sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ ๘ เกมลวงบ่วงกามเทพ





ภูมิรพีเดินไปเดินมาอยู่ข้างเตียงเพราะไม่รู้จะเริ่มเดินเกม...7 วันอันตรายยังไงให้ปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สิน

ชายหนุ่มปรายตาไปทางประตูห้องน้ำที่ปิดเงียบมาพักใหญ่พ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา...แล้วเบือนกลับไปจ้องเครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะข้างหัวเตียง

ร่างสูงเดินเข้าไปหยุดนิ่งอยู่ข้างเตียงซุกมือลงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเมื่อปลายนิ้วแตะเข้ากับโทรศัพท์เครื่องเล็กที่นอนนิ่งอยู่ในนั้น...

‘เอาวะ...ไหนๆ ก็ไหนๆ ในเมื่อได้ปลากระป๋องมาทั้งทีก็ให้มันรู้ไปว่าแมวอย่างนายภูมิจะไม่มีปัญญาเปิดกิน...ในเมื่อเปิดเองไม่ได้ก็หาคนช่วยเปิดสิ...หึหึ...มันต้องมีสักทางน่า’

เมื่อตัดสินใจได้ใบหน้าเคร่งเครียดจึงเปลี่ยนเป็นแช่มชื่น...สิ่งแรกที่ควรทำคือต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเสียก่อน...ชายหนุ่มยืนยิ้มพร้อมกับคลึงโทรศัพท์ไปมา

เพราะบุคลิกของว่าที่ภรรยาดูเร่าร้อนจนน่าหวาดหวั่นจึงทำให้ภูมิรพีไม่แน่ใจ...หากเธอรู้ตัวว่าถูกกามเทพรุ่นใหญ่จับคู่ให้ แรงโทสะที่ระเบิดออกมามันจะทำให้ตัวเขาไหม้เกรียมขนาดไหน...เมื่อไม่รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับไฟชนิดใดสิ่งที่เขาทำได้ในเวลานี้ก็คือต้องทำให้เธอไว้เนื้อเชื่อใจก่อนเป็นอันดับแรก

ในขณะแผนการต่างๆ กำลังวิ่งพล่านอยู่ในสมอง ประตูที่ถูกปิดก็เปิดออก พร้อมกับดวงหน้าสวยใสไร้เครื่องสำอางก็โผล่ออกมา ร่างสูงหมุนไปเผชิญหน้าและชะงักงันเมื่อเห็นผู้หญิงที่เดินใกล้เข้ามาดูสวยหยาดเยิ้มไปทั้งตัว...

...พ่อนะพ่อ...เอาปลากระป๋องอย่างดีมาให้ทั้งทีทำไมไม่รู้จักเปิดฝาให้ด้วยนะ...เฮ้อ...ใครหนอช่างคิดหาเรื่องมาให้เขาปวดจิตแบบนี้...

“คุณให้พนักงานต่อสายให้หรือยังคะ”

เธอถามพร้อมกับเดินไปทรุดตัวลงบนเตียงข้างเครื่องโทรศัพท์

“ยังครับผมรอคุณ”

“ความจริงเราใช้โทรศัพท์มือถือต่อสายออกไปเองน่าจะสะดวกกว่านะคะ”

ปิ่นนารีบอกพร้อมกับหันไปจ้องหน้าอีกฝ่าย

“ถ้าคุณไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวผมยังไงก็ได้...”

“ทำไมฉันต้องคิดเล็กคิดน้อยด้วยล่ะคะในเมื่อมันเป็นความสะดวกสบาย”

คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม

“เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเป็นเรื่องของเราสองคน ผมจึงอยากใช้การสื่อสารที่เป็นกลางเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น ผมเพียงต้องการแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองโดยทำทุกอย่างให้โปร่งใส”

ภูมิรพียังคงไหลไปตามน้ำ

“งั้นเหรอคะ”

ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ จ้องดวงตาสวยหวานที่มองเขาอย่างพึงพอใจ แล้วผุดรอยยิ้มออกมา...แผนหนึ่งกำลังไปได้สวย...พออีกฝ่ายเชื่อใจจนความหวาดระแวงไม่ฉายออกมาให้เห็นคนเดินเกมจึงเริ่มมีความหวัง

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรคุยกับแม่ส่วนคุณโทรไปคุยกับคนที่บ้านก็แล้วกัน...”

หญิงสาวบอกพร้อมกับลุกจากเตียงเดินไปเปิดกระเป๋าถือแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมต่อสาย

“คุณใช้โทรศัพท์ของผมได้นะฮะ...คุณจะได้แน่ใจว่าผมยังไม่ได้เปิดใช้งาน”

ภูมิรพียังพยายามแสดงความบริสุทธิ์ใจ

“ไม่เป็นไรค่ะฉันเชื่อใจคุณ”

คำปฏิเสธที่มาพร้อมกับสายตาที่แสดงชัดว่าไว้เนื้อเชื่อใจทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก

“ถ้างั้นผมจะนั่งโทรฯ ที่โซฟาก็แล้วกัน”

เขาบอกพร้อมกับหมุนร่างเดินกลับไปยังโซฟา ไม่ถึงนาทีหลังจากต่อสายต่างฝ่ายจึงจดจ่อกับคู่สนทนาของตัวเอง

เมื่อได้ข้อสรุปและความกระจ่างเกี่ยวกับหัวข้อที่เขายังสงสัย...ภูมิรพีจึงยุติบทสนทนาในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา แม้จะรู้สึกใจชื้นเมื่อรู้ว่าบิดาเตรียมลู่ทางหลักๆ ไว้ให้แล้ว...แต่การเดินเกมก็ยังเป็นปัญหาอยู่ดี

ชายหนุ่มหันไปมองผู้ร่วมชะตากรรมที่กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนเตียงและ...พูดคำว่าสารพัดไม่ออกมานับครึ่งชั่วโมงอย่างเห็นใจ

ในขณะเขานั่งฟังวิธีออกล่าที่เปิดกระป๋องโดยมีลายแทงของกามเทพรุ่นใหญ่เป็นตัวชี้บอก...จนพร้อมออกล่าเพื่อความท้าทาย แต่อีกคนกลับตั้งหน้าตั้งตาปฏิเสธคำสั่งอันไม่พึงประสงค์อย่างเอาเป็นเอาตาย...7 วันกับสารพัดวิธีที่เขาจะงัดขึ้นมาใช้...มันจะไปได้ไกลสักแค่ไหนกันเชียว...ภูมิรพีถามตัวเองพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า

หลังจากเสียงพูดคุยของหญิงสาวเงียบลง ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินไปยืนพิงโต๊ะหน้ากระจกและจ้องมองใบหน้าเซ็งๆ ของอีกฝ่ายด้วยประกายตาชนิดหนึ่ง

ปิ่นนารีนั่งนิ่ง...มือกำโทรศัพท์เครื่องเล็กไว้แน่น ก่อนจะชำเลืองมองคนที่ยืนกอดอกอยู่อีกด้านแล้วถอนใจเบาๆ...

“ทางบ้านคุณว่าไงบ้าง?”

คำถามของอีกฝ่ายทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาเต็มตา

“คุณแม่บอกให้ฉันแสดงตัวว่าเป็นภรรยาของคุณ...เพราะมันจะเจรจาง่ายขึ้นหากน้ำมันถูกขนส่งด้วยบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกัน...”

“แล้วเขาจะเชื่อเราเหรอ...ในเมื่อหลักฐานที่แสดงว่าเราเป็นสามีภรรยากันไม่มีให้เห็นสักอย่าง”

“เพราะหลักฐานที่เป็นเอกสารไม่มีน่ะสิคะท่านจึงต้องให้พวกเราอยู่ร่วมห้องกันแบบนี้”

“แล้วคุณคิดว่าไง...ลำบากใจมากไหมหากต้องมาเป็นภรรยาของผม”

คำว่าภรรยาของผม...ที่อีกฝ่ายกำลังเน้นออกมาทำเอาหญิงสาวถึงกับร้อนวาบไปทั้งหน้า

“ลำบากใจสิคะ...มากที่สุดด้วย”

พอเห็นท่าทางหนักอกหนักใจของหญิงสาว...ชายหนุ่มจึงพยายามซ่อนแววขบขันไว้ให้มิดชิด...

“เราอยู่ด้วยกันแค่อาทิตย์เดียวเอง...สัญญาว่าผมจะไม่ทำอะไรคุณเด็ดขาด...เชื่อใจได้”

“แต่ฉันไม่เคยอยู่กับคนอื่นในที่ส่วนตัวแบบนี้...โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้าที่เป็นผู้ชายด้วยยิ่งไม่เคย”

คำบอกเล่าของปิ่นนารีทำเอาภูมิรพีหยุดสายตาอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานภายใต้ความเร่าร้อนอย่างฉงน ชายหนุ่มผุดรอยยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อเห็นความแตกต่าง...ผู้หญิงสมัยนี้บุคลิกภายนอกไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้เลยจริงๆ

“ตอนนี้ผมไม่ใช่คนแปลกหน้าลืมไปแล้วหรือว่า...เราเป็นอะไรกัน”

ปิ่นนารียืนมองสามีกำมะลอนิ่งเหมือนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก...จนคนถูกมองชักยืนไม่ติดที่

“คุณจ้องยังกับผมเป็นกำแพงเมืองจีนแน่ะ...จ้องกันแบบนั้นมันหวั่นไหวนะครับ”

ใบหน้าหมดจดเริ่มเป็นสีระเรื่อ...เมื่ออีกฝ่ายกระเซ้าขึ้น...ปิ่นนารีเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว...และรอยยิ้มนั่นมันกำลังทำให้แมวตัวใหญ่น้ำลายแทบหก...

“ขอโทษค่ะที่เสียมารยาทฉันแค่ตกใจกับสถานะใหม่ของเรา”

“ผมจะอยู่ในบริเวณนี้จะไม่ข้ามเข้าไปในเขตคุณเป็นอันขาดไว้ใจได้”

“แต่ก็นอนห้องเดียวกันอยู่ดี”

น้ำเสียงของหญิงสาวแสดงความกังวลออกมาชัดเจน

“ผมไม่เคยคิดปล้ำผู้หญิงที่ไม่เต็มใจสักที”

ภูมิรพีบอกตรงๆ พร้อมกับยิ้มเมื่อเห็นหน้าเธอกำลังแดง

“ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว...คุณเข้าใจใช่ไหมคะ”

“ถ้าคุณห่วงเรื่องเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมจะออกไปรอข้างนอกหรือลงไปอยู่ข้างล่างก็ได้และให้เวลาคุณหนึ่งชั่วโมงสำหรับช่วงเวลาส่วนตัว...โอเคไหม”

ปิ่นนารีนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่...เมื่อเห็นว่าข้อเสนอของอีกฝ่ายพอรับได้เธอจึงพยักหน้าแล้วตอบตกลงอย่างเสียไม่ได้

“เมื่อกี้พ่อบอกผมว่าคืนนี้คุณยูริจะมารับเราไปทานอาหารและท่านยังฝากบอกคุณด้วยว่าเธอเป็นลูกสาวของหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทที่เราจะเข้าเจรจาในอีกสองวันข้างหน้า...ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจมาเป็นไกด์ให้เราแน่”

“นั่นสิคะปิ่นก็คิดอยู่เหมือนกันว่ามันแปลกๆ”

ปิ่นนารีรีบผสมโรงเมื่อนึกถึงความไม่ชอบมาพากล...เพราะเวลานี้เธอเดินทางมาเพื่อเจรจาเรื่องงาน...และปัญหาที่รอให้เข้าไปสะสางก็หนักหนาเกินกว่าอีกฝ่ายจะรอมชอมง่ายๆ

ภูมิรพีมองใบหน้าครุ่นคิดของหญิงสาวแล้วลอบถอนใจ...แม่คุณจะจับไต๋ได้ไหมหนอ...และถ้าเธอรู้ว่าเรื่องการเจรจานั่นมันเป็นเรื่อง...โอละพ่อ...เขาจะซวยขนาดไหน...


เวลาเกือบ 5 ทุ่มยูริพาทั้งคู่กลับมาส่งกลับที่พักหลังจากพาท่องราตรีมาค่อนคืน ระหว่างเดินทางกลับหญิงสาวลอบมองสองหนุ่มสาวที่นั่งเงียบอยู่เบาะหลังบ่อยครั้ง...จนปิ่นนารีเริ่มกระสับกระส่าย

“คุณไม่สบายหรือเปล่าที่รัก”

พอเห็นท่าทางของยูริดูแคลงใจภูมิรพีจึงรีบสวมบทบาทของตัวเองทันที

“อะไรนะคะ! ฉันเนี่ยนะไม่สบาย”

ปิ่นนารีหันไปถามคนข้างๆ สีหน้างงๆ

“ไม่เอาน่าที่รัก...หน้าตาคุณดูซีดเซียวขนาดนี้อย่าปฏิเสธดีกว่า”

“ฉันสบายดีค่ะ”

คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ยังปฏิเสธเสียงแข็ง

“แต่หน้าคุณซีดมากเลยนะเหนื่อยเหรอ?”

“ก็ไม่นี่คะ...เดี๋ยวคุณคิดจะทำอะไร?”

ปิ่นนารีถามน้ำเสียงตระหนกเมื่อถูกอีกฝ่ายเกี่ยวเอวแล้วดึงเข้าไปกอดไว้หน้าตาเฉย

“ตัวก็ไม่ร้อนนี่...หรือคุณจะเพลียเพราะนั่งเครื่องบินมาหลายชั่วโมง”

คางมนถูกเชยขึ้นก่อนมืออุ่นๆ จะเปลี่ยนเป็นลากไล้ไปตามพวงแก้ม เอวคอดถูกรัดด้วยวงแขนข้างหนึ่งหลังถูกดันเบาๆ จนอกนุ่มแนบไปกับอกกว้าง...ภูมิรพีจ้องดวงตาสวยหวานชวนฝันอย่างหลงใหล แรกๆ เขาแค่อยากสัมผัสแก้มนวลเนียนนั่น...แต่พอได้เริ่มเพียงสัมผัสจากปลายมือมีหรือจะเพียงพอ...

“ยูริกำลังจับตาดูเราอยู่...มันเป็นแค่ฉากหนึ่งเท่านั้นนะคนดี”

เสียงกระซิบที่ลอยวนอยู่ในโสตประสาททำให้หัวใจของหญิงสาวกระหน่ำเต้นรัวเร็วขึ้นทุกที ปิ่นนารีเหลือบไปมองผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหน้าอย่างหวาดระแวง ก่อนจะวกกลับมาจ้องผู้ชายที่กำลังกักเธอไว้ในอ้อมกอด แล้วจ้องใบหน้าอ่อนโยนที่อยู่ห่างไปไม่ถึงสองคืบอย่างไม่เข้าใจ

หญิงสาวนั่งตัวแข็งเกร็งเมื่อวงแขนแกร่งเพิ่มแรงกระชับอีกเล็กน้อย...ลมหายใจเข้าออกเหมือนถูกกักจนรู้สึกอึดอัดคล้ายกำลังขาดอากาศหายใจ ดวงตาคู่หวานเบิกขึ้นอย่างตื่นตระหนกเมื่ออยู่ๆ ริมฝีปากได้รูปก็ทาบลงมาบนริมฝีปากของเธอ

ปิ่นนารีดิ้น....พยายามสะบัดหน้าหนีแต่ฝ่ามือที่สอดเข้าท้ายทอยและบังคับศีรษะเธอไว้แน่นนั่นกลับทำให้สิ่งที่กำลังพยายามไม่เป็นผล

เรียวปากนุ่มถูกบังคับให้เผยอออกจากกัน...เปิดโอกาสให้ลิ้นอุ่นซ่านแทรกซอนเข้าไปสำรวจความหวานฉ่ำด้านใน...ยูริกะพริบตาปริบๆ เมื่อเหลือบไปเห็นฉากจูบอันร้อนแรงของคู่สามีภรรยาที่กำลังมีปัญหาชีวิตเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น...หญิงสาวหันไปมองหน้าคนขับรถแล้วยิ้มออกมา...เพราะเข้าใจว่าการพาทั้งสองออกมาท่องราตรีเป็นการสร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับทั้งคู่

ภูมิรพีถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย ดวงตาชุ่มฉ่ำกวาดไปทั่วดวงหน้าเนียนละมุน ก่อนจะหรี่ตามองเธออย่างพอใจ ความหวานที่ลิ้นสัมผัสได้กำลังทำให้ติดใจเหลือกำลัง...เขามองใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากเรียวกระชับที่เลอะไปด้วยลิปสติกด้วยความปรารถนา...แม้จะสมหวังที่ได้ลิ้มลองความเย้ายวนของเรียวปากนุ่มๆ นั่น...แต่ให้ตายเถอะเขาทำอะไรลงไป...

ปิ่นนารีนั่งตัวอ่อนระทวย หัวใจของเธอไหววาบและกระหน่ำเต้นอย่างรุนแรง เธอจ้องดวงตาฉ่ำๆ ของอีกฝ่ายอย่างงุนงง...จนชายหนุ่มก้มศีรษะลงหาเธอจึงเริ่มได้สติ ร่างเพรียวถึงกับสั่นไปทั้งตัวเมื่อลมหายใจอุ่นๆ ผสมกับกลิ่นน้ำหอมจางๆ เป่ารดลงบนแก้ม

“คุณหนาวเหรอจ๊ะ”

คำถามนุ่มหวานที่กระซิบชิดกับพวงแก้มนวลเนียนที่แดงก่ำยิ่งทำให้ร่างกายของหญิงสาวสั่นเทาหนักเข้าไปอีก

“ผมกำลังทำให้คุณยูริเห็นว่าเราเป็นคนรักกันเท่านั้นสัญญาว่าจะไม่มากไปกว่านี้”

ดวงตาคู่หวานเบิกขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเสียงกระซิบที่ดังอยู่ในหูมันทำให้เกิดข้อกังขาว่า...มันยังมีอะไรที่มากไปกว่านี้อีกงั้นเหรอ..

ภูมิรพีมองดวงตาสวยหวานที่กำลังตื่นตระหนกอย่างขบขัน...และท่าทางอันไร้เดียงสานั่นมันกำลังทำให้เลือดหนุ่มที่ถูกจุดขึ้นปุบปับเดือดพล่านอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจออกอย่างระวังเมื่อกวาดสายตาไปตามเรือนร่างเพรียวบางในชุดเดรสแขนกุดสีครีม

...เฮ้อ...ปลากระป๋องยังไงก็เป็นปลากระป๋องอยู่วันยังค่ำ...แม้จะได้ลิ้มรสแต่มันก็เป็นแค่ชิ้นเล็กๆ ที่มีไว้ให้ให้ชิมและมันไม่เคยทำให้อิ่มเลยสักครา...เขาโชคดีแค่ไหนที่ไม่ได้ของแถมเป็นฝ่ามือนุ่มๆ ประทับลงบนใบหน้า

แค่คืนแรกอาการบ้าระห่ำก็กำเริบ...แล้ววันคืนที่เหลือเล่าเขาจะทำยังไงกับแรงอารมณ์ที่ถูกบ่มจนจะระเบิดเต็มที...ภูมิรพีนั่งรำพันกับตัวเองอย่างหมดหนทางไป....






Create Date : 05 มกราคม 2554
Last Update : 5 มกราคม 2554 16:32:10 น. 7 comments
Counter : 644 Pageviews.

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ....ขอให้ทุกๆ ท่านมีความสุขมากๆ นะคะ ร่ำรวยๆ เฮงๆ และพบกับความรักที่สวยงามตลอดไปค่ะ...

หลังจากหยุดยาว....วันนี้ได้ฤกษ์ปล่อยปลาย่างกับแมวออกมาป่วนหัวใจคนอ่านแล้วค่ะ.....อ่านให้สนุกนะคะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ


โดย: sansook วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:16:26:56 น.  

 
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ ขอให้คุณไรเตอร์มีสุขภาพแข็งแรง สวยๆ รวยๆ นิยายขายดีจนพิมพ์ซ้ำไม่ทัน สาธุ สาธุ


โดย: bijin วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:18:10:54 น.  

 
สวัสดีจ้านู๋เอ๋ ชาร์จพลังใจและพลังกายมาเต็มที่แล้วใช่มั๊ยค่ะ สำหรับการก้าวเดินไปข้างหน้าในปีนี้ เป็นกำลังใจให้นู๋เอ๋เสมอนะค่ะ // น่าสงสารนายภูมิจังเลย อยากกินปลากระป๋องก็ไม่ได้กิน แต่แอบแรงนะนั่นจับสาวปิ่นจูบเฉยเลย เล่นนอกบทจริงๆ อิอิอิ ทำเอาสาวปิ่นหวั่นไหว ใจเต้นแรงเลยนะนั่น


โดย: เอิงเอย IP: 118.172.29.203 วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:19:18:34 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ เช่นกันค่ะ ขอให้ sansook มีสุขภาพร่างหารแข็งแรงน่ะจ้าา และมีนิยายให้อ่านอีกเรื่อย ๆ ตลอดไปน่ะคร้าาา


โดย: raimee IP: 182.52.44.172 วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:6:04:55 น.  

 
อ่านไปยิ้มไป น่ารักจริงๆเล้ยยยย


โดย: บ่าบี๋ วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:12:56:11 น.  

 
เอาน่า ๆ คุณภูมิ ได้ปลากระป๋องก็ยังดีได้สัมผัสมั่งไรมั่ง ดีกว่าได้เครื่องบินเป็นไหน ๆ แต่ระวังเถอะฝากกระป๋องจะบาดปากเอา 555


โดย: jee IP: 223.206.211.123 วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:21:20:01 น.  

 
น่ารักจัง
แต่พระเอกมือไว ปากไวนะเนี่ย
นางเอกน่าจะประเคนฝ่ามือให้สักที
จะได้รู้ว่าปลากระป๋องก็สู้คน หุหุ


โดย: googie IP: 203.146.71.70 วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:15:05:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.