sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
23 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

บทที่ ๓๔ จุดแตกหัก



ธาวินจ้องหญิงสาวที่มองเขาอย่างท้ายทายด้วยประกายตาอาฆาตและดูแคลน เขาจ้องใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอแล้วยิ้มเยาะ…

“คิดเหรอว่าฉันจะกลัวคำขู่ของคนอย่างเธอ”

เขาตอกกลับไปอย่างไม่คิดกลัว

“เป็นลูกผู้ชายหน่อยสิวิน”

เตชินทร์เอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด

“นายจะบ้าเหรอเต้...ทำไมไปเข้าข้างพวกเขาเราเป็นญาติกันนะ”

“จริงอยู่ที่นายกับฉันเป็นญาติกันแต่นายทำผิดนะวินใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด”

“ฉันไม่ได้มีอะไรกับนาน่าเชื่อกันบ้างสิ”

เตชินทร์มองญาติหนุ่มแล้วส่ายหน้าไปมา หลักฐานตำตาขนาดนี้ต่อให้อมวัดมาเต็มปากเขายังไม่กล้าเชื่อว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

“เฮียเน่จะเอายังคะ”

เมื่อเห็นผู้กระทำผิดยังยืนกรานว่าถูกใส่ความทนายสาวจึงหันไปทางญาติของผู้เสียหาย

“แจ้งความ”

นันทยศบอกสั้นๆ แต่ได้ใจความ

“ไม่ได้นะคะพี่เน่...”

นันทิชาที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำแย้งขึ้น

“ทำไมจะแจ้งความไม่ได้...หุบปากไปเลยไอ้น่าแกทำเรื่องงามหน้าขนาดนี้ยังกล้ามีปากมีเสียงอีกเหรอ ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่ายุ่งกับมันเคยเชื่อพี่บ้างไหม”

“เห็นไหมเต้พวกเขารู้จักฉันมาก่อนจริงๆ ด้วย นายวางแผนนี้มานานเท่าไรแล้ว ก่อนหรือหลังเข้าไปทำงานที่บริษัท คุณป่านก็คงถูกมันหลอกอีกคนล่ะสิ...มิน่าเวลาผมเข้าไปหาคุณป่านนายนี่ถึงได้กีดกันนักที่แท้ก็เพราะแบบนี้”

ธาวินจ้องหน้านันทยศแล้วเริ่มโยงไปยังเหตุการณ์อื่นๆ

“ป่านไม่ได้ถูกหลอก พวกเรารู้จักคุณก่อนเข้าวางระบบงาน เพราะเห็นนาน่าแชทอยู่กับคุณ พวกเราจับตาดูคุณเพื่อป้องกันนาน่า...ไม่ใช่เพื่อมัดมือคุณชกกรุณาเข้าใจเสียใหม่”

นารีรายณ์อธิบาย

“ถ้าดูแลกันจริงๆ ทำไมถึงปล่อยให้เธอมากับผมง่ายๆ แล้วที่สำคัญอยู่ๆ พวกคุณก็โผล่เข้ามาแบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าจัดฉากจะเรียกว่าอะไร”

“พี่วิน!...มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ”

นันทิชาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างผิดหวัง

“นาน่าเธอยังเด็กคงตามความคิดพี่ชายไม่ทัน...ตอนเข้าห้องน้ำพี่ชายเธอคงบอกใช่ไหมว่าให้ยอมตามใจพี่”

ธาวินพูดยังไม่ทับจบเสียงผัวะก็ดังขึ้น เมื่อนันทยศกระโจนเข้าวางมวยวัดอีกหลายหมัดจนเตชินทร์ต้องกระโดดเข้าไปเป็นกรรมการห้ามทัพอีกรอบ

“พี่เน่อย่าทำอะไรพี่วินนะ...”

“ไอ้น่าแกจะปกป้องมันทำไม”

“ก็นาน่ารักพี่วิน...”

นันทิชาวิ่งเข้าไปพยุงธาวินให้ลุกขึ้น

“นาน่าถอยออกมา”

นันทยศตะคอกสั่ง

“ไม่ค่ะ...พี่เน่อย่าทำร้ายพี่วินอีกเลย...พี่วินเจ็บมากไหมคะ”

เธอหันไปขอร้องพี่ชาย มือเรียวเล็กค่อยๆ แตะลงบนแผลที่ปูดบวม พอเห็นสภาพของชายหนุ่มน้ำตาก็ไหลพรากเพราะรู้สึกสงสารจับใจ และภาพที่นันทิชากำลังใช้มือประคองใบหน้าปูดบวมของธาวินก็ยิ่งตอกย้ำว่าทั้งคู่ต้องมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกัน เมื่อหลักฐานทางสายตาบอกสถานะชัดนันทยศจึงแผดเสียงขึ้นอย่างหมดความอดทน

“น้องปอพานาน่าไปแจ้งความเดี๋ยวนี้พี่จะเอาเรื่องไอ้ชั่วนี่ให้ถึงที่สุด”

“นาน่าหยุดร้องไห้แล้วบอกพวกเขาไปสิว่าเรายังไม่มีอะไรกัน”

ธาวินจับไหล่บางแล้วเขย่าอย่างมีอารมณ์ และท่าทางของชายหนุ่มยิ่งทำให้เด็กสาวตกใจจนร้องไห้ไม่หยุด

“นาน่า...โธ่เว้ย...พูดอะไรบ้างสิ”

ชายหนุ่มเริ่มเดือดดาลและสบถออกมาเมื่อนันทิชาเอาแต่ยืนร้องไห้

“ปล่อยน้องฉันนะ...ปอพานาน่าออกมาแล้วไปสถานีตำรวจกัน”

“เป็นความคิดที่ดีนี่...เอาสิเชิญฉันจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับแกด้วย...”

ธาวินตะโกนท้าทาย

“ฉันแจ้งความแน่ นาน่ามากับพี่”

ทนายสาวเดินไปดึงนันทิชาที่กำลังร้องไห้อย่างหนักออกมา

“ก็ดี...อย่าลืมให้หมอตรวจร่างกายนาน่าด้วยล่ะพวกเธอจะได้ตาสว่างสักที”

“ฉันรู้น่าว่าต้องทำยังไงบ้าง...ไม่ต้องมาท้า”

ไพรนารีตวัดสายตาจ้องคนท้าตาเขม็ง

“ฮึ...คงทำคดีแบบนี้มาจนช่ำชองล่ะสิท่าถึงรู้ชัดรู้จริงว่าต้องทำยังไงบ้าง แต่ขอบอกไว้เลยว่าเธอคิดผิดที่มาเล่นกับคนอย่างฉัน”

“ทำความผิดซึ่งหน้าขนาดนี้ฉันคิดถูกต่างหากที่จะเอาเรื่องผู้ชายตัณหากลับอย่างนาย...”

ไพรนารีปรายตามองคู่กรณีประกายตาดูแคลน

“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครถูกใครผิด”

ธาวินยังท้าทายไม่เลิก

“ถูกผิดเอาไว้เจอกันที่ศาลดีกว่า”

ทนายสาวสบตากับอีกฝ่ายประกายตากร้าว

“คิดเหรอว่าฉันจะกลัว ขึ้นศาลเมื่อไรฉันจะฟ้องร้องเอาค่าเสื่อมเสียชื่อเสียงให้อานเลยคอยดู”

ธาวินประกาศอย่างไม่สำนึก

“โอ้โฮ...น่ากลัวชะมัดก่อนที่จะคิดฟ้องร้องคนอื่นตอนนี้หาทางเอาตัวเองให้รอดจากคุกก่อนเถอะพ่อคุณ”

“หุบปากไปเลยนะยัยหน้าอ่อนถ้าอยากลองดีกับฉันก็ไปเจอกันในชั้นศาล ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอจะเอาอะไรมาสู้กับคนอย่างฉัน”

ไพรนารีปรายตามมองคนพูดแล้วยิ้มเย็น...

“อ้อ...นายกำลังเป็นห่วงฉันงั้นสิ...ฉันว่านายเอาเวลาที่มีไปคิดหาวิธีมาสู้กับฉันดีกว่า”

“ฉันจะเอาความจริงสู้กับเธอ...ว่าแต่เธอเถอะกล้าสู้ความจริงกับฉันไหม”

ธาวินยังท้าทายไม่เลิก ทนายสาวมองท่าทางจองหองไม่ยอมคนของคู่กรณีแล้วแค่นยิ้ม ก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพทุกภาพที่เกลื่อนกระจายไม่เว้นแม้แต่ซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ตกอยู่ข้างเตียง

“ตอนนี้ฉันมีความจริงเป็นทั้งภาพถ่ายและพยานหลักฐานอยู่ในมือ...นายถามตัวเองดีกว่าว่าจะใช้ความจริงข้อไหนมาสู้กับฉัน...”

“ฉันมีทางสู้ก็แล้วกัน...”

แม้จะหมดทางไป แต่จำเลยหนุ่มยังมั่นอกมั่นใจในทางรอดของตัวเอง เตชินทร์เหลือบมองญาติสนิทอย่างสมเพช ธาวินคงยังไม่รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร...เฮ้อ...สุดแท้แต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน...ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ก็อย่าโทษใครเพราะนายเป็นคนสร้างเองทั้งนั้น เขาบอกตัวเองอย่างปลงๆ

“วินฉันว่านายอย่าเพิ่งใช้อารมณ์ดีกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะ”

เตชินทร์ช่วยเตือนสติ

“หุบปากไปเลยเต้...นายก็เห็นว่าพวกเขาต้องการอะไร”

“พูดให้ดีวิน”

“ฉันพูดเรื่องจริง นายไม่เห็นเหรอว่าทุกอย่างมันประจวบเหมาะขนาดไหน ถึงขนาดเตรียมทนายมาด้วยดูไม่ออกก็โง่เต็มที ยังขาดตำรวจนี่คราวหน้าอย่าลืมพามาด้วยล่ะ”

ธาวินหันไปทางไพรนารีแล้วแค่นเสียงประชด

“วินทำไมพูดจาหมาๆ แบบนั้น”

“ทำไมจะพูดไม่ได้ ในเมื่อฉันไม่ผิด ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ทำอะไรน้องเขา...ทำไมนายไม่เชื่อกันบ้าง”

“หลักฐานชัดเจนขนาดนี้นายยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ”

“ในเมื่อฉันไม่ผิดนายจะให้ฉันยอมรับอะไร”

“ตกลงนายไม่ยอมรับผิดใช่ไหม”

“ก็เออสิวะ”

ธาวินตะคอกบอกอย่างเหลืออด

พอญาติหนุ่มยืนกรานน้ำเสียงหนักแน่นเตชินทร์จึงหันไปทางว่าที่ภรรยาแล้วส่ายหน้าอย่างกังวล นารีรายณ์มองใบหน้าเครียดขรึมของคนรักแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ปอพานาน่าไปรอพี่ที่รถก่อนไป”

หญิงสาวหันไปบอกน้องสาว พอไพรนารีพานันทิชาออกไป เธอจึงหันไปมองใบหน้าปูดบวมของธาวินแล้วถอนใจลึก

“ป่านว่าคุณเต้พาเขาไปล้างหน้าก่อนดีกว่าค่ะ”

นารีรายณ์บอก พอเตชินทร์ลากธาวินไปหายเข้าไปในห้องน้ำเธอจึงเดินเข้าไปหานันทยศ

“เน่เราคงต้องคุยกันสักครู่มานี่สิ”

นารีรายณ์วางมือลงบนหัวไหล่ของเพื่อนสนิทแล้วเอ่ยขึ้น นันทยศยังมีทีท่าฮึดฮัด จนหญิงสาวส่ายหน้าเชิงเตือน ชายหนุ่มเหลือบมองมือเรียวบนหัวไหล่แล้วพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา แม้จะไม่พอใจแต่ก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี

“มีอะไรเหรอป่าน”

“ฉันว่าเราควรเจรจาเรื่องนี้กันด้วยเหตุและผลนะเน่”

“อะไรนะ...แกอย่าบอกนะว่าจะให้ฉันยอมความมัน”

นันทยศแหวขึ้น

“เปล่า...ฉันแค่อยากให้ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายรับรู้ เรื่องนี้มันไม่ใช่เล็กๆ นะเน่ แต่ถ้ายืนยันอยากเอาเรื่องจนถึงโรงถึงศาลฉันว่าคนเสียหายหนักสุดคงเป็นนาน่า น้องยังเด็กเกินไปที่จะต้องแลกอนาคตกับเรื่องนี้ แกคงไม่อยากให้เรื่องราวลุกลามจนมันกลายเป็นตราบาปติดตัวน้องเพราะตัณหาของคนชั่วๆ แค่คนเดียวหรอกใช่ไหม”

“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง อย่าบอกนะว่าจะให้นาน่าไปเกี่ยวดองกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่น”

คนเป็นพี่ชายชี้มือไปทางห้องน้ำอย่างมีอารมณ์

“แล้วแกคิดว่ามันมีทางออกอื่นอีกไหม เวลานี้เราทำอะไรได้ไม่มากนอกจากปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่”

“ฉันไม่กล้าบอกพ่อกับแม่หรอกแกก็รู้ว่าท่านยอมปล่อยให้น้องอยู่ด้วยก็เพราะไว้ใจ ขืนเรื่องนี้แดงออกไปฉันจะสู้หน้าใครได้อีก”

นันทยศบอกอย่างกังวล

“ฉันเข้าใจแต่แกลองนึกดูดีๆ สิถ้าเราแจ้งความยังไงพ่อกับแม่ของแกก็ต้องรู้เรื่องอยู่ดีเราเลี่ยงไม่ได้หรอก”

หญิงสาวพยายามให้เหตุผล

“แต่ฉันทำใจไม่ได้...เห็นหน้ามันแล้วบอกตรงๆ เส้นเอ็นขามันกระตุกอยากตื้บลูกเดียว”

“ใจเย็นเน่...เวลานี้เราต้องนึกถึงนาน่า แกลองคิดดูสิน้องกำลังเตรียมเอ็นทรานซ์เกิดเรื่องนี้ขึ้นโรงขึ้นศาลจริงๆ อนาคตจะเป็นยังไง”

นันทยศปรายตามองเพื่อนแล้วนิ่งคิด เมื่อเห็นว่านารีรายณ์พูดถูกเขาจึงถอนใจยาว

“ฉันไม่อยากให้น้องเอาชีวิตไปจมอยู่กับผู้ชายเลวๆ พรรณนั้น แต่มันสายไปแล้วใช่ไหมป่าน”

นันทยศหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทแล้วส่ายหน้าไปมา

“แกทำหน้าที่พี่ชายได้ดีแล้วเน่...แต่เราต้องยอมรับว่ามันมีช่องว่างมากเหลือเกิน...ให้คุณธาวินรับผิดชอบการกระทำของเขาเถอะอย่าให้เรื่องจบลงที่ศาลเลย”

“ถ้ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ฉันคงต้องบอกพ่อกับแม่ก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันขอบใจนะป่าน”

พอนึกถึงผลกระทบในอนาคต นันทยศจึงยอมถอยให้แต่โดยดี นารีรายณ์หันไปมองคนรักที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำแล้วยิ้มอย่างโล่งอก

เมื่อเห็นว่านันทยศยอมถอยให้ เตชินทร์จึงหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดงับบานประตู ชายหนุ่มพิงร่างกับแผ่นไม้ยกมือขึ้นกอดอกจ้องหน้าญาติสนิทตาเขม็ง

“เรื่องนี้แกสู้พวกเขาไม่ได้หรอกยอมรับผิดซะเถอะวิน”

ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อญาติหนุ่มหันมาเผชิญหน้า

“ก็ให้มันรู้ไปสิว่าจะสู้ไม่ได้...ฉันไม่ได้ทำอะไรน้องเขาจริงๆ นะเต้พวกเขาสร้างสถานการณ์ขึ้นมาทั้งนั้น”

“แต่นายเป็นคนพาน้องเขามานะวิน ฉันเคยเตือนแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าหาเรื่อง”

เตชินทร์มองอีกฝ่ายอย่างตำหนิ

“เออ...ยอมรับว่าฉันพาเขามาแต่มันก็สมยอมกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ คนเป็นแฟนกันบ้างมันก็ต้องมีแตะเนื้อต้องตัวกันบ้าง แต่ถ้าคิดจะใช้วิธีนี้มัดฉันชกล่ะก็ฉันไม่ยอมแน่”

“เด็กนั่นยังเป็นผู้เยาว์นะวินถ้าคิดสู้กันด้วยกฎหมายแกแพ้ตั้งแต่ผู้พิพากษายังไม่ก้าวขึ้นบัลลังก์ด้วยซ้ำ อย่าเสี่ยงเลย”

“ฉันยังไม่อยากทิ้งชีวิตโสดตอนนี้ แล้วน้องเขาก็ยังเด็กนะเว้ย”

ธาวินบอกอย่างหัวเสีย

“นายเลือกเอาว่าจะรับผิดชอบเด็กคนนั้น หรือปล่อยให้เรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และถ้าไปถึงขั้นนั้นจริงๆ มันต่างกันตรงไหนล่ะวินกับอนาคตของนาย”

เตชินทร์ให้เหตุผล

“ยังไงฉันก็จะสู้ทนายเราเก่งๆ เยอะแยะถ้ามันเรื่องมากนักเอาเงินฟาดหัวสักสองสามล้านขี้คร้านจะรีบตะครุบ ถ้านายห่วงเรื่องยัยหน้าอ่อนนั่นฉันบอกได้เลยว่าแม่นั่นไม่มีวันชนะแน่...ท่าทางเหมือนเพิ่งหลุดออกจากรั้วมหาวิทยาลัยแบบนั้นจะเอาอะไรมาสู้กับพวกเรา”

ธาวินยังคงเชื่อมั่นกับอำนาจเงินที่ตนมีและฝากคำดูแคลนไปยังทนายสาว

“นายไม่รู้จักเธอจริงๆ เหรอวิน”

“เขาไม่ใช่ญาติฉันนี่”

คนถูกถามตอกกลับอย่างมีอารมณ์

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกให้เอาบุญว่าเธอชื่อไพรนารี พิสุทธิ์ศตกุล และเธอเป็นทนายความที่เก่งมาก นายรู้ไหมว่าคดีที่เธอรับว่าความมีแต่ระดับประเทศทั้งนั้น”

เตชินทร์ช่วยให้ความกระจ่าง

“พูดเป็นเล่นน่าเต้...นายกำลังจะบอกฉันแม่หน้าอ่อนเป็นคนเดียวกับทนายความที่เพิ่งส่งนักการเมืองดังเข้าห้องขังนั่นเรอะ อย่ามาอำดีกว่าน่า”

พอได้ยินคำพูดของธาวินคนที่พยายามหาทางช่วยก็ได้แต่ปลงสังเวชกับความดื้อดึงของญาติหนุ่ม ขนาดเอาโลงศพมาวางตรงหน้าแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าจะหลั่งน้ำตา...แบบนี้ต่อให้เป็นเทวดาก็ช่วยยาก

แม้ธาวินจะประกาศกร้าวว่ายอมแตกหักมากกว่าประนีประนอม แต่เตชินทร์ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะช่วยเหลือ ชายหนุ่มใช้ทั้งเหตุและผลรวมถึงความได้เปรียบของอีกฝ่ายเข้ามาชี้แนะจนญาติหนุ่มเริ่มอ่อนลง...






 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2554
4 comments
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2554 10:49:40 น.
Counter : 548 Pageviews.

 

ช่วงนี้เอ๋ออกนอกสถานที่นะคะ แต่ปั่นเตรียมให้อยู่ แล้วจะทยอยอัพให้เรื่อยๆ ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้แจ้งไว้ก่อน

 

โดย: sansook 23 กุมภาพันธ์ 2554 10:52:19 น.  

 

คุณเอ๋มาแล้ว
เปิดมารอทุกวันเลย
ได้อ่านแล้ว
อย่าลืมคุกสำหรับคุณวินนะค่ะ
หนูจะรอ
(โกรธจริงอะไรจริง ผู้ชายแบบนี้)

 

โดย: googie IP: 203.146.71.70 23 กุมภาพันธ์ 2554 12:56:32 น.  

 

นู๋เอ๋..ไหน ๆ ก็จั่วหัวว่าจะฟ้องงานนี้ถ้าเอาผิดกรณีพรากผู้เยาว์ได้มั๊ยอยากรู้ ๆ 17 เองนะ ลองสั่งสอนดูมั่งจะได้เข็ดหราบ 555

 

โดย: jee IP: 223.205.43.210 23 กุมภาพันธ์ 2554 18:29:16 น.  

 

รักคุณเอ๋จังเลย อุตส่าห์รีบปั่นเพื่อแฟนๆ ขอบคุณค่าาา

 

โดย: bijin 24 กุมภาพันธ์ 2554 21:35:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.