ขับรถลงเขาไปยี่สิบนาที ขึ้นเขาไปอีกฝั่งนึงอีกสิบนาที แล้วเป็นเขตชายแดนระหว่างอิตาลีและสวิสด้วย มีถนนเดินเท้าข้ามเขาไปก็โผล่ที่สวิสได้ เป็นถนนที่คนโบราณเค้าเดินกันค่ะ เป็นการเดินแบบมีจุดมุ่งหมาย 555 คือเป็นการหอบเอากาแฟที่คั่วจากฝั่งอิตาลีไปขายฝั่งสวิส แต่ก็พยายามหลบเลี่ยงภาษีกันหน่อยนึงอ่ะนะ เคยเห็นรูปลูกหาบที่เดินแบกเม็ดกาแฟเป็นกระสอบๆเดินขึ้นเขา+อ้อมเขา+ลงเนินไป ทั้งๆที่มีแบกกระสอบอยู่ โห นับถือๆ
จากร้านถ่ายรูปวิวให้ดูกันหน่อย ข้างล่างนั่นคือเมืองติราโน่ บ้านพวกเราอยู่เขาอีกลูกนึง ที่อิชั้นไฮไลท์สีเหลืองไว้ ส่วนรูปลูกศรคือ แถวๆนั้นตรงที่ราบมีถนนข้ามไปฝั่งสวิส มี ตม. อะไรเรียบร้อยดี ส่วนถ้าจะเดินอ้อมเขาแบบที่อิชั้นพูดถึง ก็เดินผ่านหน้าร้านอาหารนี่ไปก่อน แล้วจะมีถนนเส้นเล็กๆให้เดินลัดเลาะไปได้ เลือกทางที่คุณสบายใจค่ะ
มาดูรูปอาหารกันค่ะ ที่ร้านนี้มีเมนูอาหารทะเลให้ด้วย ซึ่งอิชั้นก็ตั้งใจมากินกุ้งกินปลาที่ร้านอยู่แล้ว จานนี้รวมมิตรทะเล สั่งมากินกันสองคน มีซูชิให้ด้วยสองชิ้น แกล้มไวน์ขาวเย็นๆ ก็อร่อยดีแฮะ
อาหารจานต่อไป อิชั้นเลือกกินรวมมิตรทะเลย่าง กับผักสลัด กุ้งก้ามกรามนั่นเค้าให้มาครึ่งตัว เนื้อแอบเหนียวๆไปนิดนึงนะ แต่โดยรวมแล้วก็โอเค กินคู่ซอสสีเขียวนั่นอะไรที่สุด เป็นซอสที่ทำจากใบพาร์สลีย์สับผสมน้ำมันมะกอกและรู้สึกเหมือนมีน้ำมะนาวมาด้วยนิดหน่อย
คุณสามีเลือกพาสต้าเส้นสดกับซอสทะเลรวมมิตร ลองชิมดูแล้ว อร่อยๆ คราวหน้าจะสั่งมากินบ้าง ปกติสั่งอาหารจะพยายามไม่สั่งเหมือนกัน จะได้ลองชิมอาหารจานอื่นที่หลากหลายขึ้น
ยังพอมีเนื้อที่ในกระเพาะอาหารอยู่ เลยสั่งครีมบูเล่มากินอีกจาน แต่ครีมนั่นเนื้อค่อนข้างเหลวไป คราวหน้าไม่สั่งละ คุณสามีสั่งเมอร์แรงไข่ขาวอบมากินคู่ไอติมรสวนิลา ไอติมอร่อย
แล้วเราก็สั่งกาแฟเอสเพรสโซ่มาล้างปากอีกคนละถ้วย จนได้เจอประโยคดีๆบนซองน้ำตาล และกลายมาเป็นชื่อบล็อกในวันนี้
มันยิ่งตอกย้ำกับตัวเองว่า ถ้ามีเวลา มีแรง ใจพร้อม กายพร้อม ถ้าอยากจะออกไปไหน กินอะไร ก็รีบๆไปเถอะ เพราะไม่รู้ว่า พรุ่งนี้จะมีอีกไหม มันไม่ได้มีคำว่า พรุ่งนี้ สำหรับทุกคนจริงๆ กินเสร็จเราเดินเล่นๆถ่ายรูปกันสองสามรูปบริเวณร้านอาหาร เห็นบ้านสมัยก่อนสร้างด้วยหิน หลังคาก็หิน บันไดหิน สวยดี อยากได้แบบนี้มั่ง แต่ถนนที่มุ่งมาบริเวณนี้ ไม่ไหวจริงๆค่ะ แคบและไม่มีที่กั้น ถ้าขับพลาดก็ร่วงลงเขาไปเลย บางทีมีรถอื่นสวนมา ต้องหาทางหลีกหนีกัน ไม่ไหวๆ อยู่บ้านเราแหละดีแล้ว
'Quello che hai da fare, fallo adesso. Il futuro non è promesso a nessuno'
"Go for it now. The future is promised to no one."
By Wayne Dyer
ข้อความที่เขียนบนซองน้ำตาลทรายค่ะ จริงแท้ที่สุด
ปล. ขออนุญาตลงราคาค่าอาหาร รวมทั้งหมด 70 ยูโรค่ะ มีอาหารจานแรกกินด้วยกัน จานที่สองคนละจาน ของหวานคนละอย่าง น้ำเปล่าหนึ่งขวด ไวน์ขาวครึ่งลิตร กาแฟคนละถ้วย ให้ดูเป็นแนวทาง เผื่อว่าใครมาเที่ยวอิตาลี สั่งอาหารทะเลกินที่ร้านก็จะประมาณนี้ค่ะ