใจได้อย่าไร” “คุณวิทยาเลือกดิฉันทำงานนี้เอง ดิฉันคิดว่า ถ้าเลือกอีกครั้งผลจะไม่ต่างจากเดิม” คนฟังมองครุ่นคิด “กลับไปทำงานต่อเถอะ” เธอได้ทำงานต่ออย่างนั้นหรือ พาใจไม่แน่ใจ คุณวิทยาจะฝึกใครขึ้นมาก็ได้ บางทีอาจล้างไพ่ใหม่ ตำแหน่งนี้ไม่ต้องการคนเก่ง ต้องการแค่คนในอย่างนั้นหรือ แล้วเธอนับได้ว่าเป็นคนในหรือยัง ก่อนออกจาห้องพาใจเห็น คุณวิทยาโยนรูปลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย มันเป็นรูปเครื่องจักรถูกไฟไหม้ ‘ทำไมเครื่องจักรจึงอยู่ในโกดังสินค้า‘ ภาพใบนั้นทำให้เธอกลายเป็นคนใน ใช่หรือไม่ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------- แก้วน้ำหวานสีแดงในมือ พร่องลงครึ่งหนึ่ง พาใจแวะซื้อตอนลงรถที่ป้ายรถเมล์ เธอจำต้องโดยสารรถ สาธารณะ สักพัก ด้วยรถของเธอยังติดอยู่ที่สถานีตำรวจ ที่กรุณาช่วยลากไปเก็บไว้ให้ แต่พอจะไปขอคืน กลับติดเรื่องเธอไม่ใช่เจ้าของ มันเป็นรถของ นุราเพื่อนของเธอ หรือเธอจะซื้อรถใหม่สักคัน ความคิดผุดขึ้น ในหัว นี่ไงเล่าพาใจ เธอไม่ชอบความคิดนี้ ความคิดว่า เธอจะใช้เม็ดเงินที่ได้มาไปในทางฟุ่มเฟีอย เธอจะซื้อ รถใหม่ เพื่อมาแทนที่รถเก่ายังใช้ได้อยู่นะหรือ เดิมเธอไม่เคยมีความคิดซื้อรถเลย เพราะเธอไม่มีปัญญา ตามคำประสาชาวบ้าน แล้วตอนนี้เธอมีปัญญาแล้วหรือ แค่เธอมีเงินก็มีปัญญาขึ้นมา กระนั้นหรือ เธอจน กระเบียดกระเสียนใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ใช่ต้องใช้ปัญญาขนานใหญ่หรอกหรือ เธอเดินเรื่อยๆเข้ามาในสวนสาธารณะ ทิ้งแก้วน้ำช่วยเธอสดชื่น ลงถังขยะ เดินไปหย่อนตัวลง บนม้านั่ง พร้อมรับคำทักทายจากผู้มาก่อน “เธอมาช้า” “มัวแต่ติดอยู่ในกองเพลิง” “ฉันเตือนแล้ว” “และไม่ต้องเตือนซ้ำอีก” พาใจเห็นรอยยิ้มประชันสะใจจากนายภาณุภาพ เขาคงคิดภาพเธอตกอยู่ในกองเพลิงซ้ำแล้วซ้ำแล้ว แต่ก็เถอะพาใจจะสนใจทำไม สุดท้ายเธอก็มาอยู่ตรงนี้ไม่ใช่หรือ “เหมือนไฟแทนที่จะทำร้ายเธอ กลับไล่ต้อนเข้าวงใน เธอต้องทำงานต่อ ไม่อย่างนั้นที่ทำมา คือไม่สำเร็จ” “ฟังเหมือน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดิฉันแล้ว” นายสิบล้านยิ้มอีกครั้งให้กับเชิงที่สูญเสียไป เขาปรามาสเธอไม่ได้ “แต่ผมยังเป็นคนจ่ายเงิน” “คุณได้จ่ายเงินแน่ คุณภาณุภาพ” “ผมต้องการข้อมูลเรื่องคน” “ใครบ้าง” “ทุกคน” “มันจะใช้เวลานานกว่าเดิม” “ผมรอจ่ายเงินได้” คนจ่ายเงินคงคิดว่า แค่จ่ายก็จะได้อะไรมาง่ายๆ พาใจเอ๋ยเธอต้องเจ็บปวด เสียขวัญอยู่ฝ่ายเดียว เพียงเพื่อ รอรับเงินอย่างนั้นหรือ มันไม่ได้ใช้ความสามารถเพียงอย่างเดียวที่จะได้มันมา มันต้องใช้วิญญาณคร่าชีวิต ด้วยนะเธออย่าลืม นายภาณุภาพคุยธุระของเขาเสร็จแล้ว ก่อนจากเธอเห็นรอยยิ้มยินดีปรากฏ หว่านเงินแล้วได้ผลแห่ง ประโยชน์ ก็ควรปรากฏรอยยิ้มเช่นนั้น ทั้งสองจบการสนทนาด้วยการเริ่มใหม่อีกครั้ง พาใจรู้ว่าการเขียนรายงานเคลมประกัน จะเป็นน้ำหนัก ทำให้เธอได้ทำงานต่อ หากเธอเรียกเม็ดเงินได้ตามบริษัทต้องการ เธอควรให้นายสิบล้านช่วย แต่ทำไม เธอกลับ คิดอีกทาง คิดไปถึงอีกคน ความคิดเธอสันคลอนหรือหนักแน่น เธอไม่มีเวลาชั่งใจ เกมส์คนรวยเดินต่อ พาใจ ปรากฏในกระดานอีกครั้ง เธอจะเปลี่ยนจากหมากเดินเป็นผู้เล่นได้หรือไม่ ขากลับ พาใจพบอีกคนที่เหมือน อยากพบเธอจริงๆ “ผมรู้ว่าพบตัวคุณยาก แต่ไม่คิดว่าคุณจะซ่อนอยู่ในกองไฟ” กรกฏทักขึ้นทันที่พบหน้า “ฉันซ่อนตัวจากคุณได้ด้วยหรือ” “ถ้ารู้ว่าอย่างไรผมก็หาคุณพบ ก็อย่าคิดซ่อนละกัน” เขาส่งถุงกระดาษให้กับเธอ “ของเรียกขวัญ” พาใจมองถุงกระดาษมัน สีสดใส “พวกขนมหวานๆ ใส่กล่องสวยๆ” “คุณไม่ได้มาพบฉันแค่เรียกขวัญใช่ไหม” “ทำไมคุณเลือกวันนั้น พาใจ” “มันตรงกับวันที่คุณหมดเนื้อหมดตัวนะหรือ” “คุณรู้ตัว ฆาตกร” “หรือฉันอาจเป็น ฆาตกร” “แต่คุณได้รับจดหมาย” “แล้วคุณก็เชื่อ” “คุณบอกผมให้ไปที่บ้านหลังนั้น” “หรือแค่คุณ อ้างคำบอกของฉัน คนสิ้นเนื้อประดาตัว รู้ว่ามีสมบัติที่อ้างได้ว่าเป็นของตน คุณต้องไปที่นั่นอยู่แล้ว” พาใจเห็นรอยยิ้มกรกฏ มันน่ามอง เขายิ้มให้กับเรื่องราวสนทนาหรือยิ้มให้กับตัวเอง “คุณไม่อยากให้ฉันเป็น ฆาตกร ใช่ไหม หรือไม่ก็คุณมีฆาตกรในใจอยู่แล้ว” “ผมไม่อยากให้เป็นคุณนะ พาใจ” พาใจมองรอยยิ้มที่หายไป หน้านิ่งดูคมเข้ม คล้ายใครอีกคน ที่เธอนึกถึง “คุณทะเลาะกับคุณปู่ในวันนั้น เห็นอะไรผิดปรกติหรือไม่” “คุณกรกฏ ฉันเป็นคนแปลกหน้าเข้าไปในบ้าน ฉันนี่ละสิ่งผิดปรกติ” เขามองพาใจ อย่างผิดหวัง เธอไม่เคยให้ความหวังอะไรกับเขา “คุณทำหรือเปล่า พาใจ คุณลงมือ……” “คุณกำลังหาหลักฐาน ฉันเป็นพยานให้คุณไม่ได้หรอกนะ” นัยย์ตาเขาเศร้า มองเธออย่างไร้ความหวัง “ถ้าอย่างน้้น คุณจะได้เจอผมอีก” กรกฏกล่าว เธอพบเขาเพื่ออยากให้ช่วยงาน แต่พอได้เจอ เธอพบว่ากรกฏคงไม่มีแก่ใจช่วยอะไร กลับมีอีกคน เธอคิด มีหมากอื่นมาช่วยเธอเดินกระดาน หมากที่เธอคิดว่าจัดการได้ไม่ยาก พาใจถือถุงสีสวยเดินกลับบ้าน ป้ายรถโดยสารอยู่ข้างหน้า เธอเดินเอื่อยด้วยใกล้หมดแรง เธอกลับมา ทำงานเร็วเกินไป ควรพักให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้ เธอคิดว่าเธอทำงานไหวแต่พอทำงานจริง แม้นั่งทำเอกสาร แต่ที่โต๊ะ กลับทำเธอล้า ถุงในมือร่วงหล่น พาใจก้มมอง กลับเห็นเป็นคนคว้ามันไปถือ “ไปกับผม” ท้องฟ้า เห็นเธอเดิน อยู่ริมทาง จึงขี่มอเตอร์ไซด์มาเทียบข้าง เธอยังไม่รู้ตัว “ผมไม่ได้จ่ายเงินหนึ่งล้าน ให้คุณมาเดินชมวิว” พาใจไม่ตอบรับว่าไปด้วย แต่เขาดึงเธอขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์ เอาถุงกระดาษห้อยไว้ตรงที่จับ เธอเหนื่อยมากจึงไม่อยากต่อคำ แรกท้องฟ้าจะคุยเรื่องงาน พอเห็นเธอหลับพิงหลังเขาก็เปลี่ยนใจพาไปส่งที่บ้าน เขาไม่รู้ว่าเป็นบ้าน หลังไหน รู้แต่หมู่บ้านเดียวกับคุณภาณุภาพ ถ้าเขาไปส่งถึงหน้าบ้าน เกิดเจ้านายเห็น การณ์ของเขา อาจ แปรเปลี่ยน เขาจอดรถริมทาง พาใจยังคงหลับตา ใครจะคิด ผู้หญิงหลับตากอดกระเป๋าถือพิงเขาอยู่นั้นคือ อสรพิษ บางทีเขาสงสัยเงินหนึ่งล้านเขาใช้มันเป็นเซรุ่ม ได้นานสักเพียงใด เธอลืมตาขึ้น เขาส่งถุงดาษให้ จับเธอลงจากรถ แน่ใจว่าเธอยืนมั่นจึงเริ่มสนทนา “คุณกับฉันมีเจ้านายเดียวกัน” เธอเริ่มก่อน “มันควรเป็นอย่างนั้น” เขาจำถุงในมือของเธอได้ ตอนกลางวันมันวางอยู่บนโต๊ะเจ้านายใหม่ของเขา เจ้านายที่เธอหมายถึง คงทั้งสองนาย มารยาเธอโปรยทั่ว “เรื่องรถ พี่ตำรวจจะรีบทำเรื่องคืนให้ ตอนนี้ ไป กลับ กับผมก่อน” อสรพิษอ่อนแอ ก็ยังพ่นพิษ เขารู้ แต่อสูญร้ายตนนี้กินเงินเขาเข้าไป เขาต้องแน่ใจว่าเธอจะพ่นพิษ ให้กับงานของเขา |
บทความทั้งหมด
|