sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
3 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ ๒๓ รักแท้หรือแค่เงา



ช่วงสายของอีกวัน ณ ห้องประชุมเตชินทร์นั่งฟังนารีรายณ์ที่กำลังรายงานผลงานอย่างตั้งใจ ก่อนจะพยักหน้าเมื่อเธอรายงานจบลงและขอความคิดเห็นจากคณะกรรมการบริหารที่เข้าร่วมประชุมเพื่อรับรองงานให้แล้วเสร็จ

หลังจากการประชุมสิ้นสุดลงบรรดาคณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุมต่างออกปากชื่นชมและแสดงออกชัดเจนว่าพึงพอใจผลงานของหญิงสาว ทำให้ธาวินถึงกับยิ้มจนหน้าบานเพราะได้อานิสงส์เป็นคำชม

พอคณะกรรมการบางส่วนทยอยเดินออกไป นารีรายณ์จึงเอ่ยขอตัวไปเก็บของโดยมีสายตาของเตชินทร์ลอบมองอยู่เงียบๆ

“เดี๋ยวสิครับคุณป่าน”

ธาวินเอ่ยขึ้นเมื่อหญิงสาวลุกขึ้น

“มีอะไรเหรอคะ?”

“คุณยังไม่ให้คำตอบเรื่องไปพัทยากับผมเลยนะฮะ”

แม้จะนึกไม่พอใจกับความกระตือรือร้นของญาติสนิท...แต่เตชินทร์ก็นิ่งฟังคำตอบของหญิงสาวอย่างจดจ่อ...

“เอ่อ...”

นารีรายณ์หันไปมองหน้านันทยศแล้วเริ่มอึกอักเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นปฏิเสธอย่างไร

“ไปเถอะฮะ...คิดเสียว่าเป็นโบนัสจากทางเรา...ถ้าคุณป่านไม่สะดวกใจไปกับคุณเน่แค่สองคนจะพาเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวไปด้วยก็ได้”

ธาวินนำเสนอแบบใจป้ำสุดๆ

“วินจะไปพัทยาเหรอลูก?”

คนเป็นบิดาถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของบุตรชาย

“ฮะคุณพ่อ...พอดีเต้เขาจะพาพนักงานในแผนกไปพักผ่อนก่อนเคลียร์งานคืนให้...ผมเห็นว่าคุณป่านทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์เลยอยากชวนไปด้วยกัน...ไปกันเยอะๆ จะได้ครึกครื้นคุณพ่อเห็นว่าเป็นยังไงครับ”

“อ้ออย่างนั้นเหรอ...ไปสิหนูป่าน...ที่พักเป็นบ้านพักตากอากาศของเราเองรับรองว่าปลอดภัยและเป็นส่วนตัว...ทำงานเหนื่อยๆ มาตลอดอาทิตย์ไปเที่ยวทะเลก็ดีนะถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว”

คนเป็นบิดาพนักหน้ารับรู้ก่อนจะช่วยเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการเชิญชวน

“ค่ะท่าน...ขอตัวก่อนนะคะ”

เมื่อผู้ใหญ่ออกปากนารีรายณ์จึงจำใจตกปากรับคำ ธาวินรีบแจ้งเวลานัดพร้อมอาสาไปรับอย่างกระตือรือร้น แต่หญิงสาวปฏิเสธบอกว่าจะขับรถตามไปทีหลัง

เตชินทร์ผู้เคร่งขรึมนั่งฟังบทสนทนาของญาติหนุ่มกับโปรแกรมเมอร์สาวด้วยท่าทางนิ่งสงบ แต่ภายในกำลังกำมือขึ้นแล้วตะโกนคำว่า...เยส...เสียงดังลั่น เพราะทุกอย่างกำลังเดินไปตามแผนที่เขาวางไว้...ดวงตาคมกริบเหลือบไปมองหน้าญาติสนิทแล้วยิ้มเย็น

“งานของคุณป่านเนี๊ยบไหมฮะคุณพ่อ”

พอหญิงสาวเดินออกไปธาวินจึงหันไปถามบิดา

“เท่าที่ดูจากรายงานพ่อพอใจมาก...เอาไว้คราวหน้าพ่อจะลองเสนอในที่ประชุมใหญ่ให้หนูป่านไปปรับปรุงระบบที่บริษัทเต้น่าจะดี...เพราะเท่าที่มองถ้าเราใช้โปรแกรมตัวนี้ลิงค์ข้อมูลระหว่างสายส่งของเอเชียกับยุโรปให้เชื่อมโยงกัน ต่อไปการทำงานคงง่ายและไม่ซับซ้อน...เต้เห็นว่าไง”

นพคุณหันไปทางหลานชาย

“ผมยังไงก็ได้ฮะ”

เตชินทร์บอกเสียงเรียบแต่ในใจกำลังลิงโลดจนแทบกระโดดเข้าไปหอมแก้มคนเสนอความคิดเพราะมันตรงกับใจเขาเหลือเกิน

“แล้วเราล่ะวินเรียนรู้งานจากเต้ไปถึงไหนแล้ว...”

นพคุณหันไปถามบุตรชายน้ำเสียงจริงจัง

“ความจริงงานแค่นี้ผมทำได้สบายอยู่แล้วฮะแต่คุณย่าไม่ยอมเชื่อใจเอง...”

“แกแน่ใจเหรอว่าทำได้เพราะพ่อไม่เห็นแกทำอะไรที่มันเป็นโล้เป็นพายสักอย่างนอกจากเรื่องคั่วผู้หญิง”

คนเป็นพ่อตอกกลับเพราะรู้จักนิสัยของบุตรชายคนเล็กดี นพคุณมองท่าทางที่ยังรักความสบายของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างหนักใจ

ก่อนจะนึกย้อนไปเมื่อครั้งประมุขใหญ่ของบ้านประกาศให้ธนาวิทย์บุตรชายคนโตเข้ามารับช่วงบริหารต่อจากเขา แต่เจ้าลูกชายคนโตที่หัวใจรักความอิสระก็ประกาศกร้าวว่าไม่เอาเด็ดขาด...เพราะชอบอยู่กับป่าเขามากกว่าเมืองใหญ่จนทำให้ท่านประธานใหญ่ถึงกับว้ากลั่นกลางที่ประชุม

พอธาวินขันอาสาสถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้าย...เพราะผู้เป็นปู่แค่นเสียงเยาะหยันโดยไม่ไว้หน้าและยืนยันเสียงหนักแน่นว่าไม่มีทางยอมแต่ด้วยเสียงสนับสนุนของหลายๆ คนที่ช่วยกล่อมเกลาในที่สุดประมุขสูงสุดจึงยอมถอยให้ในเวลาต่อมา

หลังจากการประชุมครั้งนั้นสิ้นสุดระหว่างพักผ่อนกันอยู่ในห้องนั่งเล่นคุณช่อทิพย์…จึงออกคำสั่งให้เตชินทร์เข้าไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับธาวินทันที…เพราะเกรงว่าหลานคนโปรดจะทำงานไม่สำเร็จ

พอหลุดออกจากห้วงความคิดนพคุณมองหลานชายที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของบริษัทด้วยความชื่นชม...และนึกอิจฉาน้องชายที่เลี้ยงลูกได้ดี...ก่อนจะวกกลับไปมองบุตรชายคนเล็กที่นั่งยิ้มอยู่อีกด้านอย่างหนักใจ...เขาต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดถึงจะวางใจให้ธาวินคุมบังเหียนโดยไร้ความกังวล...

“เดี๋ยววินออกไปข้างนอกกับพ่อหน่อยนะลูก”

“แต่ผม...”

“วันนี้พ่อมีนัดกับลูกค้าคนสำคัญ...ลูกควรไปทำความรู้จักไว้”

นพคุณพูดแทรกโดยไม่รอฟังคำคัดค้าน เพราะอยากให้ธาวินรู้จักทำงานด้วยตัวเองบ้างในอนาคตจะได้กล้าแกร่งและสามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง

“ฝากงานทางนี้ด้วยนะเต้...เอาไว้กลับมาลุงจะคุยเรื่องแผนงานทั้งหมดอีกที...เตรียมเคลียร์งานให้เจ้าวินไว้ด้วยก็แล้วกันเห็นเต้วิ่งรอกงานแบบนี้เกรงใจจริงๆ ส่วนแกนะเจ้าวินเลิกเหลวไหลแล้วตั้งใจทำงานสักทีมัวแต่พึ่งเจ้าเต้อยู่แบบนี้ไม่นึกละอายใจบ้างหรือไง...”

ชายวัยกลางคนหันไปบอกหลานชายก่อนจะวกกลับมาเล่นงานบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนจนคนที่ยิ้มแฉ่งมาพักใหญ่ถึงกับนั่งคอตก

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกฮะช่วยๆ กันไป”

“อ้อเดี๋ยวเต้ไปเกริ่นกับหนูป่านเรื่องงานปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ที่บริษัทไว้เลยนะให้เขาลองร่างโครงงานมา รายละเอียดเต้น่าจะทราบว่าต้องปรับปรุงอะไรตรงไหน...เอาไว้ประชุมใหญ่คราวหน้าลุงจะเอาไปเสนอ...เพราะถ้าทุกคนโอเคลุงอาจจะให้เธอไปปรับปรุงระบบที่สำนักงานใหญ่ด้วย”


หลังจากพูดคุยกับนพคุณจนได้ข้อสรุป เตชินทร์จึงเดินเร่งรีบไปที่ห้องทำงานของนารีรายณ์

“อ้าวจะกลับเลยหรือครับคุณป่าน...”

ชายหนุ่มทักเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังเดินออกจากห้องทำงาน

“ยังหรอกค่ะ...เพราะป่านติดเลี้ยงข้าวคุณอีกหนึ่งมื้อจำไม่ได้แล้วเหรอคะ”

หญิงสาวบอกพร้อมกับยิ้มร่าเริงจนคนฟังอดรู้สึกอิ่มเอิบไปกับความสดใสของเธอไม่ได้

“ความจริงเอาไว้ค่อยเลี้ยงคืนมื้ออื่นก็ได้ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลยนี่ครับ”

“ถ้ารอเลี้ยงคุณมื้ออื่นเห็นทีคงติดกันยาวเลยค่ะเพราะอาทิตย์หน้าป่านต้องไปภูเก็ต”

“คุณไปภูเก็ตทำไมเหรอครับ”

“ไปทำงานค่ะพอดีมีโรงแรมเปิดใหม่เขาเลยมาติดต่อให้ไปวางระบบ...ถ้าวันนี้คุณเตชินทร์ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะเอาไว้ป่านค่อยเลี้ยงวันหลังก็ได้”

“ผมสะดวกครับแต่ขอเวลาสิบนาทีได้ไหมฮะพอดีมีงานด่วนอยู่สองสามแฟ้ม”

“ได้ค่ะ...วันนี้ป่านคงไม่ได้ไปไหน”

“แล้วคุณเน่ล่ะฮะ”

“เน่บอกว่าพ่อกับแม่ลงมาจากต่างจังหวัดเลยรีบไปรับที่สนามบิน”

“น่าเสียดายนะครับเลยไม่มีโอกาสเลี้ยงข้าวคุณเน่สักที”

เตชินทร์พูดตามที่รู้สึกจริงๆ แม้จะนึกพอใจที่มีโอกาสอยู่กับนารีรายณ์สองต่อสองแต่เขาก็ละเอียดอ่อนพอที่จะให้ความสำคัญกับเพื่อนของเธอ

“ถ้าคุณป่านสะดวกไปรอผมที่ห้องทำงานดีกว่าไหม”

นารีรายณ์พยักหน้าเดินตามอีกฝ่ายไปโดยไม่อิดออด...ทั้งสองเดินเคียงกันไปตามเส้นทางด้วยความรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น ภาพของเจ้านายที่เดินเคียงมากับหญิงสาวร่างเปรียวทำเอาเลขาฯ หนุ่มลอบมองอย่างสนใจ ก่อนจะผุดรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของเจ้านายดูแจ่มใสอย่างเห็นได้ชัด

เลขาฯ หนุ่มมองตามจนทั้งสองหายลับเข้าไปในห้อง...หรือคุณเตชินทร์จะชอบคุณป่าน...ชายหนุ่มสันนิษฐานเมื่อลำดับเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่หญิงสาวเข้ามาทำงาน...เขาเห็นความมีชีวิตชีวาของเจ้านาย...และถ้าใช่คงเป็นเรื่องที่น่ายินดี...


นารีนายณ์นั่งรอชายหนุ่มอยู่บนโซฟา โดยมีดวงตาคมเฉียบคู่หนึ่งมองมาไม่เว้ยวายด้วยประกายตาชนิดหนึ่งจนทำให้เธอรู้สึกวูบวาบพิกล นารีรายณ์หันไปยิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มเดี๋ยวมองเดี๋ยวมองจนแทบไม่สนใจแฟ้มที่บอกว่าเป็นงานด่วน

“ป่านไม่เบื่อหรอกค่ะคุณเตชินทร์ไม่ต้องกังวล”

พอคิดว่าอีกฝ่ายกำลังกังวลว่าเธออาจจะเบื่อหญิงสาวจึงบอกเขาให้คลายใจ

“ครับ”

ชายหนุ่มยิ้มอายๆ เมื่อเผลอจ้องจนทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว

“เอ่อ...ปกติคุณใช้คอมพิวเตอร์ตัวนี้ทำงานด้วยหรือเปล่าคะ”

เพราะนั่งอยู่ว่างๆ สมองจึงส่งคลื่นสัญญาอยากรู้อยากเห็นให้แม่สาวไซเบอร์จนเริ่มอยู่ไม่สุข

“ก็ใช้ตามปกติ...มีอะไรเหรอครับ”

“ป่านแค่ไม่แน่ใจค่ะว่าเซ็ทระบบให้ลิงค์ข้อมูลมาที่คอมพิวเตอร์ของคุณหรือยัง...ขอดูได้ไหมคะ”

เตชินทร์มองคอมพิวเตอร์ของตัวเองอย่างชั่งใจเพราะเกรงว่าหากปล่อยมันไปอยู่ในมือของแม่สาวไซเบอร์บางทีเธออาจจะเห็นข้อความเก่าๆ แต่พอนึกอีกทีมันก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะเขาไม่เคยบันทึกข้อความอะไรไว้และในเครื่องฯ ส่วนใหญ่ก็มีแต่เรื่องงานทั้งนั้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงทำอะไรไม่ได้เขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

“ได้สิ...เชิญเลยครับ”

ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปลากเก้าอี้มาวางด้านข้างขยับโน้ตบุ๊กวางไว้ตรงมุมด้านขวา...แล้วถอยกลับไปนั่งที่

นารีรายณ์ไม่ได้มีท่าทีสงสัยหรือถามอะไรหญิงสาวลุกขึ้นเดินไปนั่งแล้วเริ่มทำงานของตัวเองไปเงียบๆ เตชินทร์นั่งใจเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมานอกอกเมื่อร่างเปรียวบางนั่งห่างไม่ถึงคืบ...

...เธออยู่ใกล้แค่ปลายมือแต่ทำไมถึงเอื้อมถึงยากเย็นนัก...ชายหนุ่มชำเลืองมองคนที่นั่งอยู่ด้านข้างแล้วพยายามข่มความบ้าระห่ำของตัวเอง...

หญิงสาวนั่งทำงานของตัวเองไปเรื่อยๆ เมื่อจัดการเซ็ทระบบเสร็จมือเรียวจึงคลิกเม้าท์ไปที่ start ตามด้วย run พอหน้าต่างเล็กๆ เธอจึงพิมพ์ cmd เมื่อหน้าจอ dos ปรากฎเธอพิมพ์จึงพิม ipconfig และกด enter เมื่อเห็นตัวเลขไอพีปรากฏอยู่ตรงหน้า...นารีรายณ์ถึงกับนั่งตัวแข็งทื่อ

...เป็นเขาจริงๆ ด้วย...หญิงสาวพึมพำอยู่ในใจ...พร้อมกับปรายตามองคนข้างๆ ด้วยอาการใจเต้นระทึก

เพราะวิธีที่ใช้ตรวจเช็กไอพีเป็นคนละแบบกับเลขาฯ หนุ่มจึงทำให้เตชินทร์ไม่รู้ว่าทุกอย่างที่เก็บงำได้ถูกแม่สาวไซเบอร์เจาะจนไม่เหลือซาก ชายหนุ่มนั่งทำงานของตัวเองไปเงียบๆ ชำเลืองมองคนข้างๆ บ่อยครั้งแล้วยิ้มอย่างแช่มชื่นใจ

...เมื่อความคลางแคลงใจถูกไขจนกระจ่างแจ้งแม่สาวไซเบอร์จึงหมุนเก้าอี้ไปทางเขาและเป็นจังหวะเดียวกับเตชินทร์เคลียร์แฟ้มสุดท้ายเสร็จสิ้นจึงหมุนเก้าอี้หันไปทางหญิงสาวพอดี

“ว้าย!...”

ร่างเปรียวที่ทำท่าจะลุกถูกขายาวๆ ที่วาดตามเก้าอี้มาชนเข้าจนร่างคะมำเข้าไปในอ้อมแขนที่อ้ารับอัตโนมัติโดยไม่ทันตั้งตัว

เตชินทร์ถึงกับใจเต้นระทึกเมื่ออยู่ๆ เธอก็ล้มลงคุกเข่าเกยอยู่หน้าตักจนหน้าอกนุ่มๆ ปะทะเข้าเต็มหน้าอย่างจัง...จนอดรัดร่างเปรียวบางเข้าหาตัวไม่ได้...ด้วยความบังเอิญที่คาดไม่ถึงจึงทำให้ชายหนุ่มสูดกลิ่นหอมๆ จากกายนางเข้าไปเต็มปอด...อย่างชุ่มชื่นหัวใจ

นารีรายณ์ถึงกับตัวสั่น...จนทำอะไรไม่ถูกเมื่อปลายจมูกของอีกฝ่ายฝังอยู่ระหว่างเนินอกอวบอิ่ม...พอร่างกายได้สัมผัสกันกระแสวูบวาบก็โลดแล่นไปทั่วร่าง

“เอ่อ...กรุณาปล่อยด้วยค่ะ”

หญิงสาวคลายมือที่โอบรัดรอบคอเขาออกพร้อมกับอ้ำอึ้งเมื่ออีกฝ่ายยังกอดรัดเธอไว้แน่น

“ผมขอโทษ”

ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับคลายวงแขนออกอย่างไม่เต็มใจนัก

ร่างเปรียวบางก้าวลงจากตักนุ่ม...ด้วยท่าทางที่ยังตื่นตระหนกไม่หายจนร่างกายสั่นสะท้าน...

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ”

พอร่างสูงทำท่าจะขยับลุกหญิงสาวก็ก้าวพรวดไปยืนอยู่ข้างโต๊ะจนเตชินทร์กลั้นยิ้มแทบไม่อยู่...เห็นมั่นอกมั่นใจจนเหมือนไม่กลัวใครมาตั้งนาน...พอเขากอดทีเดียวถึงกับสั่นเป็นลูกกวางเลยหรือนั่น...

“งานผมเสร็จแล้ว”

“ค่ะ”

เธอตอบพร้อมกับเดินไปหยิบกระเป๋าเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นสะพาย

“โน้ตบุ๊กทิ้งไว้นี่ก่อนดีกว่าฮะเพราะวันนี้ผมอาสาจะเป็นสารถีเอง”

พอเห็นท่าทางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขอหญิงสาวเตชินทร์จึงตัดสินใจเอาเองว่าเธอไม่พร้อมทำอะไรทั้งสิ้น

“เชิญฮะ”

ชายหนุ่มบอกอย่างกระตือรือร้นก่อนจะเดินนำออกไปก่อน

นารีรายณ์มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นรัวเร็วจนน่าตกใจ เตชินทร์นับว่าเป็นผู้ชายที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศ แม้ภายนอกจะดูเย็นชาแต่ความปราดเปรื่อง ภายใต้ใบหน้าคมสันและร่างกายอันสง่างามทำให้ทุกอย่างที่ผสมผสานขึ้นเป็นเขาช่างน่าหลงใหล

...เขาคือบุรุษเงาคนนั้น...เงาที่เธอไม่อาจจับต้องได้...แม้ลึกๆ จะนึกดีใจที่เตชินทร์คือคนที่เธอกำลังต้องการตัว...แต่พอมานึกถึงผู้หญิงของเขาอยู่ๆ ใจก็หายวาบจนลมหายใจขาดห้วงเอาดื้อๆ...

หญิงสาวมองร่างสูงที่หยุดสั่งงานเลขาฯ ด้วยประกายตาสับสน...ตกลงสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความรักที่สามารถจับต้องได้หรือสุดท้ายมันจะเป็นเพียงแค่เงาที่พอไร้แสงทุกอย่างก็สูญสลาย...





Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2554 17:30:45 น. 6 comments
Counter : 774 Pageviews.

 
ฮี่ๆ ต้องขออภัยที่ทำให้ค้าง.....แล้วจะรีบปั่นมาเสิร์ฟค่ะ....รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...


โดย: sansook วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:31:34 น.  

 
จับได้แล้ววุ้ย จับได้ง่ายจัง
อนาคตเริ่มมือมนแล้วนายเตเอ๊ย
ชีวิตพระเอก มักจะอยู่ในมือนางเอกช่วงนี้แหละ
555+++


โดย: googie IP: 125.24.154.150 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:15:30 น.  

 


โดย: zawadio (khonmanrak ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:51:54 น.  

 
จับได้แล้วต้องทำโทษด้วยสิ


โดย: Neenie IP: 203.113.96.5, 203.113.96.27 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:03:56 น.  

 
หนูป่านจับได้แล้วแต่คุณเต้ยังไม่รู้ตัว..แล้วหนูป่านจะทำยังไงต่อมาอัพต่อเร็ว ๆ น่ะ


โดย: raimee IP: 182.52.51.207 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:47:04 น.  

 
ตามมาลุ้นค่ะ ดูว่าหนูป่านจะทำยังต่อไป


โดย: เรือไฟ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:45:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.