sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ ๒๗ ไฟกับไฟ



“ผมขอโทษคุณป่าน”

เตชินทร์บอกอย่างลนลานเมื่อรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของคนในอ้อมกอด

“ผมไม่ได้ตั้งใจ...ทำให้ตกใจ...ทั้งหมดเป็นเพราะผมรักคุณ...นั่นคือความสัตย์จริง”

นารีรายณ์ยืนนิ่งไม่ไหวติง...แต่ร่างกายยังคงสั่นเทาไม่หาย...เธอยอมรับว่าไม่ได้รังเกียจสัมผัสของเขาแต่ผู้หญิงอีกคนกำลังทำให้เธอ...รู้สึก...โกรธและแค้นใจตัวเองที่ยอมโอนอ่อนไปกับสัมผัสอันวาบหวาม...

แม้รู้อยู่เต็มอกว่าเตชินทร์แบ่งหัวใจออกเป็นสอง...และนึกโกรธเคืองเมื่อคิดว่าผู้หญิงอีกคนก็ย่อมต้องได้รับคำพูดหวานหูยามเขาพร่ำบอกไม่แตกต่างกัน...

หญิงสาวมองใบหน้าคมสันอย่าขุ่นเคือง...ดวงหน้าเรียวละมุนเริ่มเป็นสีระเรื่อเมื่อสายตาจับนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากร้อนระอุ..หัวใจดวงน้อยเริ่มไหวระริกเมื่อสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นผุดพรายออกมา....แม้ใจจะบอกว่าเกลียดสัมผัสของเขาแค่ไหนแต่สุดท้ายเธอก็พอใจและหลงใหลไปกับบทโอ้โลมอันละมุนละไมจนยากปฏิเสธ...

เวลานี้เธอกับเขาเป็นเหมือนไฟกับไฟที่โถมเข้าบรรจบกัน...เมื่อไฟร้อนไฟรักหลอมรวมเป็นหนึ่งความระอุของมันก็ยิ่งแผ่ขยายเป็นวงกว้างและโหมกระพือขึ้นจนยากดับ...หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังหลงระเริงไม่ระมัดระวังไฟนั้นย่อมหวนกลับมาแผดเผาตัวเองจนมอดไหม้ไม่เหลือซาก...

“ผมจะเรียนแม่คุณเกี่ยวกับเรื่องของเรา”

คำพูดของชายหนุ่มทำให้คนที่ยืนไม่มั่นคงมาพักใหญ่ต้องช้อนตาขึ้นมอง ทั้งสองสบตากันนิ่งชั่วครู่แต่เนิ่นนานในความรู้สึก...

“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณพ่อคุณแม่มาที่นี่...ให้พวกท่านรับรู้เรื่องของเราก่อนเดินทางไปพัทยา...ความจริงเราน่าจะชวนพวกท่านไปพักผ่อนด้วยกันคุณเห็นว่าเป็นยังไง”

เตชินทร์พูดเองเออเองอยู่คนเดียว

“ฉันยังไม่ได้ตกลง...กรุณาปล่อยด้วยค่ะ”

พอนึกถึงผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในหัวใจของเขา...โปรแกรมเมอร์สาวก็คอแข็งขึ้นทันใด

“โธ่...คุณป่านทุกอย่างมันเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว...ผมรักคุณอยากได้คุณเป็นภรรยา...และคุณก็ไม่ได้รังเกียจ...ให้โอกาสผมได้ไหม”

ชายหนุ่มข้อร้องเสียงอ้อน

“ฉันกำลังต้องการคำตอบบางอย่างจากผู้ชายคนหนึ่ง...ถ้าคุณรอได้หลังกลับจากพัทยาเราจะคุยเรื่องนี้กันอีกที...อ้อ...และคุณควรเตรียมใจไว้บ้างกับข้อสรุปหากฉันกับเขาตกลงกันได้”

นารีรายณ์บอกทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะเดินผละออกไป

เตชินทร์ยืนนิ่งอยู่กับที่...คำตอบของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกหน้าชาราวกับถูกใครฟาดด้วยของแข็ง...หัวใจที่เต้นกระหน่ำเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นผะแผ่ว...ราวคนไข้กำลังนอนรอทางรอดอยู่ในห้องไอซียู...

ชายหนุ่มมองตามร่างเปรียวระหงที่เดินตรงดิ่งขึ้นห้องโดยไม่สนใจหันกลับมามองด้วยความอ่อนใจ...เธอทำราวกับโกรธเขาด้วยเรื่องหนักหนาสาหัสทั้งๆ เมื่อครู่ทุกอย่างดูราบรื่นไร้ปัญหา...

ผู้หญิงอย่างนารีรายณ์เขาพอมองออกว่าเธอเป็นคนใจร้อนและปราดเปรียว...ความคล่องตัวของเธอมักแฝงความเร่าร้อนอยู่ในที...แต่น่าแปลกทั้งที่เขาล่วงเกินจนไม่น่าให้อภัย...แต่เธอกลับไม่แสดงความกราดเกรี้ยว...หรือลงไม้ลงมือให้สาสมกับความผิด

เตชินทร์ยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง...ความอุ่นซ่านยังคงกำจายอยู่ในความรู้สึก...ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างยุ่งยากใจ...เธอกำลังต้องการคำตอบบางอย่างจากผู้ชายคนหนึ่ง...แล้วคำตอบนั่นมันคืออะไร?...และถ้าเธอกับไอ้บ้านั่นตกลงกันได้เขาจะต้องเสียเธอไปอย่างนั้นหรือ?...

หากเป็นเช่นนั้นเขาจะทำอย่างไร...หรือเขาจะเป็นได้แค่เงา...เขาถามตัวเองอย่างอ่อนล้า...ชายหนุ่มยืนตั้งคำถามอยู่ครู่ใหญ่เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรจึงก้าวออกจากมุมมืดเดินตรงไปยังห้องรับแขก...พอทรุดลงนั่งได้ไม่ถึงห้านาทีเสียงหวานของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นเบาๆ

“พี่ป่านล่ะคะ”

ไพรนารีสอดส่ายสายตามองหาพี่สาวคนรอง

“เธอกลับขึ้นห้องไปแล้ว...”

“อ้าว...ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ...พี่ป่านนี่แย่จริงๆ...ตายแล้วน้ำท่าก็ไม่เอามาให้แขกดื่มนิสัยแย่ชะมัด”

น้องเล็กของบ้านมองผู้ชายตรงหน้าแววตาเรียบเฉยก่อนจะตำหนิพี่สาวคนรองแล้วเดินเข้าห้องครัวไป...ไม่ถึงอึดใจร่างโปร่งบางก็เดินกับมาพร้อมกับแก้วน้ำ

“คุณเป็นญาติฝ่ายไหนของพี่ภูมิเหรอคะ”

ทนายสาวเริ่มซักพยาน...ในหัวข้อแรก...และทยอยส่งคำถามหัวข้อต่อไป

เตชินทร์ตอบทุกคำถามของหญิงสาวด้วยท่าทางสุขุม...เป็นกันเอง...ทั้งสองคุยเรื่องนั้นกลับเข้าเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมชาติ จนไม่นึกเฉลียวใจว่าหญิงสาวกำลังรุกเข้าเรื่องส่วนตัวทั้งของภูมิรพีและตัวเขา ด้วยคำถามอันแยบยลในหลายหัวข้อ

แม้จะถูกไล่ต้อนจนรู้สึกทึ่งกับไหวพริบของหญิงสาวแต่เตชินทร์ก็สามารถตั้งรับทุกคำถามของนารีงามตรงหน้าได้อย่างไม่เงอะงะ...และคำตอบหลายๆ ข้อก็ได้เครื่องหมายบวกจากเธอทีละนิดๆ

เตชินทร์ถูกไต่สวนอย่างหนักจนในที่สุดจึงหลุดคำตอบที่มีนารีรายณ์เกี่ยวพันไปหลายหัวข้อ และแต่ละข้อก็ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญทั้งนั้น...ไพรนารียิ้มออกมาเป็นครั้งแรก...เมื่อผู้ชายที่เธอนั่งคุยมาพักใหญ่เริ่มคายความรู้สึกออกมาทีละนิดๆ คราแรกเธอไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าจะสนใจนารีรายณ์แต่ก็อดสงสัยไม่ได้...

เมื่อเห็นภาพใบหน้าตื่นตระหนกผมเผ้ายุ่งเหยิงของพี่สาวคนรองที่พรวดพราดเข้าห้องไปราวกับกำลังวิ่งหนีใครมา...และความสงสัยก็ยิ่งโหมกระพือเมื่อเธอเห็นเตชินทร์เดินออกมาจากห้องครัว...ด้วยท่าทางราวกับนกปีหัก...

“ดูเหมือนคุณเตชินทร์จะสนใจพี่ป่านนะคะ”

หญิงสาวเปิดประเด็นออกมาตรงๆ เมื่อจับทิศจับทางได้หลังจากคุยกับชายหนุ่มมาร่วม 30 นาที

“ผมรักเธอ...”

ไพรนารีเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ประหลาดใจนักเมื่อได้ยินคำตอบนั้น

“แล้วพี่ป่านล่ะคะรู้สึกแบบเดียวกับคุณหรือเปล่า”

“ผมไม่รู้เพราะเธอมีตัวเลือกอีกคน...แต่ไม่เป็นไรผมรอได้...นานแค่ไหนก็จะรอ”

ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าสายตานิ่งแน่ว...คำพูดของเตชินทร์และดวงตาคู่นั้นทำให้คนจ้องรู้สึกดีอย่างประหลาด...เพราะสิ่งที่เห็นเป็นเหมือนกับว่าเขากำลังให้คำมั่นสัญญา...

และคำสัญญาที่เปล่งประกายออกมานั้นบอกชัดเจนว่าเขาพร้อมรับมือกับทุกสิ่ง...โดยไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะได้รับความผิดหวังสมหวังหรือพบกับความแน่นอนและความไม่แน่นอน...ทุกอย่างที่ฉายออกมาจากดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตั้งใจจริง...จนมองเห็นความมั่นคงเต็มเปี่ยมอยู่ในนั้น

...ความมั่นคงนั้นช่างน่ายินดีกับผู้หญิงที่เขารัก...

ไพรนารีกระซิบกับตัวเอง...เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกเป็นมิตรมากขึ้นกว่าเดิม...หากเวลานี้นารีรายณ์ถามเธอว่าผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร...เธอคงตอบได้อย่างไม่ลังเลว่า...ว่าที่พี่เขยคนนี้น่าสนใจ...

เพราะไหวพริบท่าทางสุขุมนุ่มลึก...รวมถึงความน่าเชื่อถือ...ของเตชินทร์กำลังทำให้เธอรู้สึกชอบใจชายหนุ่มมากกว่าภูมิรพีขึ้นทุกที...

เตชินทร์มองใบหน้าอ่อนเยาว์ราวเด็กสาวไร้เดียงสาอย่างชื่นชมระคนฉงนฉงาย...น้องเล็กของบ้านนี้เป็นผู้หญิงที่ซ่อนคมไว้ภายใต้ท่าทางนิ่งสงบ...เธอเป็นเหมือนเหยี่ยวที่จ้องมองเหยื่อจากที่สูง...ใช้เวลากระพือปีกบินวนอย่างใจเย็นพอแน่ใจเมื่อไรถึงจะพุ่งเข้าจัดการ...

ทักษะของเธอยามหลอกล่อนั้นช่างน่าทึ่งขนาดเขาระวังตัวและตั้งรับอย่างมีสติตลอดช่วงสนทนา...แต่สุดท้ายก็ต้องคายทุกอย่างออกไปอยู่ดี...เธอตะล่อมเขาไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็นเหมือนผู้ใหญ่ใจดีคุยกับเด็กที่ไปทำความผิดมา...เมื่อเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจทุกอย่างก็จะเปิดเผยออกมาในที่สุด...


ที่ห้องทำงานของอริสากำลังมีการซักพยานกันอย่างหนัก ปิ่นนารีจ้องหน้าพ่อแมวตัวร้ายประกายตาเชือดเฉือนไม่ยอมความ

“ปิ่นฟังแม่”

อริสาเอ่ยขึ้นเพราะเห็นว่าหากให้ภูมิรพีแก้ต่างทุกอย่างคงไม่ได้ข้อยุติแน่ เมื่อเห็นว่าปิ่นนารียังมีท่าทีฮึดฮัด นางจึงเริ่มอธิบายเรื่องราวต่างๆ พอคำบอกเล่าของมารดาจบลงหญิงสาวถึงกับอุทานออกมาด้วยความตื่นตะลึง

“อะไรนะคะ!...ตกลงทุกอย่างมันเป็นแผนของคุณแม่อย่างนั้นเหรอ”

“แค่ตอนแรกจ๊ะ...หลังจากนั้นเป็นของผมกับคุณยูริ...แต่ที่รักจ๋าที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะผมรักคุณจริงๆ นะ อีกอย่างก่อนจะทำอะไรลงไปผมก็เรียนผู้ใหญ่ทุกครั้ง...”

ภูมิรพีบอกเสียงอ่อย

“แต่คุณควรบอกปิ่นบ้าง”

ปิ่นนารีตัดพ้อ

“ผมก็เพิ่งรู้ตอนไปถึงนั่นแหละ...”

“รู้แล้วทำไมไม่บอก...”

หญิงสาวตะคอกถาม

“ก็ผมเห็นด้วยกับแผนของผู้ใหญ่ท่านนี่จ๊ะ...ถ้าบอกไปคุณคงไม่ยอมอยู่ร่วมห้องกับผมแน่”

“ถึงยังไงคุณก็ควรบอก...ฉันน่าจะหามีดสักเล่มมาเชือดคุณให้รู้แล้วรู้รอดไป...”

ปิ่นนารีตอกกลับไปด้วยน้ำเสียงขุ่นเขียว

“เอาล่ะพอแล้ว...ในเมื่อลูกทั้งสองต่างก็รู้สึกตรงกัน...ปิ่นหนูลองตัดเรื่องแผนการพวกนั้นออกแล้วถามตัวเองดูว่าสิหนูเต็มใจแต่งงานกับพ่อภูมิเขาไหม”

พอเห็นท่าทางของบุตรียังเอาเรื่องไม่เลิกอริสาจึงพูดแทรกขึ้น

“ถ้าหนูรักพี่เขามองข้ามเรื่องพวกนี้ไปได้ไหม...ความจริงเรื่องนี้พี่เขาก็รู้เท่าๆ กับปิ่นนั่นแหละหากจะโกรธก็ควรโกรธความหวังดีของแม่ที่เลือกสิ่งที่ดีให้หนู...”

พอได้ยินสิ่งที่มารดาพูดปิ่นนารีถึงกับพูดไม่ออก...

“เรื่องที่ผ่านไปแล้วให้อภัยได้ก็ให้อภัยกันเสีย...โกรธเคืองกันไปมันก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาหรอกนะลูก”

“คุณจะโกรธผมก็ได้นะที่รัก...แต่อย่าเกลียดจนให้อภัยไม่ได้...ผมยอมรับว่าเห็นแก่ตัว...แต่เพราะรักคุณ...ผมจึงไม่สามารถหยุดหัวใจได้...คนดีอย่าทำให้ความรักของเราต้องจบลงเพราะทิฐิและความโกรธเคืองเลยนะ...สัญญาว่านับจากนี้ต่อไปผมจะไม่มีความลับอะไรกับคุณ”

ปิ่นนารีมองมารดาทีภูมิรพีทีอย่างชั่งใจ...เมื่อหัวใจเธอไม่ได้ปฏิเสธเขา...หญิงสาวจึงปรายตามองคนรักอย่างหมั่นไส้...ก่อนจะตัดสินใจตอบออกไปอย่างที่ใจคิด

“ก็ได้ค่ะปิ่นยกโทษให้คุณภูมิก็ได้...”

ภูมิรพีแทบลุกขึ้นร้องไชโย...ด้วยความดีใจ...ก่อนจะยิ้มแฉ่งจนหน้าบาน...เพราะความดีใจเขาจึงไม่ทันเห็นประกายตาคมวาวราวมีดโกนที่มองมาอย่างมาดร้าย

“แต่เรามีเรื่องที่จะต้องตกลงกันใหม่”

ปิ่นนารีบอกเสียงเย็น

“ได้จ๊ะที่รัก...ผมยอมทุกอย่างหากข้อตกลงนั้นคุณจะทำให้คุณหายโกรธและให้อภัย”

ชายหนุ่มบอกอย่างกระตือรือร้นจนไม่นึกถึงอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น พอแมวตัวร้ายเปิดทางให้แต่โดยดีหญิงสาวจึงยิ้มเย็นเมื่อเห็นหนทางเอาคืน

“ถ้าอย่างนั้นคุณภูมิคงไม่ว่าอะไรถ้าปิ่นจะขอเลื่อนงานแต่งเป็นฤกษ์ถัดไป”

ใบหน้าที่ส่องประกายเรืองรองถึงกับสลดวูบในชั่ววินาที...พร้อมกับเสียงอุทานอย่างตื่นตระหนกที่ดังตามมาติดๆ

“หา!!...ฤกษ์ถัดไป!...โอยที่รักถ้าเป็นแบบนั้นงานแต่งจะต้องเลื่อนไปอีกสามเดือนเชียวนะ...ทำแบบนี้มันฆ่าผมทางอ้อมชัดๆ ”

ภูมิรพีถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นว่าบทลงโทษที่หญิงสาวกำลังหยิบยื่นช่างไม่ยุติธรรมกับเขาเอาเสียเลย...แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะทันต่อรอง สายตาคมกริบก็ตวัดกลับมาทันใด...

“หรือว่าคุณจะเอาเป็นฤกษ์สุดท้ายคะ”

ภูมิรพีถึงกับอ้าปากค้างและหุบฉับลงทันที เมื่อเห็นว่าถ้าขืนยังทู่ซี้ต่อรองเห็นทีงานแต่งที่ใกล้เข้ามาจะต้องถอยร่นไปอีกยาวไกล เพราะฤกษ์สุดท้ายหากจะนับก็เป็นปี เมื่อไม่อาจมีปากมีเสียงชายหนุ่มจึงได้แต่นั่งคอตกและยอมรับบทลงโทษนั้นอย่างไม่เต็มใจ...อริสามองท่าทางหงอแฟนของว่าที่บุตรเขยแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู...เฮ้อ...หมดห่วงไปอีกหนึ่งแล้วสิเรา...


หลังจากปัญหาทุกอย่างได้ข้อยุติ...ทั้งหมดจึงเดินออกมาด้านนอก อริสานิ่วหน้าด้วยความฉงนเมื่อเห็นภาพในห้องรับแขก และเสียงพูดคุยของสองหนุ่มสาวที่ฟังเป็นกันเองก็ยิ่งทำให้รู้สึกประหลาดใจ เพราะปกติไพรนารีไม่เคยแสดงท่าทีเป็นมิตรกับใคร...

ทั้งสองยังคงพูดคุยกันอย่างออกรสจนกระทั่งมีเสียงหนึ่งทักขึ้นจึงยุติ

“คุยอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะ”

“ก็เรื่องทั่วๆ ไปนั่นแหละค่ะแม่...อ้าวพี่ภูมิยังมีชีวิตรอดอยู่เหรอคะ”

ไพรนารีปรายตามองภูมิรพีประกายตาเซ็งๆ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้ถูกเด้งอย่างที่คิด...เตชินทร์ลอบมองท่าทางน้องเล็กของบ้านที่มีต่อภูมิรพีอย่างสงสัยว่าพวกเขาอาจมีเรื่องกันมาก่อน เพราะประกายตาเจิดจ้าวับวาวของน้องน้อยนั้นช่างเชือดเฉือนเหมือนโกรธเคืองกันมานานนม...

เตชินทร์ยิ้มให้ญาติหนุ่มเมื่อเห็นสีหน้าของภูมิรพีดูเบิกบานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด...จนแน่ใจว่าทุกอย่างคงจบลงด้วยดี...แม้หญิงสาวหน้าหวานยังมีทีท่ามึนตึงเช่นเดิมก็ตาม...

อริสามองไพรนารีทีเตชินทร์ทีแล้วนิ่งคิดอย่างกังขา และความข้องใจก็กระจ่างในอีก 15 นาทีต่อมา เมื่อเตชินทร์อธิบายเรื่องของเขากับนารีรายณ์พร้อมสารภาพออกไปตรงๆ ว่าชอบและขออนุญาตคบหาดูใจกับเธอ

ปิ่นนารีหันไปมองหน้าภูมิรพีแทบจะทันทีที่ทราบ...เพราะคิดว่าอีกฝ่ายมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พอเห็นแววตาของชายหนุ่มดูตื่นตกใจมากกว่าใครเธอจึงทำเฉยไปเสีย

พอบรรยากาศเริ่มเงียบเชียบ เตชินทร์จึงใช้กลยุทธ์ด้านการเจรขา ช่วยเปิดทางสะดวกให้ตัวเอง ชายหนุ่มใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่าจนได้รับความไว้วางใจจากว่าที่แม่ยายในระดับหนึ่ง...

เวลานาทีต่อนาทีดำเนินไปอย่างรวดเร็วเพราะบทสนทนาที่ถูกคอ พอได้พูดคุยกับเตชินทร์อย่างจริงจังอริสาก็ชักถูกตาต้องใจ...ยิ่งหันไปทางไพรนารีแล้วเห็นประกายตาแสดงความเป็นมิตร...แต่หากจะรับไมตรีเร็วไปก็ดูไม่เหมาะนางจึงเอ่ยเพียงสั้นๆ ว่าทุกอย่างต้องแล้วแต่เจ้าตัว...

เมื่อว่าที่แม่ยายไม่ได้มีท่าทีรังเกียจ ชายหนุ่มจึงขออนุญาตพาเธอไปพัทยา พร้อมออกปากเชิญนางและพันธมิตรคนใหม่ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อแสดงความจริงใจ

โดยมีภูมิรพียกมือโหวตสนับสนุนจนได้ผู้ร่วมเดินทางเพิ่มเป็นอริสาและปิ่นนารี ส่วนน้องเล็กของบ้านออกตัวอย่างเสียดายเพราะไม่ว่าง

เมื่อเห็นว่าดึกแล้วชายหนุ่มทั้งสองจึงขอตัวกลับ เตชินทร์บอกลาและยิ้มให้กับว่าที่น้องภรรยาซึ่งเขาสามารถโกยเข้าเป็นพวกได้ด้วยสีหน้าแช่มชื่น...ไพรนารีบอกลาชายหนุ่มร่างใหญ่อย่างเป็นมิตรแต่ภูมิรพีเธอกลับมองเฉย...

พอเห็นปฏิกิริยาของว่าที่น้องภรรยาภูมิรพีก็อดค่อนขอดไม่ได้ว่า...ไพรนารีทำแบบนี้มันสองมาตรฐานกันเห็นๆ แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอมึนตึงกับเขานัก...ทั้งๆ ที่ไม่เคยก่อคดีอะไรให้เสื่อมเสีย...แต่เขาก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าหากวันใดวันหนึ่งจำเลยผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างเขาถูกยกฟ้อง...จนหลุดออกจากข้อกล่าวหาทนายสาวคงจะญาติดีกับเขาบ้าง...





Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2554 17:14:43 น. 4 comments
Counter : 581 Pageviews.

 
ชื่ิอตอนร้อนแรง.....แต่เนื้อในไม่ท่าไหร่ เลยเอาภาพมาแก้หน้าค่ะ ฮี่ๆ..............


โดย: sansook วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:15:46 น.  

 
มาลุ้นต่อว่า MR.SHADOW จะว่าไงงานนี้มีหวังเสร็จแน่ๆ แต่ก็นะนักเจรจาซะอย่าง


โดย: jee IP: 223.205.217.133 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:03:01 น.  

 
เชียร์นายเต คนดี
คุณเอ๋ขา อย่าใจร้ายกะนายเตนักนะค่ะ
พระเอกแสนดีงี้หายาก


โดย: googie IP: 203.146.71.70 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:11:53 น.  

 


โดย: tuk_ora วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:21:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.