![]() |
||||
ปลดปล่อยอารมณ์ @ เชียงของ ทริปนี้เกิดขึ้นจากความเซ็งล้วน ๆ เหนื่อย เลยหลบหนีสังคมและความวุ่นวาย ยื่นลาพักร้อนด่วน อุตส่าห์ได้มาตั้งสามวัน ก็เลยหาที่ไป โนไอเดียอีก รู้แค่ว่าอยากไปไหนซักที่ เท่านั้นเอง ![]() เข้า skyscanner หาตั้๋วถูกสุดที่ไหนก็ไปที่นั่น ถูกสุดเป็นตั้๋วโปรฯไปสิงคโปร์ เอ๊ะ... จะดีเหรอ เราอยากอยู่สงบ ๆ หนีความวุ่นวาย หนีคนเยอะ อารมณ์ติสท์แตกแล้วล่ะตอนนั้น ลำดับถัดมาเป็นเชียงราย... อืมม... พล่ามเยอะไปนะ เอาเป็นว่าสองนาทีถัดมาก็ได้ตั๋วเครื่องบินกับ confirmation โรงแรมมาอยู่ในมือ คืออะไร ![]() หลังจากนั้นก็เริ่มส่งไลน์บอกคนสนิททั้งหลายว่าจะไม่อยู่แล้ว จะไปโดดน้ำโขงแล้วนะ เพื่อนตอบกลับ... อือ... อย่าให้เห็นว่าแกกลับมา... ![]() ใจร้ายอ่ะ... ![]() ออกเดินทางด้วยนกแอร์ค่ะ ![]() เลือกนกแอร์เพราะมี shuttle ride ไปถึงโรงแรมเลย เราพัก ibis เชียงของนะคะ ไว้เดี๋ยวค่อยพูดถึงโรงแรมกันเนาะ แต่ขอบอกว่าประทับใจมาก ![]() รถ shuttle ride จากสนามบินเชียงรายไปเชียงของเป็นรถตู้ใหม่ สะอาด คนขับน่ารัก สุภาพ เป็นมิตร และบริการดีมากค่ะ ![]() ขอบอกอีกว่าทริปนี้เป็นทริปไปตายเอาดาบหน้ามาก ไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย เหนื่อย บวกกับที่จะใช้เวลาที่เชียงของแค่วันครึ่งเองด้วย เลยไม่ต้องมีแพลนกันล่ะ กะว่าถ้ามันไม่มีอะไรทำ ก็นี่ไง นั่งแสดงมิวสิควีดีโอ เหม่อมองแม่โขงทั้งวันก็น่าจะโอเคแล้วนะ ![]() ก็แค่เมืองเล็ก ๆ มันจะมีอะไร แต่... เมื่อไปถึงที่นั่น... ความคิดเปลี่ยน ไปเที่ยวกันเถอะ ![]() เข้าตัวตำบลเวียงแล้วววว ![]() เช็คอินที่นี่นะคะ ibis Styles Chiangkhong Riverfront ![]() และนี่คือวิวที่มองเห็นจากห้องพักเราค่ะ ![]() ฝั่งนู้นคือห้วยทรายของลาว มองเห็นเหมือนเจริญอยู่นะ มีโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งบรรเทิงต่าง ๆ จริง ๆ เชียงของไม่เล็กนะคะ เพราะเป็นอำเภออำเภอนึงเลยทีเดียว แต่เราอยู่แค่ตำบลเวียง แล้วก็แถบ ๆ โรงแรม มาดูกันดีกว่าว่าวันครึ่งกับทริปติสท์แตก หนีสังคม โนแพลนนี่เราทำอะไรไปบ้าง เราหิว บ่ายสามแล้วนี่... วาดฝันว่าคราวนี้แหละ อาหารเหนือทั้งหลาย ยิ่งบรรยากาศบ้าน ๆ แบบนี้ แกงฮังเลจงมา ไม่มีอะไรมาเลย ฮ่าๆๆ คือมันเป็นบ่ายสาม แล้วการใช้ชีวิตที่นี่เค้ายังเป็นหมู่บ้านที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ ร้านลาบ ส้มตำ น้ำตกเริ่มเตรียมของขายตอนเย็น ส่วนร้านอาหารตอนกลางวันก็เริ่มเก็บ สรุป... ก๋วยจั๊บญวนฮะ คือ อาหารมื้อแรกของเราที่นี่ แต่... ร้านนี้ทำเราอึ้ง และทำให้เรากลับมาอีกตลอด ร้านชื่อ ปิงปิง เปิด 7.00 - 20.00 นะฮะ นอกจากพี่สาวน่ารัก ใจดี ยิ้มหวาน เป็นมิตร อาหารยังไม่เป็นรอง สั่งก๋วยจั๊บญวนไป สิ่งที่ได้มาคือก๋วยจั๊บญวนชามเบ้อเริ่ม น่องไก่อย่างอวบ และไข่ยางมะตูมฟองโต ![]() อิ่มมาก พี่เจ้าของเก็บเงิน... 35 บาท... ![]() ตกใจ พี่คิดผิดป่ะฮะ แหะๆ ไม่แค่นั้น... ตอนเย็น เรามาทานไข่กะทะ... ก็ 35 บาท ![]() วันต่อมา มาทานก๋วยจั๊บญวนกระดูกหมู หมูชิ้นตู้มมากค่ะ... 35 บาท เหมือนเดิม ![]() มากกว่านั้น สิ่งที่ทำให้เราประทับใจร้านนี้วันแรก คือมีคนมาซื้อกาแฟร้อน ที่ชง ๆ น่ะค่ะ พี่เค้าชี้ไปที่เคาน์เตอร์กาแฟ แล้วบอกว่ากาแฟที่นี่เชิญชงได้เองเลย แก้วละ 10 บาท ไม่ว่าจะใส่ส่วนผสม กาแฟ ครีม นม น้ำตาลอะไรแค่ไหนก็ 10 บาท ได้ใจเราเลยอ่ะ คือการให้บริการด้วยใจ ทรีตลูกค้าเหมือนเป็นคนในครอบครัวนี่ เรายอมใจเลย ใครไปเที่ยวที่นี่ ลองแวะไปนะคะ ร้านปิงปิง พี่คนขายน่ารักจริง ๆ ค่ะ ส่วนหน้าตาร้านก็เป็นแบบนี้ฮับ สีชมพูเห็นเด่นแต่ไกล อยู่เยื้อง ๆ วัดพระแก้วค่ะ ![]() ที่นี่วัดเยอะเหมือนกันนะคะ เดิน ๆ ไปเห็นวัดอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ วัดแรกที่เราเจอ คือ วัดพระแก้ว ตอนที่เข้าไปไหว้พระเห็นที่ตั้งอยู่หน้าพระประธานเป็นพระพุทธรูปที่มีเครื่องทรงเหมือนวัดพระแก้วมรกตฤดูหนาว มาทราบทีหลังจากพี่ร้านอาหารเวียตนามว่าพระแก้วมรกตเคยประดิษฐานอยู่ที่นี่มาก่อน อันนี้เราก็ไม่ค่อยสันทัดซักเท่าไหร่แฮะ กับเรื่องพุทธศาสนาเนี่ย ยอม!! เลยเดินไปไหว้พระ แล้วก็ยืนสูดอากาศริมแม่น้ำ ![]() ![]() ![]() ออกมาดูข้างนอกบ้างดีกว่าเนอะ ชอบเมืองนี้จังค่ะ เดินมากิโลกว่าถึงเจอ 7-11 นึกว่าจะไม่มีนมดื่มก่อนนอนแล้วสิ แต่ร้านโชห่วย ขายของกินของใช้ยังมีเยอะมาก บางร้านขายของสดด้วยค่ะ ![]() ![]() ![]() แค่นี้ก็เกือบหกโมงเย็นแล้วค่ะ พอเดินกลับโรงแรม เราเลือกเดินกลับตรงทางเดินริมโขงค่ะ มีคนมาวิ่งออกกำลังกายทั้งคนไทยและต่างชาติ... อ้อ... เราไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวคนไทยค่ะ อาจเพราะเป็นวันธรรมดา เห็นคนต่างชาติเยอะ ถามคนท้องถิ่น (อีกแล้ว... ไปไหนก็คุยกับเค้าไปได้เรื่อยเลยเรา รู้สึกตัวเองพูดมากแฮะ ![]() คนแถวนั้นบอกว่าแต่ก่อนมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเชียงของเยอะ เพราะส่วนมากเค้าจะมาเที่ยวเชียงใหม่ เชียงราย แล้วก็ข้ามไปหลวงพระบางกัน แต่ตั้งแต่การคมนาคมสะดวกขึ้น มีทั้งสะพานมิตรภาพ ทั้งเรือรับจ้าง นักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยค้างกันแล้ว เค้ามาถึงเค้าก็ข้ามไปฝั่งนู้นกันเลย นัยว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวลาวเค้าดีด้วยอ่ะค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ฝั่งห้วยทราย สปป. ลาว ดูเจริญเนอะ เห็นว่าคนจีนมาลงทุนเยอะมาก จะว่าไปมันก็เป็นธรรมดาเนอะในการเพิ่มรายได้ และสร้างความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศเค้าเอง เราถามว่าแล้วไม่มีคนจีนมาลงทุนทางฝั่งเชียงของบ้างเหรอ เค้าก็ตอบว่าก็มีนะ แต่ไม่เยอะ ซึ่งเราว่าดีนะ ![]() กลับเข้าที่พัก นอนกลิ้งไปมาพักเหนื่อย ประมาณทุ่มก็ออกมาหาอะไรทาน เอ่อ... จะมีอะไรให้ทาน... นะ?? ![]() ดูความมืดของบ้านนี้เมืองนี้ ออกมา เอ่ออ... เอาไงดี กลับไปสั่ง room service ก็ได้มั้ย แต่เห็นนักท่องเที่ยวเค้าก็เดินกัน อากาศเย็นด้วยนะคะกลางคืน ก็เลยเอาบ้างดีกว่า และทำให้รู้ว่าไม่น่ากลัวเลย ถึงจะดูมืดและเงียบ แต่เดินได้ชิล ๆ มากค่ะ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอันตรายเลยแม้แต่นิด ![]() เค้ามีกับข้าวถุงขาย เราพลาดมาก ตอนแรกก็อยากซื้อนะ เพราะอยากลองทานดู มันต้องเป็นอาหารท้องถิ่นน่ะ แต่จาน ช้อน ส้อมล่ะ ![]() ซึ่ง... แล้วเรามารู้วันกลับว่า นั่นแหละเป็นอาหารท้องถิ่นที่สมควรลองเป็นอย่างยิ่ง... แง้!! ![]() แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราก็เจอของอร่อยมากอีกอย่าง มันคือ... ปิ้งย่างสิบสองปันนา เค้าบอกว่าอย่างนั้นนะคะ เป็นพวกกระเจี๊ยบ เห็ด หมู ไก่ ปลาหมึก กุนเชียงก็มี ลูกชิ้นก็มา เอามาย่างกับน้ำจิ้มสูตรของเค้า อร่อยมากกกก แต่เผ็ดไปนิดสำหรับคนไม่ทานเผ็ดอย่างเรา อีกวันเลยบอกให้น้องเค้าลดน้ำจิ้มให้ น้องก็ทำให้นะคะ น่ารักมากอ่ะคนที่นี่ ทุกอย่างไม้ละ 5 บาท อะไรจะถูกขนาดนั้น ใครไปต้องลองนะคะ ห้ามพลาดเด็ดขาด ![]() ![]() เรากลับมา อากาศดีมาก เย็น ๆ ได้ยินเสียงเพลงไทยจากฝั่งลาว ถึงจะไม่ใช่แนวแต่ก็ฟังได้ เลยนั่งทานปิ้งย่างที่ซื้อมาที่ระเบียง บอกเลยว่าฟินนน ฮ่าๆๆ ![]() รุ่งขึ้น เราตื่นตี 5 ไม่ได้ตั้งใจตื่น แต่มันหนาว ขนาดไม่ได้เปิดแอร์ หยิบมือถือมาดูอุณหภูมิ... แม่เจ้า!! ![]() กรุงเทพฯไม่มี เลยกะว่าจะนั่งเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้น แต่หลับไปอีกรอบ แหะๆๆ ![]() เสียงตามสายจากฝั่งลาวเริ่มดัง แต่ยังดีกว่าเมื่อคืนหน่อย รอสายหน่อย อาบน้ำ มันหนาวอยู่นะ ฮ่าๆๆ ทานข้าวเสร็จก็มานั่งจิบกาแฟตอนเช้าข้างโรงแรม กาแฟโรงแรมก็มีนะ แต่แบบอยากได้อารมณ์ชิว ๆ จิบกาแฟดอยช้างงี้ ต้องบอกก่อนว่า... ปกติเราไม่ดื่มกาแฟนะคะ แต่ถ้าเป็นดอยช้างเราต้องขอซักนิด เราว่ารสชาติเค้านุ่มและหอมน่ะค่ะ ![]() ดื่มกาแฟเสร็จ กลับมาพักนิดนึงที่โรงแรมใกล้ 11 โมงก็ไปเดินไปชมเมืองดีกว่า และ... วันนี้เราตัดสินใจที่จะเดินไปทางท่าเรือ ซึ่งมันเป็นคนละทางกับที่เดินไปเมื่อวานนี้ ก็ประมาณกิโลนึงอีกแล้วค่ะ จริง ๆ สำหรับคนไม่ขยันเดิน ที่นี่มีสามล้อนะคะ โบกได้ตลอดทางเลย ค่าโดยสารก็ปกติค่ะ ตามจุดรับส่งใหญ่ ๆ เช่นท่าเรือ มีป้ายราคาติดไว้ชัดเจน แต่ด้วยความอากาศเย็น เราเลยขอเดินดีกว่า ทีแรกนึกว่าจะไกล แปีบเดียวเอง และอีกสาเหตุนึงที่อยากไปที่ท่าเรือเพราะไปเห็นป้ายติดไว้ บอกว่าพบกับวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองได้ที่ลานท่าเรือบั๊ค อย่าช้าเลย รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะพลาดเหมือนตลาดนัดเมื่อวานนี้ เดินไปเรื่อย ๆ เช่่นเดิม ไม่มีคนเยอะนัก ฮ่าๆๆ ฝั่งนู้นนี่เค้าเจริญจริงจังเลยเนอะ คนจีนหอบเงินมาลงทุนที่ลาวเยอะจริง ๆ เห็นมีวัดอยู่ลิบ ๆ ฝั่งนู้น อยากลองไปดูเหมือนกันแฮะ ![]() มีร้านขายอาหารและร้านโชห่วยตามสองข้างทาง มีร้านกาแฟน่ารัก ร่มรื่น ไรเดอร์ส์ คาเฟ่ หรืออะไรประมาณนี้น่ะค่ะ ![]() เราเดินจนสุดทาง เราเจอป้ายนี้ เราตื่นเต้นมากอ่ะ จุดสิ้นสุดทางหลวงแผ่นดิน ไม่เคยเจอง่ะ ตื่นเต้น ![]() ![]() ยังอุตส่าห์เดินไปดูหลังป้ายอีกนะว่ามันมีอะไรมั้ย ส่งรูปให้น้องชายดูด้วยความตื่นเต้น น้องถามเซ็ง ๆ... อือ แล้วหลังป้ายมันมีอะไรมั้ยล่ะ ก็บอกไป... มีพุ่มไม้ น้องก็ด่า ๆ เสียเวลา จะไปทำงานแล้ว... แหะๆๆ เลี้ยวขวาไปก็ถึงท่าเรือแล้วค่ะ จุดสิ้นสุดประเทศ อันนี้เฉย ๆ น่ะ เพราะก็เคยเห็นอยู่ค่ะ ![]() จะข้ามไปฝั่งนู้นจากตรงนี้ ต้องใช้ boarding pass นะคะ ไม่รับ passport เพราะเหมือนกับว่าระบบทั้งสองฝั่งยังมีปัญหาอยู่ แต่ไม่แพงค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 35 บาทหรือไง แล้วถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ 40 บาท หรืออะไรนี่แหละ ตอนแรกก็ว่าจะข้ามค่ะ แต่เราเปลี่ยนใจ ![]() ![]() เราไปยืนดูป้ายนี้ จริง ๆ มันขับรถเที่ยวได้นะคะ จากจีน ไทย ลาว ก็น่าสนใจดีค่ะ คนแถวนั้น (คุยกับเค้าไปทั่วจริง ๆ เลยเรา -*-) บอกว่าช่วงนี้ก็จะมีกลุ่มบิ๊กไบค์ออกทริปน่ะค่ะเยอะหน่อย รถจากจีนมาก็เยอะเช่นกัน... อ่อ... พวกทะเบียนฟ้านั่นเอง ![]() ตรงนี้เป็นท่าเรือแล้วค่ะ แต่... ไหนล่ะวิถีชีวิตพื้นบ้าน?? ![]() ![]() อีกแล้ว... มีคำถามก็ต้องหาคำตอบ... โดยการนั่งทานขนมเส้นน้ำแจวววว (คือเสียงเค้าไม่ แจว แล้วก็ไม่ แจ่ว นะ เสียงวรรณยุกต์มันกึ่ง ๆ และจะลากเสียงยาว ๆ ค่ะ) เป็นไงก็ไม่ทราบนะคะ แต่ทาน ฮ่าๆๆ คือวันนี้จะลองให้หมดเท่าที่ท้องจะรับไหวอ่ะ ตอนเช้าที่โรงแรมก็ทานข้าวซอยสิบสองปันนามานะ ฮ่าๆๆ แล้วชามใหญ่มาก เครื่องเยอะอีก แค่ 20 บาทอ้ะ เค้าเอากำไรมาจาไหนกันนะ เอ๊ะ... หรือจะปลูกผักเอง เค้าบอกว่าบางช่วงก็จะปลูกเอง แต่อันนี้ซื้อ เราก็ อ่อๆ ![]() ![]() พี่คนขายน่ารักอีกแล้ว สอนวิธีทาน วิธีปรุง ใส่พริกขี้หนูนะ อะไรงี้ (คือด้วยความที่เป็นคนทานอะไรไม่เคยปรุง รับชามมาก็จะทานเลย พี่เค้าคงสงสารน่ะค่ะ แหะๆๆ) แต่สังเกตมั้ยคะ ตั้งแต่ก๋วยจั๊บญวนละ ที่นี่ไม่ใช้น้ำส้มสายชูแฮะ ใช้มะนาว ลูกโตเบ้อเริ่มกันเลย กลิ่นหอมมากค่ะ ชอบมาก ถามได้ความมาว่าเมื่อตอนเช้ามีมาขายของสองเจ้า แต่ไม่มีคนมาก็เลยเก็บไป ตอนเย็นน่าจะมีอีก คุยกับคนที่มานั่งทานเห็นว่าเค้าพยายามจะจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างมันก็เงียบ สุดท้ายก็กลับมาเป็นแบบเดิม ๆ กัน แต่เราชอบนะ จากความเห็นของคนที่อยู่ในเมือง ก็อยากขอเหลือไว้ซักที่สองที่ได้ไหมที่ยังจะสัมผัสได้ถึงความบริสุทธื์ แต่สำหรับคนพื้นที่ เราก็ไม่แน่ใจว่าเค้าอยากให้มันไปทางไหนนะคะ เศรษฐกิจโตขึ้น รายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากความเป็นธรรมชาติที่จะหายไป ช่องว่างรายได้จะตามมา... สุดท้าย เราว่ามันก็จะเกิดปัญหา gap ระหว่างคนรายได้สูงและรายได้ต่ำอยู่ดี เราไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ไม่รู้สิ ช่างมันเถอะ... อย่ามาพูดอะไรซีเรียสแถวนี้เลย จขบ นี้สมองกลวงมากอ่ะเอาจริง ๆ ![]() หลังจากนั่งคุยกันกับคนแถวนั้น จนแทบจะย้ายสัมโนครัวกันแล้วเนี่ย แหะๆๆ เราก็ได้คำแนะนำว่าให้มาตรงท่าเรือนี้อีกตอนเย็น เพราะจะเห็นคนมาตั้งร้านกันมากกว่านี้ และ... มันจะมีกิจกรรมสุดชิค คือการนั่งเรือชมแม่โขง... ![]() อุต่ะ... อุ๊ยตาย... หูผึ่งกันเลย ชมแม่โขงเหรอคะ อะไรยังไงคะ ขอรายละเอียดด้วยเถอะค่ะ... พลีสสส สรุป... ก็ได้ความมาว่า... จะมีเรือแบบเรือหางยาว(ป่าวหว่า) ให้นั่งชมแม่โขงได้ อัตราค่าชมคือ เรือ 1 ลำ 1 ชั่วโมง 600 บาท 1 ลำจะลงได้ไม่เกินประมาณ 6-10 คน แต่... ถึงเราจะมาคนเดียว 600 บาท เราว่าคุ้มมาก (ตอนไปติดต่อ เค้าก็งง ๆ นะ จะไปคนเดียวเหรอ :P) เรารอเวลาประมาณ 5 โมงเย็น แดดร่มลมตก แล้วจะได้ไม่กลับมามืดด้วย และเราก็พบว่ามันเป็น timing ที่ดีมาก เพราะ... ไม่ร้อน... ลมพัดเย็น... ภูเขา... แม่น้ำ... ลมหนาว... และพระอาทิตย์ตกดิน คุณจะยังต้องการอะไรอีกหรือในการพักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายเช่นนี้... ![]() ฟินนนนนนแบบ น.หนูซักล้านตัวได้ไหม ![]() ![]() ![]() ![]() ขอขัดจังหวะค่ะ รูปนี้เห็นแก่งใช่มั้ยคะ แม่น้ำโขงระหว่างไทยกับลาวนี่ จะมีแก่งเล็กใหญ่แบบนี้อยู่ตลอดสายเลยนะคะ ![]() ช่วงที่ไปกำลังมีประเด็นเรื่องระเบิดแก่ง เพราะเรือสินค้าจากจีนตอนนี้เค้าหยุดอยู่ได้แค่เชียงรุ้ง เค้าอยากเข้ามาที่เชียงแสนและเชียงของด้วย ก็เลยมีประเด็นนี้ขึ้นมา คราวนี้เราคุยกับคนพื้นที่ การระเบิดแก่งมีข้อดีนะคะ แต่สำหรับคนแถวนั้นแล้วข้อดีมันไม่เท่าข้อเสีย การดำเนินชีวิต การทำการประมงน้ำจืดเลี้ยงชีพและอะไรต่าง ๆ ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนพื้นที่ที่นี่มากค่ะ แต่เอาเถอะ... เราจะไม่พูดเรื่องซีเรียสกัน ![]() จากท่าเรือบั๊ค เชียงของ มาถึงห้วยเม็ง ก็จะ 30 นาทีพอดี แล้วเรือก็จะเลี้ยวกลับ น้ำเชี่ยวอยู่นะเราว่า แต่ไม่มากค่ะ คราวนี้เราก็จะได้เห็นวิถีการใช้ชีวิตของฝั่งลาว ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() กลับเข้าฝั่ง 1 ชั่วโมงพอดี นั่งชมวิวไป คุยกับพี่คนขับเรือไป ได้ความรู้ใหม่ ๆ เพียบเลยค่ะ กลับมาถึงฝั่งอิ่มแล้วกับการดื่มด่ำกับบรรยากาศ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทานอาหารเย็นนะ ![]() พอเริ่มใกล้ค่ำ อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นมาอีกแล้ว เดินกลับโรงแรมก็เดินยิ้มตลอดทาง ฟินนน... ฮ่าๆๆ เช่นเคย ไปแวะนั่งคุยที่ร้านอาหารเวียตนาม แล้วก็แวะซื้อผลไม้ ปิ้งย่างร้านนั้น แล้วก็กลับที่พัก เช้าวันต่อมา เราไม่พลาดที่จะตื่นเช้า เพื่อสิ่งนี้... ![]() อากาศหนาวเลยล่ะค่ะเช้านี้ พูดทีควันออกปาก แต่หาได้หยุดพูดไม่... แหะๆๆ ![]() ![]() ![]() รถ shuttle ride ออกจากโรงแรมไปสนามบินเชียงรายตอน 10.30 น. เป็นการมาแบบไม่มีอะไร ไม่หวังอะไรนอกจากหลบหนีชีวิตที่วุ่นวาย แต่เรากลับได้อะไรกลับไปมากมาย แล้วเราจะหาเวลากลับมาอีกให้ได้ คราวนี้จะอยู่นาน ๆ เลย... ![]() รักนะ... เชียงของ... เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีอะไร นอกจาก "รอยยิ้ม" และ "น้ำใจ" กระจายอยู่ทั่วเมือง... ![]() ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96
![]() ในความเห็นส่วนตัว" พายุสุริยะ" นะครับ
ใครที่ไปเที่ยวเชียงของ ถือเป็นนักท่องเที่ยวที่มีรสนิยมมากที่เดียว เมืองเล็กๆริมโขงนี่แหละ มีเสน่ห๋กว่าในเมืองเชียงรายเยอะเลย แต่เท่าที่ดู วันนี้เชียงของ เจริญจนผิดกับเมือ่สองปีที่แล้วมากพอควร ไม่อยากให่เชียงของเป็นแบบเชียงคานเลยจริงๆ.... โดย: พายุสุริยะ
![]() |
melody_bangkok
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีโลกส่วนตัวสูงมากมาย แต่ในบางครั้งก็พยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้าไปในโลกส่วนตัวของคนอื่น... :P ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ... ^^ ![]() All Blog
Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |