จะยอมเป็นเจ้าชายนิทรา แล้วใช้เวลาที่ยังมีทั้งคืน ข่มตานอนหลับฝันไม่ยอมตื่น ให้รักเรายังยั่งยืนอยู่ในฝัน

<<
กรกฏาคม 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
3 กรกฏาคม 2553
 

เรื่องสั้น สัมพันธภาพ (บทที่ 8)

บทที่แปด







ภาพดอกทิวลิปยามเที่ยงวัน สถานที่ สวนสนุกเอฟเวอร์แลนด์ เมืองซูวอน ประเทศเกาหลี




“สวัสดีครับนักศึกษา วันนี้เราจะได้เรียนรู้ถึงการให้สีตามทิศทางของแสงที่กระทบเข้ามาบนวัตถุ โดยทั่วไปแล้วทิศทางที่แสงส่องผ่าน เราจะใช้โทนสีสว่าง แต่งแต้มเข้าไปดังภาพนี้”
ขณะที่เขากำลังอธิบายอยู่นั้น สายตาของเขาก็กวาดไปทั่ว พยายามเพ่งพินิจบุหลันของเขา บุหลันหรือหล่อนคนนั้นนิศากร เช่นกันนิศากรละสายตาจากสมุดโน้ต หันมองตามภาพที่อาจารย์บรรยาย พลันสายตาของคนทั้งคู่ก็ประสานกัน
รูปลักษณ์ที่ปรากฏอยู่นี้เหมือนใครคนหนึ่งที่หล่อนรู้จัก โดยเฉพาะสายตาคู่นั้น แววตาที่มุ่งมั่นแฝงไว้ด้วยล่องลอยแห่งความเศร้า ต้องใช่คนเดียวกันแน่ๆ คุณรพีเด็กชายวัยสิบปีคนนั้น หล่อนคาดเดาด้วยหัวใจพองโต
เธอจริงๆ ด้วย บุหลัน ฉันจำเธอได้ไม่มีวันลืม แต่เธอในวันนี้ดูสดใส คล่องแคล่วกว่าบุหลันคนเดิมที่ฉันเคยรู้จักอยู่มาก คงเพราะยุคสมัยล่ะมั้งที่ทำให้บุคลิกเธอเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ฉันเชื่อทั้งความรู้สึกนึกคิด ความรัก ความอาทรของเธอยังคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมแน่ เหมือนกับใบหน้าที่งดงามของเธอนั้นยังฝังใจฉันอยู่เสมอไม่รู้ลืม
“อาจารย์ครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” นักศึกษาคนหนึ่งถามขึ้นหลังเห็นเขาหยุดอธิบายไปกลางคัน
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ถึงไหนแล้วนี่ อ้อ เทคนิคการเน้นภาพให้ดูสว่างบางทีเราอาจจะใช้การเติมสีเหลืองเข้าไปให้ดูเหมือนว่าแสงกำลังสาดส่อง หรืออาจเว้นการลงสีในบางส่วนให้เห็นสีพื้นกระดาษขึ้นมาบางจุด เสมือนว่าสิ่งนั้นกำลังล้อกับแสง...” เขาอธิบายไปพลางข่มใจไปไม่ให้เต้นโครมครามจนเกินไปนัก ด้วยเกรงว่านักศึกษาผู้อยู่แถวหน้าจะได้ยิน
ทันทีที่การสอนจบลง นักศึกษาต่างกระวีกระวาดเร่งเก็บของทยอยเดินออกจากห้องไป รพียังคงทำเป็นหยิบโน่น ตบนี่ให้สันขอบเสมอกันเล่มแล้วเล่มเล่า เพื่อถ่วงเวลารอจนนิศากรเดินผ่าน
“บุหลัน” เขาเรียกหล่อน ผู้ฟังเพียงแต่ชะงักเพราะชื่อที่คุ้นหูนั่นเอง แต่หล่อนกำลังทำท่าจะเดินต่อไป รพีจึงเรียกหล่อนใหม่อีกครั้ง
“นิศากร” คราวนี้ผู้ฟังหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า เขารู้ได้ในทันทีว่าหล่อนคงจำเรื่องราวในวันเก่าก่อนไม่ได้แน่ๆ
“เอ่อ ภาพมุขริมน้ำนั่นสวยมาก คุณเคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือครับ”
นิศากรประหลาดใจเล็กน้อย ภาพศาลาพักร้อนต่างหากเล่าที่หล่อนตั้งใจจะส่ง ทั้งที่เมื่อเช้าหล่อนเปิดดูแล้วดูอีกจนแน่ใจว่าหยิบถูกต้องก่อนจะนำมาส่งแท้ๆ หล่อนเสียดายที่ส่งภาพมุขริมน้ำไป ภาพนี้ต่างหากที่หล่อนต้องการเลือกเก็บไว้ มันเป็นสิ่งแทนความรู้สึกหล่อน ไม่รู้ว่าวาดใหม่จะให้ภาพที่ดูมีมิติได้อย่างเดิมหรือเปล่า
“หรือคุณคิดขึ้นมาเองครับ” รพีถามย้ำอีกครั้งเมื่อหล่อนเงียบไป
นิศากรไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ภาพนั้นเป็นความฝันหรือจิตหล่อนนึกคิดฟุ้งซ่านไปเองกันแน่ หล่อนยังไม่แน่ใจ
“แขไม่ค่อยแน่ใจนักหรอกค่ะ ว่าคิดขึ้นมาเองหรือเปล่า คือว่าแขเหมือนรู้สึกว่าเคยเห็นในฝัน”
“คุณเคยฝัน ฝันเห็นใครกัน” รพีรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยินเช่นนั้น นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับเขาอยู่มาก ผิดกับนิศากรที่กลัวว่าอีกฝ่ายจะหาว่าเธอพูดจาเลอะเทอะไม่ให้เกียรติออกไปเช่นนั้น
“มันก็หลายวันมาแล้วหล่ะค่ะ แขจำไม่ได้แล้วค่ะ” เธอพูดปดไปเพื่อไม่ให้ตัวเองดูแย่ไปมากกว่านี้ รพีไม่เชื่อว่าหล่อนจะจำไม่ได้
“คุณเห็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่สวยสะดุดตาบนพื้นหญ้าเขียวขจีที่ขึ้นโดยรอบบริเวณนั้น มุขริมน้ำสีขาวแยกออกมาจากตัวบ้านตั้งเคียงคู่กับสะพานท่าน้ำ” พูดเพียงเท่านี้เขาก็สลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผิดจากท่าทีเดิมที่มุ่งจะเอาชนะเมื่อสักครู่
“เกิดอะไรขึ้นที่ท่าน้ำคะ?” จากอาการที่ผู้พูดแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าไม่อยากกล่าวถึง เหตุการณ์นั้นอีก หล่อนยิ่งทวีในความสงสัยมากยิ่งขึ้น จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“คุณไม่รู้หรอกเหรอครับ” แทนที่ผู้ฟังจะแสดงความไม่พอใจในความละลาบละล้วงของหล่อน เขากลับแปลกใจมากกว่า
“ค่ะ” หล่อนยอมรับความจริง “แขไม่ทราบว่าอาจารย์รู้เหตุการณ์นั้นได้อย่างไร แต่แขก็ขอยอมรับว่าทุกครั้งที่ดูเหมือนว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น แขจะต้องสะดุ้งตื่นทุกครั้ง และถ้าอาจารย์จะช่วยให้ความกระจ่างได้แขก็ขอขอบคุณในความกรุณาค่ะ”
หล่อนพูดจากใจจริง เพราะขณะนี้ความคิดหล่อนเต็มไปด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือฝัน ไม่รู้ว่าอาจารย์ของหล่อนทราบได้อย่างไร และที่สำคัญไม่รู้ว่ามันมีความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหล่อนอย่างไร
“ผมว่าลิขิตสวรรค์คงยังไม่อยากให้คุณรับรู้อะไรไปมากกว่านี้ ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขารีบเดินจากไปทั้งที่ใจไม่อยากออกห่างเลย แม้แต่จะละสายตาไปจากหล่อน แต่เพราะตอนนี้เขาไม่อาจเร่งรัดให้หล่อนตกใจไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว และแน่นอนเขาไม่หยุดความพยายามไว้แค่นี้เป็นแน่ เขารอคอยหล่อนมานาน นานจนไม่อาจจะเสียหล่อนไปได้อีกแล้ว ซึ่งเขาไม่ยอมให้ตัวเองทำลายความสัมพันธ์นี้ลงเป็นอันขาด ขณะนี้เขาและเธออยู่ในฐานะอาจารย์กับลูกศิษย์ แล้วใครเล่าจะสร้างความเคลือบแคลงใจให้อีกฝ่ายเตลิดไปก่อนจะได้อธิบายใดๆ สู้เก็บงำไว้ให้หล่อนค่อยๆ คิดและเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองไม่ดีกว่าหรือ
หล่อนขัดใจเล็กน้อยที่ไม่ได้คำตอบ แถมยังเพิ่มความสงสัยเป็นทวี เหตุใดอาจารย์จึงมีใบหน้าละม้ายคล้ายเด็กคนนั้นราวกับแกะ ชื่อเสียงเรียงนามหรือก็เหมือนกัน และเขารู้ได้อย่างไรเล่าเรื่องบ้านหลังนั้น เขาเป็นใครกันแน่ หล่อนเฝ้าแต่คิดวนเวียนไปมาไม่ได้คำตอบซักที



**********************************************


ใครกันเล่าที่เจ็บปวดหัวใจที่สุด เหมือนโลกพังภินลงไป
เมื่อได้รับรู้ว่าเธอได้ลืมเลือนความทรงจำทั้งหมดที่มี
กาลเวลา ได้พัดพาความทรงจำอันมีค่าให้สูญสลาย
มิเหลือไว้ เปรียบดังผืนทรายที่ถูกสายน้ำพัดพา
จนไม่เหลือ.......ไม่เหลืออะไรเลย









Create Date : 03 กรกฎาคม 2553
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 22:56:44 น. 1 comments
Counter : 478 Pageviews.  
 
 
 
 
ทำไมแต่ละตอน มันหดสั้นล๊ง.. สั้นลง..

 
 

โดย: poongie วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:24:49 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Sleeping_prince
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




แม้รูปจะไม่สวย เรื่องจะไม่เด่น แต่ขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อกนะครับ Instagram
New Comments
[Add Sleeping_prince's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com