sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
15 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ ๓๑ คดีเดือด



หญิงสาวร่างโปร่งระหงชะงักขาที่กำลังก้าวออกจากห้องอาหารเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังอยู่ห่างออกไป ก่อนจะเขม้นมองหาเจ้าของเสียง พอเห็นว่าเป็นใคร...ใบหน้าของเธอก็บึ้งตึงขึ้นทันที

“พาลูกกลับบ้านไปก่อนนะเสร็จธุระเดี๋ยวพี่ตามไป”

ชายหนุ่มบอกเสียงนุ่ม

“อ้าวพี่ไม่ไปพร้อมกันเหรอคะ...ให้น้องขับรถกลับเองใช้ได้ที่ไหน...เดี๋ยวนี้ธุระบ่อยนะ”

หญิงสาวหันไปค้อนแล้วตัดพ้อ ไพรนารีมองภาพตรงหน้าอย่างสงสัยก่อนจะแอบตามไปเงียบๆ จนถึงลานจอดรถ

“อ้าว...พี่ก็มีธุระบ่อยแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร...ทำเป็นไม่ชินไปได้แล้วนี่พาลูกออกมาทำไม...อากาศอบอ้าวขนาดนี้เดี๋ยวยายหนูก็ไม่สบายหรอก”

“ถ้าไม่ออกมาหาจะมีโอกาสเจอหน้าพี่ไหม...เดี๋ยวนี้กลับบ้านดึกทุกวัน...ใครเขาจะแหกตามานั่งรอ...ไปติดสาวกี่บ้านล่ะถึงได้ไม่มีเวลาให้ครอบครัวแบบนี้”

พอประโยคนั้นจบลงคนที่แอบฟังก็เริ่มเดือดปุดๆ จนริมฝีปากสีอ่อนเม้มแน่นเข้าหากัน...

“ติดสงติดสาวที่ไหน...ทุกวันนี้ก็มีอยู่บ้านเดียวนั่นแหละหัวใจพี่มีให้ใครน้องก็รู้...กลับบ้านได้แล้วไปเพ้อเจ้อใหญ่แล้วนะเรา”

“แล้วตกลงเรื่องนั้นว่าไง”

“ก็รับปากว่าจะพาไปไงเชื่อใจกันบ้างสิ...รออยู่ที่บ้านไม่ต้องไปไหน แล้วพี่จะรีบกลับรับรองยังไงก็ได้เห็นจนได้แหละน่า...”

เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่...มือเรียวเผลอกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ...ก่อนจะเปิดกระเป๋าถือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ภาพชายหนุ่มโอบไหล่หญิงสาวแปลกหน้าอย่างสนิทสนมเดินไปที่รถ ในวงแขนอุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างถนอมถูกบันทึกลงในโทรศัพท์เครื่องเล็ก ส่วนบทสนทนาก็ถูกบันทึกลงในสมองของทนายสาวเช่นกัน...

ไพรนารีจ้องร่างสูงสง่าในชุดสูทยืนล้วงกระเป๋ามองตามรถเก๋งคันใหญ่ประกายตาเคียดแค้น...แค่กะล่อนยังพอทน...แต่นี่เล่นซุกเมียซุกลูกไว้ที่บ้าน...มันต้องขึ้นศาลเท่านั้น...หญิงสาวก้มมองหลักฐานชิ้นใหญ่ในมืออย่างเอาเรื่อง


ช่วงเย็นระหว่างรอปิ่นนารีแต่งตัว...ภูมิรพีนั่งดูโทรทัศน์ด้วยอาการใจแกว่งพิกลเมื่อหันไปด้านข้างทีไรก็จ๊ะเอ๋เข้ากับประกายตาเชือดเฉือนของทนายสาวที่มองมาจนต้องภาวนาให้แฟนสาวรีบลงมาสักที

“เอ่อ...น้องปอมีอะไรกับพี่หรือเปล่า...”

เมื่อระงับความสงสัยไว้ไม่อยู่ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้น

“มี...”

น้ำเสียงห้วนสั้นเอาเรื่องของหญิงสาวทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน...จะโดนคดีไหนอีกวะเนี่ย...ชายหนุ่มถามตัวเองอย่างปลงๆ

“ไปคุยกันข้างนอกเป็นไง...”

ไพรนารีปรายตามองจำเลยประกายตาเย็นเฉียบจนคนถูกมองรู้สึกเสียวสันหลังวาบ...

“ได้สิครับ”

แม้จะหวั่นๆ กับท่าทางของทนายสาวแต่เพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่มีคดีใดๆ ให้ต้องระวังหลังชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินตามร่างโปร่งระหงออกไปด้านนอกแต่โดยดี

“น้องปอมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอครับ”

“มีน่ะมีแน่...แต่ก่อนจะเข้าเรื่องขอถามหน่อยสิว่าพี่ภูมิคิดจะจริงจังกับพี่ปิ่นแค่ไหน”

ภูมิรพีมองหน้าว่าที่น้องภรรยาประกายตาฉงน...

“อ้าว...ถามแปลกถ้าไม่คิดจริงจังพี่จะขอคุณปิ่นแต่งงานทำไม”

“มาขอแต่งงานผู้หญิงพร่ำเพรื่อแบบนี้คนที่บ้านเขาไม่ว่าเอาเหรอ”

เธอแค่นเสียงถามขณะจ้องปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเขม็ง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อภูมิรพีไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือสะดุ้งกับคำถามเลยสักนิด...

“เล่นถามมุขนี้พี่จะตอบว่าไงดีล่ะครับ...น้องปอก็เห็นว่าทางบ้านพี่แทบจะยกขันหมากมาวันนี้พรุ่งนี้ด้วยซ้ำทุกคนเห็นชอบกันขนาดนี้พี่ยังต้องกลัวใครว่าอีก”

มีเสียงฮึ...ดังอยู่ในลำคอของหญิงสาวก่อนจะจิกตามองชายหนุ่มไล่ไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า... แสดงว่าแอบไปมีลูกเมียลับๆ โดยไม่ให้ทางบ้านจับได้...เลวขนาดนี้มันต้องแฉ...

“เอ...น้องปอถามแบบนี้แสดงว่าจะต้องเข้าใจอะไรพี่ผิดแน่ๆ”

“สิ่งที่ปอรู้มันไม่ใช่ความเข้าใจผิดหรอกค่ะ เพราะมีหลักฐานเด็ด...แต่ก่อนที่หลักฐานจะถึงมือพี่ปิ่นปออยากให้พี่ยอมรับแล้วออกไปจากชีวิตพี่สาวปอซะ...”

เพราะห่วงความรู้สึกของพี่สาวเธอจึงไม่อยากเปิดเผยภาพที่บันทึกได้ด้วยความบังเอิญนั่น

“อ้าว...น้องปอทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ...ให้พี่ออกไปจากชีวิตคุณปิ่นเนี่ยนะ...โอย...ฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่า...นั่นน่ะว่าที่เมียสุดที่รักของพี่เชียวนะ”

พอทราบจุดประสงค์ของหญิงสาว...คนรักเมียอย่างภูมิรพีถึงกับเต้น

“ตกลงจะไม่ยอมถอยดีๆ ใช่ไหม...แล้วอย่ามาหาว่าปอใจร้ายก็แล้วกัน”

“น้องปอมีอะไรข้องใจเราพูดกันเลยดีกว่าพี่จะได้เคลียร์ตัวเอง”

ภูมิรพีที่ตกเป็นจำเลยไปโดยไม่รู้มูลความผิดมองหน้าว่าที่น้องภรรยาสีหน้างุนงง แต่ก่อนที่ทั้งสองจะฉะกันต่อ รถเก๋งสองคันก็ขับเข้ามาจอด

“มีอะไรเหรอปอ”

นารีรายณ์ถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาแล้วเห็นท่าทางเอาเรื่องของน้องสาวคนเล็ก

“พี่ป่านมาก็ดีแล้ว...จะได้ช่วยปอเอาเรื่องคนหลอกลวง”

ไพรนารีหันไปหาตัวช่วย

“งั้นพี่เต้มาช่วยผม”

ภูมิรพีหาพวกบ้าง

“ไม่ได้พี่เต้ต้องมาอยู่ข้างปอ”

“อ้าวน้องปออย่าสองมาตรฐานสิครับ...”

ภูมิรพีเริ่มโวยวายเมื่อถูกเลือกปฏิบัติ

“ปอสองมาตรฐานตรงไหนพูดให้ดีนะพี่ภูมิ”

“ทีพี่ไล่เช้าไล่เย็นแต่กับพี่เต้ไม่เห็นน้องปอไล่บ้างเลย...แบบนี้ไม่เรียกสองมาตรฐานจะให้เรียกอะไร...ลำเอียงเห็นๆ”

“พี่เต้เขาไม่เป็นแบบพี่นี่...”

“แล้วพี่เป็นแบบไหน...เคลียร์กันดีกว่าน้องปอ...เล่นโกรธกันโดยไม่มีมูลแบบนี้พี่เสียหายนะครับ”

“นั่นสิปอมีเรื่องอะไรพูดให้เคลียร์พี่เห็นเรามึนตึงกับคุณภูมิมานานแล้วนะ”

ปิ่นนารีที่เพิ่งเดินออกมาเอ่ยขึ้นบ้างเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าน้องสาวคนเล็กเป็นอะไร

“พี่ปิ่นแน่ใจนะว่าอยากให้ปอพูดจริงๆ”

ไพรนารีหันไปถาม

“ถ้ามันทำให้ทุกอย่างเคลียร์พี่ก็ไม่มีปัญหา...ว่าแต่เราเถอะไปรู้อะไรมา”

“งั้นพี่ปิ่นดูนี่...ดูเสร็จก็ถามพี่ภูมิเอาเองว่ามันหมายความว่ายังไง”

น้องเล็กของบ้านหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดนั่นกดนี่อยู่ชั่วครู่แล้วยื่นให้ ปิ่นนารีรับโทรศัพท์เครื่องเล็กมาอย่างงงๆ ก่อนจะเหลือบไปทางภูมิรพีสีหน้าไม่ไว้วางใจ

ปิ่นนารียืนตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏอยู่ในนั้นก่อนจะเลื่อนไปทีละภาพๆ อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง มือที่ถือโทรศัพท์ฯ เริ่มสั่นเทาขณะหัวใจร่วงตุ้บลงพื้น...ก่อนจะหันไปมองคนรักแววตาแสดงชัดว่าทั้งผิดหวังและเสียใจ...

“มันหมายความว่ายังไงคะคุณภูมิ”

ภูมิรพีจ้องหน้าคนรักอยู่ในภาวะเหมือนกำลังช็อกสีหน้างงสุดขีด...อะไรอีกวะนั่น...ชายหนุ่มยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์เครื่องเล็ก...มาเปิดดูบ้าง

ไพรนารียืนกอดอกมองจำเลยหนุ่มอย่างผู้ชนะ แต่เสียงหัวเราะของภูมิรพีที่ดังขึ้นก็ทำเอาเธอนึกฉุน...ฮึ...ขนาดเอาโลงศพมาวางไว้ตรงหน้ายังไม่สลด...ฮึ่มมันน่านัก...

“น้องปอไปเอารูปนี้มาจากไหนกันครับ”

ภูมิรพีชูโทรศัพท์เครื่องเล็กขึ้นพร้อมหัวเราะออกมาราวกับว่าภาพที่โชว์หราอยู่นั่นเป็นเรื่องตลก

“ไม่ต้องมาหัวเราะกลบเกลื่อนความผิดเลยพี่ภูมิ...หลักฐานชัดขนาดนี้ยังมีหน้ามาระรื่นอีก”

“พี่ไปทำความผิดอะไรมา...ใส่ร้ายกันแบบนี้พี่เสียหายนะครับ...เดี๋ยวฟ้องกลับซะเลย”

ภูมิรพีบอกเสียงกลั้วหัวเราะ

“รูปอะไรเหรอภูมิ”

เมื่อเห็นท่าทางของญาติผู้น้องที่หัวเราะจนตัวงอเตชินทร์จึงอดถามขึ้นไม่ได้

“เฮียเอาไปดูเอง...ดูแล้วรบกวนช่วยเป็นพยานให้ผมด้วยก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มบอกพร้อมยื่นโทรศัพท์ฯ ในมือไปให้

“มันหมายความว่ายังไงคะคุณภูมิ...”

ปิ่นนารีถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่เป็นเดือดเป็นร้อนของคนรัก

“มันก็หมายความว่าน้องปอเข้าใจผิดน่ะสิจ๊ะ...”

“ปอไม่ได้เข้าใจผิด...ตอนเดินตามพี่ภูมิไปถึงลานจอดรถปอได้ยินผู้หญิงคนนั้นตัดพ้อว่าพี่ภูมิกลับบ้านค่ำจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว”

ไพรนารีแย้งขึ้น

“เอ่อ...น้องปอคงเข้าใจอะไรผิดจริงๆ นั่นแหละ”

และตัวช่วยเดียวก็เอ่ยออกมา

“หมายความว่ายังไงคะพี่เต้”

ปิ่นนารีหันไปถาม

“ผู้หญิงคนนี้ชื่อภีมหรือภีรมณเป็นน้องสาวของเจ้าภูมิมัน...ส่วนแม่หนูตัวเล็กๆ นี่ชื่อน้องพีชเป็นหลานสาวของพวกเราครับ”

“เห็นไหมว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”

พอตัวช่วยเปิดทางแมวที่ใกล้ถูกย่างจึงรีบออกตัว...ก่อนจะเหลือบตามองคนจุดกองไฟที่ยืนหน้าเหวอประกายตาโล่งใจ

“แต่ปอได้ยินผู้หญิงคนนั้นต่อว่าเรื่องพี่ภูมิไปติดผู้หญิงจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว และพี่ภูมิตอบเขาไปเองว่าไม่ได้ติดสาวที่ไหน...เพราะมีอยู่บ้านเดียวแล้วหัวใจก็มีให้เขาคนเดียวด้วย”

ภูมิรพียืนนึกอยู่ชั่วครู่พอจำได้จึงหัวเราะออกมา

“อ้อ...คืออย่างนี้น้องปอพี่จะอธิบายให้ฟัง...น้องสาวพี่เขาไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ปกติเขาอยู่เชียงใหม่โน่น อาทิตย์นี้เขามาค้างที่บ้านหลายวัน...แต่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย น้องปอก็เห็นว่าพี่มาบ้านนี้ทุกวันกลับถึงบ้านก็ดึกดื่น...ยายภีมเขาอยากเจอคุณปิ่นแต่ไม่ว่างลงมาสักทีพอมีโอกาสเลยบอกให้พี่พาคุณปิ่นไปที่บ้าน”

“แล้วทำไมคุณไม่บอกปิ่นล่ะคะว่ามีน้องสาวด้วย”

“ปกติยายภีมเขาไม่ค่อยได้ลงมาที่กรุงเทพฯ เพราะงานรัดตัวมาก...แต่ก็บ่นให้ฟังตลอดว่าอยากเจอคุณเอ...ผมจำได้ว่าเคยเล่าให้คุณฟังแล้วนะที่รักว่ามีน้องสาวอยู่เชียงใหม่คนหนึ่ง...วันนี้ผมเลยตั้งใจชวนคุณไปทานข้าวที่บ้านเพื่อจะได้ทำความรู้จักกับเธอไงจ๊ะ”

ภูมิรพีอธิบาย

“ข้อนี้พี่ช่วยยืนยันได้นะน้องปอน้องปิ่น...ว่าเป็นเรื่องจริง”

เตชินทร์ช่วยเป็นพยาน

“พวกพี่เป็นญาติกันนี่ยังไงก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว...”

เตชินทร์แทบร้องอ้าวเมื่อโดนหางเลขไปอีกคน

“แบบนี้ตัวใครตัวมันเถอะภูมิเดี๋ยวพี่ซวยไปด้วย...คุณป่านเราเข้าบ้านกันเถอะครับ”

พอหน้าไม้เบนเข้าหาตัว...กระรอกเตชินทร์จึงรีบลี้ภัยเป็นการด่วน

“ถ้าไม่มีอะไรปิ่นว่าเราไปรีบไปกันเถอะค่ะ...ปอบอกคุณแม่ด้วยนะว่าวันนี้พี่จะกลับดึก”

พอเก็บใจที่ร่วงลงพื้นขึ้นมาไว้บนอกได้ดังเดิม ปิ่นนารีจึงบอกน้องสาวแล้วยิ้มหวานให้คนรัก

“ดีจ๊ะที่รัก...ผมหิ๊วหิว”

“หิวก็กินเข้าไปเยอะๆ เลยนะพี่ภูมิ...ชอบกินอะไรเป็นพิเศษก็บอกคราวหน้าจะสั่งแม่บ้านทำไว้ให้”

ไพรนารีแค่นเสียงบอกอย่างหมั่นไส้...แต่พ่อแมวตัวร้ายกลับคิดไปอีกทางว่าน้องเล็กของบ้านกำลังเอาใจ

“น้องปอเนี่ยน่ารักจริงๆ พอรู้ว่าเข้าใจผิดเลยอยากไถ่โทษใช่ไหมครับ”

“เปล่า...ที่ให้น่ะเพราะบางทีมันอาจจะเป็นมื้อสุดท้ายของพี่ภูมิก็ได้...ไม่เคยได้ยินเหรอคะว่านักโทษประหารชีวิตเขากินอะไรก่อนตาย”

และคำตอบที่ตอกกลับมาก็ทำเอาแมวหนุ่มหน้าเหวอ...เมื่อทนายสาวยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

“อ้าว...น้องปอทำไมใจร้ายกับพี่แบบนี้ล่ะครับ”

“คนแบบพี่โดนแค่นี้ยังน้อยไป”

“น้องปอบอกมาตรงๆ ดีกว่าว่าพี่ไปทำอะไรให้เคือง”

“หึ...คนแบบพี่ชีวิตนี้เคยจำอะไรบ้าง”

“ปอพูดออกมาให้หมดดีกว่าว่าไปเจอวีรกรรมอะไรของคุณภูมิมาบ้าง”

ปิ่นนารีแทรกขึ้นเมื่อเห็นโจทก์กับทนายยังสาดคำพูดใส่กันไม่หยุด...

“ก็พี่ภูมิไปหลอกเพื่อนปอน่ะสิ...ปู้ยี่ปู้ยำเขาแล้วก็ทิ้งแถมชิ่งไปคว้าผู้หญิงใหม่มาหยามจนเพื่อนปอกินยาฆ่าตัวตาย ดีที่ล้างท้องทันไม่งั้นพี่จะโดนข้อหาฆ่าคนตายอีกกระทงแน่”

พอคำให้การจบลงคนเป็นจำเลยถึงกับอ้าปากค้างเพราะสิ่งที่โพล่งออกมามันเป็นข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความผิด

“หา!... พี่เนี่ยนะไปขย้ำเพื่อนน้องปอ...เอาที่ไหนมาพูด”

จำเลยผู้โชคร้ายแหกปากเสียงดังลั่นจนต้องรีบแก้ต่างให้ตัวเอง...

“พี่ภูมิจำวิลัดดาดรัมเมเจอร์ของโรงเรียนได้ไหม...ผู้หญิงที่พี่ควงไปไหนต่อไหนแล้วทิ้งน่ะ”

พอเจอความผิดย้อนหลังนับสิบปีภูมิรพีถึงกับจังงังจนพูดไม่ออก

“วิลัดดาเหรอ?”

“ใช่...”

“นั่นมันสมัยมอปลายเลยนะน้องปอ...ความผิดย้อนหลังนานไปหรือเปล่าครับ”

“จะกี่ปีก็ช่างพี่ทำร้ายเพื่อนปอจนปางตาย...ยังไงก็ไม่พ้นมลทินหรอก...”

ภูมิรพียืนมองทนายความสาวจอมอาฆาตแล้วส่ายหน้าไปมา...ก่อนจะถอนใจยาวแล้วเอ่ยขึ้น

“จริงอยู่ที่ตอนเป็นวัยรุ่นพี่เคยจีบหญิงมานับไม่ถ้วน...แต่นั่นมันเป็นความรักแบบป๊อบปี้เลิฟนะน้องปอ...อีกอย่างวิลัดดาไม่ได้คบกับพี่...คนที่เขาคบคือเพื่อนพี่ต่างหาก...ช่วงนั้นแฟนน้องเขาเก็บตัวเตรียมคัดเลือกเข้าทีมชาติพี่เลยต้องไปรับไปส่งให้...ส่วนเรื่องกินยาฆ่าตัวตายนั่นเขาประชดเพื่อนพี่ต่างหาก...”

“แต่ลัดดาบอกปอว่าเขากับพี่คบกัน”

“เขาพูดเพราะประชดเพื่อนพี่...ไม่เชื่อลองติดต่อเขาแล้วถามดูสิ....ในเมื่อรู้ความจริงแบบนี้แล้วจะยกฟ้องพี่ได้หรือยัง”

พอมีโอกาสแก้ต่างจำเลยผู้เคราะห์ร้ายจึงขอคำพิพากษาทันที

“ก็ได้...นัดนี้ถือว่ารอดตัว...แต่นัดต่อไปถ้าพี่ภูมิมีนอกมีในอีกรับรองปอส่งเข้าแดนประหารแน่”

พอพูดจบไพรนารีก็หมุนตัวเดินเข้าบ้านไปทันที

“อาฆาตไม่เลิกแฮะ...แล้วที่รักจ๋าล่ะจ๊ะยกฟ้องผมไหม”

ภูมิรพีมองตามร่างโปร่งระหงไปอย่างขำๆ ก่อนจะหันไปทำตาวาวๆ อ้อนคนรัก

“ถ้าทำตัวอยู่ในกรอบปิ่นก็โอเคค่ะ...เราไปกันเถอะ”

เมื่อทุกอย่างถูกไขกระจ่างเตชินทร์เดินมาตบไหล่ญาติผู้น้องแล้วเลิกคิ้วขึ้น...ก่อนจะถอนใจอย่างโล่งอก...นับว่าเป็นโชคที่กระรอกอย่างเขาสันหลังไม่หวะจนมีคดีเก่าๆ ให้น้องเล็กโจมตี

ภูมิรพีส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ...เฮ้อเจอนารีรายณ์เขาว่าร้ายเหมือนปลาฉลามแต่ปลาฉลามก็ยังพุ่งเข้าหาเยื่อเมื่อได้กลิ่นเลือด...แต่ไพนารีนี่ปลาปีรันย่าชัดๆ ...เพราะปลาชนิดนี้ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมตกลงไปในน้ำเมื่อไรรับรองไม่เหลือซาก...เฮ้อ...เล่นขุดคดีเก่าๆ มาเล่นงานกันแบบนี้สงสัยต้องเขียนป้ายก่อนเข้าบ้านว่า...เขตอภัยทานเสียแล้วกระมัง...





Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2554 13:11:11 น. 7 comments
Counter : 595 Pageviews.

 
สุนสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังค่ะ.....ขอให้ทุกๆ ท่านพบความรักที่สวยงานตลอดไปนะคะ....

วันนี้ได้กฤษ์น้องเล็กบุกตะลุยแล้วค่ะ....ฮี่ๆ อ่านให้สนุกนะคะ


โดย: sansook วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:18:30 น.  

 
แอบสงสารพระเอกคนสุดท้าย
สงสัยต้องบริสุทธิ์ราวโอโม่
เผื่อจะรอด....
(แต่คิดว่าไม่รอดนะ คุณทนาย ฟ้องหมดตัวแน่)


โดย: googie IP: 203.146.71.70 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:50:23 น.  

 
อะไรจะขนาดนั้นนนน นู๋ปอ..

นู๋เอ๋..แข่งกีฬาหายเหนื่อยแล้วหรอ


โดย: jee IP: 10.249.112.88, 202.44.210.42 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:31:47 น.  

 
ไม่เหนื่อยเลยค่ะพี่จี๋ เพราะตกรอบทุกประเภท....แข่งเสร็จเค้ามีคอนเสิร์ตต่อด้วย...หุหุ....คราวนี้เหนื่อยแบบหน้าเวที...ฮี่ๆ...พรุ่งนี้อัพช้าอีกแล้วนะคะ ต้องเดินสายเป็นพิธีกรต้อนรับคณะศึกษาดูงานค่ะ....ไม่รู้จะเสร็จตอนไหน....เฮ้องานเข้าอีกแล้วค่ะ


โดย: sansook วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:28:56 น.  

 
สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะคุณไรเตอร์
น้องปอนี่แกแค้นเฮียภูมิ ฝังลึกจริงๆ โดนกีดกันตลอด ไม่รู้ว่าคนที่จะมาพิชิตใจนู๋ปอ จะเปนยังงัยน้าาาา นึกไม่ออกเลยจริงๆ งานนี้มันส์แน่ๆ


โดย: bijin วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:43:14 น.  

 
น้องเล็กนี่สุดยอด


โดย: บ่าบี๋ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:22:23 น.  

 
เฮ้อปิ่นนารีมายุ่งอะไรด้วยจ๊ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคนนะ ไม่ใช่เรื่องของเขาเเละเราสองสามคน ดูอยู่ห่างๆก็พอเเล้วเเม่คุณไม่ใช่เข้ามาคลุกวงในเเบบนี้ เเหมทำยังกับว่านายภูมิเป็นคนรักของตัวเอง ไม่ใช่คนที่จะมาเป็นพี่เขยของตัวเองหยั่งงั้นเเหละ น่าจะมีใครมาปราบไพรนารีไห้ราบคาบไปเลย


โดย: VEE IP: 66.172.227.200 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:00:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.