sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ ๔๔ นารีจอมพลิ้ว



ไพรนารียืนมองมวยคู่ใหม่ตั้งการ์ดเตรียมฟัดกันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“พวกคุณกลับไปได้แล้ววันนี้ผมไม่รับแขก”

ธนาวิทย์บอกเสียงเรียบทำท่าจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านบ้าง

“อะไรนะ! หมายความว่าพี่วิทย์ขาไล่รังรองเหรอคะ”

วิรังรองแหวขึ้น

“นั่นสิคะคุณกล้าไล่ภิศเหรอ...ภิศเป็นเมียคุณนะไม่ใช่แขก”

ลภิสราอ้างฐานะทางด้านความสัมพันธ์ออกมาอย่างไม่อาย

“อ๊าย!!...พี่วิทย์ขาอย่าบอกนะว่าลับหลังรังรองพี่ไปมีอะไรกับแม่นี่ด้วย...รังรองไม่ยอม”

ไพรนารีปรายตามองผู้ชายมักมากกำลังยืนหน้ายุ่งอย่างดูแคลน แล้วสะบัดหน้าเดินกลับขึ้นห้องไปด้วยความรู้สึกทั้งชิงชังและขยะแขยง

ธนาวิทย์ถึงกับใจเสียเมื่อเห็นประกายตาดูแคลนของอีกฝ่าย แม้อยากอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเหตุสุดวิสัย แต่พอเห็นท่าทางเย็นชาของทนายสาวเขาจึงเลือกเงียบเพราะไม่อาจเดาอารมณ์ของเธอได้

“ว่าไงคะพี่วิทย์ขาบอกมาเลยดีกว่าจะเลือกใคร”

วิรังรองที่หวังกับตำแหน่งนายหญิงของไร่ยังไล่บี้ไม่หยุด

“รังรองผมเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเหตุสุดวิสัย...ทุกอย่างจบไปแล้ว”

“ตกลงพี่วิทย์จะไม่รับผิดชอบรังรองใช่ไหมคะ”

“คุณจะให้ผมรับผิดชอบอะไรในเมื่อ...เอ่อ...อย่าให้ผมพูดเลยรังรองเพราะมันคงไม่เป็นผลดีต่อคุณแน่”

ชายหนุ่มบอกออกไปอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

“หมายความว่าตลอดเวลาพี่วิทย์ขาไม่เคยรักรังรองเลยใช่ไหมคะ”

วิรังรองถามเสียงแผ่วอย่างจำนน ขณะยืนกำมือแน่นเพราะรู้สึกหน้าชากับสายตาของชายหนุ่ม หญิงสาวเม้มปากอย่างคับแค้นใจ ขนาดทุ่มทั้งกายทุ่มทั้งใจ จัดฉากว่ามีอะไรกับเขาถึงขนาดนั้นแต่สุดท้ายมันกลับไร้ความหมายเสียนี่

“รังรองจะกลับแล้วค่ะและสาบานว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก...ถ้าพี่วิทย์แต่งงานกันแม่หน้าอ่อนนั่นจริงๆ รังรองขออวยพรให้พี่อย่าได้มีความสุขให้เลิกกันภายในสามวันเจ็ดวัน”

วิรังรองพูดจบก็สะบัดหน้าเดินกระแทกเท้าปึงปังไปขึ้นรถ หญิงสาวเปิดและปิดประตูรถเสียงดังปังใหญ่ด้วยความรู้สึกที่ยังกรุ่นไปด้วยโทสะ ธนาวิทย์มองตามรถที่กระชากตัวออกไปอย่างโล่งอก ก่อนพ่นลมหายใจยาวๆ เพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะยอมล่าถอยให้ง่ายดายขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เขาพยายามแก้ปัญหานี้มานับปี

“แล้วเรื่องเราล่ะคะวิทย์ขา”

ธนาวิทย์แทบยกขาขึ้นก่ายหน้าผากเพราะลืมไปสนิทว่ายังเหลือลภิสราอีกคน

“ถึงรังรองจะถอยแต่อย่าคิดว่าภิศจะถอยให้ง่ายๆ”

รภิสราบอกน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่เอาน่าภิศกลับไปก่อน”

“คุณไล่ภิศเหรออย่าบอกนะว่าคุณแคร์แม่นั่นมากกว่าภิศ”

หญิงสาวเดินขึ้นบ้านอย่างเอาเรื่อง

“เขาเป็นเมียผมนะ”

“แล้วภิศล่ะเวลาอยู่บนเตียงสถานะของภิศก็คือเมียเหมือนกัน”

วาจาทวงสิทธิ์ของลภิสราทำเอาใบหน้าเข้มดุบูดบึ้งอีกเท่าตัว

“พูดแบบนี้คุณจะเป็นฝ่ายเสียหายนะภิศ”

“ภิศไม่แคร์ไปเรียกแม่นั่นลงมาเราต้องตกลงกัน”

ลภิสราออกคำสั่งน้ำเสียงเฉียบขาด

“อย่ายุ่งกับเธอ”

ธนาวิทย์บอกน้ำเสียงเย็นบ่งบอกว่าเขากำลังไม่พอใจ

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ในเมื่อภิศก็เป็นเมียเหมือนกัน คุณพ่อคงไม่ชอบใจหากทราบว่าคุณเลี้ยงอีหนูไว้ในบ้านแบบนี้”

หญิงสาวนำบิดาขึ้นมาอ้างเพราะหวังใช้อิทธิพลเข้าแทรกแซง

“เธอไม่ใช่อีหนู”

“มันก็แค่คู่นอนจะต่างกันตรงไหน”

ด้วยความหึงหวงลภิสราจึงตวาดขึ้นด้วยความลืมตัวจนเผลอแสดงธาตุแท้ออกมา

“ต่างกันตรงไหนงั้นเหรอ...มันก็ต่างกันตรงที่ฉันนอนอยู่บนเตียงที่บ้านแต่เธอนอนอยู่ในม่านรูดน่ะสิ”

เสียงเย็นเฉียบที่ดังขึ้นทำเอาหัวใจของพี่ช้างหน้าดุแทบร่วงลงตาตุ่ม ส่วนหญิงสาวอีกคนกลับคุโชนไปด้วยเพลิงโทสะ

“นังหน้าด้านผู้ชายคนนี้เป็นของฉันแกกล้าดียังไงถึงมาชุบมือเปิบ”

ลภิสราแผดเสียงขึ้นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าต่อปาก

“พี่วิทย์ของฉันไม่ใช่ข้าวเหนียวนะคุณที่จะเปิดกระติ้บแล้วจกมาใส่ปากแบบเปิบพิสดารขนาดนั้น”

ทนายสาวเล่นลิ้นเพราะอยากสุมอารมณ์ของอีกฝ่ายให้ร้อนขึ้น ธนาวิทย์ลอบมองคนที่เดินลงจากบันไดทีละก้าวอย่างสงสัยว่าทำไมเธออาบน้ำเร็วนัก ชายหนุ่มไล่สายตาไปตามเรือนร่างโปร่งระหงในชุดทะมัดทะแมงอย่างฉงนจนเดาไม่ถูกว่าหญิงสาวคิดจะทำอะไร

“ปากดีแบบนี้สงสัยเพิ่งออกมาจากซ่องล่ะสิ”

“ถึงจะออกจากซ่องแต่ก็น่าภูมิใจที่ได้เป็นนายผู้หญิงของบ้านนี้ อุ้ยตาย...ขอโทษนะถ้าคำพูดของฉันมันจะกระทบกระเทือนผู้หญิงที่เป็นได้แค่คู่นอนอย่างคุณ”

ไพรนารีจีบปากจีบคอพูดกระทบอีกฝ่ายอย่างจังด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง

“พี่วิทย์ขาน้องปอขอโทรศัพท์หน่อยสิคะ”

หญิงสาวหันไปทางตัวต้นเหตุที่กำลังยืนหน้ายุ่งแล้วแบมือออก

“น้องปอจะเอาไปทำอะไร”

เขาถามขณะจ้องใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ยังฉาบด้วยความเย็นชาจนดูแตกต่างจากน้ำเสียงโดยสิ้นเชิง และภายใต้ความนิ่งสงบของดวงตาสีดำขลับมันกำลังบอกเขาว่าอย่าไว้ใจ

“น้องปอจะเอามาเช็กดูว่าในเครื่องมีชื่อของแม่คนนี้หรือเปล่าถ้ามีจะได้ลบออกให้หมดเพราะต่อไปพี่วิทย์คงไม่จำเป็นต้องใช้บริการหล่อนอีก...เอามาสิคะ”

เธอย้ำน้ำเสียงเร่งเร้าจนคนถูกเร่งรีบยื่นโทรศัพท์ให้เพราะอยากเอาใจ

“เอามานี่”

ลภิสรากระชากโทรศัพท์เครื่องเล็กออกจากมือเรียวแล้วขว้างลงพื้นเต็มแรงจนชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง

“ภิศ!...คุณทำบ้าอะไร”

ธนาวิทย์ตะคอกถามพลางก้มมองอุปกรณ์สื่อสารเกลื่อนกระจายอยู่บนพื้นแล้ววกขึ้นจ้องหน้าคนขว้างสีหน้ากร้าวดุ ต่างจากไพรนารีที่มองสิ่งของบนพื้นด้วยสายตารื่นรมย์

“วิทย์นั่นแหละทำบ้าอะไร...”

หญิงสาวแหวขึ้นบ้าง

“คุณกลับไปได้แล้วไป”

พอเห็นท่าทางของลภิสราดูเอาเรื่องจนชักควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มจึงไม่คิดเกรงใจอีก

“ไม่ต้องไล่ยังไงภิศก็ไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าคุณจะเฉดหัวนังผู้หญิงข้างถนนออกไป ไล่มันไปสิคะ”

“หยุดบ้าสักที ไพรนารีเป็นเมียผมเธอต้องอยู่ที่นี่ คุณนั่นแหละกลับไปได้แล้ว”

เมื่อความอดทนสิ้นสุดลงคนเจ้าอารมณ์จึงออกปากไล่

“พี่วิทย์ขา...เคลียร์กันไปเรื่อยๆ นะคะเดี๋ยวน้องปอจะออกไปที่ไร่สักหน่อย กลับมาหวังว่าจะไม่เจอแม่นี่ในบ้านนะคะ”

ไพรนารีบอกเร็วๆ พลางเดินไปหยิบกุญแจรถจิ๊ปที่กล่องเก็บกุญแจแล้ววิ่งออกจากบ้านไปอย่างเร่งรีบ

“ไพรนารี!...น้องปอ...หยุดนะ! หยุดอยู่ตรงนั้น”

ใบหน้าเข้มดุถึงกับเผือดลงก่อนจะตะโกนโหวกเหวกขึ้นเมื่อรู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดทำอะไร ให้ตายเถอะไพรนารี...ยัยตัวแสบ!

“วิทย์จะไปไหนอยู่คุยกันก่อนสิคะ”

ลภิสนาที่ยังไม่รู้ว่าถูกหญิงสาวอีกคนใช้เป็นตัวถ่วงเวลายังทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี

“หลบไปภิศ...ถอยออกไป”

เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มขึ้นทำเอาหัวใจแกร่งร่วงตุ้บลงพื้น และพยายามแกะมือของอีกฝ่ายออกจากลำแขนอย่างร้อนรน

“ไม่ภิศจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าเราจะพูดกันรู้เรื่อง”

หญิงสาวออกแรงกระชากคนร่างใหญ่เข้าหาตัวจนชายหนุ่มเซไปตามแรงกระชากเพราะไม่ทันตั้งตัว

“ภิศผมบอกให้ปล่อย...ได้ยินไหม”

“ไม่! นังนั่นมันก็แค่คู่นอนคุณจะเอาอะไรกับมันนักหนา แต่ภิศเป็นเมียคุณนะ”

“คุณไม่ใช่เมียผม เมียผมมีคนเดียวคือไพรนารี ความสัมพันธ์ของเรามันไม่มีข้อผูกมัดข้อนี้คุณเป็นคนเสนอเองนะภิศ คุณพูดเองว่าขอแค่นั้นและผมก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคุณมาเกือบปีแล้วด้วย หยุดเรียกร้องสักทีตัวคุณเองก็ไม่ได้มีผมคนเดียวนี่”

“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง...คุณกำลังดูถูกภิศนะคะ”

ลภิสราถึงกับหน้าเสียเมื่อเจอคำพูดตอกกลับของชายหนุ่ม

“หรือคุณจะปฏิเสธว่าไม่ได้คั่วอยู่กับนายวิศิษฐ์ลูกชาย ส.ส.วิรุษ เลิกยุ่งกับผมซะที ถึงคุณจะปฏิเสธยังไงแต่ของแบบนี้มันปิดไม่มิดหรอกน่า กลับไปได้แล้วภิศผมรีบไปตามเมีย”

ธนาวิทย์บอกเสียงเข้มก่อนจะผลักหญิงสาวออกห่างตัว

“คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...คุณมันหน้าตัวเมีย”

หญิงสาวยืนกำมือแน่นด้วยความคับแค้นใจเมื่อถูกอีกฝ่ายผลักไสอย่างไม่ไยดี

“ถ้าการที่ไม่ยุ่งกับเมียคนอื่นแล้วเรียกหน้าตัวเมีย...ก็เชิญคุณเรียกได้ตามสบายเพราะผมไม่นิยมแบกมีดแบกพร้าไปถากหนามต้นงิ้ว”

“วิทย์!...”

ลภิสราแผดเสียงขึ้นอย่างเหลืออดจนชายหนุ่มแทบหมดความอดทน

“ถ้าไม่อยากกลับจะยืนอยู่นี่ก็ตามใจ ผมรีบไปตามเมีย รำเพย...รำเพย!”

คนร่างใหญ่ตะคอกบอกพร้อมกับตะโกนเรียกแม้บ้านเสียงดังสนั่น

“ขาคุณท่าน”

แม้บ้านวัยกลางคนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา

“ไปหยิบโทรศัพท์มาให้ที อ้อไม่ต้องแล้วเอาของรำเพยมาให้ยืมก่อน ช่วยดูแลแขกด้วยก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มออกคำสั่งพลางแบมือขอ พอได้ของที่ต้องการก็ผละออกไปทันที

“นั่นคุณจะไปไหนคะวิทย์”

“มันไม่เรื่องของคุณ วันนี้คุณทำให้ผมยุ่งยากมากรู้ไหมภิศ”

ชายหนุ่มบอกเสียงเข้มโดยไม่หันมองหน้าคนถาม นอกจากเดินเร็วๆ ไปหยิบกุญแจแล้วผลุนผลันออกไป โดยมีสายตาเป็นห่วงเป็นใยของแม่บ้านมองตามไปติดๆ

“วิทย์เขาเป็นอะไรฮึ ท่าทางแปลกจริงเชียว”

ลภิสราหันไปถามแม่บ้านอย่างสงสัย

“อ้อ...เป็นอาการของคนกลัวเมียหายน่ะค่ะ คุณภิศจะรับกาแฟไหมคะอีฉันจะได้เตรียมให้”

นางบอกยิ้มๆ

“กับอีแค่อีตัวข้างถนนคนเดียวมันจะอะไรนักหนา”

รำเพยส่ายหน้าอย่างระอากับคำพูดแดกดันของหญิงสาว ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในครัว ลภิสรายืนครุ่นคิดว่าควรทำยังไงต่อ พอคิดได้ว่าควรตามเธอจึงเดินเร็วๆ ออกไป แต่ทว่าช้ากว่าเฟอร์รารี่สีแดงเพลิงที่แลนฉิวออกไปราวพายุ

ธนาวิทย์เหยียบคันเร่งอย่างร้อนใจ ขณะฟาดฝ่ามือกับพวงมาลัยรถเมื่อไม่เห็นวี่แววของหญิงสาวอยู่บนท้องถนน

“ได้ตัวมาเมื่อไรรับรองผมจะไม่ปรานีคุณเลยยัยทนายจอมพลิ้ว”

เขาพึมพำกับตัวเองพลางส่ายหน้าให้กับความพลิ้วไหวของทนายสาว แค่ฉลาดเขาก็ทึ่งจะแย่แต่นี่แม่คุณทั้งลื่นทั้งไหลแถมพลิ้วไหวยังกับสายสม

‘เฮ้อ...ฉันคิดถูกหรือคิดผิดนะที่อยากได้แม่นี่เป็นเมีย’

แม้จะตอบตัวเองไม่ได้ว่าจะได้เครื่องหมายถูกหรือผิด แต่นาทีนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือไปลากตัวเธอมาให้ได้แล้วใช้ทุกวิถีทางผูกมัดเธอให้อยู่กับเขาไปตลอดกาล ร้ายขนาดนี้มันต้องลองกันอีกสักตั้งว่าเขาหรือเธอที่จะเป็นฝ่ายกำชัยชนะ






Create Date : 11 มีนาคม 2554
Last Update : 11 มีนาคม 2554 11:14:02 น. 6 comments
Counter : 571 Pageviews.

 
OO...มาคนแรกหรือเปล่านี่


โดย: tuk_ora วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:12:32:38 น.  

 
คิดถูกผิดไม่รู้
รู้แต่อนาคตกลัวเมียแหง๋ๆ
คุณทนายนะ เท่าที่อ่านมาน่ากลัวจะตาย หึหึ


โดย: googie IP: 203.146.71.70 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:12:56:28 น.  

 
ว้าววว ดุเดือด น่าอ่านมาก ^^


โดย: easyfreedom1978 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:13:39:12 น.  

 
55555พี่วิทย์2ขา แย่แน่ๆๆๆ


โดย: sakeena IP: 124.120.234.165 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:17:18:23 น.  

 
สมน้ำหน้านายวิทย์ โดนเอาคืนซะบ้าง


โดย: bijin วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:17:25:11 น.  

 
แรงส์ จะตามน้องปอทันมั๊ยหล่ะเนี่ย ตามกลับมาได้ลงโฑษให้หนักเลยนะค่ะคุณวิทย์ขา


โดย: เอิงเอย IP: 118.172.50.130 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:21:47:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.