เหตุเกิดที่ร้านเกาเหลาข้างถนน
ตะกี้สด ๆ ร้อน ๆ ตอนพักเที่ยงผมนั่งกินเกาเหลาข้าวเปล่าอยู่ข้างบริษัท
มีป้าแก่ ๆ คนหนึ่งนุ่งขาวห่มขาวเป็นแม่ชีเดินมาเอาซองที่ให้คนใส่เงินบริจาคผ้าป่าอะไรสักอย่างมาวางไว้ที่โต๊ะคนละซองพร้อมกับพูดอะไรพึมพัม ๆ ผมฟังไม่ถนัด
ผมกินใกล้เสร็จแล้วล่ะ ก็ไม่ได้สนใจอะไร เลยเดินไปจ่ายตังค์แล้วจากมา
น่าแปลก ผมยังนั่งคิดถึงเรื่องนี้อยู่เลย
... ... ...
เหอ ๆ ใครเห็น Blog ผมจะรู้ดีว่ามีแต่อาวุธฆ่าคนเต็มไปหมด
แต่ความจริงผมน่ะ ขี้สงสารอย่าบอกใคร
เมื่อก่อนผมจะรู้สึกผิดมาก ถ้าเกิดผมไม่หยอดเงินสักบาทให้ขอทานข้างถนน หลาย ๆ ครั้งผมเตรียมเหรียญบาทใส่กระเป๋ากางเกงไว้เลยด้วยซ้ำ เพราะจะได้ไม่ต้องไปควักในกระเป๋าตังค์
ไม่รู้ทำไม มันเหมือนสงสารอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าทำไมเราต้องมีไอ้เศษเหรียญนี่ แต่ทำไมเขาไม่มี
แต่หลัง ๆ มาเรื่องรู้สึกผิดก็หมดไปมาก เพราะผมพยายามบอกตัวเองว่า ขอทานไม่ใช่คนที่ไม่มีปัญญาจะทำมาหากินทั้งหมด
มันมีตั้งแต่แก๊งขอทานต่างชาติไปจนถึงแก๊งให้เช่าเด็กมานั่งขอทาน
หลัง ๆ มาผมจึงหยอดลงเฉพาะบางราย คนพิการที่อยากให้ หรือคนที่มาเล่นดนตรีอะไรบ้าง ถ้าเห็นแล้วเขา create ดีหรือน่ารักดี ผมก็จะหยอดเงินให้
ชอบแอบคิดว่า เอ่อดี เขาลงทุนมากกว่าขอทานทั่วไปแฮะ ^ ^
... ... ...
คือระหว่างเดินกลับมายังคิดว่าที่เราทำไปแบบนั้นดีไหม ถูกไหม?
ไม่ได้ถามว่าผิดไหมนะครับ เพราะมันไม่ผิด แต่ถามตัวเองว่าถูกไหม?
พูดก็พูดเถอะครับ ไม่ได้โอ้อวดอะไร ........ ใส่เงินสัก 20 บาทลงไป มันก็ไม่ได้ทำให้เราลำบากอะไรเท่าไหร่หรอกครับ นั่งใน office สัก 15 นาทีก็ได้กลับมาแล้ว 20 บาท
แค่ผมถามตัวเองว่า ........ "แค่นี้ให้ไม่ได้เหรอวะ?"
ตัวเองมันก็ตอบกลับมาว่า ....... "เมิงก็คิดถึงกรณีขอทานสิ เมิงยังเลือกให้ได้เลย ป้าเขาอาจจะเป็นแก๊งอะไรสักอย่างก็ได้"
ไอ้ผมก็เลยถามตัวเองอีกรอบ ........ "แหมแต่มันก็ดูไม่มีอะไรนะ เห็นซองก็ดูคล้ายซองผ้าป่าทั่วไป ไม่น่าจะมีอะไร"
ตัวผมเองมันคงรำคาญ เลยสวนกลับมาว่า ........ "เมิงไม่ชอบวิธีการของเขาไม่ใช่เหรอ?"
จริงสิ นี่แหละที่ผมไม่ชอบ
คือแบบ ......... ไม่รู้สึกแปลก ๆ บ้างเหรอครับว่า ทำไมจึงมีแต่แม่ชีที่ทำแบบนี้ วัดสั่งให้ทำหรือเปล่า? ถ้าใช่มันเป็นความผิดไหม? เหมาะสมแล้วหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ (ประมาณว่าแม่ชีอยากทำเอง) มันจะมีวิธีการไหนมีดีกว่านี้บ้างหรือเปล่า?
ภาษาทหารเขาเรียก Surprise Shot ครับ เอามาวางปุ๊บ รอสักเดี๋ยว แล้วเดินมาเก็บ
ด้วยความเคารพ ......... ขอทานยังดูเข้าท่ากว่าในบางครั้ง
... ... ...
ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมนั่งคิดอยู่หลายครั้งว่าทำไมคนเราถึงมีไม่เท่ากัน?
ตอนประถมผมเรียนโรงเรียนของกทม. (ซึ่งผมคิดว่าผมโชคดีมากที่ได้เรียนที่นั่น) ....... ผมเป็นลูกข้าราชการ แต่ในที่แห่งนั่นผมคือเด็กที่มีเงิน
เพราะเพื่อน ๆ ผมหลายคนอยู่วัด หลายพ่อแม่คนหาบของขาย หลายคนพ่อแม่ทำงานรับจ้าง
ทำไมคนเราถึงมีไม่เท่ากัน?
โชคดีที่โรงเรียนนั้นคือโรงเรียนวัด แน่นอนวัดก็ต้องคู่กับพระ ทำให้มีพระอาจารย์เจ๋ง ๆ มาสอนกันหลายท่าน สนุกมากครับ
ผมเรียนได้นักธรรมตรีด้วยนะครับ ตอนเข้าเรียนนั่นแหละถึงรู้คำตอบในแง่ของศาสนา
กรรมนั่นเอง
กรรมทำให้คนเราเกิดมาเป็นแบบโน้นแบบนี้ บางคนขยันแทบตายก็ไม่รวยขึ้นมา แต่บางคนเกิดมาก็ใช้เงินไม่หมดซะแล้ว
คิดอย่างงี้ก็สบายใจไประดับหนึ่ง
... ... ...
ผมไม่อยากจะกล่าวหาคุณป้าแม่ชีคนนั้นหรอกว่าเป็นแก๊งอะไรสักอย่าง เพราะผมก็นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าแกจะเป็นแบบนี้
พูดตรงๆ ว่า ผมรู้สึกสงสาร ผมอยากให้เหมือนกัน แต่วิธีการนี่สิที่ทำให้ผมเอาตังค์ไปจ่ายค่าเกาหลาแทนที่จะเอาไปใส่ในซองนั้น
ด้วยสภาพสังคมสมัยใหม่ ไม่แปลกที่เราจะมีความคิดที่ว่า เราไม่ควรไว้ใจใคร ยิ่งคนไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ไม่รู้พื้นฐานกันมาก่อน ยิ่งไว้ใจยากมาก
ผมก็เข้าใจ
แต่มันมีวิธีการอื่นหรือเปล่านอกจากทำแบบนี้?
ผมไม่รู้ ผมคิดไม่ออก แล้วก็ไม่อยากคิดแล้วด้วย
แต่ที่แน่ใจคือตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
(สองประโยคข้างบนเป็นกลไลอัตโนมัติของมนุษย์ที่จะพยายามปกป้องตนเอง)
... ... ...
ผมเคยคิดอยากจะทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน
ทำไมล่ะ ทุกคนมีเหมือน ๆ กัน กินเหมือน ๆ กัน ใช้เหมือน ๆ กัน แล้วทุกคนจะเท่าเทียมกัน เราทำไม่ได้เหรอ?
ต้องทำได้สิ!!!!
แต่ความจริงอันน่าเศร้าคือ .......... มันเป็นไปไม่ได้!!!!
เพราะไม่อย่างงั้นโลกเราจะมีแต่ระบบคอมมิวนิสต์อย่างเดียว แต่ระบบคอมมิวนิสต์พิสูจน์แล้วว่าไอเดียนี้มันไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้
ความจริงคาร์ล มาร์ซคิดทฤษฎีที่แทบจะเรียกได้ว่าดีที่สุดในโลกเลยนะครับ ระบอบมาร์ซซิสสมบูรณ์แบบและเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์มาก ไม่ได้เลวร้ายหรือชั่วช้าแบบที่โลกเสรีกล่าวอ้าง
แต่ว่ามันสมบูรณ์แบบเกินกว่าจะกลายเป็นความจริง
เพราะมนุษย์เรายังมีความโลภ ยังมีความอยาก ยังอยากดี อยากเด่นกว่าคนอื่นอยู่
เลนินจึงคิดว่า ก่อนที่สังคมจะไปสู่มาร์ซซิสได้ จำเป็นต้องเป็นคอมมิวนิสต์ก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกในสังคม
เมื่อมาร์ซซิสเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ คอมมิวนิตส์ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
น่าเสียดาย เราไม่เคยไปถึงจุดนั้น และไม่น่าจะไปถีงจุดนั้นได้เลย .......... มันคือสังคมแบบยูโทเปียหรือสังคมที่สมบูรณ์แบบซึ่งแทบเกิดขึ้นจริงไม่ได้
... ... ...
ผมไม่มีคำตอบให้ตัวเองหรอกว่าทำถูกไหม แต่ผมคิดว่าจะดีกว่าถ้าจะเลิกคิดถึงมัน
เราบังคับทุกอย่างในโลกไม่ได้ ไฉนเลยจึงจะต้องกังวล
Blog นี้กำลังจะจบลงแบบไม่ได้อะไรเป็นคำตอบเลย ยังไงคุณผู้อ่านคงให้อภัยนะครับ ^ ^
แต่สุดท้าย ผมก็คิดซะว่า ......... ถ้าป้าแกทำดีจริง ความดีนั้นมันจะส่งผลถึงแกเอง
ผมอย่ากังวลไปเลย ....... จริงไหม อิอิ?
Create Date : 25 เมษายน 2551 |
|
15 comments |
Last Update : 25 เมษายน 2551 12:59:12 น. |
Counter : 2382 Pageviews. |
|
|
|