นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 23 พาใจมาถึงนัดก่อนเวลา เธอสั่งน้ำหวานและเครื่องดื่มรสเข้ม หมายคืนนายท้องฟ้าที่เคยสั่งให้เธอ และยังมีขนมเค้กสีสวยด้วยเธอชอบสีสัน ท้องฟ้ามาถึงก็วางเอกสารทั้งหมดคืน โดยชุดสุดท้ายเป็นเอกสารที่เขาร่างรายงาน พาใจเปิดอ่านคร่าวๆ หาจุดที่เธออาจไม่เข้าใจ ท้องฟ้าดื่มน้ำสีเข้ม เขานั่งรอ ผู้หญิงชื่อพาใจ ขายข้อมูลบริษัทตัวเองอยู่ ใช่หรือไม่ ครั้งนี้ เหตุใดเขา ช่วยเธอ เขาอ้างกับตนว่าช่วยเจ้านายภาณุภาพอย่างนั้นหรือ เขาหลงในมารยาเข้าแล้วอย่างนั้นหรือ เขาระวังตัว แล้วกับอสรพิษ หากแต่เขาถูกพิษพ่นใส่เมื่อใดกัน งานที่เธอทำแทนเขา เรียบร้อยดี เขาได้รับไฟล์งานเมื่อคืนนี้ เพียงแค่ปรับแต่งเนื้อหา ก็เท่ากับว่าใช้ได้ “อาทิตย์หน้าจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง” ท้องฟ้ากล่าว “ในรายงานเพิ่ม ข้อต่อรองต่างๆ เพื่อให้ผู้บริหาร ตัดสินใจ” พาใจเปิดดูเอกสารตามคำกล่าว “หากมีใครถาม เธอแค่ตอบว่า ลองทำ” การเพิ่มข้อต่อรองทำให้พาใจต้องทำความเข้าใจแต่ละข้อ ดีที่เธอสั่งเค้ก ความหวานเหมือนคำปลอบ ประโลม ให้เธอ ทำให้ได้ “ฉันต้องระวังการเปลี่ยนแปลง” “ไม่น้อยกว่าที่ระวังอยู่ในตอนนี้” ผู้หญิง อย่างพาใจ มีผลประโยชน์ มากข้อต่อรอง จนเป็นเกราะป้องกันตัว เขาสอนอรพิษเลี้อยหลบ นกเหยียวอยู่หรือ ท้องฟ้านายอย่าลืมว่าการณ์ที่ผู้หญิงคนนี้ทำ ต้องลดจริยธรรมจึงทำได้ อย่าเตือนเธอให้ระวัง เตือนจริยธรรมให้ละเธอจะดีกว่า พาใจอ่านจนแน่ใจ ว่าไม่มีอะไรถามอีก “ฉันกลับละ” พาใจเก็บของ ลุกจากเก้าอี้ ก้าวออกจากร้าน เขาเพียงขยับให้เธอจากไป จากด้วยความเงียบดังเดิม บทสนทนาร่ำลาเดิมคือไม่เคยร่ำลา เธอออกจากร้านด้วยก้าวใหม่ในเกมส์กระดาน เธอมีเหตุด้วยข้อแลกเปลี่ยนที่เธอได้ แต่นายท้องฟ้าเล่า เหตุแห่งประโยชน์ออกผลสักเท่าใดหรือ จึงช่วยเธอเป็นอาณัติ ท้องฟ้า มาถึงบริษัท ตามปกติ เขาคุ้นกับระยะทางและเวลา แวะรับพาใจ กาแฟสีเข้ม วางบนโต๊ะ เธอคนนั้นเสนอรายงาน เป็นอย่างไร เขาไม่รู้ว่าคิดเรื่องนี้ไปทำไม ไม่เกี่ยวกับเขา เขาคิดถึงแต่รายงาน อย่างนั้น หรือ กาแฟร้อน ยกดื่มเพื่อลืมความคิด เครื่องพิมพ์เอกสาร พิมพ์รายงานของเขา เขารวบมาอ่าน หากสำนวนพิมพ์ มิใช่ แต่ใครเล่าจะล่วงรู้ การขึ้นบรรทัดใหม่ ย่อหน้า ขอบกั้นหน้า ขอบกั้นหลัง เป็นระเบียบ กาแฟร้อนยก จิบ อีกครั้ง ย้ำให้ลืมความคิด ความคิดถึงว่าใครพิมพ์ เขานั่งทำงานเอกสารตลอดช่วงเช้า สังเกตุว่าคุณภาณุภาพ ยังไม่มาทำงาน ในห้องคุณกรกฏเปิดไฟ หากเป็นเพียงหน้าห้องเข้าหาเอกสารข้างใน คุณกรกกฏยังไม่มาเช่นกัน ไม่นานเขาได้รับข้อความจากนายเก่า ‘โทรหาหากมีเรื่องด่วน วันนี้ไม่เข้าบริษัท’ วันนี้ดูพลุกพล่าน หน้าห้องท่านประธานเดินมาช่วยหาเอกสารอีกคน สุดท้ายโบกมือเรียกท้องฟ้าเข้าไปช่วยกัน “เห็นซองรายงานของคุณกรกฏไหม” “ทำไมหรือ” “ซองงานบริษัทเสนอขาย” “แล้ว…” “คุณกรกฏประสบอุบัติเหตุรถชน” พนักงานผู้ อยู่ใกล้พอได้ยินก็ อื้ออึง เข้ามาสอบถามหน้าห้องเป็นการใหญ่ “เดี๋ยวค่อยคุย ขอหาเอกสารให้ท่านก่อน” คุณกรกฏให้เอาซองงานให้ท่านประธาน เอกสารพบวางอยู่ในตู้หลังโต๊ะทำงาน หน้าห้องท่านรีบนำไปให้ เหลือแต่พนักงานจับกลุ่มคุยกัน สุดท้ายย้ายไปจับกลุ่มที่โต๊ะพี่พนักงานคนหนึ่งซึ่งโทรถามเพื่อนฝ่ายบุคคล รถคุณกรกฏถูกเบียดตกถนน ขณะขับไปต่างจังหวัด คู่กรณีขับหนี เหตุเกิดตอนกลางคืนและ เป็นถนนเปลี่ยว รุ่งเช้าจึงมีคนมาพบ พรุ่งนี้นัดประชุมกรรมการ เรื่องคู่เทียบ ท้องฟ้ารอฟัง จะเลื่อนประชุมหรือไม่ ทว่าคุณภาณุภาพ ให้นำรายงานไปให้ที่โรงพยาบาล ประชุมจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่คนประชุมเตรียมพร้อม หน้าห้องฉุกเฉิก ท้องฟ้ายืนฟังเจ้าหน้าที่สนทนา รวมถึงเจ้านายของเขา “ซี่โครงหัก ไม่รู้โชคดีหรือไม่ดี” คุณภาณุภาพเล่าบ่น ช้ำใน ค่อนคืนกว่าจะมีคนมาพบ หากยังมีสติ สั่งงาน “คงอยากซื้อบริษัทนั้นมาก” คุณภาณุภาพบ่นซ้ำ ท้องฟ้า ยืนมองเจ้านายคุยกับคุณหมอถึงอาการบาดเจ็บ ฟังไปบ่นไป ถึงความไม่ระมัดระวัง ในการขับรถ คู่กรณีกลับถูกบ่นแรงมากที่สุด ยังให้นามบัตรแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝากติดตามคนชนแล้วหนี มาให้ได้ ‘ราวพี่ชายกับน้องชายแท้ๆ’ สักพักหันมาถามงานกับเขา “ที่โรงงานมีอะไรไหม” “ผมบอกไว้แล้วถ้ามีอะไรให้โทรหา” มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายเดินมาคุย ท้องฟ้าเลยต้องแยกตัวออกมา นัยว่าเป็นเรื่องครอบครัว วันวุ่นวายอีกวัน ท้องฟ้ากำลังถอยรถมอเตอร์ไซด์ออกจากลานจอด พบพี่กู้ภัย กำลังถอยรถเช่นกัน “คนเจ็บเป็นเจ้านายน้องหรือ” “เออ ครับ” “ไปทำอะไรเข้า” ท้องฟ้าเบิกตากว้าง เขาไม่เข้าใจ “คนแถวนั้นว่า เหมือนขับตามมา แล้วหาโอกาสชน” “จริงหรือ” “แต่ก็ไม่แน่อาจผิดตัว ให้เจ้านายระวังไว้ละกัน” พี่กู้ภัยทิ้งท้าย เขาเองไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงถือหางอุบัติเหตุ แต่ในตอนนี้ ผลประโยชน์ เงินตรา อาจนำพาคร่าชีวิตนั้น มีจริง จนเขาคิดว่า จับต้องได้ แล้วคุณกรกฏขัดผลประโยชน์ใครเล่า ท้องฟ้าไม่อยากคิด เพราะเขาอาจคิดได้ แล้วภาพ ‘พี่ชาย’ ที่เขาเห็น ในความคิดของเขา มีคำถามมากมาย คำถามล้วนมี คำตอบมากมายเช่นกัน ไม่มีการเลื่อนประชุม ท่านประธาน เป็นผู้นำการประชุม ข้อมูลจากภาณุภาพ ทำให้การซื้อบริษัทอื่น ถูกปัดตกจริง หากแต่ภาณุภาพนำเสนอเรื่องควบรวมแทน กรรมการทุกท่านคัดค้าน ด้วยอยากเป็นเจ้าของเต็มตัว หากแต่ภาณุภาพขอเวลา ชี้แจ้งด้วยมีข้อมูลวงใน ท้องฟ้าถูกเรียกชื่อทันที หลังจากประชุม ภายในห้องทำงานเจ้านาย ท้องฟ้ายืนรองฟังคำสั่งอยู่นานสองนาน คุณภาณุภาพเรียกเขาเข้ามา ยืนเฉยหรืออย่างไร จนเขาถอนหายใจตามเจ้านายนั่นละจึงมีคำกล่าว “การควบรวมมันไม่ดีอย่างนั้นหรือท้องฟ้า” เจ้านายถามเสียงเบา “กรรมการทุกท่านอาจไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง” “โดยเฉพาะคุณพ่อ” ท่านประธานกลับเป็นหัวเรือค้าน “ทุกคนรักบริษัทนี้ฉันรู้ การการควบรวมใช่ว่า เราจะสูญเสียความเป็นตัวเอง” ท้องฟ้าปล่อยให้นายของเขา ทำความเข้าใจกับความคิดต่างๆ ที่ได้รับมาจากการประชุม “แล้วคุณภาณุภาพรักบริษัทนี้หรือเปล่าครับ” หากเป็นแต่ก่อนท้องฟ้า ไม่เคยติดใจกับคำถามนี้ แต่ในตอนนี้ทำไมเขาจึงต้องถาม “นายกำลังถามว่า ฉันรักบริษัทนี้ต่างจากคนอื่นอย่างไรนะหรือ” ท้องฟ้าไม่ได้รับคำตอบใดจากเจ้านายของเขา นายท้องฟ้า ที่ผ่านมาหลายปี นายทำงานกับคุณภาณุภาพ วันชนวัน คืนชนคืน นายยังมีคำถามอีกหรือ อะไรทำให้นายเลือนภาพที่เห็น บดบังความจริงอันปรากฏ ความคิด อันพร่าเลือนจากคำสงสัย ว่าคุณภาณุภาพ เป็นคนร้าย เป็นคนลงมือ ใช่หรือไม่ “การบอกว่ารักบริษัทหรือไม่ มันไม่ใช่คำตอบ นายก็รู้” “มันคือการลงมือทำ” ท้องฟ้ากล่าว นายของเขา ยิ้มให้กับผู้ช่วยที่ทำงานกันมาหลายปี แต่ท้องฟ้ายิ้มตอบอย่างระมัดระวัง เขายิ้มได้ ไม่เต็มที่ใช่หรือไม่ ความจริงเขาแค่ลูกจ้าง ทำงานตามคำสั่ง ขยัน ซื่อสัตย์ ตามพื้นฐานที่มี เขาไม่ใช่อิทธิลักษณ์ เหตุใดต้องสนใจ นายท้องฟ้า นายคิดว่าบริษัทและเจ้านาย เป็นองค์กรที่ดี นายเคยตั้งใจทำงานด้วยจงรัก ในองค์กร แต่มาบัดนี้ ลดคุณค่าตัวเองลงเป็นแค่พนักงานทำงานไปวันวัน เท่านั้นหรือ สถานะนายไม่ได้ เปลี่ยนแปลง เหตุใดความคิดแปรเปลี่ยนเล่า
|
บทความทั้งหมด
|