เมืองโบราณจันเสน ในยุคเดียวกับจิตรเสนขุนศึกแห่งแม่น้ำมูล...ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์พัฒนาการบ้าน-เมืองในยุคเหล็ก แสดงให้เห็นถึงเครื่องมือเหล็กในหลุมฝังศพมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย เช่นใบหอก ขวาน หัวธนู จากนั้นจึงเป็นหัวข้อ จันเสน เมืองแรกเริ่มในลุ่มน้ำลพบุรี ป่าสัก โดยอธิบายว่าบริเวณนี้เป็นเมืองโบราณชื่อว่าโคกจันเสน มีขนาดใหญ่ประมาณ ๓๐๐ ไร่ โดยการขุดค้นนั้นไม่พบโบราณสถานใดๆ พบเพียงซากอิฐดินเผา และจากการศึกษาก็พบว่าเมืองนี้เป็นเมืองในสมัยทวารวดี และรุ่งเรืองอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๒...เมืองจันเสนเป็นนครโบราณสมัยทวารวดีตอนต้นที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาขึ้นมาจากชุมชนสมัยโลหะตอนปลาย มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว นับได้ว่าเป็นชุมชนแรกเริ่มในสุวรรณภูมิที่มีการติดต่อกับทางอินเดีย ร่วมสมัยเดียวกับเมืองอู่ทองในลุ่มแม่น้ำท่าจีน และเมืองฟูนัน ใกล้ปากแม่น้ำโขง ดังเห็นได้จากโบราณวัตถุที่เป็นตราดินเผา เศษภาชนะประดับลวดลาย ลูกปัดและเครื่องประดับที่เหมือนกับที่พบในอินเดียและแคว้นฟูนัน ชุมชนจันเสนเคยเป็นเมืองโบราณวัฒนธรรมทวารวดี ตั้งอยู่ทางทิศใต้สุดของเมืองนครสวรรค์ บริเวณเมืองโบราณชาวบ้านเรียกว่า "โคกจันเสน" และชุมชนจันเสนมีการพัฒนาชุมชนโบราณอย่างเป็นระบบ ตามหลักฐานที่พบ เช่น โบราณวัตถุทำด้วยดินเผา โบราณวัตถุทำด้วยหิน โบราณวัตถุทำด้วยโลหะ และโบราณวัตถุทำด้วยสำริด แสดงถึงยุคสมัย และความ
เป็นมาของเมืองโบราณจันเสนว่าเป็นชุมชนเมืองโบราณ ที่มีการพัฒนาจากยุคโลหะตอนปลาย (พ.ศ. ๓๔๔ - ๕๓๔) ต่อเนื่องถึงช่วงระยะเวลาความรุ่งเรืองที่สุด คือ "ยุคทวาราวดี" (พ.ศ. ๑๑๔๓ - ๑๓๔๓) และสันนิษฐานว่าระยะสิ้นสุดของเมืองโบราณจันเสนอยู่ในสมัยทวาราวดีตอนปลาย (พ.ศ. ๑๓๔๓ - ๑๕๙๓) สาเหตุการร้างของเมืองโบราณจันเสน ผลจากการตั้งเมืองหลวงของ "ขอม" ที่เมืองลพบุรี (พ.ศ. ๑๖๔๓ - ๒๓๔๓)
อีกชุมชนหนึ่งที่น่าจะอยู่ในยุคเดียวกันคือ เมืองโบราณซับจำปา เป็นเมืองโบราณสำคัญแห่งหนึ่งในลุ่มแม่น้ำป่าสัก ตั้งอยู่ในเขต หมู่ที่ 7 ตำบลซับจำปา อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี ที่ตั้งของเมืองโบราณตั้งอยู่บนเนินดินสูงของขอบที่ราบภาคกลางที่ต่อกับที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะผังเมืองมีรูปร่างคล้ายรูปไข่ ขนาดกว้างประมาณ ๗๐๔ เมตร ยาวประมาณ ๘๓๔ เมตร .(มีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงเมืองจันเสน) ล้อมรอบด้วยคูน้ำ ๑ ชั้น (กว้างประมาณ ๑๖ เมตร) และคันดินชั้น ๒ ชั้น ขนาบคูน้ำ ภายในตัวเมืองมีลำธารที่เกิดจากน้ำซับไหลผ่านเมืองจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ส่วนทางด้านตะวันตกของเมืองมีสระน้ำอยู่นอกเมือง และห่างออกไปราว ๑๕ กิโลเมตรมีแม่น้ำป่าสักไหลผ่าน มืองโบราณซับจำปาและบริเวณใกล้เคียงมีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ร่วมสมัยกับแหล่งโบราณคดีบ้านท่าแคสมัยที่ ๑ ซึ่งเป็นชุมชนเกษตรกรรม มีอายุในช่วง ๓,๐๐๐-๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว และมีการอยู่อาศัยต่อเนื่องมาจนถึงยุคโลหะ (ยุคสำริดและเหล็ก) ต่อมาในช่วงประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ ประชาชนในบริเวณนี้ได้รับวัฒนธรรมอินเดีย มีการจัดระเบียบสังคมแบบสังคมอินเดีย อาจารย์ผาสุก อินทราวุธ สันนิษฐานว่า อิทธิพลวัฒนธรรมอินเดียที่แผ่เข้ามายังเมืองโบราณซับจำปานี้ น่าจะมาจาก ๒ ทาง คือ ๑. ส่งผ่านมาจากกลุ่มเมืองโบราณร่วมสมัยในบริเวณลุ่มแม่น้ำแม่กลอง-ท่าจีน (ด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา) และ ๒. ผ่านทางการติดต่อกับพ่อค้าอินเดีย ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๖ ๑๓ เนื่องจากได้พบตราประทับดินเผาจำนวนมากและหลายรูปแบบ ซึ่งตราประทับเหล่านี้คงติดตัวพ่อค้าชาวอินเดียเข้ามาในช่วงระยะเวลาดังกล่าวและที่นี่พบศิลาจารึกเกี่ยวกับคำสอนทางพุทธศาสนาเล่าถึงปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า อริยมรรคและอริยสัจ ซึ่งเป็นหัวใจของพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าค้นพบ ศิลาจารึกนี้น่าจะเก่าที่สุดในดินแดนประเทศไทย
หลักฐานของอาณาจักรทราวดี นักร้องสุดสวยเก่าที่สุด หลักฐานสมัยทวารวดี (พ.ศ. 1200-1600) พบภาพปูนปั้นที่เมืองโบราณคูบัว จังหวัดราชบุรี เป็นภาพผู้หญิง 5 คน สี่คนมีเครื่องดนตรีประจำตัว คือ พิณห้าสาย (คล้ายๆ กระจับปี่)พิณน้ำเต้า กรับ และฉิ่ง อีกคนสันนิษฐานว่าเป็นนักร้อง...หลักฐานเหล่านี้แสดงถึงชุมชนต่างๆที่พัฒนาการมาจนถึงยุคสุโขทัยหรือรุ่งอรุณแห่งเสรีชน
มีแหล่งขุดค้นโครงกระดูก อายุราว 3300 ปี หาจาก carbon
อีกหลุมก็กำลังแคะ ๆๆ เห็นว่าได้วันละ 5 เซนต์ค่ะ