* * * * El Camino del Rey * * * * บล็อกที่ 735
*El Camino del Rey*
เจ้าของคลิปในยูทูป บอกว่าคลิปข้างล่าง ถ่ายเองด้วยกล้อง Sony handycam และไม่ได้ตัดต่อ
จขบ.ก็อยากจะรู้ว่า มันคือคลิปอะไร เพราะว่า El Camino del Rey คำนี้ไม่เคยรู้จักมาก่อน ก็เลยเปิดชม
เพื่อนๆลองเปิดชม ดูซิ ความยาว 6.31 นาที เดี๋ยวจะอธิบาย
อ๋อ เป็นทางเดินเท้าติดหน้าผาที่น่าหวาดเสียว เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับผู้กล้าและผู้ชอบเสี่ยงภัย
จขบ.ลองเสิร์ชข้อมูลแล้วพบว่า
El Camino del Rey เป็นภาษาสเปน แปลว่า ทางเดินเท้าแคบๆ
ซึ่งอยู่กลางหน้าผาของภูเขาหินปูน El Chorro ในย่านภูเขา ของเมือง Málaga
ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ในมณฑลปกครองตนเอง Andalusia ทางใต้ของประเทศสเปน
ใต้ทางเดิน El Camino del Rey นี้ เป็นหุบเหว และแม่น้ำ Guadalhorce
ชื่อของ El Camino del Rey ในภาษาอังกฤษ คือ ทางเดินเล็กๆของพระราชา (The King's little pathway)
ทางเดินเท้านี้ เป็นคอนกรีตกว้าง 1 เมตร ยาว 700 เมตร อยู่สูงจากระดับแม่น้ำประมาณ 100 เมตร ส่วนใหญ่จะอยู่ติดกับหน้าผา
สร้างด้วยคอนกรีตปูทับบนรางเหล็กสองราง คล้ายๆรางรถไฟ มีลักษณะเดินลาดขึ้น บางช่วงเป็นขั้นบันได
บางช่วงเป็นทางเดินข้ามเหว (ไม่ได้อยู่ติดหน้าผา) บางช่วงไม่มีราวกั้น
ทางเดินนี้ปัจจุบันชำรุด คอนกรีตบางตอนผุกร่อน ร่วงหล่นลงไปข้างล่างตามกาลเวลา จนเป็นรูโหว่เป็นช่วงๆ
และบางตอนคอนกรีตก็ร่วงหล่นลงไปข้างล่างจนหมด เหลือเพียงรางเหล็กให้เหยียบ
หรือเหลือเพียงเหล็กโผล่จากหน้าผาให้เหยียบเท่านั้น ราวกั้นบางช่วงที่เคยมีก็ชำรุดหมด
โชคดีที่มีนักปีนเขาใจดี ช่วยติดตั้งลวดสลิงเอาไว้ชิดผนังหน้าผา ยาวตลอดทางเดิน
เพื่อว่าผู้ไปเที่ยวจะได้จับยึดหรือโหนเมื่อจะเดินผ่านในบางช่วง
ทางเดินนี้ เป็นทางเดินโบราณ เริ่มสร้างขึ้นเมื่อ ปีค.ศ.1901 สร้างเสร็จเมื่อ ปีค.ศ.1905 ประมาณ 106 ปีที่แล้ว
(ปีค.ศ.1905 ตรงกับ ปีพ.ศ.2448 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
สร้างโดยคนงานก่อสร้างเขื่อนพลังน้ำ เพื่อใช้ขนย้ายสิ่งของ ตรวจสอบ และซ่อมบำรุงเขื่อนพลังน้ำ
ในปีค.ศ.1921 สมเด็จพระราชาธิบดีอัลฟอนโซ ที่13 แห่งสเปน ซึ่งครองราชย์ในสมัยนั้น
เสด็จพระราชดำเนินบนทางเดินนี้ เพื่อทรงเปิดเขื่อน Conde del Guadalhorce นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า
ทำไมทางเดินเล็กๆบนหน้าผา จึงถูกเรียกว่า The King's little pathway
แต่ชื่อในภาษาสเปน จะยังคงเรียกว่า Camino del Rey
เนื่องจากทางเดินนี้ชำรุดมาก ประกอบกับเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ
โดยเฉพาะอุบัติเหตุร้ายแรงขนาดเสียชีวิต ในปีค.ศ.1999 และปีค.ศ.2000 สองปีติดต่อกัน
เทศบาลเมืองท้องถิ่น จึงสั่งปิดทางเดินนี้อย่างเป็นทางการ โดยไม่มีการซ่อมแซม
ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้า และไม่มีการช่วยเหลือหรือรับประกันใดๆหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ผู้ที่จะไปเที่ยวบนทางเดินนี้ จึงยังคงเหลือเฉพาะนักไต่เขา และผู้แสวงหาความท้าทายเท่านั้น
นายกเทศมนตรีเมือง Málaga ประกาศว่า งบประมาณที่จะใช้บูรณะทางเดินนี้ รวมทั้งความยาวของถนนด้วย
รวมทั้งหมดประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเงิน 8.3 ล้านยูโร (348.6 ล้านบาท) จะใช้งบประมาณของเทศบาลเมือง Málaga
โครงการนี้จะใช้เวลา 3 ปี จะเริ่มโครงการบูรณะในกลางปีนี้ (ปีค.ศ.2011)
และจะยังคงอนุรักษ์รูปแบบของทางเดินในแบบเดิมต่อไป
ใน เว็บของนักเดินทางบางเว็บ กล่าวว่า El Caminito del Rey เป็นทางเดินที่หวาดเสียวที่สุดในโลก
ขอเชิญชมคลิป El Camino del Rey ที่เพิ่งถ่ายไว้เมื่อปีกลาย
แน่นอนว่าเมื่อเวลาล่วงผ่านไป ความชำรุดของทางเดินก็ยิ่งมีมากมายและร้ายแรงยิ่งขึ้น
ความยาว 9.27 นาที
หากจะมีผู้ถามว่า ข้างบนมีอะไรบ้าง สวยมากนักเหรอ?
อ้อ ก็ ไม่ทราบเหมือนกัน จขบ.ก็ยังไม่เคยไปเดิน
แต่คาดว่า เมื่อขึ้นไปถึง คงจะคล้ายๆกับความรู้สึกของนักไต่เขา นักปีนเขา
ที่เอาชนะความเสี่ยง ความกลัว รู้สึกภาคภูมิใจตนเองที่สามารถทำในสิ่งที่น้อยคนจะทำได้ กระมัง!!!!
ขอขอบคุณที่ติดตาม
จาก สิน yyswim : จขบ.ขออภัย ที่ไม่ค่อยจะว่างไปเยี่ยมบล็อกเพื่อนๆ
ตั้งหน้าตั้งตาค้นคว้าข้อมูลใหม่ๆ เพื่อจะนำมาเสนอในบล็อกต่อไป ๆ
ท่านใดคอมเมนต์ไว้ จขบ.ได้อ่านทุกคอมเมนต์
แต่ไม่ค่อยจะได้ตอบคอมเมนต์ และไม่ค่อยจะได้ไปเยี่ยม ต้องขออภัยด้วย
บล็อกวันนี้ อ่านเฉยๆ กรุณาไม่ต้องคอมเมนต์นะครับ
รู้สึกเกรงใจ เพราะไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเพื่อนๆ
และขอขอบคุณมาก ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog
ต้องการติดต่อ จขบ. เชิญทางหลังไมค์ หรือทาง yyswim@hotmail.com หรือทาง Facebook ครับ
Create Date : 05 มีนาคม 2554 |
Last Update : 11 มีนาคม 2554 17:48:52 น. |
|
19 comments
|
Counter : 4663 Pageviews. |
|
|
|
คลิปแรกว่าหวาดเสียวแล้ว
เจอคลิปของปีที่แล้วเข้าไปนั่งลุ้นใจตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะปกติแล้วฉัตรเป็นคนกลัวความสูงอยู่แล้วด้วย
ยิ่งช่วงที่ 7 นาทีเศษๆ 8 นาที ช่วงนั้นอ่าค่ะ น่าจะร่วงลงไปเน๊อะ เก่งมากๆ เลยนักผจญภัยที่กล้าตายเสี่ยงกับมฤตยูกลุ่มนี้
แต่เสียดายที่ไม่เห็นจุดขึ้น และลงจากหน้าผาน่ะค่ะพี่สิน
ยิ่งทราบประวัติความเป็นมา และความหมายของชื่อแล้ว ยิ่งทึ่ง
ฉัตรว่าก็คุ้มนะ ที่นักปีนเขาเค้าท้าทายเพราะทางเดินนี้ อย่างน้อยก็เป็นทางเดินของพระราชาเชียวแหละ อิอิ
ภาพที่สอง สวยมาก และดูยิ่งใหญ่
ทำให้รู้สึกได้เลยว่า มนุษย์เราตัวเล็กนิดเดียวเอง
ขอบคุณที่พี่สินเสาะหาอะไร แปลกๆ ทึ่งๆ น่าสนใจมาให้ชม อยู่เสมอๆ เลยค่ะ