sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ ๑๔ ตะวันกลางใจ




สรรพสิ่งรายรอบเงียบสงบจนได้ยินเสียงหัวใจของทั้งคู่ดังตึกตักรัวเร็ว ภูมิรพีเงยหน้าขึ้นแนบริมฝีปากกับหน้าผากกลมกลึง...แล้วยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยความละมุนในอารมณ์

ปิ่นนารีช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องราวเธอเป็นอาหารชั้นเลิศด้วยความขวยเขิน แล้วหลุบเปลือกตาลงอย่างรวดเร็วเมื่อสบเข้ากับดวงตาวาวหวานเป็นประกาย

“หลบตาทำไมจ๊ะ”

ภูมิรพีเชยคางเธอขึ้นมองเข้าไปในดวงตาสวยหวานอย่างลึกซึ้ง เธอเป็นของเขาแล้วในที่สุด ชายหนุ่มบอกตัวเองอย่างปลื้มเปรม เวลานี้ก็เหลือปัญหาใหญ่เพียงอย่างเดียว...นั่นคือทำให้เธอเชื่อใจว่าเขาจริงจังและจริงใจไม่ได้คิดฉาบฉวยและแต่งงานกับเธอทันทีเมื่อเดินทางถึงเมืองไทย

ดวงตาคมจ้องริมฝีปากอิ่มนุ่มอย่างเสน่หา...จนอดใจไม่อยู่ก้มลงหวังจะจูบเธอให้หายคลั่ง แต่ท่าทางหวาดผวาของปิ่นนารีก็ทำให้เขาต้องเก็บพับความต้องการไว้ก่อน

“ผมจะรับผิดชอบ...เราจะแต่งงานกัน”

ภูมิรพียืนยันตามเจตนาเดิม

“ไม่จำเป็น...ฉันไม่ต้องการ”

เธอตอบห้วนๆ จนชายหนุ่มต้องจ้องดวงตาเป็นประกายเด็ดเดี่ยวเอาจริงของเธอนิ่งอย่างไม่เข้าใจ

“แต่ผมต้องการ...และขอบอกไว้เลยว่าผมจะรับผิดชอบคุณนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ต้องการ...ถอยออกไป”

ปิ่นนารีแผดเสียงขึ้นพร้อมกับกางมือผลักไสชายหนุ่มให้ออกห่างอย่างฉุนเฉียว

“อะไรกันคุณปิ่น...เมื่อกี้คุณได้ทั้งตัวทั้งหัวใจ พอได้ทุกอย่างของผมไปจนหมดแล้วมาผลักไสกันแบบนี้นี่นะ...ไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย”

หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้าง...เมื่อเจอคำพูดตำหนิแกมตัดพ้อของอีกฝ่าย...คุณพระช่วย! ตกลงเธอต้องรับผิดชอบเขางั้นเหรอ...มันบ้าชัดๆ...

“ว่าไงจะแต่งหรือไม่แต่ง”

พออีกฝ่ายเหวอแมวตัวใหญ่ที่กลายพันธุ์เป็นปลาไหลก็รีบโกยทุกอย่างมาไว้ในกำมือ

“ไม่...”

“คุณยังมีหน้ามาปฏิเสธผมอีกเหรอ...ผู้หญิงอะไรไร้ความรับผิดชอบ”

ภูมิรพีลุกขึ้นปรายตามองผู้หญิงที่นอนหน้าเหวอแล้วเหวออีกเหมือนจะค้อน

“แล้วใครใช้ให้มารังแกฉันล่ะ...คุณบ้าไปแล้วหรือไงเมื่อกี้คุณเป็นคนปล้ำฉันนะ”

ปิ่นนารีกัดฟันตอบด้วยความแค้นเคือง...ระคนงุนงงเพราะคนที่ควรลุกขึ้นโวยวายต้องเป็นเธอไม่ใช่เขา

“ผมเปล่าปล้ำนะ...ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อกี้เขาเรียกสมยอม...ผมสมยอมเป็นของคุณถ้าไม่ให้ผมรับผิดชอบ คุณก็ต้องรับผิดชอบผมสิ...ได้ผมไปตั้งเยอะถ้าไม่ยอมดีๆ ผมฟ้องแม่คุณนะเอ้า”

“คุณภูมิรพี...ฉันจะฆ่าคุณ”

หญิงสาวลุกพรวดขึ้นพร้อมกับโถมเข้าหาอีกฝ่ายแล้วระดมฝ่ามือไปตามร่างกายแกร่งอย่างบ้าคลั่งจนลืมอาย...ไหนๆ ก็เสียท่าไปแล้วในเมื่อเรียกคืนไม่ได้...มันก็ต้องตายกันไปข้าง...เธอบอกตัวเองอย่างแค้นเคือง

“โอ๊ย!...คุณเมียทำไมมาทุบผมแบบนี้ล่ะ”

“ใคร!...คนบ้าใครเป็นเมียคุณพูดจากแบบนี้อยากตายหรือไง...”

ปิ่นนารียังคงระดมทุกอย่างที่คิดว่าเป็นอาวุธใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง ก่อนจะหันไปคว้าโคมไฟข้างหัวเตียง

“อย่านะที่รัก...ของนั่นมันหนักนะทูนหัว...”

พอเห็นโคมไฟในมือของปลาซาดินในกระป๋องกลายร่างเป็นปลาวาฬเพชฌฆาตแมวตัวร้ายจึงรีบตะกายลงจากเตียง

“จะหนีไปไหน...”

“ไม่ไปไหนหรอกจ๊ะ...ว่าแต่วางโคมไฟลงก่อนนะที่รัก...ใจเย็นๆ”

ภูมิรพีมองเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เต้นเหย็งๆ อยู่บนเตียงอย่างเล้าโลม พอความคิดเริ่มเตลิดร่างกายที่เหี่ยวเฉาก็พลันคึกคักจนประกาศศักดาแห่งขุมพลังอันน่าอัศจรรย์ออกมาอย่างหักห้ามไว้ไม่อยู่

ปิ่นนารีเบิกตาขึ้นแล้วกรีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงอันน่าสะพรึง...หญิงสาวกระชากโคมไฟเหวี่ยงใส่เป้าหมายเต็มแรงจนชายหนุ่มกระโดดหลบแทบไม่ทัน พออีกฝ่ายแตกกระเจิงจนไม่รู้ทิศเธอจึงก้มลงโกยผ้าห่มขึ้นพันร่างแล้วกระโจนไปยังห้องน้ำ

“จะไปไหน?...”

ภูมิรพีพุ่งตัวเข้าไปคว้าเอวคอดแล้วดึงมากอดไว้

“ปล่อยฉันนะ”

“ไม่...”

“เอ๊ะ...”

“จะเอ๊ะทำไม...คุณอยากอาบน้ำเหรอ...เป็นความคิดที่ดีจ๊ะที่รัก...ปะอาบน้ำกัน”

ภูมิรพีใช้ร่างกายสกัดกั้นการดิ้นรนของเธอ เสียงหวีดร้องเงียบฉับเมื่อริมฝีปากอบอุ่นแตะลงบนริมฝีปากอิ่มนุ่ม...จนปิ่นนารีแทบสำลักความเร่าร้อนที่บดแนบลงมา และทุกอย่างก็กลับเข้าสู่วังวนเดิมๆ เมื่อร่างเพรียวบางถูกลากหายเข้าไปในห้องน้ำ...พอได้เริ่มสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็หวนกลับมาอีกครั้ง...

ย่างเข้าวันใหม่หลังจากใช้ร่างกายคุยกันมาทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดผู้แพ้ก็ต้องยอมเลยตามเลย ทั้งคู่นั่งทานอาหารเช้าในห้องอาหาร ไม่มีใครพูดอะไรอีกนอกจากใช้สายตาสื่อสารแทน...จนภูมิรพีทนอยู่กับความเงียบไม่ไหว

“ทานเยอะๆ นะที่รักเพราะช่วงนี้เราต้องใช้เวลาฮันนีมูนให้คุ้มค่า”

ปิ่นนารีมองแววตาเจ้าเล่ห์ของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างแค้นเคือง

“อย่ามองผมด้วยแววตาแบบนั้นสิจ๊ะ...เห็นแล้วขนลุกอยากฉุดขึ้นห้องจัง”

“ถ้าไม่หยุดพูดฉันจะเสียบปากคุณด้วยมีดเล่มนี้”

ภูมิรพียิ้มแหยๆ เมื่อเห็นวัตถุสีเงินกวัดแกว่งไปมา...คิดว่าปราบจนอยู่หมัดแล้วเชียว...ชายหนุ่มนึกถึงร่างนุ่มนิ่มที่ซุกหลับอยู่ในอ้อมแขนมาทั้งคืนแล้วถอนใจยาว...เฮ้อ...ผู้หญิงคนที่หวานๆ เมื่อคืนไปไหนแล้วหนอ...เขาถามตัวเองอย่างปลงไม่ตก

หลังจากปะทะคารมและอารมณ์กันมาตลอดวันตลอดคืน...ในที่สุดเขาก็ใช้ความบ้าระห่ำวิ่งนำจนเข้าเส้นชัย...

เสียงปฏิเสธว่าไม่แต่งงานของปิ่นนารียังดังชัดอยู่ในโสตประสาท...รวมทั้งท่าทางเมินเฉยราวกับไม่สนใจกับครั้งแรกของวัยสาวซึ่งเขาแน่ใจว่าเธอยังคงครองพรหมจารีจนกระทั่งถูกเขาล่วงล้ำเข้าครอบครอง ยังคงวิ่งวนอยู่ในมโนสำนึก

ในขณะที่เขาอยากรับผิดชอบและเป็นสุขกับสิ่งที่ได้รับ...แต่แม่คุณกลับทำท่าเมินเฉยไม่มีทีท่าใส่ใจสักนิดกับสิ่งที่สูญเสีย...ผู้หญิงสมัยนี้ทำไมถึงได้น่ากลัวขึ้นทุกวันก็ไม่รู้...ภูมิรพีลอบมองท่าทีของคนตรงหน้าอย่างหวาดๆ

ก่อนจะผุดรอยยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงวิธีสุดท้ายที่ใช้มัดมือชกอีกฝ่าย หลังจากตกลงกันไม่ได้เขาจึงเสี่ยงโทรไปหาบิดาและแจ้งเรื่องการแต่งงาน แม้คราแรกเสียงที่ว้ากมาตามสายจะทำเอาหัวใจแทบร่วงลงพื้น แต่พอเขายืนยันว่าต้องการแต่งงานกับเธอจริงๆ ทุกสิ่งที่ประสงค์จึงได้รับการตอนรับในทันที
พอปิ่นนารีรู้ว่าเขาเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปปรึกษาผู้ใหญ่จนเธอต้องตกกระไดพลอยโจน หญิงสาวก็แทบฆ่าเขาด้วยเครื่องโทรศัพท์ กว่าจะตกลงกันได้และอีกฝ่ายยอมสงบก็แทบได้เลือดกันทีเดียว

“วันนี้คุณอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษมั้ย”

พอความเงียบเข้าครอบงำชายหนุ่มจึงชวนคุย

“ไม่...”

เธอตอบกลับเสียงห้วน

“พรุ่งนี้เราก็จะกลับแล้วนะ...เอางี้เราไปล่องเรือชมวิวที่ทะเลสาบอาชิดีกว่าไหม...ไปดูวิวทิวทัศน์แล้วถ่ายรูปสวยๆ เอาไว้ให้ลูกดูไง”

“ใครจะมีลูกกับคุณไม่ทราบ”

“ก็ปลาวาฬเพชฌฆาตแถวนี้แหละ”

ภูมิรพีพึมพำกับตัวเอง

“คุณพูดอะไร?...”

ปิ่นนารีถลึงตาเอาเรื่องแม้จะได้ยินไม่ชัดว่าอีกฝ่ายว่าอะไรแต่ประกายตากวนใจนั่นก็ทำให้เธอนึกฉุน

“พูดว่าคุณมีค่าดังเพชรที่ผมขาดไม่ได้จ๊ะ”

เพื่อความปลอดภัยในชีวิตภูมิรพีจึงเสตอบเป็นอย่างอื่น...งานนี้กลับไปคงโดนพ่อหัวเราะเยาะแน่ๆ ที่เขาหงอเมียตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงาน...

“ฉันอิ่มแล้ว...”

“เราไปเที่ยวกันนะ...”

“ก็ได้...แต่อย่าไปไกลนักล่ะฉันอยากพัก”

คำพูดของหญิงสาวทำเอานัยน์ตาของอีกฝ่ายลุกวาวขึ้นทันใด

“รับรองไปไม่ไกลหรอกจ๊ะถ้าคุณเหนื่อยผมจะรีบพากลับที่พักทันที...ตกลงมั้ย”

“ก็ได้...”

ภูมิรพีผุดรอยยิ้มสดใสออกมาเมื่อนึกถึงโอกาสอันดีที่เขาจะใช้เป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจระหว่างอยู่ในญี่ปุ่น...งานนี้มันต้องมีคะแนนนิยมบ้างล่ะน่า...ชายหนุ่มบอกตังเองอย่างมั่นใจ


ตลอดวันปิ่นนารีรู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ เพราะภูมิทัศน์รอบกายช่างงดงามราวกับภาพนิรมิต เมื่อรวมกับการดูแลเอาใจใส่ของภูมิรพีระหว่างท่องเที่ยวไปตามสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงก็ยิ่งทำให้เธอรับรู้ถึงความพิเศษ

พวกเขาใช้เวลาที่เหลืออยู่ท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ โดยมีภูมิรพีเป็นผู้นำทาง ทั้งสองบันทึกภาพแห่งความสุขภาพแล้วภาพเล่าอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของปิ่นนารีกำลังทำให้หัวใจอีกดวงเบิกบานได้อย่างน่าอัศจรรย์

ชายหนุ่มหันไปมองใบหน้าที่เอิบอิ่มไปด้วยความสุขอย่างเสน่หา...หลังจากนั่งถามตัวเองมาหลายวันในที่สุดเขาก็ตอบตัวเองได้เต็มปากเต็มคำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความต้องการเพียงฉาบฉวย...แม้จะดูเร็วไปหากเขาจะบอกว่ารักเธอ...แต่มันก็รักไปแล้ว...

หลังจากใช้เวลาท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ มาทั้งวัน เวลา 6 โมงเย็นทั้งสองจึงเดินทางกลับที่พัก และลงไปทานอาหารเย็นในห้องอาหารของโรงแรมในเวลา 2 ทุ่ม โดยภูมิรพีแจ้งกับทางโรงแรมว่าต้องการความเป็นส่วนตัวโดยเหมาช่วงเวลาตั้งแต่ 2 ทุ่มจนถึง 4 ทุ่มพร้อมทั้งสั่งให้พนักงานจัดสถานที่ให้เขาเป็นพิเศษ และทางโรงแรมก็เนรมิตทุกอย่างตามความต้องการได้อย่างน่าประทับใจ

เสียงเพลงที่คลอเบาๆ และบรรยากาศที่จัดได้อย่างโรแมนติกทำให้ทั้งสองเปิดหัวใจให้กันและกันแล้วดื่มด่ำกับห้วงแห่งความสุขด้วยความชื่นมื่นในอารมณ์ ทั้งสองนั่งจิบไวน์แล้วคุยกันเรื่องนั้นเรื่องอย่างออกรสจวบจนเวลาล่วงเข้า 3 ทุ่มภูมิรพีที่นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้จึงเริ่มเดินตามแผนการ

“วันนี้อาหารรสชาติดีจังเลยคุณว่าไหม”

ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเพราะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

“ค่ะ...วันนี้เขาจัดร้านได้โรแมนติกมากๆ เลยนะคะ...แต่น่าแปลกที่ไม่มีแขกคนอื่นๆ เลยสักโต๊ะ”

ปิ่นนารีบอกพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ

“แล้วคุณชอบมั้ย?...”

“ชอบสิคะ...ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในความฝันเลยล่ะ”

หญิงสาวบอกอย่างเคลิบเคลิ้ม

“ผมดีใจที่คุณชอบ...อ้อ...ผมมีอาหารพิเศษให้คุณด้วยนะ”

ภูมิรพีหันไปเรียกบริกรโดยไม่รอคำตอบรับจากอีกฝ่าย

“โอย...ไม่ไหวแล้วค่ะวันนี้ทานไปเยอะเลย”

“เถอะน่าชิมนิดเดียวก็ได้...นะผมตั้งใจจริงๆ”

คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างฉงนเมื่อเห็นท่าทางออดอ้อนของอีกฝ่าย...ก่อนจะพยักหน้าเออออ พอบริกรวางจานอาหารลงแล้วถอยออกไปปิ่นนารีก็ต้องกะพริบตาด้วยความตื่นตะลึง...เมื่อเห็นแหวนเพชรเม็ดเขื่องถูกจัดวางอยู่ในกล่องหรูหราบนแท่งคริสตัลแกะสลักเป็นรูปหงส์สองตัวโอบกอดหัวใจดวงใหญ่ พร้อมกับตัวอักษรที่เขียนเป็นภาษาไทยว่า...แต่งงานกันนะ...

“อะไรคะเนี่ย...”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่ขยับลุกเดินเข้ามานั่งคุกเข่าตรงหน้าอย่างงุนงง...จนทำอะไรไม่ถูก

“แต่งงานกับผมนะคุณปิ่น...”

ปิ่นนารีถึงกันพูดไม่ออกเมื่อเจอบทขอแต่งงานอันแสนโรแมนติก...และไม่คิดว่าในชีวิตจะมีผู้ชายมานั่งคุกเข่าขอเธอแต่งงานเหมือนฉากรักในนวนิยายจริงๆ...

“คุณทำอะไรคะ?...”

เธอถามเสียงตื่นเต้นระคนตกใจ

“แต่งงานกับผมได้ไหม...”

ชายหนุ่มใช้คำถามแทนคำตอบ

“เราตกลงเรื่องนี้กันแล้วนี่...”

“จริงอยู่ที่เราเคยตกลงว่าจะแต่งงานกัน แต่ผมอยากให้คุณแต่งงานกับผมเพราะหัวใจของคุณไม่ใช่ความจำเป็น”

ภูมิรพีกระชับมือเรียวไว้ในอุ้งมือ...และจ้องดวงตาหวาดหวั่นของเธอเขม็ง

“ฉันไม่รู้ว่าเราจะไปกันรอดไหม...เราเพิ่งรู้จักกันนะคะคุณภูมิ...บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นมันอาจจะเป็นแค่สถานการณ์ที่ยากหลีกเลี่ยง...จนทำให้ทุกอย่างบานปลาย”

เพราะยึดถือห้วงเวลาเป็นสำคัญจึงทำให้ปิ่นนารีมองความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างหวาดระแวง

“คุณอาจไม่เชื่อว่าเวลาแค่นี้มันจะทำให้ความรักของเรายืนยาว...แต่กรุณาเชื่อผมได้ไหมว่าความรักของผมที่มีให้คุณมันจะทอดยาว...เหมือนสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ จากสายนี้ไปบรรจบสายนั้นไม่มีวันสิ้นสุด...”

ชายหนุ่มบอกเธอด้วยประกายตาจริงจังจนคนมองเผลอยิ้มหวานอย่างไม่ตั้งใจ และรอยยิ้มนั้นกำลังทำให้คนที่นั่งศิโรราบอยู่ตรงแทบเท้าของเธอรู้สึกอุ่นวาบตรงกลางหัวใจ...รอยยิ้มของเธอช่างสว่างไสวเหมือนแสงสีเงินสีทองของดวงตะวัน...


“ถ้าคุณจะเป็นแบบนี้ตลอดไปฉันก็ยินแต่งงานกับคุณด้วยความเต็มใจค่ะ”

พอคำตอบของปิ่นนารีจบลงเสียงไชโยก็ดังขึ้นจนลั่นห้อง...

“แหวนวงนี้ผมไปเลือกกับคุณยูริเมื่อสองวันก่อน...มันอาจจะดูเล็กน้อยมากหากเทียบกับสำคัญของคุณแต่ผมอยากขอหมั้นคุณไว้ก่อน เอาไว้เรากลับถึงเมืองไทยผมจะรีบจัดผู้ใหญ่ไปสู่ขอและจัดการทุกอย่างให้สมกับตำแหน่งสะใภ้ใหญ่ของ ‘วชิราภัทร’ นะคนดี”

“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันจะใส่แหวนวงนี้ได้”

“ผมวัดมาแล้วจ๊ะ”

“อะไรนะ...คุณมาวัดนิ้วฉันตอนไหนคะ”

“ตอนคุณหลับจ๊ะ”

ภูมิรพียิ้มหวานขณะตอบเพราะกลัวจะถูกศอกสวนกลับมา

“หา!...นี่คุณข้ามเขตมาตอนฉันหลับงั้นเรอะ...”

ปิ่นนารีแหวขึ้นอย่างขุ่นเคือง

“โธ่ทูนหัวถ้าผมไม่ข้ามไปวัดนิ้วจะรู้ได้ยังไงว่าคุณใส่แหวนเบอร์ไหน...และสาบานว่าผมแค่ข้ามไปวัดนิ้วจริงๆ อ้อ...แถมไนท์คิสอีกนิดหน่อย...เดี๋ยวๆ ที่รักอย่าเพิ่งโกรธ...มันไม่มีอะไรเสียหายหรอกจ๊ะแค่นั้นจริงๆ”

ปิ่นนารีถึงกับพูดไม่ออกนอกจากถลึงตาจะเอาเรื่องอีกฝ่าย นี่เธอหลับสนิทจนถูกอีกฝ่ายขโมยจูบโดยไม่รู้ตัวเลยเหรอนี่...หญิงสาวจ้องผู้ชายที่กำลังนั่งตาหวานฉ่ำตรงหน้าอย่างขุ่นเคือง...ผู้ชายอะไรน่าทุบซะจริง

“ฉันควรทำยังไงกับคุณดีฮึ...คุณภูมิรพี...แล้วไอ้แหวนนั่นอีกคุณบอกว่าไปซื้อมาเมื่อสองวันก่อน...พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”

“หลังจากเรียนคุณพ่อว่าหัวใจผมเป็นของคุณและท่านยินดีกับสิงที่ผมต้องการ...ผมก็ขอให้คุณยูริพาไปซื้อแหวน...และเตรียมขอคุณแต่งงานก่อนเดินทางกลับ...แต่ไม่คิดว่าผมจะเอ่อ...แต่จะยังไงก็ช่างตอนนี้ผมรักคุณ และคุณควรเมตตาผมกรุณายื่นนิ้วเรียวๆ มารับแหวนวงนี้หน่อยนะคนดี...คุณปิ่น...แต่งงานกับผมเถอะ...ผมอยากแต่งงานกับคุณจริงๆ นะ”

ปิ่นนารีนั่งฟังคำสารภาพของชายหนุ่มด้วยความขุ่นเคืองระคนปลื้มเปรม...แม้จะขัดเคืองใจ แต่ลึกๆ เธอกลับรู้สึกดีอย่างประหลาด ดวงตาสวยหวานจ้องดวงตาอีกคู่ที่กำลังมองมาอย่างเว้าวอนแล้วยิ้ม

“ฉันเคยคิดว่า...ถ้าแต่งงานจะไม่มีวันหย่าเด็ดขาด...คุณแน่ใจไหมว่าจะอยู่กับฉันไปจนวันตายและไม่ทำให้ฉันเสียใจเหมือนตกอยู่ในนรก”

“ผมสาบานครับว่าจะเป็นสามีที่ดี...เราจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมีกันและกันตลอดไป...”

“ถ้าคุณนอกใจฉันหรือทำให้ฉันเสียใจ...ฉันจะเจี๋ยนคุณด้วยมีดที่คมที่สุดในโลก...ตกลงไหม...”

“ผมขอสัญญาด้วยสัจจะของลูกผู้ชายว่าจะไม่มีวันนอกใจคุณเด็ดขาด...เชื่อใจได้...”

“โอเคฉันแต่งก็ได้...อ้อ...แต่มีข้อแม้อีกนะว่าต่อจากนี้คุณห้ามเข้ามารุ่มร่ามกับฉัน...และกลับไปคนที่จะกำหนดฤกษ์แต่งงานต้องเป็นฉันเท่านั้น...ตกลงไหม”

“โอย...ข้อสุดท้ายผมตกลง...แต่ห้ามรุ่มร่ามเนี่ยผมไม่เห็นด้วยนะคุณปิ่น”

ชายหนุ่มทำเสียงโอดโอย

“ถ้างั้นยกเลิกไม่แต่งแล้ว”

พอเห็นทางแก้เผ็ดอีกฝ่ายปิ่นนารีจึงรีบกระโดดลงไปในกระป๋องแล้วปิดล็อกตัวเองให้อยู่ในนั้นทันที

“โธ่...ก็ได้...ผมยอมก็ได้...แต่ขอกกอดกับหอมแก้มได้หรือเปล่า...นะทูนหัวผมสัญญาว่าจะแค่กอดกับหอมแค่นั้นเพราะไม่งั้นจะต้องลงแดงตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กอดคุณ”

แม้หนทางตะกายปลากระป๋องจะถูกปิดงับ...แต่แมวร้ายก็ยังหวังขอแค่ได้ลูบๆ คลำๆ ก็ยังดี

“ได้คืบจะเอาศอกจริงๆ เดี๋ยวก็ให้ทั้งเข่าทั้งหมัดซะหรอก...ฉันสงสารตัวเองจริงๆ ที่ต้องมาแต่งงานกับคุณ...ปฏิเสธดีไหมเนี่ย...อะมือรีบสวมแหวนสิเดี๋ยวก็เปลี่ยนใจซะหรอก”

ปิ่นนารีบ่นงึมงำพร้อมกับยื่นมือออกไปแล้วยิ้มอายๆ...พอเห็นมือเรียวยื่นมาตรงหน้าคนที่ยังปรับอารมณ์ไม่ทันก็แทบทำแหวนร่วงจากมือ

ภูมิรพียิ้มจนแก้มปริเมื่อนารีงามยอมตกลงแต่งงานด้วย ชายหนุ่มบรรจงสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายแล้วจรดริมฝีปากลงจูบหลังมือนวลเนียนด้วยกิริยาทะนุถนอมจนคนที่แอบลุ้นอยู่อีกด้านตบมือกันเกียวกราว...อย่างยินดี





Create Date : 18 มกราคม 2554
Last Update : 18 มกราคม 2554 13:53:28 น. 11 comments
Counter : 632 Pageviews.

 
ช่วงนี้เอ๋อัพไม่ค่อยเป็นเวลาต้องขอโทษ ผู้อ่านที่เค้ามาแล้วไม่เจอตอนใหม่ด้วยนะคะ อาทิตย์นี้คงงดอัพหลายวันเพราะงานยุ่งมากเลยค่ะ ยังไงเอ๋จะปั่นชดเชยให้นะคะ เฮ้อ.....เหนื่อยจังค่ะ .....ตอนนี้ทิ้งทวนคู่แรก แล้วเตรียมพบกับคู่ต่อไปเร็วๆ นี้ค่ะ.....อ่านให้สนุกนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ


โดย: sansook วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:13:56:45 น.  

 
กรี๊ดดดดดดดด

น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: บ่าบี๋ วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:18:13:42 น.  

 
หุหุ ร้ายมั๊กๆๆๆ


โดย: sakeena IP: 110.168.76.74 วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:18:32:41 น.  

 
555 ขำมุข "ปลาวาฬเพรชฆาต" คิดได้ไง
แต่งกันไป คุณภูมิน่วมแน่นอน


โดย: bijin วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:19:02:07 น.  

 
นู๋เอ๋เอ้ยยยยยยทำงานหนักมากๆ ต้องดูแลรักษาสุขภาพเยอะๆ นะค่ะ ทานข้าวให้ตรงเวลาด้วยนะค่ะ


โดย: เอิงเอย IP: 182.53.133.189 วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:20:55:31 น.  

 
รอคู่ต่อไปค่า


โดย: แมวเหมียวก้อย วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:22:13:44 น.  

 
เสร็จไป 1 คู่
เริ่มกลัวเมียอีกคนละ
หรือเมียจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวจริงๆ เห็นกลัวกันทุกคู่
ตอนต่อๆไป คงจะได้เห็นปลาวาฬเพชรฆาตตามงับหัวแมวเป็นระยะแน่ๆ
งานคุณเอ๋ยุ่งตอนต้นปีหรือค่ะ พักผ่อนเยอะๆนะค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ เป็นห่วง(กลัวอดอ่าน 555++)


โดย: googie IP: 125.24.100.141 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:6:43:07 น.  

 
มาลงชื่อรอคู่พี่เต้ต่อไป...


โดย: jee IP: 10.249.112.88, 202.44.210.31 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:8:52:12 น.  

 
หวัดดีค่าคุณเอ๋ ตุ๊กจากเว็บคุณโมนะค้า
มาแจ้งค่ะว่าได้รับหนังสือยั่วรักเรียบร้อยแล้วน้า
ขอบคุณคุณเอ๋มากๆๆๆๆๆๆนะค้า จุบุจุบุค่า


โดย: มนชนก IP: 115.87.115.223 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:15:12:46 น.  

 
เป็นกำลังใจให้คร้า....จะรออ่านคู่ต่อไปรักษาสุขภาพด้วยน่ะ


โดย: raimee IP: 118.173.137.177 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:15:55:36 น.  

 
แจ้งมั้ง ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วค้า
ขอบคุณสำหรับลายเซ็นต์ด้วยค่ะ
(พอดีออกมาข้างนอก เลยใช้เมล์เดิมไม่ได้-เมล์นั้นล็อคกับเครื่องนั้นเท่านั้น -*-)


โดย: googie IP: 125.24.146.135 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:20:32:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.