Bloggang.com : weblog for you and your gang
sansook
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
?
]
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
สรุป พ.ร.บ.
ความรู้ทั่วไป
ทักทาย
นานาสาระ
วิเคราะห์นะจ๊ะ
ดูดวงกันเถอะ
เก็บมาฝาก
สรุปภาษาไทย
ความรักแม่เอ๊ย
แนวข้อสอบ
แบบทดสอบจิตวิทยา
แนวคิด และมุมมอง
เรื่องเล่า
เคล็ดลับความสวย
เรียงร้อยเรื่องราว
กฎหมายน่ารู้
งาน งาน งาน
รักษาสุขภาพกันเถอะ
เคล็ดลับดีๆ
สรุปแนวข้อสอบหลักสูตรประถมศึกษา
เชิญชวนสู่ธรรมมะ
ฮวงจุ้ยน่ารู้
เมื่อจิตนาการบังเกิด
อสูรพ่ายรัก
แนะนำผลงาน
เรือนรัก - นางรอ
เงาแปร
บรรยากาศสละคาน
คลังข้อสอบ
ดวงไฟในมือมาร
เหลี่ยมรักทรชน
ยั่วรักพยัคฆ์ร้าย
สามนารี
นิยายชุด ภารกิจรัก เรื่องเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
เกี่ยวกับบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
เล่ห์วิวาห์มาเฟีย
ละครเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
ทวงใจสุดปลายฟ้า
อีบุคสุดแซ่บ
<<
มกราคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
26 มกราคม 2554
บทที่ ๑๘ เตรียมการ
All Blogs
บทที่ ๕๒ รักเร้นเสน่หา
บทที่ ๕๑ เปลวรักในน้ำแข็ง
บทที่ ๕๐ รอดตัว
บทที่ ๔๙ รักระทึก
บทที่ ๔๘ ความรักในสลักน้ำแข็ง
บทที่ ๔๗ แผนแตก
บทที่ ๔๖ ความรักชนะทุกอย่าง
บทที่ ๔๕ รักระห่ำ
บทที่ ๔๔ นารีจอมพลิ้ว
บทที่ ๔๓ รถไฟชนกัน
บทที่ ๔๒ ชัยชนะแรก
บทที่ ๔๑ แพ้ทุกประตู
บทที่ ๔๐ หนทางปราบพยศ
บทที่ ๓๙ มารยาหญิง
บทที่ ๓๘ วัดใจ
บทที่ ๓๗ ลบเหลี่ยม
บทที่ ๓๖ ช่วงเอาคืน
บทที่ ๓๕ ข้อผูกมัด
บทที่ ๓๔ จุดแตกหัก
บทที่ ๓๓ ทนายสาวประกาศศึก
บทที่ ๓๒ รักแท้หรือแค่เหงา
บทที่ ๓๑ คดีเดือด
บทที่ ๓๐ สายฝนชโลมบนภูผา
บทที่ ๒๙ หัวใจ (เกือบ) สลาย
บทที่ ๒๘ คือเธอ
บทที่ ๒๗ ไฟกับไฟ
บทที่ ๒๖ รักระแวง
บทที่ ๒๕ หายนะมาเยือน
บทที่ ๒๔ เงาพรางรัก
บทที่ ๒๓ รักแท้หรือแค่เงา
บทที่ ๒๒ แผนร้ายอุบายรัก
บทที่ ๒๑ แผนช่วงชิง
บทที่ ๒๐ ท้าทาย
บทที่ ๑๙ มิตรภาพที่ผลิบาน
บทที่ ๑๘ เตรียมการ
บทที่ ๑๗ ความบังเอิญหรือตั้งใจ
บทที่ ๑๖ ภูผาสั่นสะเทือน
บทที่ ๑๕ สุภาพบุรุษเงา
บทที่ ๑๔ ตะวันกลางใจ
บทที่ ๑๓ ดวงตะวันผูกพันกับสายน้ำ
บทที่ ๑๒ ผิดแผนแต่เข้าทาง
บทที่ ๑๑ ผิดแผน
บทที่ ๑๐ มิตรภาพ
ประกาศรายชื่อคนได้หนังสือค่ะ
บทที่ ๙ แผนรักข้ามโลก
บทที่ ๘ เกมลวงบ่วงกามเทพ
บทที่ ๗ ลิขิตรัก
ตอนที่ ๖ ดวงตะวันกับความคดเคี้ยวของสายน้ำ
บทที่ ๕ แผนเหนือเมฆ
บทที่ ๔ ต้องมนตร์นารี
ช่วงคั่นรายการค่ะ
บทที่ ๓ น้ำแข็งแห่งรุ่งอรุณ
บทที่ ๒ สายน้ำอันชุ่มฉ่ำ
บทที่ ๑ ดวงตะวันอันเฉิดฉาย
Friends' blogs
sansook
Chulapinan
baby_15
ไร่ปลายตะวัน
lovers
ge-or-ge
โมกสีเงิน
tingnoy
พลังชีวิต
Mr.Terran
hangclub
nirin_18
คนผ่านทางมาเจอ
patra_vet
ซ่อนรอยยิ้ม
นิยายฝันหวาน
ป้ามด
รำเพย
นิชนันท์
วัตตรา
Insignia_Museum
Baan_Bualoy
ooseabubbleoo
literature
bigger
ใยไหมเจ้าค่ะ
super novel
นัทธ์
Webmaster - BlogGang
[Add sansook's blog to your web]
Links
BlogGang.com
บทที่ ๑๘ เตรียมการ
ช่วงบ่ายของอีกวันนันทยศเงยหน้ามองสตรีที่คร่ำเคร่งอยู่กับงานมาทั้งวันอย่างสงสัย เมื่อเห็นนารีรายณ์ขยับต้นคอไปมาอย่างเมื่อยขบ ก่อนจะยกนิ้วคลึงลงบนเปลือกตา
เมื่อคืนนอนดึกเหรอป่าน
อือ...
เอากาแฟไหมล่ะ
ได้ก็ดีขอแก่ๆ เหมือนหน้าแกก็แล้วกัน
หญิงสาวตอบแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นเพื่อนเสิร์ฟมะเหงกมาให้
ฉันจะชงให้แก่ตามหน้าตาคนกินเลยล่ะ...เพื่อนอุตส่าห์มีน้ำใจยังมีหน้ามาสะกิดต่อมหงุดหงิดให้ขากระดิกเล่นอีกนะ ว่าแต่ที่นอนดึกเพราะมัวแชทกับใครอยู่หรือเปล่าเหอะ
ที่ฉันนอนดึกก็เพราะมัวแต่ตามดูพฤติกรรมของคุณธาวินว่าที่น้องเขยแกยังไงล่ะ...พูดมากเดี๋ยวก็ไม่ช่วยซะหรอก
อ้าวๆ ไอ้ป่านฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่มีวันนับญาติกับพวกปลาไหลในคราบมนุษย์ เพราะฉะนั้นห้ามเอ่ยว่าเขาจะเข้ามาอยู่ในชายคาบ้านฉัน...แม้แต่สมมุติก็ห้าม
นันทยศที่ไม่พิศวาสการเกี่ยวดองกับธาวินรีบกางมือขึ้นเชิงปราม
โบราณเขาว่าไว้เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น ทำท่าเกลียดมากๆ ระวังเถอะจะได้เขาไปเป็นน้องเขยจริงๆ
ยังอีก...แกนี่ยังไงฮึ...ถ้าจะอวยชัยฉันแบบนี้เงียบไปเลยดีกว่า...ว่าแต่แกเถอะวันนี้ไม่แชทกับพี่เงาหรือไงถึงได้นั่งตาปรือเหมือนไก่เป็นหวัดแบบนั้น
พออีกฝ่ายยังไม่เลิกกวนอารมณ์นันทยศจึงโยงเข้าเรื่องบ้าง
ฉันกำลังเร่งงานแกไม่เห็นเรอะ...เพราะกะจะให้เสร็จวันนี้
แกจะเร่งงานฉันไม่ว่า...แต่กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องนะ...เงยหน้าดูนาฬิกาหน่อยสิตอนนี้มันจะบ่ายสองแล้วนะเพื่อน...ฉันหิว
พอท้องร้องประท้วงดังจ๊อกๆ โปรแกรมเมอร์หนุ่มจึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ทานอาหารกลางวัน
หิวก็ไปหาข้าวกินสิ...ฉันเย็บปากแกไว้หรือไง
อ้าว...แล้วแกล่ะไม่กินเหรอ
ยังของกำลังขึ้นเพื่อน
นารีรายณ์ยักคิ้วให้เพื่อนอย่างทะเล้นก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นหน้าเบี้ยวๆ ของอีกฝ่าย
รีบทำงานให้เสร็จเร็วๆ แบบนี้จะได้มีเวลาสั่งลาพี่เงายาวๆ หรือไง ถามจริงเถอะป่านตกลงแกจะไม่เช็กจริงๆ เหรอว่าพี่เงาเขาเป็นใครกันแน่...ถ้าแกขี้เกียจนักให้ฉันเช็กก็ได้เอาไอพีมาสิ
นันทยศที่ยังติดใจไม่เลิกรีบเสนอตัว
จะเช็กทำไมในเมื่อเขาไม่ได้มีอะไรที่ฉันจะต้องสนใจจนทำให้อยากรู้ขนาดนั้น
เพราะบุรุษเงาไม่ได้มีท่าทีคุกคามจนน่าอึดอัดเธอจึงไม่ใส่ใจที่จะค้นหาตัวตนของอีกคนให้ยุ่งยาก
แกไม่สนใจก็ช่างแกแต่ฉันสนใจเห็นแก่ต่อมสอดรู้สอดเห็นฉันหน่อยเถอะขอไอพีพี่เงาหน่อยสิ
แกจะสนใจเขาทำไม...พี่เงาเขาไม่ได้แชทกับนาน่าสักหน่อย...เอ๊ะ...หรือแกหึงฉันฮึ...ไอ้เน่แกคิดอะไรกับฉันอยู่หรือเปล่า
ไอ้นี่พูดแบบนี้ฉันเสียหายนะเว้ย...อย่างฉันเนี่ยนะจะคิดอะไรกับแก...ถ้าผู้หญิงทั้งโลกเหลือแกคนเดียวฉันขอผูกคอตายหนีชีวิตอันน่าเวทนานั่น...ไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาหวานเชื่อมแบบนั้น...เพราะยังไงก็ไม่ได้แอ้มผู้ชายอย่างฉันหรอกย่ะ
นารีรายณ์หัวเราะร่วนออกมาเมื่อเห็นท่าทางสะบัดสะบิ้งของนันทยศ
แกอย่าไปทำท่านี้ให้ใครเห็นนะเน่โดยเฉพาะพี่เก้งพี่กวาง...
แล้วตกลงแกจะให้ไอพีพี่เงาฉันไหม
นันทยศยังตื้อไม่เลิก
ถามจริงๆ เถอะทำไมแกถึงสนใจเขานัก
ฉันสงสัยว่าบางทีพี่เงาของแกอาจจะเป็นผู้หญิงของนายธาวินนั่นน่ะสิ
ทำไมแกถึงคิดแบบนั้นล่ะ
นารีรายณ์วางคางลงหลังมือแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง
เพราะพี่เงาเขามักเตือนแกเรื่องนายธาวิน...ฉันคิดว่าบางทีคนที่หลบอยู่ในความมืดนั่นอาจจะเป็นคู่ขาคนใดคนหนึ่งของเขา...แกก็เห็นนี่ว่าตั้งแต่เรามาทำงานอีตานั่นเทียวมาห้องนี้แทบจะสามเวลาหลังอาหาร...หนำซ้ำตกเย็นเป็นไม่ได้จะลากแกไปผับ คลับ คาเฟ่...เจตนาเด่นชัดว่าอยากเครมแกใจจะขาดมันก็ต้องมีคนไม่พอใจบ้างล่ะ
ตั้งแต่จะได้น้องเขยเป็นของตัวเอง...คิดมากขึ้นนะเนี่ย
คิดมากๆ ไว้นั่นแหละดีถ้าเกิดถูกโจมตีจะได้รับมือทัน...ว่าไงจะให้หรือไม่ให้
นันทยศยังทู่ซี้จะเอาให้ได้
ฉันจะให้ก็ได้แต่ขอเหตุผลงามๆ อีกสักสองสามข้อสิ
นารีรายณ์ยังส่งลีลากวนใจเพื่อนไม่เลิก
เออ...ฉันบอกเหตุผลแกก็ได้...ฉันแค่อยากเห็นหน้าพี่เงาก็เท่านั้น
พอใช้วิธีอ้อมค้อมไม่ได้ผลนันทยศจึงบอกออกไปตรงๆ
แกจะอยากเห็นหน้าเขาทำไม...แปลกคน
ก็ฉันอยากรู้นี่นาว่าคนทึ่มๆ หน้าตาเป็นยังไง แกคิดดูสิอำใครไม่อำดันมาอำงูพิษแห่งชมพูทวีปอย่างแก ขนาดโกหกยังทำได้ไม่เนียน...ฉันล่ะอยากเห็นหน้าพี่เงาจอมทึ่มของแกจริงๆ
เขาโกหกอะไร?
โอ้...ไอ้ป่านนี่แกไม่สนใจพี่เงาเขาจริงเหรอ...เอ๊ะ...หรือว่าคุยไปคุยมาเลยหน้ามืดจนไม่เห็นอะไร
โปรแกรมเมอร์หนุ่มถึงกับโวยเสียงดังลั่นเมื่อเห็นท่าทางวางเฉยของเพื่อนจนนึกหมั่นไส้
ก็เขามาดีทำไมฉันต้องไปนั่งเสียเวลาค้นหาตัวตนคนที่หวังดีด้วยล่ะ อีกอย่างงานเสร็จเราก็ไม่ได้มาที่นี่อยู่แล้วปล่อยๆ ไปเถอะน่า เออแล้วเขาไปโกหกอะไรแกงั้นเหรอถึงได้เดือดทะลุองศาแบบนี้
เขาโกหกแกต่างหาก พี่เงาเขาบอกว่าทำงานอยู่ในบริษัทที่เราเคยไปวางระบบให้ เท่าที่สังเกตจากข้อความตามที่แกเล่าฉันว่าเขารู้ความเคลื่อนไหวของนายธาวินซะยังกับมีตาทิพย์แนะ แบบนี้ไม่ต้องเช็กไอพีก็รู้ว่าเป็นคนบนตึกนี้ชัวร์ แต่ที่มันคิดไม่ตกก็คือทำไมเขาถึงได้กันท่าอีตานั่นกับแกนัก...
อ้อแกก็เลยคิดว่าพี่เงาอาจจะเป็นคู่ขาของว่าที่น้องเขยไปโน่น
หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ
มันก็น่าคิดนะป่าน...ถ้าเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายนั่นจริง...พิษรักแรงหึงของผู้หญิงมันรุนแรงฉันไม่อยากให้แกเสียเปรียบใคร...แล้วยิ่งมาโดนลูกหลงเพราะคนอย่างนายธาวินนั่นฉันว่ามันไม่คุ้มเลยสักนิด
นันทยศบอกอย่างกังวล
ขอบใจที่แกเป็นห่วง...เอาเถอะยังไงจะลองแฮกดูก็แล้วกัน...อ้าวบ่ายสองจะครึ่งแล้วนี่ไหนแกว่าหิวไง
พอสายตาปะทะเข้ากับเข็มสั้นเข็มยาวบนหน้าปัดนาฬิกาเธอจึงเตือน
ตกลงแกจะไม่ไปด้วยกันเหรอ
ยังไม่ค่อยหิวเท่าไร...อ้อขากลับช่วยแวะซื้อกาแฟเย็นหน้าบริษัทให้สักแก้วสิถ้าไม่หนักหนาหิ้วข้าวมาฝากสักกล่องก็ดี...วันนี้ขี้เกียจเดิน
พอได้โอกาสหญิงสาวจึงรีบฝากท้อง
อือ...งั้นเดี๋ยวฉันมา
นันทยศพยักหน้าแล้วเดินออกไป
นารีรายณ์มองบานประตูที่ปิดงับอย่างเหม่อลอย ก่อนจะถอนสายตากลับมาจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มือเรียวคลิกเม้าท์เปิดโปรแกรมแชทสุดฮิตขึ้นมาไล่รายชื่อคนในลิสต์ไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ที่ชื่อ...Mr.shadow...วันนี้มิสเตอร์เงาหายเงียบอย่างไร้ร่องรอย...จนเธอชักหงุดหงิดกับความเงียบงันนั่น
ดวงตาคมกล้ามองหน้าต่างสี่เหลี่ยมที่ว่างเปล่าอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะก้มหน้าหลับตาลงเมื่อความรู้สึกวิงเวียนศีรษะ
คุณไม่สบายหรือเปล่า
เสียงทุ้มของคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาแม้จะฟังเหมือนถามไปตามมารยาทแต่ในกระแสเสียงกลับเต็มล้นไปด้วยความห่วงใยจนทำให้คนถูกถามรู้สึกอุ่นวาบอยู่ในหัวใจอย่างประหลาด
นารีรายณ์ลืมตาเงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นใครเธอจึงส่ายหน้า
เอ่อ...เปล่าค่ะ
สีหน้าคุณดูเซียวๆ เหมือนคนไม่สบายเลย
ฉันสบายดีค่ะ
หน้าตาคุณดูไม่ค่อยสดชื่นเลยเมื่อคืนนอนดึกเหรอ?
น้ำเสียงของเตชินทร์ไม่ได้ตำหนิ แต่เจือไปด้วยความรู้สึกชนิดหนึ่ง...จนรับรู้ได้ถึงความใส่ใจ เพราะรู้อยู่แก่ใจดีว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวอดหลับอดนอน
ก็ดึกนิดหน่อยค่ะ
เธอตอบไปตามความเป็นจริง แล้วจ้องร่างสูงใหญ่ท่าทางมั่นคงดุจภูผาแต่เย็นชาจนน่าขนลุก ก่อนจะไล่ไปตามใบหน้าคมสัน...ที่ฉายความกระด้างราวกับรูปปั้นหินจนมองเหมือนแข็งทื่อไร้ชีวิตชีวา ด้วยความเผลอไผลจนคนถูกจ้องชักใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่ครู่ใหญ่ จนคนที่มีชนักติดหลังชักสู้สายตาคมกล้าของแม่สาวไซเบอร์ไม่ไหวจึงเสมองไปอีกทาง
วันคุณเน่ไม่ได้มาด้วยเหรอครับ
พอได้ยินคำถามคนที่กำลังจ้องอีกฝ่ายจนลืมตัวถึงกับสะดุ้งอีกรอบ
ไปทานข้าวค่ะ...คุณเตชินทร์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ
เธอตอบพร้อมกับตั้งคำถามเพราะนึกแปลกใจที่อยู่ๆ ชายหนุ่มหน้าดุก็โผล่เข้ามา
อ้าว...นี่มันจะบ่ายสามแล้วนะครับทำไมถึงพึ่งไปทานข้าว...แล้วคุณล่ะทานอะไรหรือยัง
เตชินทร์ที่ไม่คิดตอบคำถาม...เพราะไม่รู้จะบอกว่ายังไงรีบโยนคำถามกลับไปเพื่อหลบเลี่ยงและท่าทางอ้ำอึ้งของหญิงสาวก็ช่วยให้คำตอบอยู่ในที
คุณยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันใช่ไหมคุณป่าน
ยังค่ะแต่ฝากเน่ซื้อใส่กล่องมาให้แล้ว
เธอรีบบอก
ไม่ต้องรอแล้วล่ะผมเพิ่งกลับมาจากข้างนอกยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกัน...คุณติดงานอะไรอยู่หรือเปล่า
เปล่าค่ะ
เตชินทร์พยายามระงับความตื่นเต้นไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยได้อย่างแนบเนียน ชายหนุ่มเกือบยิ้มเพราะความดีใจที่อยู่ๆ โอกาสก็ลอยมาเข้าทางแต่ก็ต้องนิ่งเฉยเข้าไว้
พอดีผมสั่งให้แม่บ้านจัดอาหารไว้ที่ห้อง...ถ้าไม่รังเกียจไปทานเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ
เขาชวนโดยพยายามทำสุ้มเสียงให้ราบเรียบสุดชีวิต
เอ่อ...ขอบคุณค่ะ แต่ไม่รบกวนล่ะค่ะ
เพราะท่าทางเย็นชาของอีกฝ่ายจึงทำให้นารีรายณ์ไม่อยากนั่งแทะน้ำแข็งระหว่างทานอาหาร
อย่าเกรงใจเลยครับ ถ้าคุณไม่สะดวกเดี๋ยวผมสั่งเลขาฯ บอกแม่บ้านให้ย้ายโต๊ะอาหารมาที่นี่ก็ได้...
ชายหนุ่มไม่เหลือช่องว่างให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เพราะพูดยังไม่ทันจบโทรศัพท์เครื่องเล็กในมือก็ถูกใช้งานทันที และหลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีโต๊ะทำงานที่ว่างตัวหนึ่งก็ถูกนิรมิตเป็นโต๊ะอาหาร และอาหารดีราคาแพงก็ถูกจัดมาในจานชามเข้าชุดอย่างประณีต
คุณโทรไปบอกคุณเน่หรือยังว่าไม่ต้องซื้อข้าวกล่องมาแล้ว ถ้าคุณเน่ยังไม่ได้ทานข้าวคุณเชิญมาร่วมโต๊ะกับเราก็ได้นะครับ
เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายสงสัยเตชินทร์จึงแสดงความห่วงใยเผื่อแผ่ไปยังคนใกล้ตัวของหญิงสาว
ค่ะ...
พอหลบเลี่ยงไม่ได้นารีรายณ์จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดโทรออก หญิงสาวใช้เวลาพูดคุยกับคนในสายอยู่ไม่กี่คำแล้วจึงกดวาง
เน่กำลังทานข้าวอยู่ค่ะ
อ้อ...ทานแล้วเหรอ...งั้นเชิญคุณป่านที่โต๊ะเลยครับ
ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญด้วยน้ำเสียงที่ฟังยังไงก็กระตือรือร้นแต่ท่าทางกลับนิ่งสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ขอบคุณค่ะ
ทั้งสองนั่งทานอาหารไปเงียบๆ ด้วยความรู้สึกต่างกัน เตชินทร์รู้สึกคล่องคอกับอาหารจนกลืนอะไรก็อร่อยไปหมดในขณะนารีรายณ์กลับรู้สึกฝืดคอและประหม่าพิกล
อาหารไม่อร่อยเหรอครับ
ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นข้าวในจานของเธอพร่องไปไม่มาก
อร่อยค่ะ
อร่อยก็ทานเยอะๆ สิครับ
มันคงเลยเวลาอาหารน่ะค่ะจึงทำให้รู้สึกตื้อๆ
คำตอบพร้อมกับท่าทางเพลียๆ ของนารีรายณ์ทำเอาชายหนุ่มแทบจะถลาเข้าไปใช้มือแตะหน้าผากกลมกลึงนั่นเพื่อวัดไข้แต่ก็ต้องตั้งนะโมเพื่อข่มใจให้อยู่ในความสงบ
ท่าทางคุณเหมือนคนไม่สบาย...ที่บริษัทมีห้องพยาบาลผมว่าคุณน่าจะนอนพักสักงีบนะครับ
คงไม่ได้ค่ะเพราะฉันกำลังเร่งงาน...เพราะต้องการปิดงานทั้งหมดให้แล้วเสร็จในวันนี้
คำบอกเล่าของหญิงสาวทำเอาคนฟังใจหายวาบ...ให้ตายสิเขาลืมไปสนิทเลยว่างานของเธอใกล้เสร็จแล้ว...ทำไมมันเสร็จเร็วนักทั้งๆ ที่บริษัทมีเครื่องมากกว่าเจ็ดสิบเครื่อง...ชายหนุ่มลอบมองใบหน้าซีดเซียวของอีกฝ่ายอย่างคิดไม่ตกว่าจะหยิบยกอะไรมารั้งให้เธออยู่ต่อ
จะทำเกินไปสักวันสองวันผมก็ไม่ว่าหรอกครับอย่าโหมงานนักเลยดูแลสุขภาพบ้าง เอ่อ...ผมเห็นสีหน้าคุณดูเซียวๆ เลยเป็นห่วงน่ะ
เพราะความห่วงใยจึงทำให้เตชินทร์เผลอแสดงความเอาใจใส่ออกไปเป็นชุด แต่พอสะดุดกับดวงตาคมกล้าที่มองสบมาเขม็ง เขาจึงรีบเบี่ยงเบนเป็นประเด็นอื่น
ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง
นารีรายณ์ยิ้มเซียวๆ
คุณทานนี่อีกสักนิดสิครับอิ่มแล้วจะได้ทานยา
เตชินทร์ตักอาหารวางบนจานของอีกฝ่ายด้วยท่าทางกระตือรือร้นจนหญิงสาวไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งสองนั่งทานอาหารสลับกับพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอได้พูดคุยบรรยากาศตึงๆ คราแรกจึงเริ่มผ่อนคลาย
ชายหนุ่มยังคงชวนคุยและซักถามเรื่องทั่วๆ ไปอย่างชาญฉลาดจนนารีรายณ์เผลอเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างร่าเริง ไม่นานข้าวในจานก็ร่อยหรอ และบทสนทนาก็ยุติลงเมื่อหญิงสาวรวบช้อนแล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบ
ขอบคุณนะครับที่คุณให้เกียรติทานข้าวเป็นเพื่อน
ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อมือเรียววางแก้วลงบนจานรอง
ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณกับความกรุณาของคุณ
อย่าถือว่าเป็นความกรุณาเลยครับผมเต็มใจ
แต่ฉันเกรงใจนี่คะ
ถ้าเกรงใจเอาไว้คุณค่อยเลี้ยงคืนผมก็ได้...
นารีรายณ์ไม่รู้สักนิดว่าคำพูดของตัวเองกำลังเป็นการชี้โพรง แถมกระรอกเตชินทร์ก็ฉลาดพอที่จะรีบตะครุบ
ยินดีค่ะ...เอาไว้เสร็จงานก่อนนะคะป่านจะพาไปเลี้ยง
เพราะเกรงว่าจะต้องติดหนี้บุญคุณโปรแกรมเมอร์สาวที่ยังไม่รู้ว่าได้เผลอทำป้ายชี้โพลงออกไปได้แต่ยิ้มกับโอกาสที่จะตอบแทน
เตชินทร์มองรอยยิ้มแจ่มใสที่ผุดพรายออกมาอย่างหลงใหล...ก่อนจะเอ่ยขอตัวแล้วลุกออกไปเมื่อแม่บ้านเข้ามาเก็บจานชามบนโต๊ะ เพราะไม่อยากอ้อยอิ่งจนทำให้ไก่ตื่น พอชายหนุ่มลุกเดินออกไปเธอจึงหันไปยิ้มกับแม่บ้านแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
นารีรายณ์มองโต๊ะจานอาหารในมือของแม่บ้านอย่างครุ่นคิด แม้นึกแปลกใจกับเหตุการณ์ทานอาหารกลางวันแบบสายฟ้าแลบตามลำพังกับผู้บริหารหนุ่มรูปหล่อท่าทางเย็นชา แต่พออีกฝ่ายแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการแค่เพื่อนร่วมโต๊ะอาหารและชวนตามมารยาทเท่านั้นไม่ได้มีความพิเศษเป็นอย่างอื่น จึงทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น
เตชินทร์เดินกลับห้องทำงานด้วยอารมณ์เบิกบานเป็นที่สุด จนทำให้เลขาฯ หนุ่มลอบมองอย่างฉงน มีใครทำอะไรถูกใจมาหนอ...เจ้านายรูปหล่อของเขาถึงได้ดูชื่นบานจนน่าสงสัย...
ร่างสูงใหญ่เดินไปยืนยิ้มอยู่ข้างหน้าต่างเมื่อความเบิกบานยังแผ่ซ่านเต็มหัวใจ ไม่เสียแรงที่วันนี้เขายอมหิ้วท้องกลับมาทานข้าวกลางวันในสำนักงาน แม้ความตั้งใจเดิมที่เขาเลือกกลับมาทานอาหารในห้องทำงานเพราะอยากรีบเคลียร์งานให้เสร็จๆ แต่ใครจะคิดว่ามันกลับทำให้เขามีโอกาสทานข้าวกับนารีรายณ์แถมได้อยู่กับตามลำพังอีกด้วย
สงสัยคงต้องรีบหาวิธีทำให้เธอชอบเราแล้วล่ะ...ไม่งั้นคงได้นั่งคิดถึงเขาอยู่ฝ่ายเดียวจนหัวใจห่อเหี่ยวเพราะโหยหากันพอดี...
ชายหนุ่มพึมพำพร้อมกับครุ่นคิดและเตรียมการอยู่เงียบๆ
Create Date : 26 มกราคม 2554
Last Update : 26 มกราคม 2554 21:07:13 น.
6 comments
Counter : 535 Pageviews.
Share
Tweet
งานนี้พี่เงาจอมทึ่มกำลังเดินเกมแล้วคร๊าบบบบบ....แต่จะเดินวิธีไหน...คงต้องตามลุ้นกันต่อปายยยยย หุหุ....วันนี้ตอนเย็นถูกเข็นให้ไปตีวอลเล่ย์ด้วย แขนบวมแงๆๆ ....จะปั่นนิยายได้ป่าวเนี่ย....แต่เพื่อผู้อ่านสู้ๆ คร่า....
โดย:
sansook
วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:21:12:15 น.
พี่เงาสู้ ๆๆ แต่อย่าให้ไก่ตื่นน่ะ
โดย: raimee IP: 180.180.77.174 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:6:17:22 น.
พี่เงาสู้ๆด้วยคน จีบๆเลย เล่นตัวไรเนี่ย
เครม นี้ จริงๆ เป็น เคลม ปะค่ะ
(ความรู้ภาษาไทยไม่แข็งแรงเหมือนกัน ถ้าผิดอย่าว่ากันนน้า)
โดย: googie IP: 203.146.71.70 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:8:19:22 น.
นู๋เอ๋สู้ ๆ ขอให้แขนหายระบมเร็วๆนะ
จาดูว่ากระรอกจะหาทางเข้าโพรงยังไง
โดย: jee IP: 10.249.112.88, 203.146.104.35 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:12:00:01 น.
พี่เงาอย่ายอมให้เค้าว่า "ทึ่ม"นะ ...จัดการกินหัว กินหาง กินกลางตลอดตัวไปเลย ขืนชักช้าเดี๋ยวโดนจับได้ก่อนพอดี
โดย:
bijin
วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:12:16:19 น.
นู๋เอ๋....ต่อไปตีบอลเล่ย์ใช้หัวโม่งนะ ห้ามใช้แขนตีเดี๋ยวอัพนิยายให้พี่อ่านไม่ได้...แฮ่ๆๆๆๆๆ
โดย:
tuk_ora
วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:12:59:44 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.