![]() |
||||||
หนีร้อนไปพึ่งเย็น @ ปิล๊อก เมษายนปีที่แล้ว (ปีที่แล้ว ยังอุตส่าห์จะเขียน ไปปิล๊อกกันเถอะ น้องบอก ได้ยินชื่อปิล๊อกมานานแล้ว แต่ลืมไปทุกครั้งที่มีวันหยุดมาถึง พอน้องพูดขึ้นมา ตาวาวขึ้นมาเลยทันที ![]() ![]() แต่ความฉุกละหุกยังไม่หมดเมื่อวันถัดมาน้องบอกว่ารถโดนชนต้องเข้าอู่ จะเสร็จหลังสงกรานต์ รู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกผู้ชายบอกเลิก แต่เมื่อใจจะไป ก็โทรหารถเช่าค่ะ ความซวยคือมันเป็นช่วงสงกรานต์ รถเช่าเต็มหมด ติดต่อบริษัทไหนก็เต็ม จนไปได้ที่บริษัท EcoCar Rent รถใหม่มาก ราคาเป็นมิตรมาก ก็งงอยู่ว่าทำไมยังเหลือรอด แต่ช่างมัน ขอแค่ได้รถ เรื่องอื่นอย่าไปสน ![]() ขับรถออกจากกรุงเทพฯกัน 9 โมงกว่า ๆ google map บอกว่าไปทางนครปฐมใกล้สุด แต่น้องบอกว่าไปทางสมุทรสงคราม สมุทรสาครเจ๋งกว่า เราไม่รีบ เค้าบอกว่าจากกาญจนบุรีแค่ 399 โค้งก็ถึงแล้ว... นี่ก็นั่งนับไปค่ะ ทางเริ่มแคบลง โค้งเริ่มเยอะขึ้น และความชันก็เช่นกัน นับไปนับมาจะอาเจียน เมารถ แต่ขับไปเรื่อย ๆ จะมีจุดรับสัญญาณโทรศัพท์นะคะ เป็นจุดพักรถด้วย ![]() ![]() อากาศเย็นสบายค่ะถึงจะเป็นฤดูร้อน ใครอยากใช้โทรศัพท์ อยากเช็ดอิน อยากใช้เน็ต จงทำซะตอนนี้ เพราะเลยออกจากที่นี่ไปสัญญาณหายแหมือนเดิม จนถึงทางเข้าบ้านอีต่อง ![]() แต่ยังไม่ถึงที่พักนะคะ ต้องขับต่อไปอีกนิด มาถึงก็ประมาณ 5 โมงเย็น
บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ติดชายแดนพม่า ตอนมาถึงตอนแรกแอบผิดหวังนิดนึง เพราะรู้สึกเหมือนเป็นหมู่บ้านเล็กที่ถูกสปอยล์แล้ว แต่ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกสถานที่ในโลกนี้มีเสน่ห์ในแบบของมัน แค่อย่าอคติและอย่าปิดกั้น เราก็เลยออกค้นหาเสน่ห์ของมันต่อไป การเดินทางมาที่นี่ ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง เราเห็นรถประจำทางนะคะ เป็นรถสองแถวสีเหลืองจากทองผาภูมิ รถประจำทางจะมาถึงตลาดเลย ของที่ขายส่วนมากจะอิมพอร์ตจากพม่า นอกจากสินค้ายอดฮิตอย่างทะนาคาแล้ว จะมีตะเกียงพม่าและเทียนไข ตอนเราเห็นก็ยังแหย่ ๆ กันกับน้องว่าจะขายอะไรกันทุกร้าน เดี๋ยวนี้เค้าใช้ไฟฉายกันแล้วมั้ย ![]() ![]() แต่ๆๆ...ขอบอกว่า... จงซื้อเถอะ ซื้อตั้งแต่วันแรกที่ไปยิ่งดี และยิ่งช่วงเทศกาลที่มีนักท่องเที่ยวไปเยอะ ๆ นี่ยิ่งต้องซื้อ... เพราะบ้านอีต่องไม่มีไฟฟ้าจากการไฟฟ้านะฮะ แต่ที่มีไฟฟ้าใช้เพราะทางบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศที่ไปทำโปรเจ็คขนส่งก๊าซจากพม่าต้องส่งคนไปทำงานที่นี่ ทางบริษัทน้ำมันช่วยซัพพอร์ตเรื่องเครื่องปั่นไฟ เรื่องไฟฟ้าอยู่บ้าง แต่ถ้ามีคนใช้ปริมาณเยอะไฟก็จะดับ ก็ตอนเราไปคืนแรกไฟดับ ที่แซวเล่นกันกับน้องเรื่องตะเกียงกับเทียนไขเริ่มตลกไม่ออก เพราะจะไปซื้อตอนนี้ร้านก็ปิดแล้ว พอไฟดับ นักท่องเที่ยวก็ออกมาเดินกันเต็มถนนของหมู่บ้านที่เป็นเส้นเล็ก ๆ สั้น ๆ หลายกลุ่มมีตะเกียงพม่าและเทียนไข ฝนเริ่มลงเม็ด มีฟ้าแลบฟ้าร้องอีกต่างหาก แต่สนุกดีค่ะ จุดถ่ายรูปอีกจุดหนึ่งติดกับตลาด คือ สะพานเหมืองแร่ ใช่แล้วค่ะ ก็ที่เคยได้ยินกันนั่นแหละ แถบนี้แต่ก่อนเป็นเหมืองเก่า ชื่อ "เหมืองปิล๊อก" ตอนนี้ไม่มีการดำเนินการแล้ว แต่ยังเก็บของที่ใช้ขุดแร่ไว้ให้ได้ชมกันค่ะ แร่ที่ขุดได้จากที่นี่เป็น แร่ดีบุก กับ วุลแฟรม และเหมืองที่เรียกว่าปิล๊อกนี่ก็เพี้ยนมาจากคำว่า เหมืองผีหลอก เพราะเหมือนกับแต่ก่อนคนงานชาวพม่าขโมยแร่ไปขายให้ต่างชาติ ก็มีการปะทะกันบ้างน่ะค่ะ แล้วเค้าว่ากันว่าแถวนี้ในสมัยก่อนนี่เป็นเมืองไกลปืนเที่ยงดี ๆ นี่เอง... ซึ่งๆๆ... ข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลนี้ เราฟังมาจากคนแถวนั้นนะคะ ฟังเค้าเล่านู่นนี่นั่น เราก็ประมวลภาพตามเป็นหนังไทยสมัยคุณสมบัติ เมทะนีกันเลยทีเดียว สนุกดี เราถามน้องเจ้าของที่พัก ได้ความว่าคนที่นี่ก็จะเป็นคนงานเก่าจากที่เหมืองนั่นแหละ แต่ตอนนี้เริ่มเป็นรุ่นลูกหลานแล้ว และที่มากขึ้นเรื่อย ๆ คือคนพม่า เราพยายามคุยกับคนพม่าที่หมู่บ้านนี้นะ คุยหลายคนมาก แต่ไม่มีใครคุยกับเราเท่าไหร่ สรุปได้พี่สาวร้านนี้ค่ะ พอเริ่มคุยได้คราวนี้คุยไม่หยุดเลย สนุกมาก ปกติคนมาที่นี่จะต้องไปที่เนินช้างศึกใช่มั้ยคะ แต่มันร้อนนะตอนกลางวัน พอไปได้แป๊บนึง น้องชายขี้เกียจเดิน เลยกลับมาเดินเล่นในแถบที่พักค่ะ อยากเห็นฝั่งพม่า เลยขอน้องเดินไปดู เดินผ่านวัด เราชอบวัดนี้นะ เราว่าสถาปัตยกรรมของแต่ละท้องถิ่นมันมีความน่าสนใจ อย่างแถวนี้เราว่าอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกับศิลปะพม่ามากกว่าไทย เดินมาถึงจุดตรวจค่ะ ที่จุดตรวจได้บอดี้การ์ดติดไปด้วยหนึ่งตัว เห็นน้องชายเรียกขาวนวล เราก็งง ไปรู้จักมักจี่ถามชื่อแซ่กันตั้งแต่เมื่อไหร่ น้องบอกก็ตั้งให้ตอนนี้แหละ -*- ไร้สาระมาก ตรงนี้เป็น จุดประสานสัมพันธไมตรีนิจนิรันดร์ ไทย-เมียนมาร์ จุดนี้เป็นทางเดินขึ้นไปเนินเสาธง จะมีทหารไทยและทหารพม่ามาประจำอยู่ ตอนที่เราไปเป็นช่วงสงกรานต์ ทหารไทยกับทหารพม่านั่งทานอาหารเที่ยงอยู่ด้วยกัน เฮฮามาก เราก็เข้าไปถามนู่นนี่ ทหารพม่าเอาเครื่องดื่มให้ดื่ม ชวนนั่งทานข้าวเที่ยงอีกนะ ใจดีมาก ๆ คนแถวนี้ จากตรงนี้ เรามองเห็นพม่า ถามเค้าว่าตรงนั้นคือเมืองอะไร เค้าบอกว่าทวายค่ะ ใช่เหรอ มันควรมีเมืองอะไรคั่นก่อนถึงทวายหรือเปล่านะ เนินเสาธงค่ะ มีธงชาติไทยและพม่าอยู่เคียงข้างกัน จริง ๆ อยู่แถว ๆ นี้ก็คุ้มแล้วนะคะ แต่อากาศตอนกลางวันร้อนมาก เราก็เลยไป น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ที่อยู่ใกล้ ๆ กันด้วยค่ะ ทางเข้ายังมีเป็นต้นไม้สูงและต้นหญ้าสูง พอได้ยินเสียงน้ำตกเลยรู้สึกเย็น อาหารการกินที่นี่ไม่ขาดแคลนค่ะ เห็นมีรถมาส่งวัตถุดิบทุกวัน อาหารอร่อย แต่ช่วงที่เราไปนี่แมลงวันเยอะมาก ๆ ต้องจุดเทียนไล่กันทุกมื้อ ไม่งั้นคือตอมอาหารกันทานไม่ได้เลย ถามเค้าว่าทำไมมันเยอะขนาดนี้ เค้าบอกว่าเยอะตั้งแต่มีงานก่อนหน้านี้ สะสมมาเรื่อย ๆ และกับประโยคนึงที่สะดุดใจเรา... "นักท่องเที่ยวมา เอาขยะมา แล้วก็ไม่เอาลงไป ขยะเยอะมาก" นั่นสิ เราเลยถามว่าแล้วไม่มีการจัดการกับขยะเหรอ ก็ได้คำตอบว่า ก็จัดการ มีเผาไปนะ คือจะเผาทีเดียวเยอะ ๆ ก็ไม่ได้ และถึงเผาก็ยังไม่ทันแมลงวันที่ออกลูกเร็วมาก เออ!! มันเยอะจริงค่ะ ยังไงฝากนักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาความสะอาดเนาะ มีร้านกาแฟ 4-5 ร้านได้มั้ง จำไม่ได้แน่นอน แต่เยอะอ่ะค่ะ เราชอบสองร้าน ร้านนึงเราซื้อบ๊วยแดงโซดา จะเป็นร้านตรงหัวมุมใกล้ทางเข้าเหมืองปิล๊อก มาร้อน ๆ ได้ดื่มนี่สดชื่นมาก ฟิน ซื้อกันหลายแก้วเลย และอีกที่นึงคือชาชัก หวานมันดีค่ะ และเราแนะนำอาหารเช้าค่ะ ควรต้องเป็นไข่กะทะกับกาแฟหรือชาโบราณ หรือจะเป็นชุดไข่ลวกก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ อย่าว่างั้นงี้ เครปก็มีนะคะ เตาใหม่เอี่ยม เราหายไปแล้วกลับมาพร้อมเครป น้องขำ มันบ้านอีต่องจริง ๆ ใช่มั้ย ทันสมัยซะ แหม!! แต่ของพื้นบ้านอย่าง หมาก เราก็ไปลองชิมดูนะเออ ไม่เคยเคี้ยวหมากมาก่อน อยากลอง เห็นเค้าขายคำละสองบาทเลยซื้อมาอันนึงลองชิม น้องชายร้องห้ามไม่ทัน เอาเข้าปากแล้ว อื้อหือ รสชาติ ไม่คุ้นเลยจริง ๆ จริง ๆ เราเห็นในเน็ตเค้าบอกว่าที่นี่เป็นเมืองที่มีหมอกหนาปกคลุม เราอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนั้น แต่เสียดายค่ะ ช่วงเราไปไม่มีหมอกเลย น้องร้านบ๊วยแดงโซดาบอกว่าปีหน้า (ก็ปีนี้แหละ) มาใหม่นะ เราตอบรับมาแน่นอนค่ะ อย่างที่บอกค่ะ เราว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป แน่นอนว่าความเจริญก็ต้องเข้ามาถึง การศึกษาทำให้คนไม่อยากอยู่กับที่ เราเห็นด้วยมาก ๆ นะคะ ไม่จำเป็นที่จะต้องเห็นเมืองที่ถูกสต๊าฟแล้วคนท้องถิ่นต้องซัฟเฟอร์กับการไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก เราชอบนะ เราวา่บ้านอีต่องเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ในแบบของมัน ถึงจะมีความเจริญเข้าไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่เราว่าช่วงเวลาที่เด็ดของที่นี่น่าจะเป็นเมืองในหมอกนะ แล้วเราจะไปเยี่ยมเยียนอีกในวันที่มีหมอกปกคลุมนะจ๊ะ...
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96
![]() ![]() เป็นเมืองที่น่ารักดีนะคะ
ได้ซึมซับบรรยากาศช่วงไฟดับด้วย คลาสิกเชียว ^^ โดย: VELEZ
![]() |
melody_bangkok
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีโลกส่วนตัวสูงมากมาย แต่ในบางครั้งก็พยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้าไปในโลกส่วนตัวของคนอื่น... :P ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ... ^^ ![]() All Blog
Friends Blog
Link |
|||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |