sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ ๔๒ ชัยชนะแรก



เสียงบานประตูเปิดออกโดยไม่มีการเคาะบอกทำให้หญิงสาวลืมตาขึ้นอย่างตกใจ ก่อนขยับลุกขึ้นและหยีตาลงเมื่อแสงสีทองของวันใหม่สาดเข้ากระทบนัยน์ตา

“คุณมีไข้จะลุกขึ้นทำไม”

เจ้าของร่างสูงราว 180 เซนติเมตรเดินเข้าไปทรุดนั่งบนขอบที่นอน อังมือกับหน้าผากกลมกลึงแล้วก้มมองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว

“คุณไม่ไปทำงานหรือไง”

ทนายสาวอดถามขึ้นไม่ได้เมื่อเห็นชายหนุ่มวนเวียนอยู่ไม่ห่างราวกับวิญญาณ

“งานไปทำเมื่อไรก็ได้ พวกวัวพวกควายมันไม่ดื้อหรอกบอกซ้ายก็ไปซ้ายบอกขวาก็ไปขวาเลยเบาใจ ไม่เหมือนเมียที่บอกยากบอกเย็นเลยต้องดูแลเป็นพิเศษสักหน่อย”

“คุณ...”

ไพรนารีอ้าปากเตรียมฉะแต่พอนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรเสี่ยงจึงเลือกเมินหน้าไปอีกทาง

“อยากอาบน้ำไหม”

เขาถามเสียงนุ่มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่กล้าต่อกร

“แต่ผมว่าแค่เช็ดตัวก็น่าจะพอแล้ว”

เมื่อหญิงสาวยังนอนนิ่งชายหนุ่มจึงตัดสินใจแทนโดยลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ และกลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กในมือ

ร่างโปร่งระหงขยับตัวอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นคนเจ้าอารมณ์เดินมาทรุดลงข้างตัว ก่อนใช้สายตาจ้องปรามเธอด้วยประกายดุดันไม่ให้ขัดขืน ไพรนารีนอนตัวแข็งทื่อเมื่อชายหนุ่มกำลังเช็ดตัวให้อย่างเอาใจใส่

และท่าทางนั้นทำให้เธอมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไป และเหตุการณ์เมื่อคืนก็หวนกลับเข้ามาในมโนสำนึกอีกครั้ง แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายอารมณ์ร้อนอย่างนายช้างตกมันถึงได้กลายร่างเป็นบุรุษพยาบาลผู้อ่อนโยน แต่เธอก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะซบใบหน้ากับอกกว้างและหลับไปในเวลาต่อมา

“อีกเดี๋ยวรำเพยคงยกข้าวต้มมาให้ ผมจะอยู่ป้อนข้าวคุณก่อนแล้วค่อยไปทำงาน”

ชายหนุ่มพูดจบคนที่เพิ่งเอ่ยถึงก็เคาะประตูเดินเข้ามาพร้อมชามข้าวต้มหอมฉุย

“ฉันยังไม่หิว”

“อย่าดื้อสิ...คุณกำลังไม่สบายนะ”

“ก็ช่างประไร...คุณจะออกไปดูวัวดูควายก็เชิญไปได้เลยฉันจะพักผ่อน”

หญิงสาวพลิกร่างไปอีกทางเพราะนึกอยากเอาชนะด้วยวิธีใหม่ ธนาวิทย์มองท่าทางพยศของคนหัวดื้อประกายตาอ่อนลงจนแม่บ้านที่ยืนอยู่อีกด้านอมยิ้มบางๆ อย่างเอ็นดู

“ไม่กินตอนนี้ก็ได้ ถ้าคุณอยากพักก็ตามใจแต่อย่าลืมกินข้าวต้มชามนั้นให้หมดด้วยล่ะ รำเพยถ้ากลับมาหวังว่าข้าวต้มนั่นจะไม่เหลือติดชามนะ”

เมื่อถูกอีกฝ่ายต่อต้านด้วยมาตรการใหม่ ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปขู่อีกคน ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป

“ป้าช่วยดูหน่อยสิว่าเขาออกไปหรือยัง”

ทนายสาวพลิกตัวกลับไปพูดกับแม่บ้าน รำเพยเดินไปแหวกผ้าม่านตรงหน้าต่างอยู่ครู่ใหญ่ พอเห็นว่าเจ้านายขับรถออกไปแล้วจึงเดินกลับมายืนอยู่ข้างเตียง

“ไปแล้วค่ะ...คุณทานข้าวต้มเถอะนะคะจะได้มีแรง”

“ข้าวต้มมีเหลืออีกไหม?”
“มีค่ะ ป้าต้มไว้เยอะเชียวคุณอยากทานเพิ่มเหรอคะ”

“เปล่า...ปอแค่อยากให้ป้าช่วยตักมาให้ใหม่อีกสักชาม ส่วนชามนั้นทิ้งไว้นั่นแหละ”

เธอหันไปทางข้าวต้มแล้วซ่อนรอยยิ้ม

“อ้อ...ป้าเข้าใจแล้วค่ะ แล้วป้าจะเรียนคุณท่านเองว่าคุณไม่ยอมทานอะไร”

นางบอกพร้อมกับยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นวิธีที่หญิงสาวใช้เล่นงานเจ้านาย ก่อนจะเดินกลับออกไปตักข้าวต้มชามใหม่...


ธนาวิทย์กลับมาอีกครั้งเมื่อตะวันเกือบลาลับขอบฟ้า พอเท้าเหยียบย่างเข้าบ้านร่างสูงผึ่งผายมุ่งตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที

พอถึงจึงเดินปรี่เข้าไปหาคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ก่อนเอ่ยคำถามแรกน้ำเสียงอาทร เมื่อเห็นชามข้าวต้มบนโต๊ะยังอยู่ในสภาพเดิม หากคนถูกถามกลับนอนนิ่ง

“ทำไมไม่ทานข้าว”

พอเห็นว่าหญิงสาวยังนิ่งเฉยชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบชามข้าวต้ม เหลือบมองคนหัวดื้อชั่วครู่แล้วจึงเดินออกไป

ไพรนารีขยับพลิกตัววางมือกับหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิร่างกายลดลงจนไม่มีไข้ เธอจึงลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำร้อนใส่ผ้าขนหนูบิดหมาดๆ วางลงบนหน้าอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนถอยกลับมาทำท่านอนซมอยู่บนเตียง

ไม่ถึง 10 นาทีประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้งโดยไม่มีการเคาะบอกตามเคย ธนาวิทย์เดินกลับเข้ามาใหม่พร้อมข้าวต้มชามใหญ่ในมือ

“ลุกขึ้นทานข้าวเดี๋ยวนี้ไพรนารี”

เขาออกคำสั่งเสียงแข็ง

“ฉันไม่กิน”

“อย่าใช้วิถีนี้ทรมานตัวเองเพื่อเอาชนะมันไม่ได้ผลหรอก หรือว่าจะให้ป้อนด้วยวิธีของผม”

“ฉันไม่กิน และไม่เปลี่ยนใจด้วย จะทำอะไรก็ทำฉันไม่มีทางสู้คุณได้อยู่แล้ว”
หญิงสาวบอกเขาเสียงแผ่วแล้วพลิกตัวหันหลังให้พร้อมกับผุดรอยยิ้มออกมา เพราะแน่ใจว่าเห็นสีหน้ายุ่งยากใจของ...อีตาช้างตกมัน...

เมื่อถูกท้าทายชายหนุ่มจึงยืนกัดฟันดังกรอดๆ ไม่รู้จะตอกกลับอีกฝ่ายอย่างไร เพราะคำขู่ที่ทำให้มีชัยในทุกครั้งเริ่มใช้ไม่ได้ผล เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เขาสามารถนำมาปราบพยศหมดความหมายเจ้าของไร่เลือดร้อนก็ชักไม่สบอารมณ์

“ไพรนารีอย่าทำแบบนี้ คุณต้องทานอะไรบ้าง อย่าประชดผมด้วยวิธีทรมานตัวเองสิ...”

คำพูดของอีกฝ่ายอ่อนลงจนคล้ายกำลังขอร้องมากกว่าออกคำสั่ง

“ฉันไม่กินหรอกค่ะ”

หญิงสาวปรับน้ำเสียงให้แผ่วเบา พยายามกลั้นยิ้มและแอบบอกเขาอยู่ในใจว่า...ใครจะกินลงยะฉันอิ่มจะแย่อยู่แล้ว...

“คุณกำลังไม่สบายต้องกินยานะไพรนารี ลุกขึ้นมากินข้าวเถอะ”

เขาย้ำน้ำเสียงอ่อนลง ก่อนทรุดลงนั่งจนคนที่หันหลังให้รับรู้ถึง การยุบตัวของที่นอน ธนาวิทย์แตะหลังมือกันหน้าผากไล่ไปตามผิวแก้มแล้วพ่นลมหายใจออกมาเมื่อพบว่าตัวเธอยังรุมๆ

“ตัวยังร้อนอยู่เลย ทำไมไม่ห่วงตัวเองบ้างกินข้าวเถอะอิ่มแล้วจะได้กินยา”

หญิงสาวใช้คำตอบเป็นการขยับตัวหนีห่าง จนคนเจ้าอารมณ์ชักหงุดหงิดใจที่ถูกต่อต้าน

“ก็ได้ ตามใจไม่กินก็ไม่กิน”

เขาบอกอย่างอ่อนใจก่อนวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ทิ้งตัวลงเคียงข้าง...ยันศอกขึ้นใช้ฝ่ามือรับศีรษะเอื้อมมืออีกข้างเกลี่ยผมออกจากแก้มนวลแล้วโน้มใบหน้าชิดกับริมหูเล็กๆ

“ถ้าไม่กินข้าวผมจะนอนกอดคุณ และอาจจะทำอย่างอื่นไปด้วยจนกว่าคุณจะเปลี่ยนใจ”

พูดจบก็พลิกร่างคนหัวดื้อเข้าหาตัว เลิกคิ้วขึ้นจ้องดวงตาสีดำขลับที่เปิดกว้างอย่างท้าทายด้วยประกายตาเอาจริง

ไพรนารีนอนตัวแข็งทื่อ พอนึกขึ้นได้จึงถอยไปอีกด้าน แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนขยับเข้าไปใกล้ เลื่อนมือแตะเอวบางรั้งร่างบางเข้ามาชิดลำตัว แล้วก้มลงแนบริมฝีปากกับหน้าผากร้อนรุม

“ปล่อยนะ...คุณจะทำอะไร”

หญิงสาวแหวขึ้นจนลืมว่าตัวเองกำลังแกล้งป่วย หากอีกฝ่ายไม่ตอบนอกจากใช้ปลายนิ้วไล้จมูกโด่งรั้นเลื่อนเลยไปตามแก้มเนียน ก่อนแนบเรียวปากลงกับปากนุ่มอย่างอดใจไว้ไม่อยู่

ธนาวิทย์หลับตาพริ้ม...มอบจูบอ่อนโยนเว้าวอน จนนึกแปลกใจตัวเองอยู่ครามครันว่าทำไมถึงได้โหยหาทุกอย่างจากร่างกายบอบบางนี้นัก วันนี้ทั้งวันเขาแทบไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรนอกจากอยากกลับบ้าน จนถูกทีมสัตว์แพทย์กระเซ้าบ่อยครั้ง...เพราะมัวนึกถึงน้องน้อยตัวเปล่าเปลือยอยู่ในอ้อมแขน และภาพนั้นก็ตราตรึงอยู่ในหัวใจจนทำให้เลือดหนุ่มพุ่งขึ้นอย่างประหลาด

ชายหนุ่มรวบร่างบอบบางเข้าไปกอดไว้แน่นพร้อมบดริมฝีปากลงบนปากของหญิงสาวอย่างหิวกระหายครั้งแล้วครั้งเล่ามิรู้อิ่ม จนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่ปะบนมากับสัมผัสนุ่มหวานอันซาบซ่าน

ไพรนารีรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นลม แต่ยังพยายามดิ้นรนผลักไส เสียงร้องอึกอักดังอยู่ในลำคอ ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มหยุดรุกราน เขายังคงกระชับวงแขนและเบียดริมฝีปากเคล้าคลึงด้วยจังหวะวาบหวาม

หญิงสาวพยายามบอกตัวเองให้มีสติไม่หลงใหลไปกับสัมผัสแปลกใหม่นั่น อีกทั้งดิ้นรนเป็นพัลวัน แต่เขากลับสะกดอาการต่อสู้ดิ้นรนสุดกำลังของเธอด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ก่อนจะบดจุมพิตหนักหน่วง ให้สมกับความคิดถึงที่สุมอยู่ในความรู้สึก จนไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหายใจหรือทำอะไรนอกจากคล้อยตาม

ดวงตาสีนิลเปิดขึ้นอย่างตื่นตระหนกเมื่อฝ่ามืออุ่นซ่านแทรกผ่านเนื้อผ้าเข้าครอบครองทรวงอกเต่งตึงปราศจากบราเซียห่อหุ้ม ก่อนจะใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างเคล้าคลึงแผ่วเบาไปตามยอดทรวง ราวกำลังแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่

เปลวไฟในอารมณ์ของทั้งคู่เริ่มปะทุขึ้น ร่างบางขยับตัวตามแรงรั้งจนแนบสนิทอยู่ในอกกว้าง ชายหนุ่มจงใจสัมผัสร่างกายของเธอด้วยจังหวะเนิบช้าผ่านร่างกายของเขา

ไพรนารีปิดเปลือกตาลงอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงครางทุ้มลึกๆ ดังอยู่ในลำคอและมันกำลังคลอกับเสียงของเธอ นาทีต่อมาดวงตาของเธอก็เปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อริมฝีปากร้อนๆ นาบไปตามแก้ม...ไล่เรื่อยลงมาถึงปลายคางและลากผ่านไปยังต้นคอเนียนระหง...

เสื้อยืดตัวใหญ่ถูกเลิกขึ้นช้าๆ หญิงสาวรู้สึกตัวเต็มที่เมื่อทรวงอกนุ่มหยุ่นถูกซุกไซ้ด้วยจังหวะเร่าร้อนเหมือนร่างกายหมุนคว้างอยู่กลางอากาศจนเผลอเลื่อนแขนขึ้นโอบรัดรอบคอเขาไว้แน่น ขณะหยัดร่างกายรับสัมผัสเร่าร้อนนั่นอย่างไม่ประสีประสา

ธนาวิทย์ผุดรอยยิ้มอกมาอย่างพึงพอใจเมื่อรับรู้ถึงแรงอารมณ์ของเธอและเขาที่ผสานกันได้อย่างลงตัว...ขณะกำลังดื่มด่ำกับรสชาติหวานล้ำของทรวงงามและกำลังรุกรามไปยังจุดอ่อนไหวอื่น อยู่ๆ ความรู้สึกถูกผิดก็วิ่งออกมาจากซอกเล็กๆ ของสามัญสำนึก

เขาอยากเดินหน้าต่อ...แต่หากทำเช่นนั้นแม่ทนายป่าเถื่อนจะต้องประณามว่าเขาเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว หนำซ้ำจะพาลชังน้ำหน้าจนไม่ยอมญาติดีด้วยแน่ๆ

พอเห็นว่าหากดื้อดึงสิ่งที่ได้อาจไม่คุ้มเสีย...ชายหนุ่มจึงตัดสินใจหักดิบไม่ยอมเดินตามอารมณ์ ดวงตาคมกริบจ้องดวงหน้าหวานละไมด้วยประกายตาที่แสดงถึงความปรารถนาอย่างไม่คิดซ่อนเร้น ขณะคนถูกจ้องเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างงุนงงกับอารมณ์แปลกๆ ของตัวเอง

ไพรนารีหลบตาอีกฝ่ายอย่างลนลาน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายก่อนจะทรงตัวลุกขึ้นดึงชายเสื้อให้เข้าที่อย่างรวดเร็ว

“ไพรนารี...ผมเอ่อ...”

“ไม่ต้องพูดฉันไม่อยากฟัง”

หญิงสาวพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกยิ่งกว่าน้ำแข็ง

“ออกไปได้แล้วฉันต้องการอยู่คนเดียว”

“แต่นี่มันห้องผมนะ”

เขาแย้งขึ้น

“ถ้างั้นก็หาห้องใหม่ให้ฉัน”

“ทำไมต้องหาห้องใหม่ให้ยุ่งยาก คุณลืมไปแล้วหรือไงว่าเมื่อคืนเรานอนร่วมห้องกัน”

ชายหนุ่มหยิบยกสถานการณ์ที่ล่วงผ่านเป็นตัวอย่าง

“นั่นมันเป็นเรื่องของอดีต...ฉันกลับไปแก้ไขไม่ได้แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องของปัจจุบันและอนาคต ฉันไม่ยอมให้คุณฉวยโอกาสอีกแน่ไปจัดการซะ”

“คุณกำลังออกคำสั่งกับผมหรือไงไพรนารี”

เพราะเป็นผู้ออกคำสั่งเสียเคยจึงทำให้คนเจ้าอารมณ์ถึงกับฉุนเมื่อถูกสั่งบ้าง

“ฉันกำลังขอร้องคุณต่างหาก”

“นั่นเขาเรียกคำขอร้องเรอะ”

ชายหนุ่มแค่นเสียงประชด

“มันคงไม่ใช่คำสรรเสริญหรอกน่า...ว่าไงจะทำให้ดีๆ หรือจะต้องให้ออกแรงกันก่อน”

เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดูยุ่งเหยิงไพรนารีจึงข่มขู่ออกไปบ้าง

“เป็นความคิดที่ดีนี่ ได้ทำอะไรให้เหงื่อออกเสียบ้างร่างกายจะได้กระปรี้กระเปร่า งั้นเรามาต่อที่ค้างจากเมื่อกี้กันเถอะถ้ารู้ว่าคุณชอบให้ออกแรงเมื่อกี้ผมไม่น่าหยุดเลยให้ตาย”

ธนาวิทย์แกล้งบอกพร้อมกับทำท่าจะตะครุบหญิงสาวเข้าปากอีกรอบ หากอีกฝ่ายขยับหนีทัน

“คุณจะบ้าเรอะ”

“ก็คุณขอเอง”

“เลิกทำตัวเป็นผู้ชายเห็นแก่เตียงสักทีได้ไหม...นายช้างตกมัน...”

ไพรนารียืนชี้มือปรามพร้อมกับมองหาทางรอดให้กับตัวเอง

“บอกให้เรียกพี่วิทย์...”

“เรียกฉันแม่ก่อนสิ”

ทนายสาวย้อนกลับไปทันควัน

“ถ้าอยากให้เรียกแม่ก็มาขึ้นเตียงซะดีๆ ได้ลูกเมื่อไรผมจะเรียกแม่วันละสามเวลาเลย...มาสิ”

ชายหนุ่มชวนพลางใช้ฝ่ามือตบที่นอนเบาๆ

“นายช้างตกมัน...วันนี้ถ้าฆ่าคุณไม่ได้ฉันยอมตาย”

หญิงสาวชี้มือขู่พร้อมกับหมุนไปจับเก้าอี้ไม้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเหวี่ยงออกไปเต็มแรง ตามด้วยข้าวของอีกสารพัดชนิดปลิวกันให้ว่อน จนคนถูกวางเป็นเป้ากระโดดหลบแทบไม่ทัน

“เฮ้ย!...นั่นน้ำหอมสุดโปรดของผมนะ..วางลง...ไพรนารีวางลงเดี๋ยวนี้”

ชายหนุ่มออกคำสั่งน้ำเสียงลนลาน

“ของรักของหวงงั้นสิ...ดีฉันจะได้ทำลายมันซะ”

เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างเป็นต่อก่อนจะขว้างขวดน้ำหอมในมือออกไปสุดแรงโดยมีเป้าเป็นร่างกายของชายหนุ่ม และขวดน้ำหอมอีกสองสามชิ้นก็ลอยหวือตามๆ กันไปจนมีเสียงโครมครามดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ธนาวิทย์กระโดดหลับวัตถุแปลกปลอมที่ลอยมาเป็นระยะๆ อย่างหงุดหงิด แม้ไม่พอใจที่หญิงสาวทำลายข้าวของแต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก ชายหนุ่มมองร่างโปร่งระหงที่ขยับไปทางหัวเตียงอย่างสงสัยว่าเธอคิดจะทำอะไร แต่พอเห็นสิ่งของในมือเธอคนตัวโตก็ถึงกับสะดุ้งโหยง

“ก็ได้...หยุดคลั่งสักทีคืนนี้คุณอยู่ห้องนี้ไปก็แล้วกันเดี๋ยวผมไปนอนห้องอื่นก็ได้ แต่ช่วยวางไอ้นั่นลงก่อนได้ไหม”

พอเห็นไพรนารีคว้าแก้วเนื้อดีบางใสขนาดไม่ใหญ่มากลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสวางอยู่บนฐานและมีรูปคนในครอบครัวปรากฏอยู่ทุกด้านเตรียมทุ่มใส่ ชายหนุ่มจึงรีบกางมือขึ้นหย่าศึก เพราะสิ่งที่เธอกำลังจะทำลายมีความหมายทางด้านจิตใจจนเขาไม่อาจทนมองมันถูกทำลายลงได้

“ฉันจะวางแต่คุณต้องออกไปและอย่าเหยียบเข้ามาอีกไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน”

ทนายสาวเชิดหน้าขณะโยนของประกันในมือขึ้นอย่างเป็นต่อ

“ผมยอมก็ได้แต่อย่าทำร่วงเด็ดขาด ของนั่นมันมีแค่ชิ้นเดียวในโลกนะคุณ”

ธนาวิทย์บอกเสียงแผ่ว...เพราะกลัวอีกฝ่ายจะทำลายของสำคัญจนถูกมารดาตำหนิเมื่อพบว่าของขวัญที่นางพยายามไปเรียนเป่าแก้วด้วยความยากลำบากจนสามมารถประดิษฐ์ของขวัญให้เขาจนสำเร็จ ถูกทำลายเพราะแรงอารมณ์หาใช่อุบัติเหตุ

ทนายสาวมองร่างสูงผึ่งผายค่อยๆ ถอยออกจากห้องไปด้วยประกายตาของผู้ชนะ ก่อนก้มลงมองสิ่งของต่อรองแล้วยิ้มกริ่มเมื่อพบหนทางรอดและเอาคืนหลังจากแพ้อีกฝ่ายมาหลายนัดซ้อน...







Create Date : 09 มีนาคม 2554
Last Update : 9 มีนาคม 2554 10:51:31 น. 5 comments
Counter : 578 Pageviews.

 
ภาพประกอบทางอินเตอร์เนทไม่เกี่ยวกับเนื้อหา หุหุ....วันนี้แข่งฮูล่าฮูพตอนบ่ายสอง ชาวบ้าน 100 คน ควบคุมการฝึกโดยอักษรา....ฮี่ๆ เอ๋ไม่ได้เล่นค่ะ เพราะรายชื่อยู่ทีวอลเล่ย์ฯ เมื่อวานซืนไปซ้อมจนเดี้ยง ปวดระบมไปทั้งตัวเมื่อคืนเลยคลานขึ้นเตียง ไม่มีแรงอัพกับปั่นเลยค่ะ เลยเอาของคืนก่อนมาลงแก้ขัด...ขออภัยที่ทำให้ค้างด้วยค่ะ ฮี่ๆ


โดย: sansook วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:10:57:42 น.  

 
ผู้คุมเล่นด้วยป่าวว...เดียวเอวหักนะนู๋เอ๋


โดย: tuk_ora วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:13:10:39 น.  

 
นู๋เอ๋...อย่างไงก็ระวังหลังไหล่มั้งนะจ๊ะ...


โดย: jee IP: 223.206.210.160 วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:20:25:52 น.  

 
ได้ลงค่ะเพราะสมาชิกขาดไป 1 คน และนำทีมแพ้ไปแล้วด้วยหุหุ ทำหล่นจากเอวตั้งสองครั้งแน่ะพี่ตุ๊ก อ๊ายอาย ฮี่ๆ

ขอบคุณพี่จี๋ที่เป็นห่วงค่ะ หลังกะไหล่ตอนนี้ก็อาการทรงกับทรุด เวลาพิมพ์นิยายเลยใช้เทคนิคพิเศษช่วย

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: sansook วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:0:45:44 น.  

 
โห ถ้าต้องใช้เทคนิคพิเศษช่วย ยอมรอไม่อ่านนิยายก็ได้ค่ะ
เล่นเก่งเนอะ
หนูสิฮูลาฮู๊ปที ไม่ผ่านเลย สงสัยไม่มีเอว -*-


โดย: googie IP: 203.146.71.70 วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:8:24:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.