คลังความรู้... "พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี" @ พิษณุโลก
วันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันพระใหญ่ ไปทำบุญที่ไหนกันมาบ้างคะ... 23

ด้วยความที่เป็นวันหยุดสามวัน พอมีเวลาได้พักเหนื่อย สมองเริ่มทำงาน อยู่ ๆ ก็นึกถึงวัดนางพญาที่จังหวัดพิษณุโลกขึ้นมา ดูตั๋วเครื่องบินมีโปรโมชั่นอีก พระเจ้าต้องอยากให้เราไปเป็นแน่แท้ เราก็ไปตามต้องการอย่าได้ช้า 72 แต่แค่อยากไปวัด ก็เลยไปวันเดียวกลับค่ะ 

หลังจากกราบ "พระนางพญาฯ" ที่ "วัดนางพญา"...






และ "พระพุทธชินราช" ที่ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดใหญ่)" แล้ว...






ยังมีเวลาเหลืออีกประมาณสองชั่วโมง ตอนแรกว่าจะนั่งทำสมาธิในวัด แต่คนเยอะ ใคร ๆ ก็อยากมาไหว้น่ะค่ะ เราก็ไม่อยากเกะกะ นึกถึงที่พี่แช่ม คนขับรถรับส่งสนามบิน พูดถึง "พิพิธภัณฑ์พื้นบ่านจ่าทวี"

จริง ๆ เราไม่ได้สนใจเท่าไหร่นะ เพราะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง ความรู้สึกคือก็แค่พิพิธภัณฑ์โชว์ของสะสม พวกของใช้ของเล่นเหมือนที่ฮิต ๆ ทำกันนั่นแหละ แต่เพราะใกล้สุด ไม่งั้นต้องออกไปนอกตัวเมือง สองชั่วโมงที่มีไม่ทันแน่นอน ไปที่นี่ก็ได้

แต่พอได้ชมแล้วไม่ใช่เลยค่ะ 28

"พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี" อยู่ในตัวเมือง ไม่ไกลจากวัดใหญ่นัก ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็มาถึงค่ะ




มีค่าเข้าชม 50 บาท เปิด 8.00 - 16.30 น. (ปิดทำการวันจันทร์) ที่นี่อยู่ในความดูแลของคุณลุงจ่าค่ะ




สถานที่เป็นบ้านไม้ มี 5 อาคาร ช่วงนี้อาคาร 2 ที่เก็บรูปภาพ แผนที่ และเรื่องราวของเมืองพิษณุโลกกำลังปิดปรับปรุง จะใช้เวลาปรับปรุงอีกประมาณสองเดือน ก็เลยเข้าชมได้แค่อาคาร 3 ค่ะ




เราได้น้องสาวคนสวยจากโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดเป็นผู้นำชม เค้าไม่ได้บังคับนะคะ จะชมเองก็ได้หรือจะให้น้องช่วยอธิบายก็ได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ และน้องสาวคนนี้ไม่ได้เป็นพนักงานของที่นี่นะคะ น้องมาเก็บชั่วโมงจิตอาสาเพื่อยื่นสอบระดับอุดมศึกษาค่ะ 

คำแนะนำ จงให้น้องพาชมเถอะ แล้วคุณจะได้อะไรเยอะมากกว่าที่คิด น้องมีส่วนที่ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง 151

เราไม่ได้อวยนะ แต่ไปชมเลยดีกว่าค่ะ เราจะเลือกมาแค่บางส่วนนะคะ จริง ๆ มีมากกว่านี้เยอะ 23

เข้ามาอันแรกเป็นห้องครัวจำลอง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าห้องครัวเป็นห้องที่สำคัญมากของผู้คนสมัยก่อน ทุกบ้านจะทำอาหารทานเอง ตลาดจะขายแค่พวกวัตถุดิบ ไม่มีแกงถุงเนอะ




มองไปที่มุมขวาของภาพห้องครัว จะมีสาแหรกที่มีอาหารวางอยู่ใช่มั้ยคะ บนสาแหรกมีกะลามะพร้าว ทราบไหมคะว่าเอาไว้ทำอะไร?? 23

ภูมิปัญญาชาวบ้านมากค่ะ นี่เป็นวิธีเก็บอาหารไม่ให้มดขึ้น เรียกว่า กะลากันมด จะเอากะลามาเจาะรู แล้วสอดไม้หรือลวดที่จะแขวนสาแหรกไว้ด้านใน เอาชันหรือยางไม้อุดไม่ให้มีรู แล้วใส่น้ำในกะลา พอมดไต่จากที่แขวนมาเจอกะลาที่มีน้ำใส่อยู่ข้างใน ก็จะไม่ไต่ต่อลงมาที่สาแหรกค่ะ




และเมื่อมีการหุงหาอาหารกันที่นี่ หลังคาบ้านที่ปกติเป็นมุงจากหรือหญ้า ก็จะไม่สามารถใช้ได้ หลังคาจะเป็นเกล็ดค่ะ ลืมไปแล้วว่าเป็นไม้หรือดินแฮะ 39




ที่นี่มีกระต่ายขูดมะพร้าวเยอะเพราะเป็นของที่ทุกบ้านต้องมี คุณลุงจ่าเลยเก็บมาได้เยอะ มีลักษณะต่าง ๆ เป็นรูปสัตว์บ้าง มีถาดรองมะพร้าวบ้าง อันนี้ขึ้นอยู่กับความมั่งมีของเจ้าของบ้านนะคะ ถ้าอันไหนมีลวดลายแกะสลักเยอะ ก็จะมาจากบ้านคนมีอันจะกิน สังคมชั้นสูง ประมาณนี้ค่ะ




อย่างอันนี้ไฮโซมาก นอกจากด้านบนมีการแกะสลัก ถาดรองแกะเป็นกลีบบัว ด้านล่างยังมีลายแกะสลักเทพสวยงามและเห็นชัดค่ะ ไม่พอ... ประดับขาตั้งเป็นเซรามิกอีกด้วย (ตุ่มขาว ๆ สี่อันน่ะค่ะ) 


 

อันสูงลูกศรสีฟ้านั่นเพื่อให้ผู้ชายใช้ค่ะ ก็จะสูงหน่อย ส่วนลูกศรสีเหลืองนั่นเป็นอันที่เก่าแก่ที่สุดในนี้ 

  


ทำไมถึงเก่าแก่ที่สุด ดูที่ที่ขูดสิคะ เป็นซี่ไม้แกะให้เป็นซี่แหลม ๆ ไม่ใช่เหล็กค่ะ




นอกจากกระต่ายขูดมะพร้าวยังมี "แม่สีไฟ" ที่ต้องมีทุกบ้าน เราก็อะไรแม่สีไฟ 138 ภาษากลางเราเรียก "แม่เตาไฟ" เป็นที่ตั้งทำอาหารทำจากดินเหนียว เอาไว้ก่อไฟหุงต้มค่ะ ที่ต้องใช้ดินเหนียวเพื่อไม่ให้ไฟไหม้ค่ะ... ถ้าเปรียบไปคงเหมือนเตาแก๊สเนอะ




และที่ขาดไม่ได้อีกอย่าง "กั๊วข้าว" ที่พักข้าวเหนียวเวลาเราหุงเสร็จแล้วเอามาเกลี่ย ๆ ก่อนเอาใส่กระติ๊บข้าวน่ะค่ะ เท่ดีเป็นไม้ 23




บ้านจำลองอีกหลังนึงน่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ



จากรูปข้างบนนี้ กรุณาโฟกัสที่ "กระได" น้องบอกเรียกว่า "กระได" นะคะ ไม่ใช่ บันได เพราะกระไดนี้จะเคลื่อนย้ายได้ต่างจากบันไดที่เคลื่อนย้ายไม่ได้... เค้าแบ่งกันแบบนี้รึ?? หันไปถามน้อง นี่พี่เชื่อน้องได้จริงหรือเปล่าเนี่ย น้องตอบเสียงใส เชื่อได้ค่ะพี่ นี่เป็นเรื่องจริง 28

กระไดนี่ยังแบ่งย่อยออกไปเป็น พ่อกระได แม่กระได และ ลูกกระได

จะเห็นใช่มั้ยคะว่าราวกระไดด้านซ้าย-ขวาสูงไม่เท่ากัน อันสูงกว่าเรียก พ่อกระได ข้างซ้ายที่เตี้ยกว่าเรียก แม่กระได และ ลูกกระได คือขั้นกระไดที่ใช้เหยียบน่ะค่ะ และที่สูงไม่เท่ากันเพราะคนสมัยก่อนจะใช้หาบหาบของ เวลาหอบขึ้นบ้านปกติเราถนัดขวาจะใช้มือขวาจับไม่ให้ตก ไม้ด้านพ่อกระไดนั้นเลยสูงให้มือจับถึง ส่วนแม่กระไดนั้นที่ทำเตี้ยเพื่อไม่เกะกะหาบที่หาบอีกด้านนึงเวลาหอบขึ้นเรือน 


นี่แค่กระได 41 แล้วสังเกตหลังคาค่ะ ลูกศรเหลือง คือ ก้ามปู ก้ามปูจริง ๆ เพื่อใช้กันผี และจากที่มุงหลังคาลูกศรฟ้าที่มัดเป็นปล้อง ๆ เพื่อให้น้ำฝนไหลลงมา คือไม่ไหลกระจาย เราก็เอาโอ่งน้ำรองไว้ได้ แต่ก่อนไม่มีรางน้ำค่ะ แหะๆๆ

  


ส่วนอันนี้เป็นที่ไล่นกแสก อันนี้มีระบบออโต้ ถ้านกแสกมาเกาะซึ่งโบราณถือว่าไม่ดี เชือกที่ขึงไว้จะดีดตัว ดีดไม้ที่อยู่ในกระบอกเด้งขึ้น นกแสกก็ตกใจบินหนีไป นี่คือนวัตกรรมเลยนะ




นอกจากนั้นก็มีที่ต่อนก เอาไว้จับนกอย่างนกเขา เอาตัวเมียใส่เข้าไปเพื่อล่อตัวผู้ให้มาติดกับ... เป็นนางนกต่อตัวจริงเสียงจริง 50




ไม่ใช่แค่ดักนก ดักหนูก็มีค่ะ




ดักงู




ดักลิง ดักลิงนี่โหดอ่ะ ถ้าเป็นลูกมะพร้าวนี่ก็ไม่เท่าไหร่ พอลิงเอามือเข้าไปจะหยิบอาหารก็จะติดเอาออกไม่ได้ 




แต่ถ้าเป็นกระบอกแบบนี้สิ ด้านในเป็นไม้ตอกติดรอบปากกระบอกด้านใน พอลิงเอามือเข้าไปจะเอาออกมา ตอกก็จะพับมาบาดมือลิง เอาออกไม่ได้แล้วยังบาดเจ็บอีก 33




ดักอะไรไม่เท่าดักแมลงสาบ บ้านแมลงสาบมีมาตั้งแต่โบราณ สิ่งนี้สานด้วยลวด สานสวยเชียวค่ะ เอาอาหารใส่เข้าไป ช่องข้างหน้านั้นเอาใบตองพับทบยัดให้แน่น พอแมลงสาบเข้าไปกินอาหารข้างในออกไม่ได้ ตอนเช้าก็เอาไปปล่อย ทำความสะอาดมาใช้ต่อ ใครจะเอาไปปล่อยนะ แหะๆๆ 

 


อันนี้เป็น เครื่องหีบอ้อย เอาน้ำอ้อยเพื่อเอาไปทำน้ำตาลค่ะ




อันเล็กเราหมุนได้ใช่มั้ย แต่ถ้าอันใหญ่ต้องใช้แรงงานสัตว์ค่ะ




พูดถึงสัตว์นึกถึงสิ่งนี้ เกวียนค่ะ มีสองขนาดให้ชม เราไม่เคยเห็นเกวียนใหญ่ท่วมหัว เคยเห็นแต่ล้อเกวียนแยกส่วนออกมา พอเห็นพร้อมตัวเกวียนเต็ม ๆ เง้ออ!! 34 เกวียนใหญ่นั้นใช้วัว 4 ตัวค่ะ

และที่แตกต่างกันไม่ใช่ขนาด แต่เป็นล้อ ล้อกะทะกับล้อแม็ก... ไม่ใช่ละ แหะๆๆ 39 ล้อทึบกับล้อซี่ ล้อทึบน่าจะแข็งแรงกว่าเนอะ แต่ไม่ใช่ค่ะ เพราะล้อทึบจะเป็นชาวบ้านทั่วไปใช้ ไม้ที่ใช้ก็ไม่ได้มีคุณภาพเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นซี่คือเป็นของคนมีตัง สั่งทำสั่งแกะสลัก ก็เลือกเนื้อไม้ได้เพราะมีกำลังทรัพย์ค่ะ 51




จริง ๆ ข้างล่างยังมีอีกเยอะนะคะ ที่จับสัตว์น้ำ เครื่องมือการเกษตรเพราะประเทศเราเป็นประเทศกสิกรรมใช่มั้ยคะ มีเยอะเลย แล้วทุกอย่างมีรายละเอียด มีเรื่องราว มีภูมิปัญญาชาวบ้าน ขณะที่น้องเล่า ของบางอย่างน้องสาธิตวิธีใช้ มันทำให้เห็นภาพวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนพื้นบ้านสมัยก่อน เราถึงบอกว่าน้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ที่นี่มีชีวิต และของที่โชว์ในนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่ "ของเก่า"

ก่อนจะเดินกลับออกไปหน้าบ้าน ผ่านส่วนที่เป็นเงินโบราณ ใช้คำว่าเบี้ยน่าจะดึกว่า รูปทรงต่าง ๆ และตราประทับบนเบี้ยแสดงถึงสมัยของการใช้และแคว้นที่มาค่ะ



 
อาคาร 3 มีสองชั้น ชั้นบนก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เลือกมาเล่าที่ชอบ ๆ นะคะ 52




อันแรกที่ขอนำเสนอคือ "ตะปิ้ง" เลยค่ะ จริง ๆ วัสดุที่ใช้ทำมีทั้งไม้และโลหะ เช่น เงิน ทอง อันซ้ายสุดจะใหญ่หน่อยใช่มั้ยคะ นัยว่าใช้ฝึกเด็กผู้หญิงที่ซน ๆ ให้เดินให้เรียบร้อยค่ะ เพราะถ้าวิ่งเร็ว กระโดกกระเดก ตะปิ้งก็อาจจะตีหรือบาดขา ก็จะเจ็บ จึงต้องเดินช้า ๆ ให้เรียบร้อยค่ะ

 


จานชามสังกะสีของพื้นบ้านสมัยเก่าก็มีนะคะที่นี่




"คันฉ่อง" โต๊ะเครื่องแป้งสมัยก่อนก็ยังไม่ใหญ่ เป็นอันเล็ก ๆ นั่งกับพื้น "สกินแคร์ยังไม่เยอะค่ะ" น้องกล่าวปิดท้ายคำอธิบาย... เป็นอีกครั้งที่หันไปถามน้องว่าที่พูด ๆ มาทั้งหมดนี่พี่เชื่อน้องได้ใช่มั้ย?? 41




มีคันฉ่องแบบพกพาด้วยนะคะ เป็นอันเล็ก ๆ ทำจากโลหะขัดเงาให้มันวาว สมัยก่อนไม่มีกระจกเนอะ โลหะที่ใช้ก็เป็นพวกเงิน ทองเหลือง สำริด พวกนี้ค่ะ แอบสงสัยว่าจะมีเป็นคันฉ่องทองบ้างมั้ยนะ 138 ถ้ามีนี่คงไฮโซสุด ๆ 

คันฉ่องเล็ก ๆ พวกนี้ไม่ใช่แค่เครื่องประดับไว้แต่งความงามของผู้หญิงอย่างเดียวนะคะ บางอันด้านหลังประทับตราของผู้ครองแคว้นไปคนถึงกษัตริย์ บางครั้งเวลาผู้นำเหล่านี้ส่งใครไปราชการโดยเจ้าตัวไม่ได้ไปเองก็มอบคันฉ่องเล็ก ๆ เหล่านี้ให้ติดไปแสดงว่าเป็นตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้ง

  


เครื่องเงินที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์ และเครื่องใช้ที่แกะและถักทอเป็นลวดลายละเอียดและสวยงามก็ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อยค่ะ






บ้านจำลองวิถีพื้นบ้านอีกหลังหนึ่ง คือ จำลองการอยู่ไฟของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก



แผ่นไม้ยกสูงข้างกองไฟ คือ ที่นอนของคุณแม่ค่ะ เด็กก็จะนอนอยู่ในเปล เห็นที่เป็นเหมือนเชือก ๆ ที่แขวนใกล้กระไดและรอบบ้านใช่มั้ยคะ นั่นไม่ใช่เชือกแต่เป็นใบสับปะรดค่ะ เอาไว้กันผีเพราะเป็นใบที่มีหนาม


โฟกัสที่ชั้นเหนือเปล รูปที่แขวนไว้บนสุดก็จะเป็นพวกรูปเทพหรือเครื่องลางอะไรที่ได้มาจากพระ หิ้งต่ำลงมาเป็นของเซ่นไหว้ครูบาอาจารย์ของหมอตำแย หิ้งต่ำสุดเป็นของเซ่นไหว้ภูตผีไม่ให้มาทำอันตรายแม่และเด็ก




ไม่แค่นั้นนะคะ ใต้ถุนเรือนมีกิ่งพุทราเป็นความเชื่อว่าใช้กันผีกระสือ ผีกระสือกลัวโดนกิ่งพุทราเกี่ยวไส้ค่ะ 39 จริง ๆ จะเอามาสุมกันหลายกิ่งนะคะ อันนี้เป็นตัวอย่างเฉย ๆ ค่ะ รูปนี้เห็นใบสับปะรดชัดเจนเลยเช่นกัน




ทำไมรายละเอียดเยอะ แต่ที่นี่มีแต่ของเจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ทุกชิ้นทุกจุดมีความรู้ทั้งนั้น เล่าห้าวันไม่จบ เหอะๆๆ ขออีกสองอย่างก่อนจะจากไปเนอะ เราชอบมากค่ะ

อันแรกเป็น คัมภีร์ใบลาน ได้ยินคำว่าคัมภีร์ใบลานมานานมากแต่เพิ่งได้เห็น แล้วดูวิธีการเก็บของเค้าสิคะ มีกล่องไม้ มีลวดลาย มีเรื่องราว






และอีกอัน คือ ไม้ตะพด ค่ะ ผู้ชายไทยสมัยก่อนนิยมถือไม้ตะพดกันเนอะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะถือก็ได้ เค้าก็มีธรรมเนียมการถืออยู่เหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่กฎเกณฑ์แต่เป็นอันรู้กันค่ะ หัวไม้ตะพดนี่ถูกประดับประดาให้เหมาะสมกับผู้ใช้นะคะ




น้องสาธิตให้ดูถึงวิธีการจับ... คุก ตะราง ขุนนาง พระยา ต่างกันอย่างไร มาฟังน้องเล่ากันดีกว่า

 

ที่เราเคยได้ยิน คุก ตะราง ขุนนาง พระยา ใช้วัดลักษณะไม้ตะพด ไล่จากหัวไปปลาย กำมือรอบหัวแล้วนับ คุก กำมืออีกข้างต่อจากอันแรกนับ ตะราง ไล่ลงไปเรื่อย ๆ แบบนี้ คุก ตะราง ขุนนาง พระยา สุดปลายตกอยู่ที่คำว่า ขุนนาง หรือ พระยา ก็ถือว่าเป็นไม้ตะพดดี ถ้า คุก หรือ ตะราง ก็เป็นไม้ไม่ดี

แต่วันนี้เราได้รับความรู้ใหม่จากการจับเพื่อใช้เป็นอาวุธ ไล่ขึ้นมาจากปลายวัดหนึ่งคืบนับว่า คุก แล้วจับให้มั่นเวลาฟาด เมื่อจับตรงนี้แรงเหวี่ยงจะหนักสุด หัวไม้ตะพดที่ทำจากหิน เหล็ก หรือของหนัก ๆ สามารถทำให้คนบาดเจ็บหนักถึงตายได้ 

วัดขึ้นมาอีกหนึ่งคืบนับ ตะราง แรงฟาดก็จะเบากว่า ไม่ถึงตายแต่ก็สามารถทำให้บาดเจ็บค่ะ

ส่วน ขุนนาง และ พระยา ก็วัดขึ้นมาอีกอย่างละคืบ อันนี้ไม่ได้ใช้เพื่อทำร้ายใครแล้ว แต่ใช้สำหรับเจ้าคนนายคนจับเพื่อสั่งงานบริวารน่ะค่ะ ถึงจะใช้ตีลงโทษก็เบา ๆ ไม่ถึงกับเป็นอันตรายอะไร และส่วนมากใช้ป้องกันตัวมากกว่า


ความรู้เพียบมากที่นี่ แค่อาคารเดียวน้องใช้เวลาอธิบายเราหนึ่งชั่วโมงกว่า ออกมาก็ได้เวลากลับไปสนามบินพอดี ชมเสร็จคุณป้าเอาน้ำเย็น ๆ มาให้ดื่มอีกนะเพราะอากาศร้อนและใช้เวลากันเต็มที่จริง ๆ ได้คุยกับคุณป้านิดนึง เสียดายไม่ได้พบคุณลุงจ่า ท่านอยู่ที่โรงหล่อพระ จริง ๆ อยู่ไม่ไกลกันนะคะ เดินถึงได้เลย คุณป้าบอกว่าถ้ามาตอนอากาศไม่ร้อนขนาดนี้จะพาไปดูเค้าหล่อพระ แต่วันนี้อากาศร้อนมาก ไม่เหมาะกับคนที่ไม่เคยอยู่ในที่ร้อนแบบนั้นแน่ ๆ มาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังบอกจะไปอีก เพื่อน ๆ ขอตามไปเป็นแถวเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ 66


และๆๆ... ปิดท้ายกันด้วยอาหารเที่ยง ด้วยความไม่ได้เอารถไป ก็เลยทานง่าย ๆ แถว ๆ วัดใหญ่ เดินเลียบแม่น้ำน่าน ทำไมที่นี่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาเยอะจัง นี่แหละ ง่ายดี ซักร้าน 69

รสชาติใช้ได้เลย ไม่ถือว่าอร่อยต้องมาไม่งั้นมาไม่ถึงเมืองสองแคว แต่ก็ไม่ผิดหวังค่ะ ชอบความสดใหม่ของอาหาร ความรวดเร็วของการให้บริการ และความสะอาดค่ะ 24





 



Create Date : 21 พฤษภาคม 2562
Last Update : 22 พฤษภาคม 2562 13:04:22 น.
Counter : 2902 Pageviews.

25 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณกะว่าก๋า, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณKavanich96, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน

  
แถวบ้านแม่ค่ะคุณแฟร์ ที่พิดโลกที่เที่ยวสวยเพียบเลยค่ะ

ร้านกว๋ยเตี๋ยวเมืองสองแควร้านอร่อยๆแต่งร้านเก๋ๆเดี๋ยวนี้เยอะมาก

แต่ราคาก็เยอะตามร้านจริงๆ ไม่ถูกเหมือนสมัยก่อน

แต่ก็นั้นหล่ะค่ะ ค่าแรงแพงค่าของมาทำอาหารขึ้นราคาตามกัน

ไปหมด เที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับนะคะ

ป.ล.ขอบคุณค่ะที่แวะหาเจ้ากะทิกับน้องแป้งค่ะ อิอิ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:34:41 น.
  
โหยยย....ขออภัยครับคุณแฟร์
ลิ้งค์แรกยาวไปหน่อย 555
คุณแฟร์ลองเข้าไปดู
แล้วลบเม้นท์นี้ออกก็ได้นะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:34:43 น.
  
555 ขอแอบแปะลิงค์แบบย่อนะคะคุณก๋า... เก็บไว้ตรงนี้ด้วยเผื่อจำไม่ได้ในอนาคตค่ะ ขอบคุณมากค้าบบบ ^^

---------------

ของเก่า
มีประวัติ มีคุณค่าจริงๆนะครับ
ดีใจที่ยังมีคนเก็บรักษาเอาไว้
ดูแลเป็นอย่างดี
จนในที่สุดก็กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีมากๆ
สำหรับประชาชน




หนังสือของ สนพ. open หมดเร็วมากครับ
โดยเฉพาะฉบับปกแข็ง แต่มีขายกระจายหลายที่นะครับ
ปกติผมก็สั่งจากหลายเว็บเลยครับ

เช่น เว็บนี้ครับ มีทั้งหนังสือใหม่และหนังสือือสองครับ
//www.oncebookk.com/shop/oncebookk/default.aspx?page=pdtdetail&url=oncebookk&pdtid=016077&lang=TH


และเว็บนี้ก็ดีครับ

http:readery.co/9786167982335
โดย: melody_bangkok วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:52:30 น.
  
เคยไปมาแล้ว แต่ก็ตามชมที่นี่อย่างละเอียด
เพราะเวลาไปเองมักเดินผ่านๆ ก็อย่างว่า
เวลาไม่อำนวยให้นวยนาด

ชมแล้วก็ให้กำลังใจ แล้วก็กลับไปเก็บกวาดบ้านต่อ
ทำมาแต่เช้าแล้ว ยังไม่เสร็จสักที

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:11:20 น.
  
ทึ่งกับ..ภูมิปัญญาชาวบ้านมากค่ะ กะลากันมด ^^

ไปสองแควต้องกินเตี๋ยวห้อยขาไม่งั้นไปไม่ถึง อิอิ



โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:53:13 น.
  
เดี๋ยวนี้ผมสั่งซื้อแบบออนไลน์
สะดวกดีครับ ได้ส่วนลดเหมือนซื้อจากร้านหนังสือด้วย
บางเล่มหายากก็ซื้อแบบมือสองครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:30:40 น.
  
เป็นลูกพระนเรศปีนึงครับ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วก่อนจะมาเป็นลูกแม่โดม สมัยนั้นยังเรียกว่า มศว พิดโลก อยู่เรยยย .... เกริ่นมาเพื่อจะบอกว่าอยู่พิดโลกมาปีนึงหา "บ้านจ่าทวีไม่เจอครับ" .... เพิ่งหาเจอตอนที่มีกูเกิลนี่แหละครับ แล้วจะบอกว่า .... เมื่อตอนอยู่พิดโลกขี่มอไซค์ไปซื้อกล้วยปิ้งใกล้ๆบ้านจ่าบ่อยๆ ฮ่าๆๆๆๆ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:59:45 น.
  
ตามมาเที่ยวพิดโลกด้วยครับ
ไปพิดโลกหลายครั้ง แต่ไม่เคยเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์เลยครับ

ฝันดีครับ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:25:57 น.
  
กะละกันมดเก๋มากค่ะคุณแฟร์ ภูมิปัญญาที่มีประโยชน์นะคะ
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวีน่าเที่ยวมาก อยู่ไม่ไกลวัดใหญ่ด้วย
ไปพิษณุโลกโอกาสหน้าจะแวะพิพิธภัณฑ์ฯบ้าง
ขอบคุณคุณแฟร์ที่พาชมค่ะ

นอนหลับฝันดีนะคะ
ขอบคุณกำลังใจด้วยค่ะคุณแฟร์
โดย: Sweet_pills วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:0:11:03 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:1:52:53 น.
  


สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:26:20 น.
  
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณแฟร์
วันนี้ว่าง เดินสายแต่เช้า
พรุ่งนี้จะกลับบ้านป่าสิบวัน
แต่ก็เข้าบล็อกได้บ้าง

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:7:18:02 น.
  
น่าไปมากเลยค่ะ
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:10:49 น.
  
สวัสดียามค่ำแล้วลาไปนอนเลยนะคะ
ไข้าหวัดกินซะแล้วพี่ ไอเลิฟยูเลบ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 25 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:12:25 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณแฟร์

งานยุ่งถือเป็นข่าวดีครับ 5555
เพื่อนผมเพิ่งปิดร้านอาหารของเค้าไป
เศรษฐกิจที่เชียงใหม่ซบเซาจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:18:46:49 น.
  
เอาต้มข่าไก่มาเสิร์ฟคราบ

https://www.bloggang.com/data/c/chubbylawyer/picture/1558706254.jpg
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:55:57 น.
  
ลืมๆๆ กดเพลิน อิอิ

โดย: ทนายอ้วน วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:56:24 น.
  
หลับฝันดีจ้า คุณแฟร์..
โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:34:29 น.
  
วันนี้ฝนตกมานิดหน่อย
นอนหลับฝันดีนะคะคุณแฟร์

โดย: Sweet_pills วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:22:30:11 น.
  

สวัสดียามเช้าครับคุณแฟร์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:49:38 น.
  
สวัสดียามค่ำค่ะ
ลาไปนอนด้วยเลยนะคะ
ยังเป็นหวัดงอมแงม น่าเบื่อมาก

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 28 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:31:14 น.
  
เชียงใหม่ก็ฝนตกครับคุณแฟร์
อากาศเย็นสบายเลย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 พฤษภาคม 2562 เวลา:19:29:36 น.
  


สวัสดียามเช้าครับคุณแฟร์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 พฤษภาคม 2562 เวลา:7:05:04 น.
  
สุขสวัสดีครับ
หยุด 3 วันไปเที่ยวไหนครับ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 31 พฤษภาคม 2562 เวลา:16:20:43 น.
  
สวัสดียามเช้าค่ะ
งานยุ่งมากแน่เลย
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 7 มิถุนายน 2562 เวลา:6:48:22 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

melody_bangkok
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีโลกส่วนตัวสูงมากมาย แต่ในบางครั้งก็พยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้าไปในโลกส่วนตัวของคนอื่น... :P
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ... ^^
Daisypath Vacation tickers
พฤษภาคม 2562

 
 
 
1
3
5
6
7
9
10
11
12
14
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog