* * * * แตงกวา * * * * บล็อกที่ 771
* แตงกวา *
แตงกวา เป็นพืชไม้เลื้อย ตระกูลพืชที่ให้ความเย็นต่อร่างกาย เช่นเดียวกับ ผลบวบ มะระ ฟักเขียว ฟักทอง และแตงโม
แตงกวา ให้ผลผลิตในรูปแบบของผล มีขายอยู่ในทุกภาคของประเทศไทย ทั้งในตลาดเช้า ตลาดสด ตลาดห้องแอร์ มักจะขายในลักษณะชั่งกิโล แต่หากช่วงที่ผลผลิตด้อยคุณภาพ ก็อาจจะขายเป็นลักษณะกอง
แตงกวา เป็นทั้งพืชเศรษฐกิจ(ปลูกเป็นไร่ใหญ่) หรือพืชสวนครัวประจำบ้าน หรือพืชขึ้นเองริมรั้ว สามารถนำมารับประทานได้ทั้งแบบผลสด ทำให้สุก คลุกในรูปแบบของยำ ส้มตำ หรือดอง (ชาวตะวันตกนิยมรับประทานแตงกวาดอง)
บางที่รับประทานแตงกวากับน้ำพริก กับลาบ หรือแทนผักสดเมื่อรับประทานกับอาหารมื้อหลัก บางที่รับประทานแตงกวากับอาหารประเภทจานเดียว เช่นขนมจีน ข้าวผัด ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ข้าวหมกไก่ ผัดไทย บางที่ปรุงแบบส้มตำอย่างตำแตง หรือผสมเป็นผักชนิดหนึ่งในสลัดน้ำข้นน้ำใส บางที่จะนำแตงกวามาต้มจืดสอดไส้หมูสับ หรือผัดกับหมูหรือไข่ สารพันสูตรอาหารของแตงกวาที่แต่ละคนแต่ละถิ่นชอบ
แตงกวา มีน้ำเป็นส่วนประกอบภายในผลจำนวนมาก(คล้ายๆฟักเขียว แตงโม) บางเอกสารบอกว่ามีน้ำอยู่ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ สมัยก่อนเมื่อคนเราเดินทางไกลๆยามอากาศร้อน เช่นไปทะเลทราย ไปกลางทะเล หากพกพาน้ำจืดไปยาก ก็มักจะพกพาแตงกวาไป เพราะขนาดของแตงกวาไม่ใหญ่พกพาง่าย และดับกระหายดับร้อนได้ดี
จขบ.เคยไปสัมมนาที่ประเทศอิหร่าน ความรู้สึกแปลกอย่างหนึ่งคือประเทศของเขาในช่วงเบรคบ่าย ของว่างที่นำมาบริการจะเป็นชาร้อนกับแตงกวาสด ให้รับประทานเป็นผลๆแบบใช้ปากแทะ โอย ไม่เคยชิน ไม่ยักกะมีกาแฟและขนมอย่างเมืองไทย แต่พอหลายๆวันเข้า ก็เริ่มเคยชิน พอทานไปแล้วก็เย็นลำคอดี
แตงกวา เมื่อเทียบกับผักสีเขียวเช่นผักคะน้า ผักสีส้มเช่นมะเขือเทศ อาจจะมีสารอาหารเทียบเท่าผักเหล่านั้นไม่ได้ แต่แตงกวาก็มีจุดเด่น คือ
ผลแตงกวา มีคุณสมบัติเย็น แก้ร้อนใน ลดกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ แก้อาการเจ็บคอ แก้ไฟไหม้น้ำร้อนลวก น้ำคั้นจากแตงกวาสด สามารถลดน้ำตาลในเลือด และแก้กรดไหลย้อน
แตงกวา ตรงส่วนที่ติดกับขั้วมักจะมีรสขมและมียาง สมัยก่อนเมื่อตัดขั้วแตงกวาออก ผู้ใหญ่จะให้เอาส่วนขั้วถูกับส่วนเนื้อของแตงกวา เพื่อกระตุ้นให้ยางและความขมออกมามากขึ้น เป็นการลดความขมในเนื้อแตงกวาลง ที่จริงความขมของแตงกวาคือ สารคิวเคอร์บิตาซิน จากการทดลองในสัตว์ มีฤทธิ์ต่อต้านการโตของเนื้องอก
เมล็ดแตงกวา มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แต่มีพิวรีนสูง หากใครเป็นโรคเกาต์และมียูริกในร่างกายสูง ไม่ควรทานเมล็ดแตงกวา ให้ขูดเอาไส้และเมล็ดแตงกวาออกก่อนรับประทาน
จากการนำเถา ใบ และรากแตงกวา มาต้มน้ำ นักวิทยาศาสตร์พบว่า มีสารตัวหนึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ซึ่งสามารถลดความดันเลือด และลดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมทั้งลดปริมาณเลือดที่หัวใจฉีดออกไป และขับปัสสาวะได้ด้วย มีรายงานจากจีนที่ใช้น้ำต้มเถาแตงกวา ให้ผู้ป่วยความดันเลือดสูง 64 รายดื่ม ปรากฏว่าความดันเลือดลดลงกว่า 80% ดังนั้นใครที่มีเถาแตงกวาอยู่ใกล้บ้าน ไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลง สามารถใช้สูตรนี้กับคนที่มีโรคหัวใจหรือความดันเลือดสูงได้ กรณีนี้ใช้ได้ทั้งเถาแตงกวาสดและแห้ง
แตงกวา ใครๆ ก็รู้ว่าสามารถช่วยทำให้ผิวหน้าสวยสดใส เนื่องจากในเนื้อแตงกวามีเอนไซม์ อีเรปซิน ซึ่งสามารถย่อยสลายโปรตีนในผิวหนัง โดยเฉพาะเซลล์ผิวหนังที่แก่และหมดอายุให้ลอกหลุดออกไป จึงมีสาวๆ ฝานแตงกวานำมาแปะบนใบหน้าเพื่อประเทืองผิว กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ใบหน้าเต่งตึง
วิธีเตรียมแตงกวาสำหรับผิวสวยทำได้ดังนี้ นำแตงกวาประมาณ 3 ลูก ล้างจนแน่ใจว่าสะอาด เพราะแตงกวาจากตลาดสด อาจจะปนเปื้อนแบคทีเรีย ทำให้ใบหน้าเป็นผื่นจากการติดเชื้อได้ ฝานแตงกวาใส่ลงในเครื่องปั่น ใส่น้ำสะอาดพอท่วม แล้วปั่นให้ละเอียด กรองเอากากแตงกวาออก นำน้ำแตงกวาข้นๆนั้นมาพอกหน้า นานประมาณ 5-10 นาที แล้วค่อยล้างน้ำ วิธีนี้จะเหมาะกับสาวหน้ามันด้วย และช่วยขจัดสิวเสี้ยนได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ควรจะทดสอบเสียก่อนว่าผิวของตนเองแพ้หรือไม่ โดยนำน้ำปั่นดังกล่าวมาทาตรงท้องแขน ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หากไม่มีผื่น ก็สามารถใช้กับใบหน้าได้ ยิ่งหากนำน้ำแตงกวาปั่นนี้ไปแช่เย็นด้วย เมื่อนำมาใช้ก็จะยิ่งเพิ่มความสดชื่นสดใสให้กับใบหน้ายิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่นอนพักผ่อนน้อย ใช้คอมพิวเตอร์ในงานวันละหลายชั่วโมง เจอแสงจ้าบ่อยๆ หรือใส่คอนแทกเลนส์นานๆ สามารถจะสร้างความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้ โดยฝานแตงกวาออกเป็นแว่นบางๆ วางแปะบนเปลือกตาพร้อมพักสายตาระยะหนึ่ง ยิ่งหากเป็นผลแตงกวาที่แช่เย็นจัดมาก่อน แล้วนำมาฝานก็จะช่วยแก้อาการ ตาเมื่อยล้าอิดโรยได้ดียิ่งขึ้น
ท่านใดชอบอ่านภาษาอังกฤษ ขอเชิญอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ The World's Healthiest Foods
หากสนใจจะปลูกแตงกวาเป็นพืชผักสวนครัว ก็ไม่ยากเกินไป สภาพอุณหภูมิของบ้านเราก็เหมาะแก่การปลูก อีกทั้งแตงกวาจะให้ผลผลิตเร็วประมาณ 30-40 วัน และยังจะได้แตงกวาที่ไม่มียาฆ่าแมลงด้วย
แตงกวา เป็นพืชเถาเลื้อยที่มีมือเกาะช่วยพยุงลำต้น ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วไป ลำต้นยาวประมาณ 2-3 เมตร มีรากแก้ว ใบเป็นใบเดี่ยว มีมุมแหลม 3-5 แฉก ดอกเป็นดอกตัวผู้ และตัวเมียแยกกัน แต่อยู่บนต้นเดียวกัน ดอกตัวผู้จะเกิดเป็นกลุ่ม 3-5 ดอก ดอกตัวเมียจะเกิดเดี่ยวๆ มีสีเหลือง สังเกตได้ง่ายคือมีลักษณะคล้ายแตงกวาผลเล็กๆ ติดกับกลีบดอกตัวเมีย ส่วนดอกตัวผู้จะมีเฉพาะก้านดอกเท่านั้น ในการปลูกแตงกวาถ้ามีดอกตัวเมียมากจะทำให้ได้ผลผลิดสูง
ผลในขณะที่ยังเล็ก จะสังเกตเห็นหนาม หนามของแตงกวาจะมีสีขาวและสีดำ หากแตงกวาหนามสีดำหลังเก็บจากต้น จะเก็บได้เพียง 3-4 วัน ผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนิ่ม ไม่กรอบ ส่วนแตงกวาที่มีหนามสีขาว สามารถเก็บได้นานประมาณ 7 วัน โดยไม่นิ่มและไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเร็วนัก
พันธุ์แตงกวาที่ใช้ปลูก โดยทั่วไปจะมี 2 พันธุ์ คือ พันธุ์สำหรับรับประทานสด กับพันธุ์สำหรับส่งเข้าโรงงานนำไปดอง พันธุ์สำหรับรับประทานสด จะมีเนื้อบางและไส้ใหญ่ ส่วนพันธุ์สำหรับส่งเข้าโรงงานจะมีเนื้อหนา ไส้เล็ก เปลือกสีเขียวเข้ม เมื่อนำไปดองจะคงรูป ไม่เหี่ยวย่น
การปลูกแตงกวามี 2 แบบ คือ ปลูกโดยใช้ค้าง กับปลูกโดยไม่ใช้ค้าง ตามแต่สภาพพื้นที่และความสะดวกของผู้ปลูก การปลูกโดยใช้ค้างจะช่วยพยุงลำต้น ทำให้การดูแลรักษาง่าย แต่จะเสียเวลาและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย การปลูกแบบใช้ค้างจะนิยมใช้กับแตงกวาที่ส่งโรงงาน เพราะถ้าไม่ใช้ค้าง ผลจะงอ ไม่สวย และผลจะเน่าได้ง่ายหากผลแตงกวาสัมผัสพื้นดิน
แตงกวา สามารถขึ้นได้ดีในที่ดอน แต่ชอบดินร่วนปนทรายเป็นพิเศษ มีความชื้นพอเหมาะ มีการระบายน้ำดี เพราะถ้าน้ำขังแฉะจะทำให้เกิดโรคทางใบ
การเตรียมดินปลูก .. แตงกวาเป็นพืชที่มีระบบรากลึกปานกลาง ควรขุดดินลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร ตากหลุมไว้ประมาณ 5-7 วัน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ใช้ระยะห่างระหว่างแถว 1 เมตร ระยะระหว่างต้น 50 เซนติเมตร หยอดเมล็ดลงปลูกในหลุมๆละ 3-5 เมล็ด กลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักผสมดินละเอียดจนเต็มหลุม แล้วรดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง เพื่อช่วยเก็บรักษาความชื้น ประมาณ 14 วัน แตงกวาจะเริ่มเลื้อย
แตงกวา เป็นพืชที่ชอบน้ำพอประมาณ ระยะแรกควรให้น้ำสม่ำเสมอและเพียงพอ จนแตงกวาเริ่มออกดอก จึงลดการให้น้ำลงเหลือ 2-3 วันต่อครั้ง แต่ไม่ควรปล่อยให้แตงกวาขาดน้ำในระยะออกดอก เพราะจะทำให้ดอกร่วง แตงกวาที่ขาดน้ำจะมีรสขม
เมื่อแตงกวา มีอายุ 30-40 วัน ก็สามารถเก็บผลได้ หลังจากเก็บผลให้รีบนำแตงกวาเข้าที่ร่มทันที ห้ามตากแดด ห้ามล้างน้ำ ไม่เช่นนั้นผลจะเหลืองเร็ว
แตงกวา ไม่ชอบแดดร้อนจัด หากร้อนเกินไปแตงกวาจะมีแต่ดอกตัวผู้ ทำให้ได้ผลผลิตน้อย อย่างไรก็ตามสภาพอุณหภูมิของไทย สามารถปลูกแตงกวาได้ตลอดทั้งปี เพียงแต่ผลผลิตอาจจะดกไม่เท่ากัน
ยำแตงกวาไข่เค็ม
เครื่องปรุง
แตงกวา 4 ลูก
ไข่เค็มต้มสุก ½ ฟอง
ถั่วลิสงคั่ว
กระเทียม 3 กลีบ, พริกแดง 1-2 เม็ด
น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา, น้ำปลา 1-2 ช้อนชา
มะนาว
วิธีทำ
ปรุงน้ำยำ โดยตำกระเทียม 3 กลีบ ตำพริกแดง 1-2 เม็ด
ผสมน้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา น้ำปลา 1-2 ช้อนชา บีบมะนาวใส่ ชิมให้ได้สามรส
แตงกวาแช่น้ำแข็งก่อนปรุง ปอกเปลือก ขูดแตงกวาให้เป็นเส้น ทิ้งไส้
นำไข่เค็มต้มใส่ชาม บี้ให้พอแตก ใส่น้ำยำ ใส่ถั่วลิสงคั่ว และใส่เส้นแตงกวา คลุกเข้าด้วยกัน
รีบเสิร์ฟ เพราะหากปล่อยไว้นาน แตงกวาจะมีน้ำออกเยอะ และไม่กรอบ
ขอเชิญชม การปรุงยำแตงกวาไข่ต้มอีกสูตรหนึ่ง อธิบายวิธีการปรุงอย่างละเอียดและแนะนำเทคนิคให้ด้วย ความยาว 14.24 นาที
ยำหมูย่างกับแตงกวา
เครื่องปรุง
แตงกวาอ่อน 2-3 ลูก
หมูย่าง 100 กรัม
หอมแดง 3-4 หัว
พริกชี้ฟ้าแดง 1 ลูก
ใบสะระแหน่
นํ้าปลา มะนาว นํ้าเชื่อม
วิธีทำ
หั่นหมูย่าง หั่นแตงกวาใส่จาน
ซอยหอมแดง หั่นพริกชี้ฟ้า เด็ดใบสะระแหน่
ผสมน้ำยำ ที่ทำจากน้ำปลา มะนาว และน้ำเชื่อม
นำทุกอย่างคลุกเข้าด้วยกัน
ต้มจืดแตงกวายัดไส้หมูสับ
ขอเชิญชม การปรุงโดยคุณ ohinpo
นํ้าแตงกวารวมมิตร
เครื่องปรุง
แตงกวา 3 ลูก (ปอกผิว)
แครอต 1 หัว (ปอกผิว)
แอปเปิลเขียว 1 ผล (ปอกผิว)
น้ำสุกพอประมาณ
มะนาว 1 ซีก
หากชอบหวาน เติมน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งเล็กน้อย
วิธีทำ
คั้นน้ำของ แตงกวา แครอต แอปเปิ้ลเขียว ด้วยเครื่องปั่นแยกกาก
หรือใช้เครื่องปั่น ปั่นแล้วกรองเอาแต่น้ำ แล้วบีบมะนาวลงไป
ดื่มสดๆ เพื่อร่างกายได้วิตามินซีเต็มที่ หากชอบหวานอาจเติมน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งเล็กน้อย
หากชอบแบบเย็นๆอาจแช่เย็นก่อนเสิร์ฟหรือผสมน้ำแข็งเล็กน้อย
ขอขอบคุณที่ติดตาม
ขอขอบคุณมากๆ นะครับ ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog
จาก สิน yyswim
Create Date : 07 มิถุนายน 2554 |
|
14 comments |
Last Update : 7 มิถุนายน 2554 11:50:57 น. |
Counter : 9286 Pageviews. |
|
|
|
ฮ่าๆ
โหวตหมวดเอ็ดดูเคชั่นครับพี่สิน